Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นักล่าแห่งรัตติกาล ภาค การทดลองแห่งความตาย บทที่ 31 ความคุ้มคลั่งของมนุษย์เสือ  

ติดตามอ่านนักล่าแห่งรัตติกาลภาค กำเนิดสองนักล่า

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=moonyforever&date=12-06-2009&group=7&gblog=1

ภาค โรงงานมรณะ

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=moonyforever&date=20-08-2009&group=9&gblog=1

ภาค การทดลองแห่งความตาย

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=moonyforever&group=14

บทที่ 27 แผนการณ์ของการ์ดเนอร์
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9505032/W9505032.html

บทที่ 28 คำชี้แจงของเทเลอร์
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9563954/W9563954.html

บทที่ 29 เพื่อนเก่า
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9599547/W9599547.html

บทที่ 30 การตามล่า
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9644821/W9644821.html

บทที่ 31

ความคุ้มคลั่งของมนุษย์เสือ

วูล์ฟวิ่งตามชายต้องสงสัยซึ่งวิ่งหนีลึกเข้าไปในสวนสาธารณะ อีกฝ่ายหันหน้ากลับมามองและร้องคำรามลั่นเมื่อรู้ว่าถูกไล่ตาม เขาหันไปผลักผู้คนที่ยืนขวางทางและกำลังตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปให้พ้นทางก่อนจะเหวี่ยงกำปั้นเข้าใส่คนที่ขยับตัววิ่งเข้ามาขวางจนล้มระเนระนาด หนุ่มหมาป่าคำรามด้วยความโกรธขณะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นและเมื่อได้จังหวะเขาจึงตัดสินใจพุ่งตัวกระโจนเข้าใส่ชายผู้นั้นอย่างแรงจนล้มกลิ้งไปด้วยกัน วูล์ฟรีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับกระชากผู้ต้องสงสัยให้ลุกตามแต่อีกฝ่ายกลับกระชากมีดออกจากฝักและปาดเข้าใส่หน้าท้องของเขา หนุ่มหมาป่าจึงจำต้องปล่อยมือและถอยออกมาแต่ชายผู้นั้นกลับขยับตัวตามพร้อมกับตวัดมีดเข้าใส่อย่างรวดเร็ว วูล์ฟเบี่ยงตัวหลบพร้อมกับพูด

“ทำได้แค่นี้เองหรือเจ้าคนครึ่งเสือ”

หนุ่มหมาป่าเหวี่ยงกำปั้นฟาดเข้าใส่สีข้างของกีพาร์ดเต็มแรง เสียงร้องอุทานด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นพร้อมกับคมมีดของอีกฝ่ายที่ฟันสวนกลับมา วูล์ฟพลิกตัวหลบอย่างรวดเร็วก่อนจะคว้าร่างของคนครึ่งเสือฟาดเข้าใส่ต้นไม้และทุ่มลงบนพื้นพร้อมกับกระทืบซ้ำอีกครั้ง เขาขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นกีพาร์ดนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง

“อย่าทำเป็นใจเสาะ ฉันรู้ว่าแกไม่เป็นอะไร”

เขาก้มลงคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายและดึงให้ลุกขึ้น ทันทีที่ตั้งตัวได้มนุษย์เสือรีบปัดมือของ
วูล์ฟออกพร้อมกับเหวี่ยงเขาไปกระแทกกับต้นไม้อย่างแรง มันเงื้อมีดหมายจะแทงซ้ำแต่หนุ่มหมาป่ารีบเบี่ยงตัวหลบและจับหัวของอีกฝ่ายกระแทกกับต้นไม้หลายครั้ง มันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับขยับมีดจะแทงกลับแต่ถูกวูล์ฟคว้าข้อมือเอาไว้และบิดอย่างแรง

“แกไม่มีทางทำอะไรฉันได้”

หนุ่มหมาป่าคำรามพร้อมกับออกแรงบิดเพิ่มมากขึ้นจนมีดของคู่ต่อสู้หลุดร่วงจากมือ เขาจับกีพาร์ดกระแทกกับต้นไม้อีกครั้งก่อนจะเหวี่ยงลงพื้นและจ้องด้วยสายตาน่ากลัว

“ถ้าไม่ติดคำสั่ง แกโดนฉันฉีกเป็นชิ้นไปแล้ว”

วูล์ฟมองร่างที่นอนอยู่กับพื้นด้วยความแค้นและบดกรามแน่นเมื่อเห็นมันนิ่ง เขาขยับเข้าไปใกล้พร้อมกับพูด

“ลูกเล่นมากจริง ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้กีพาร์ด!”

