ความคิดเห็นที่ 1 ดังนั้น การที่กำนันวร เลี้ยงวัวชนไว้ ก็ต้องมีเงินทองส่วนหนึ่งในการซื้อวัวชน หรือซื้อพ่อพันธุ์วัวชนไว้คัดเลือกพ่อพันธุ์ ไว้สำหรับผสมพันธุ์สร้างวัวชนรุ่นใหม่ ต้องมีลูกน้องและเด็กจูงวัวชนจำนวนหนึ่ง ไว้สำหรับดูแล บำรุงรักษา ให้วัวมีพละกำลัง มีอาหารการกิน หาหญ้าให้วัวชนที่อุดมสมบูรณ์ เพื่อได้มีกำลังกายในการเข้าแข่งขันพนันขันต่อกัน ในภาคใต้จึงมักจะเห็นเสมอว่า มีคนเกี่ยวหญ้าวัวชนตามท้องถนน โดยขี่รถจักรยานยนต์หรือรถกะบะ เพื่อหาหญ้าให้วัวชนหรือบางคนบอกให้วัวนม เลยมีหนังตะลุงหยอกล้อตอนไปแสดงหนังที่พัทลุงว่า พวกเราชาวพัทลุงขี่รถมอเตอร์ไซด์ ขี่รถเยื้องย่างไปเกี่ยวหญ้าไว้เลี้ยงวัวชน มีเด็กจูงวัวชนคนหนึ่งของกำนันวร ภายหลังได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล ต่อมาได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีหลายสมัย ก่อนที่จะพ่ายแพ้ให้กับทีมประชาธิปัตย์ ที่ลงมาแข่งขันในสนามภูมิภาค แทนการแข่งขันในสนามสภาผู้แทนราษฏร ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า การเป็นเด็กจูงวัวชน ไม่ใช่เป็นกันง่าย ๆ หรือจู่ ๆ จะขอรับหน้าที่หรือรับจ้างจูงวัวชน รับรองจะถูกเจ้าของคอกวัวชนถีบไปไกล ๆ แน่นอน เพราะการเป็นเด็กจูงวัวชนได้นั้น ต้องมีใจรักวัวชนอย่างหนึ่ง ต้องรู้กำลังกาย กำลังใจของวัวชน เหมือนกับโค้ชที่รู้พละกำลังและฝีมือของนักกีฬา ต้องมีวินัยในการฝึกซ้อมวัวชน นำจูงวัวออกกำลังกายทั้งเช้าและเย็น ดูแลวัวก่อนเข้านอนและหลังเข้านอน สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของวัวชนเล็กน้อย(ถ้ามี) ถ้าเด็กจูงวัวชนเก่งกล้าสามารถมาก ก็อาจจะต้องสามารถเล่นคุณไสยฯ ได้ เวลานำวัวชนเข้าไปแข่งขันชนวัว พูดง่าย ๆ ว่า ร่วมกิน ร่วมอยู่ ร่วมชิวิตจิตใจกับวัวชน ดังนั้น การไต่เต้าขึ้นเป็นเด็กจูงวัวชน จึงเป็นเรื่องยากและลำบากพอสมควร ทำให้ปัจจุบันจะหาวัยรุ่นหรือเด็ก ๆ จูงวัวชนได้น้อยมาก ส่วนมากจะเริ่มเป็นวัยกลางคนมากขึ้น จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 14:07:51

