ความคิดเห็นที่ 1 อย่างนี้ต้องแปลงสาส์น ขอรับ อิอิ จากคุณ : คนสาธารณะ เขียนเมื่อ : 20 ก.ย. 53 23:32:14

ความคิดเห็นที่ 2 น่าสงสารฤาษีที่ในป่า เฝ้าตั้งหน้าปฏิบัติตนให้เกิดผล หวังในธรรมแก้กรรมนำจิตตน ให้หลุดพ้นวังวนช้ำติดตามใจ พยายามปลูกต้นคิดปริศนา ตั้งสัมมาสมาธิมั่นไม่หวั่นไหว แม้ทำจิตแน่วแน่แก้อย่างไร ก็ยังไม่สัมฤทธิ์ดังจิตปอง ต้องท่องเที่ยวเข้าไปในเมืองหลวง พบสิ่งลวงกิเลสชนคนทั้งผอง อนัตตาทุกขาเข้าครอบครอง ตามครรลองแห่งกิเลสเวทนา เมื่อรู้เหตุแห่งทุกข์จึงกำหนด วางใจปลดปล่อยใจอุเบกขา มีพลังตั้งมั่นวิปัสสนา เลิกเถิดหนาอย่าเสียใจไม่เข้าการ สวัสดีค่ะ คุณพันคม กิ่งฟ้ามาขอแจมค่ะ บทกลอนเพราะมากจึงอยากแจมค่ะไม่รู้ว่าจะเหมาะสมหรือไม่ ถ้าผิดพลาดไปขออภัยมาณ. ที่นี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 53 06:54:57 จากคุณ : กิ่งฟ้า เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 06:50:49

ความคิดเห็นที่ 3 อยู่แต่ดง พงไพร ในเขาป่า ความชินตา เพียงเงา ต้นไม้ใหญ่ ธรรมชาติ บรรเลง ด้วยเพลงไพร ฤา จะรับ รู้ได้  ในเรื่องราว บนผืนแผ่น แดนใด  ไหนร้อนลุ่ม มีไฟสุม รุมใส่ ให้ร้อนผ่าว มากปัญหา ทุกหน จนระนาว ทั้งนายบ่าว สาวหนุ่ม เป็นกลุ่มไป บ้างก็มี สิ่งสุข ไม่ทุกข์เข็ญ ความลำเค็ญ ไม่รู้ เป็นไฉน ทั้งเอาเปรียบ เหยียบย่ำ ให้ช้ำใจ แตกต่างกัน ถมไป ในสังคม เรื่องอื้อฉาว คาวคุ้ง ดูยุ่งเหยิง เหมือนเปลวเพลิง ลามเผา เข้าถาถม อีกซุบซิบ นินทา ปะคารม ค่านิยม คนเมือง เรื่องธรรมดา....(นะคะ ท่านฤาษี) คุณพันคม มาแบบฤาษีนี่ สุไม่รู้จะแจม ยังไง เอาเป็นว่า สุขอเขียน แบบเรื่อยเปื่อย ละกัน นะคะ .. จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 11:27:19

ความคิดเห็นที่ 4 มีฤๅษีตาไฟอยู่ในป่า นั่งบำเพ็ญภาวนาน่าเลื่อมใส ดูสงบร่มเย็นไม่เป็นภัย ฝูงสัตว์ป่าน้อยใหญ่รายรอบตน นั่งหลับตามานานกาลล่วงเลย ฤๅษีเอ่ยปริศนาพาสับสน เรื่องกุศลผลกรรมนำบันดล ทั้งปลูกต้นชี้ตายปลายชี้เป็น ทำอย่างไรอย่างไรไม่มีลูก ลองผิดถูกใส่ปุ๋ยเป็นว่าเล่น เที่ยวไปโน่นไปนี่เป็นวรรคเวร เจอะเจอเห็นกิเลนไฟให้สงกา มันเผานี่เผานั่นและเผาโน่น มันทะโยนทะยานดูแกร่งกล้า พลันฤๅษีตาไฟได้ลืมตา ปรากฎว่าไฟไม่มี..ฤๅษีครวญ! แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 53 16:48:37 จากคุณ : ลำน้ำ C เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 16:47:49