หนุ่มหมาป่าเอื้อมมือเพื่อจะดึงร่างอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นแต่ต้องชะงักและเบิกตากว้างเมื่อเห็นบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้เมื่อครู่นี้เริ่มประสานตัวอย่างรวดเร็ว

“แกรักษาตัวเองได้ด้วยหรือ”

วูล์ฟพึมพำด้วยความแปลกใจ ทันใดนั้นเขาก็ต้องร้องอุทานออกมาอีกครั้งเมื่อคนครึ่งเสือดีดตัวลุกขึ้นคว้าลำคอของเขาเอาไว้พร้อมกับบีบแน่น

“แก” กีพาร์ดคำรามเสียงต่ำขณะออกแรงเค้นหนักขึ้น หนุ่มหมาป่ากางกรงเล็บออกหมายจะฉีกกระชากข้อมือของมันให้ขาดกระจุยแต่เสียงฝีเท้าที่กรูเข้ามาใกล้ทำให้เขาต้องชะงักและเหลือบมองเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายกำลังตีวงล้อมเข้ามาโดยมีนักสืบเครนเป็นผู้นำ

“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้และนอนคว่ำหน้าลงกับพื้น”

เครนตะโกนเสียงดัง คนครึ่งเสือเหลือบตามองเขาและส่งเสียงร้องคำรามด้วยความขัดใจก่อนจะหันกลับไปที่วูล์ฟอีกครั้งพร้อมกับเพิ่มแรงบีบมากขึ้น นักสืบใหญ่เห็นดังนั้นจึงรีบพูดสำทับด้วยเสียงดังมากกว่าเดิม

“ปล่อยเขาและนอนคว่ำหน้าลงกับพื้น เดี๋ยวนี้!”

เสียงขึ้นลำกล้องจากปืนนับสิบกระบอกดังขึ้นพร้อมกัน แสตนลีย์รีบก้าวเข้าไปหาเครนพร้อมกับเตือน

“อย่าเพิ่งยิง เดี๋ยวพลาดไปโดนวูล์ฟ”

“ผมรู้” นักสืบใหญ่ตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียดสายตายังคงจ้องไปที่กีพาร์ดแน่วนิ่งก่อนตัดสินใจตะโกน “ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรคุณ”

“ไม่มีทาง” คนครึ่งเสือคำรามตอบกลับมา เครนนิ่วหน้าในขณะที่หนุ่มหมาป่าฉวยโอกาสคว้าข้อมือของคนร้ายและฝังกรงเล็บคมกริบลงไปในเนื้อพร้อมกับออกแรงฉีก กีพาร์ดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดก่อนจะเหวี่ยงร่างของวูล์ฟไปอีกด้าน มันรีบกวาดตามองหามีดประจำตัวและเตรียมจะวิ่งไปเก็บแต่ถูกหนุ่มหมาป่าพุ่งเข้ากระแทกจนเซถลา เครนรีบเบนปากกระบอกปืนตามแต่ยังไม่กล้าเหนี่ยวไกเพราะกลัวโดนวูล์ฟ เขาบดกรามแน่นและสบถออกมาด้วยความโมโห

“ให้ตายเถอะ”

เขาลดปืนลงและจ้องหนุ่มหมาป่าที่กำลังพลิกตัวหลบการโจมตีของคนครึ่งเสืออย่างคล่องแคล่วว่องไวผิดธรรมดาด้วยความประหลาดใจ และเมื่อได้เห็นกีพาร์ดเหวี่ยงกำปั้นหมายจะฟาดหัวของวูล์ฟให้ยุบแต่กลับพลาดไปโดนต้นไม้จนลำต้นแตกกระจุยแล้วเครนถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตระหนกพร้อมกับอุทานออกมา

“อะไรกัน ทำไมเขาถึงได้แข็งแรงผิดมนุษย์แบบนี้”