ความคิดเห็นที่ 2 มีเรื่องเล่าสู่กันฟังว่า ครั้งหนึ่งมีวัวชนตัวหนึ่ง กลับมาวัวจะเปียกโชกคล้ายออกกำลังกายอย่างหนัก แต่พอนำเข้าชนวัวกลับไม่มีแรงเสียอย่างนั้น ผลก็คือ แพ้รูด หมด.. กลับบ้านไป จึงมีการสอบสวนและสอบถามกัน เรื่องจึงแดงขึ้นมาว่า เด็กจูงวัวชนขี้เกียจ มักจะจูงวัวให้พ้นสายตาชาวบ้าน แล้วก็หลบไปนอนเสียให้สบายใจ ก่อนจูงวัวกลับมาก็เอาน้ำชะโลมวัวให้เปียก เหมือนกับวัวออกกำลังกายมาอย่างหนัก ผลเลยเด็กจูงวัวชนถูกตบและถูกไล่ออก โทษฐานหลอกลวงเจ้าของคอกวัวชน ในสนามวัวชนนั้น เจ้าของวัวชนจะสามารถพาสมัครพรรคพวกเข้าได้ แล้วแต่ว่า นายสนามจะกำหนดไว้ไม่เกินกี่คน ส่วนมากจะไม่เกินสิบคน แต่ถ้าเป็นบ่อนไก่ ก็มักจะพูดว่า ไก่หนึ่งตัวเข้าได้สี่คน เลยมีคนถามว่า ไก่บ้านอุ้มเข้าไปพร้อมเพื่อนได้ไหม เลยถูกด่าว่าเสียคนไปเลย ราคาบัตรเข้าชมกีฬาวัวชน ในสมัยก่อนที่พอจำความได้ใบละสิบบาท ปัจจุบันก็ร้อยบาทต่อรอบ รอบหนึ่งอาจจะมีการชนเพียงคู่สองคู่ แล้วก็จะให้ผู้ชมออกจากสนามวัวชน ก่อนจะเริ่มเก็บเงินเข้าชมรอบใหม่ต่อไป เพราะวัวชนบางคู่ก็ชนกันนามมากร่วมชั่วโมงขึ้นไปก็มี หรือบางคู่ก็มีเดิมพันกันค่อนข้างสูง หรือเป็นคู่ที่มีคนถือหางกันจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสและรายได้ของเจ้าของสนามวัวชน ที่ปรกติใบอนุญาตจะให้มีการชนวัวเดือนละไม่เกินหนึ่งครั้ง เลยมีการเลี่ยงบาลี ขอชนวัวในโอกาสพิเศษหรือวาระอะไร ๆ หรือจัดให้มีการชนวัวในพื้นที่ใกล้เคียงกันหมุนเวียนกันไป โดยการร่วมมือของนายบ่อนสนามวัวชน เรียกว่ามีการให้ชมเกือบตลอดทั้งเดือนทีเดียว ในการได้เสียเงินทองกันในการพนันเลือกข้างวัวชน ก็จะมีเดิมพันค่อนข้างสูงมาก สมัยกำนันวร  เงินหมื่นก็มากแล้ว(ทองบาทละสี่ร้อย) แต่ปัจจุบันบางคู่เดิมพันหนึ่งล้านบาทอย่างต่ำ ไม่นับการเดิมพันข้างนอกรอบ ๆ วงสนามกีฬาวัวชกมวย ดังนั้น เจ้าของคอกวัวชน ถ้าไม่ร่ำรวยมากจริง ก็จะต้องมีสมัครพรรคพวกไว้คอยถือหาง คือร่วมสมทบทุนหรือนำเงินมาลงขันเพื่อเดิมพันวัวชน เพื่อเข้าไปแข่งขันชิงเงินเดิมพันกัน จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 14:09:13

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพตัวอย่างสนามกีฬาวัวชนแห่งหนึ่ง จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 14:11:28

ความคิดเห็นที่ 8 เจ๋ง...ไปเลย คนใต้บ้านเรา จากคุณ : benno7 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 16:21:05

ความคิดเห็นที่ 9   ความเห็นมันหายไปไหนตั้งเยอะอ่ะคะ   สุขสันต์วันไหว้พระจันทร์ย้อนหลังค่ะ  อิจฉาคนอยู่หาดใหญ่ ได้กินขนมไหว้พระจันทร์อร่อยๆ   ปล. อันนี้ที่บ้านส่งมาให้ หากินที่กรุงเทพฯไม่ได้เลย  ภาพไม่ค่อยสวย กินไปแล้วครึ่งแผ่น   จากคุณ : latics1 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 17:12:00

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีค่ะ แวะมาดูเรื่องเล่ากำนันวร ในเรื่องวัวชนกันค่ะ เคยแต่ขับรถผ่านสนามวัว ตอนวันนัดพอดี จำได้ว่า รถจอดเรียงแน่นเอี๊ยดริมถนนเลย ชนวัวจริงๆ นี่ เพิ่งเคยแลเลยค่ะ ดูตื่นเต้นดีจัง บัตรเข้าชมนี่ แพงเหมือนกันนะคะ เป็นร้อยบาทเลย น่าว่า เข้าชมแล้ว มีแผ่นให้จดเลือกแทงตัวด้วยไหมคะ การชนวัวนี่ พนันเข้ามาเอี่ยวเป็นหลักเลยนะคะ เบื้องลึกเบื้องหลัง ซับซ้อน ผลประโยชน์ พัวพันน่าดูเลย เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ ว่า เจ้าของวัวชนนี่ ต้องเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นพอสมควร.. ขอบคุณที่แชร์เรื่องราวค่ะ :) จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 17:36:14