นักสืบใหญ่หันไปมองแสตนลีย์กับสมิธและขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นทั้งคู่กำลังยืนมองการต่อสู้ของคนทั้งสองด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเป็นเรื่องปรกติต่างจากตำรวจทุกนายที่มีสีหน้าตื่นตะลึง

“หมอนั่นเป็นตัวอะไรกันแน่”

เครนถามแสตนลีย์ อีกฝ่ายตอบเสียงเรียบ

“ก็แค่คนธรรมดาที่มีสภาพจิตผิดปรกติขั้นรุนแรง”

นักสืบใหญ่มองเจ้าหน้าที่พิเศษอย่างไม่ค่อยเชื่อนักจนสมิธต้องกล่าวเสริม

“บางครั้งร่างกายของคนที่มีความผิดปรกติทางจิตอย่างรุนแรงจะหลั่งอะดรีนาลินออกมาเป็นจำนวนมากทำให้พวกเขามีพละกำลังมากมายผิดมนุษย์”

“รวมถึงเจ้าหน้าที่ของคุณด้วยอย่างนั้นหรือ” นักสืบใหญ่ถามขณะหันกลับไปมองวูล์ฟซึ่งกำลังยกมือขึ้นปัดหินประดับสวนก้อนมหึมาที่คนครึ่งเสือทุ่มเข้าใส่ สมิธหันไปสบตากับแสตนลีย์ก่อนจะเลื่อนกลับไปมองวูล์ฟและขมวดคิ้วด้วยความหนักใจ

“รีบหาทางทำอะไรสักอย่างก่อนที่เจ้าหนูหมาป่านั่นจะเผลอแสดงตัวออกมา”

แสตนลีย์กระซิบ สมิธนิ่วหน้าอย่างใช้ความคิดและขยับไปข้างหน้าเล็กน้อยแต่ยังไม่ทันที่จะได้ลงมือทำอะไรเขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงคล้ายปืนยิงพลุดังมาจากพุ่มไม้หนาด้านตรงข้ามห่างจากจุดที่พวกเขายืนพอควร วัตถุรูปทรงกลมสีดำขนาดไม่ใหญ่นักลอยข้ามสนามตกลงมาบนพื้นหญ้าตรงหน้านักสืบเครน เขารีบก้าวถอยหลังและอุทานด้วยความตระหนกเมื่อมันปริแยกออกเป็นสองเสี่ยงปล่อยควันสีเทาทึบออกมา เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างร้องตะโกนและทำท่าจะวิ่งหนีแต่แสตนลีย์รีบร้องเตือน

“ทุกคนอย่าตกใจ มันเป็นแค่ระเบิดควันเท่านั้น”

กลุ่มควันลอยคลุ้งบดบังไปทั่วบริเวณ เสียงร้องตะโกนเอะอะสลับกับเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งอย่างสับสนทำให้เครนต้องพยายามเพ่งสายตามองหาคนร้ายแต่ไม่สำเร็จเพราะความหนาทึบของควัน หลังจากเวลาผ่านไปได้ราวแปดนาทีควันสีเทาทึบจึงค่อยจางลง เครนมองเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งกำลังยืนขยี้ตาพร้อมกับสำลักไอกันวุ่นวาย นักสืบใหญ่ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันไปทางวูล์ฟจากนั้นจึงกวาดตามองไปโดยรอบและนิ่วหน้าเมื่อไม่เห็นกีพาร์ด เครนร้องถามเสียงดัง

“คนร้ายหายไปไหน”

เจ้าหน้าที่ทุกคนรวมทั้งแสตนลีย์ช่วยกันกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ สมิธเดินเข้าไปหาหนุ่มหมาป่าซึ่งกำลังสะบัดหัวสองสามครั้งเพื่อขับไล่ความมึนงงพร้อมกับถาม

“เป็นยังไงบ้าง”

“มันฟาดหัวผมก่อนจะหนีไป” วูล์ฟพูดด้วยความเจ็บใจ สมิธตบไหล่เขาสองสามครั้ง

“ไม่เป็นไร คุณปลอดภัยก็ดีแล้ว”

“แต่ผมอยากจับมัน” หนุ่มหมาป่าพูดเสียงห้วนด้วยความโมโหทั้งที่มือยังคงจับบริเวณท้ายทอย สมิธยิ้ม

“ผมทราบ”