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่มีแผ่นให้แทงแบบม้าแข่ง มีแต่การต่อรองด้วยวาจา ไม่มีการใช้สัญญาณมือแบบพนันมวย จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 18:35:41

ความคิดเห็นที่ 16 ถึงตายมั้ยอ่า จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 22:15:14

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่เคยไปดูชนวัวเลยค่ะ ท่าทางคงสนุก จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 23:43:14

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาอ่านแล้วครับ กี๊ฟหมดครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 13:01:10

ความคิดเห็นที่ 22 ดังนั้น เจ้าของคอกวัวชน จึงจะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จำนวนมาก ทั้งนี้ยังไม่นับรวมถึง ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในด้านการเลี้ยงดูสมัครพรรคพวก การระดมเงินลงขันในการชนวัวแต่ละรอบ หรือการเล่นการพนันวัวชนในบ่อนวัวชน ที่จะต้องเล่นกันแบบเลือกข้างกันไปเลย ไม่มีการเล่นแบบออกตัว หรือต่อตัว รองตัวเป็นต้น ทำให้โอกาสแพ้ชนะหรือมีเงินเก็บกลับบ้าน เป็นเรื่องของโชคของดวงอะไรทำนองนั้น เพราะขึ้นกับชัยชนะของวัวชนแต่ละรอบ อนึ่ง ในสนามกีฬาวัวชนนั้น จะมีการแยกโซนไม่ปะปนกัน ระหว่างกลุ่มขาใหญ่ นายหัว หรือนักการเมือง เรียกว่า ไม่ปะปนกันมั่วระหว่างกลุ่มรากหญ้ากับต้นไผ่ เพราะเงินต่อรองและราคาเดิมพันแตกต่างกันมาก การได้เสียในการเล่นการพนัน จะมีเดิมพันแต่ละรอบจำนวนสูงมาก การเบี้ยวหรือไม่จ่ายในวงการพนันชนวัว จะมีบ้างก็น้อยมากเพราะถือว่าเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี และสัจจะลูกผู้ชายในวงการบ่อนวัวชน กีฬาวัวชนจึงยังคงอยู่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมปักษ์ใต้ เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ ก่อนที่จะปลิวหายไปเหมือนฝุ่นผงในสนามวัวชน จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 12:55:59