“มันไม่ใช่แบบที่คุณคิด ที่ผมหมายความก็คืออยากพิสูจน์ว่าคนร้ายรายนี้แค่มีลักษณะคล้ายคนครึ่งเสือเท่านั้น”

คำพูดของวูล์ฟทำให้สมิธชะงักคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างนึกเอะใจ เขาเหลือบตามองมีดที่ตกอยู่บนพื้นก่อนจะหันกลับมาที่หนุ่มหมาป่าอีกครั้งพร้อมกับถาม

“คุณกำลังหมายความว่า คนร้ายรายนี้ไม่ใช่กีพาร์ด”

“ครับ” วูล์ฟรับคำเสียงหนัก สมิธชำเลืองตามองเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังขึงแถบพลาสติกเพื่อปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุก่อนจะลดน้ำเสียงให้เบาลง

“แน่ใจหรือวูล์ฟ”

“ผมแน่ใจ ถึงรูปร่างหน้าตาของเจ้าหมอนั่นจะดูคล้ายกีพาร์ดแต่กลิ่นของมันไม่ใช่” หนุ่มหมาป่านิ่วหน้าเหมือนพยายามนึกหาคำอธิบาย “จะว่ายังไงดีล่ะครับ ตอนที่ต่อสู้กันผมได้กลิ่นของเจ้านั่น ต่อให้เป็นกลิ่นสาบเสือเหมือนกัน แต่ไม่ใช่แบบเดียวกับกีพาร์ดแน่”

“หมายความว่ามีคนเลียนแบบเขา แต่จะเป็นไปได้ยังไงเพราะนอกจากพวกเราแล้วไม่มีใครรู้ตัวจริงของกีพาร์ด”

สมิธพูดอย่างครุ่นคิดก่อนจะก้มหน้าลงมองลูกระเบิดควันที่ตกอยู่บนพื้น

“หรือว่านี่เป็นแผนการของพวกอิลูมิเนติก แต่เขาจะทำเพื่ออะไร”

ชายหนุ่มพึมพำก่อนจะหันไปทางเครนซึ่งกำลังเดินเข้ามาหา

“ดูเหมือนผู้ต้องสงสัยของเราจะมีคนช่วย” นักสืบใหญ่พูดพลางย่อตัวลงนั่งและจ้องเศษชิ้นส่วนของระเบิดด้วยสายตาแน่วนิ่ง “หรือว่าคนร้ายมีมากกว่าหนึ่ง”

เขานิ่วหน้าอย่างใช้ความคิดก่อนจะหันไปสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งอยู่ใกล้ๆ

“ล้อมบริเวณนี้ไว้อย่าให้ใครเข้ามาโดยเฉพาะพวกนักข่าว ติดต่อหน่วยพิสูจน์หลักฐานให้มาเก็บทุกอย่างที่นี่โดยเร็วที่สุด”

สายตรวจนายหนึ่งรับคำและหยิบวิทยุสื่อสารออกมาทันที เครนเลื่อนสายตาไปยังมีดที่คนร้ายทำตกไว้และจ้องอย่างพิจารณา

“เป็นมีดที่มีลวดลายแปลกดี” เขาขมวดคิ้วและก้มหน้าลงไปพิจารณา “มีรอยบิ่นที่ส่วนปลาย หวังว่ามันจะเข้ากับเศษโลหะที่ดร.เมสันพบในบาดแผลของเหยื่อ”

เขาเงยหน้าขึ้นและเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นแสตนลีย์กับสมิธกำลังยืนคุยกับวูล์ฟ สีหน้าที่เคร่งเครียดของคนทั้งสองทำให้เขาลุกขึ้นและถามด้วยความสงสัย

“มีอะไรที่ผมควรรู้ไหม”

“ผมกำลังถามเขาเรื่องตำหนิรูปพรรณของคนร้ายเผื่อเป็นประโยชน์ในการติดตาม” แสตนลีย์ตอบ เครนผงกศีรษะอย่างเคร่งขรึมก่อนจะกล่าว

“จากการต่อสู้เมื่อครู่คนร้ายคงได้รับบาดเจ็บ ผมจะลองส่งคนไปสืบหาตามโรงพยาบาล”

“พนันได้ว่าไม่มีทางเจอ” หนุ่มหมาป่าพูดเสียงเรียบ เครนมองหน้าเขา

“ทำไมถึงพูดแบบนั้น”