ความคิดเห็นที่ 23 เจ้าของวัวชน จึงเป็นผู้มีบารมีและอิทธิพลไปโดยปริยาย เพราะจะต้องมีเงินทอง สมัครพรรคพวก หรือคนถือหางมาก ทำให้เป็นหัวคะแนนของนักการเมืองท้องถิ่น หรือบางครั้งก็ไต่เต้าขึ้นเล่นการเมืองท้องถิ่นหรือระดับชาติไปเลย เลยมักจะมีบางคนพูดกันเล่น ๆ ว่า นักการเมืองใต้ส่วนมากก็มาจากนักเลงวัวชน กำนันวร มีวัวชนที่มีชื่อเสียงหลายตัว แต่ภายหลังก็เลิกราไปเพราะเข้าวัยชราอย่างหนึ่ง กอปรกับลูกหลานมีการศึกษามากขึ้น และไม่ค่อยถนัดมากนักในการเป็นเจ้าของคอกวัวชน เพราะอย่างว่าการเป็นเจ้าของคอกวัวชน เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างหนึ่ง ในหลายด้าน เช่น การเล่นพนันขันต่อ ก็ต้องเล่นพนันวัวชนกันแบบคนใต้ คือ เลือกข้างไปเลย ได้เสียกันเลย แบบว่าได้แรงอก คือ ฉิ.หายไม่ว่า ขอให้ได้สะใจ หรือถึงอกถึงใจ เพราะโดยทั่วไปแล้วนักเลงการพนันหรือมืออาชีพจริง ๆ แล้ว จะเล่นแบบการพนันแบบมวยไทย หรือเล่นการพนันบอลทั่วไปผ่านยี่ปั้ว คือ ต่อบ้าง รองบ้าง เพื่อได้รับเงินจากส่วนต่างของราคาต่อ กับ ราคารอง เคยดูสารคดีบ่อนการพนันที่ลาสเวกัส มีการถ่ายทำถึงเบื้องหลังการทำงานของบ่อนการพนัน จะมีห้องทำงานห้องหนึ่งสำหรับนักคณิตศาสตร์ ในการคิดคำนวณส่วนต่างจากราคาต่อและราคารอง เพื่อเปิดรับการพนันจากผู้เล่นการพนัน เรียกว่าแทงถูกหรือแทงเสียเท่าไร บ่อนก็ได้รับเงินจากส่วนต่างการพนันอยู่ดี ดังนั้น เจ้าของคอกวัวชน จึงจะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จำนวนมาก ทั้งนี้ยังไม่นับรวมถึง ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในด้านการเลี้ยงดูสมัครพรรคพวก การระดมเงินลงขันในการชนวัวแต่ละรอบ หรือการเล่นการพนันวัวชนในบ่อนวัวชน ที่จะต้องเล่นกันแบบเลือกข้างกันไปเลย ไม่มีการเล่นแบบออกตัว หรือต่อตัว รองตัวเป็นต้น ทำให้โอกาสแพ้ชนะหรือมีเงินเก็บกลับบ้าน เป็นเรื่องของโชคของดวงอะไรทำนองนั้น เพราะขึ้นกับชัยชนะของวัวชนแต่ละรอบ อนึ่ง ในสนามกีฬาวัวชนนั้น จะมีการแยกโซนไม่ปะปนกัน ระหว่างกลุ่มขาใหญ่ นายหัว หรือนักการเมือง เรียกว่า ไม่ปะปนกันมั่วระหว่างกลุ่มรากหญ้ากับต้นไผ่ เพราะเงินต่อรองและราคาเดิมพันแตกต่างกันมาก การได้เสียในการเล่นการพนัน จะมีเดิมพันแต่ละรอบจำนวนสูงมาก การเบี้ยวหรือไม่จ่ายในวงการพนันชนวัว จะมีบ้างก็น้อยมากเพราะถือว่าเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี และสัจจะลูกผู้ชายในวงการบ่อนวัวชน กีฬาวัวชนจึงยังคงอยู่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมปักษ์ใต้ เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ ก่อนที่จะปลิวหายไปเหมือนฝุ่นผงในสนามวัวชน จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 53 12:59:09

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีค่ะ หนูคุยกับพี่คนนึง ที่บ้านเขาเคยเลี้ยงวัวชนไว้กัน อยู่แถวสทิงพระ เขาว่า ต้องดูแลพิถีพิถัน รายละเอียดปลีกย่อยมาก อย่างที่คุณอาว่าแลค่ะ แล้วก็ต้องระดับใหญ่โต ถึงเลี้ยงได้ ต้องเอาไปหาหญ้าดีๆ ให้ พาไปออกกำลัง ไปเดิน อาบน้ำให้ ดูแลเหมือนลูกคนหนึ่งเลยค่ะ หลังๆ พอลูกๆ มีภาระต้องไปเรียน ก็ไม่ได้ดูแลเท่าที่ควร พ่อเขาเลยขายไป แต่ก็ต้องขายให้ระดับนายกเทศมนตรี เพราะคนระดับธรรมดา ยากจะเงินถึง และยากจะหาคนดูแล ... อยู่นี่ หนูเคยมีโอกาสไปดูแทงม้าครั้งหนึ่ง ตื่นเต้นน่าดู มีใบให้เลือกเบอร์ คนที่ดูเป็น ก็ได้เป็นกอบเป็นกำเลยค่ะ แต่การพนัน ก็พูดยากนะคะ เรื่องของดวงกับทักษะเป็นหลัก สูตรใครก็สูตรใคร ไม่มีตายตัว แต่ถ้าใจป้ำ ลงทีเยอะๆ หรือโลภๆ ไม่ยั้ง ก็อาจหมดตัวได้กันค่ะ ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ขอบคุณที่แชร์เรื่องราวเก่าๆ ด้วยนะคะ :) จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 07:12:39