“เพราะเจ้านั่น...” วูล์ฟทำท่าจะตอบแต่สมิธกลับรีบพูดแทรกขึ้นมา

“คนร้ายเป็นพวกที่มีจิตหวาดระแวงและมีความระมัดระวังตัวมาก เขาไม่มีทางไปโรงพยาบาลแน่”

“ก็อาจจะเป็นไปได้แต่ถึงยังไงผมก็คงต้องส่งคนไปตรวจดู อย่างน้อยก็เพื่อความแน่ใจ” เครนพูดพลางมองเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งของหนุ่มหมาป่า “คุณเองก็น่าจะไปทำแผล”

“ผมไม่เป็นอะไร” วูล์ฟตอบก่อนจะบ่นพึมพำด้วยความเจ็บใจ “ทั้งที่จับเอาไว้ได้แล้วแท้ๆ ไม่น่าปล่อยให้มันหลุดมือไปได้”

“ใจเย็นวูล์ฟ อย่างน้อยตอนนี้เราก็พอจะรู้รูปพรรณของคนร้ายบ้างแล้ว คงตามหาตัวมันได้ไม่ยาก”

สมิธปลอบ เครนมองคนทั้งสองนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจพูด

“ผมกำลังสงสัยว่าคนร้ายรายนี้น่าจะเป็นคนเดียวกันกับคนร้ายที่ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อหลายเดือนก่อน”

“ทำไมถึงคิดแบบนั้น คุณเคยเห็นเขามาก่อนแล้วอย่างนั้นหรือ” แสตนลีย์ถาม เครนส่ายหน้า

“ก็ไม่เชิง”

“หมายความว่ายังไง” เจ้าหน้าที่พิเศษถามและมองอีกฝ่ายนิ่ง “คุณมีข้อมูลที่ไม่ได้บอกให้เรารู้ใช่ไหมนักสืบเครน”

เครนไม่ตอบแต่กลับมองเจ้าหน้าที่เอฟบีไอทั้งสามอย่างชั่งใจก่อนพูดเสียงเรียบ

“ความจริงแล้วผมไม่ตั้งใจจะปิดบังอะไร แต่จากการที่คาร์เพนเตอร์ปลอมตัวเป็นเอฟบีไอเข้ามาสอดแนมการสืบสวนเมื่อหลายเดือนก่อนและลักลอบนำหลักฐานบางอย่างไปทำให้ผมต้องเพิ่มความระมัดระวัง”

“คุณพูดเหมือนไม่เชื่อว่าพวกเราคือเอฟบีไอ” แสตนลีย์พูดอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เครนผงกศีรษะก่อนตอบ

“ในตอนแรกผมคิดแบบนั้น แต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของวูล์ฟในห้องชันสูตรแล้วผมจึงเปลี่ยนใจ ต้องขอโทษด้วยที่สงสัยพวกคุณ”

สมิธและแสตนลีย์หันไปมองหนุ่มหมาป่าพร้อมกันก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปที่นักสืบใหญ่อีกครั้ง

“ในเมื่อเข้าใจกันแล้วก็ดี” แสตนลีย์กล่าวอย่างเคร่งขรึม “พอจะบอกได้หรือยังว่าคุณมีหลักฐานอะไร”

“พูดที่นี่คงไม่เหมาะ กลับสถานีแล้วผมจะเล่าให้ฟัง” นักสืบใหญ่กล่าวพลางหันไปมองรถของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่วิ่งเข้ามาจอด เขาจึงชี้ไปที่เศษระเบิดและมีดพร้อมกับสั่งเสียงเข้ม

“เก็บหลักฐานพวกนั้นไปให้หมดและตรวจพื้นที่บริเวณนี้อย่างละเอียดทุกตารางนิ้ว หาลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอหรืออะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับคนร้าย ผมต้องการรู้ข้อมูลทุกอย่างเร็วที่สุด”

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานรับคำและลงมือปฏิบัติหน้าที่ทันที เครนยืนเฝ้าอยู่ครู่หนึ่งจึงหันไปทางสแตนลีย์กับสมิธและพูดเสียงเรียบ

“ไปดูหลักฐานชิ้นสำคัญกันเถอะ”

จากคุณ : Moony_Lupin
เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 12:17:07




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com