Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อันลอง นำล่องเวียดนาม ( ตอนแรก ) แบกเป้นั่งรถสู่เวียดนาม  

อันลอง นำล่องเวียดนาม ( ตอนแรก ) แบกเป้นั่งรถสู่เวียดนาม
ติดตามกันดูนะครับ เป็นการเล่าเขียนประสบการณ์การเดินทาง จากไทยสู่ประเทศเวียดนาม อย่างละเอียดและเข้าใจง่ายครับ แล้วท่านจะรู้ว่าไปเวียดนาม ไม่ยากอย่างที่คิดครับ  มาติดตามกันเลยนะคับ
อันลอง ล่องเวียดนาม ( ตอนแรก )
ถ้าพูดถึงเวียดนาม ทุกท่านคงคิดถึง อาหารที่ลือชื่อ เช่น เฝ๋อ หรือก๋วยเตี๋ยวบ้านเราน่ะเอง และอาหารอีกชนิดหนึ่งที่ท่านจะต้องนึกถึงก็คือ แหนมเนือง แต่จริง ๆ แล้วคนเวียดนาม ออกเสียงเรียกอาหารชนิดนี้ว่า แนม เนื๊อง ( แนมคือแหน ส่วนเนื๊องคือย่าง ครับ )  และสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของชาวเวียดนามที่ทุกท่านคุ้นหน้าคุ้นตากันดีในปัจจุบันก็คือ ผู้หญิงแต่ชุดประจำชาติ สวมงอบ หรือที่เรียกว่า โกก๊าย หมัก อ๊าว หญ่าย โด่ย น้อน ล๊า )  ซึ่งจะพบเห็นอยู่ทั่วไป เพราะชุดนี้เป็นชุดที่สตรีทุกท่านต้องใส่ โดยเฉพาะนิสิตนักศึกษานะครับ และอีกอย่างพอเราเอ่ยถึงเวียดนามเราก็จะนึกถึงสงครามเวียดนามระหว่าง เวียดนามกับกองทัพสหรัฐอเมริกาในสมัยก่อนนั่นเอง จะว่าไปเวียดนามก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองไทย เพียงแต่ไม่มีเขตแดนติดต่อกับชายแดนไทยเท่านั้นเอง เพราะตามลักษณะภูมิประเทศแล้ว ไทยจะมีชายแดนติดกับ ประเทศมาเลเซีย ทางตอนใต้ และทางทิศตะวันตกและทิศเหนือติดกับเมียนมาร์  ส่วนทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศเหนือ ติดกับ สาธารณะรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว และทางทิศตะวันออกเราก็มีชายแดนติดกับกัมพูชา  เพราะฉะนั้น ประเทศไทยไม่ได้มีชายแดนติดกับประเทศเวียดนาม  ซึ่งจะว่าไปแล้ว เวียดนามมีชื่อที่เป็นทางการว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  นะครับ  ในปัจจุบันจะมีคณะนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนามกันค่อนข้างที่จะหนาตา เนื่องจากว่า การเดินทางสะดวก สบาย อาหารก็อร่อยถูกปาก และเวียดนามยังมีทัศนียภาพตามธรรมชาติอันสวยงดงามที่ยังคงหลงเหลืออยู่จำนวนมาก  ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ต้องการที่จะไปสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้ และคณะนักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่จะเดินทางไปเป็นหมู่คณะเพราะสะดวกสบาย มีบริษัทนำเที่ยวอำนวยความสะดวกให้กับทักท่านเรียบร้อย  สำหรับการเที่ยวเป็นหมู่คณะเราก็จะได้อรรถรสในการเดินทางที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับ การจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวของบริษัทนำเที่ยว แต่ถ้าหากว่าท่านต้องการความเป็นส่วนตัว ในการเดินทางและได้อีกมุมมองหนึ่งของการท่องเที่ยว ต้องแบกเป้ สะพายกล้องถ่ายรูป นั่งรถโดยสารสู่เวียดนามได้เลย ซึ่งตัวกระผมเอง ค่อนข้างที่เดินทางไปเวียดนามบ่อย ก็เลยเกิดแนวคิดว่า ทำไมไม่เขียนหนังสือขึ้นมาเพื่อให้คนที่อยากจะเดินทางไปหาประสบการณ์เอง ได้ศึกษาเส้นทาง และเป็นการนำทางสู่การท่องเที่ยว เพี่อให้หลายท่านที่ยังไม่เคยไป หรือเคยเดินทางไปกับทางคณะแล้ว อยากไปอีก แต่ไปในรูปแบบหนึ่งที่จะได้เห็นถึงวิถีชิวิต และความเป็นอยู่ของชาวเวียดนามเพิ่มขึ้น  เพราะหลาย ๆ ท่านอาจจะคิดว่า การเดินทางไปเที่ยวเวียดนามนั้นต้องลำบากแน่ ๆ เลย คงกันดาร และการเดินทางต้องเหน็ดเหนื่อยมาก ๆ แน่เลย  ซึ่งถ้าหากว่าท่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ท่านจะเปลี่ยนความคิด อยากจะแพ็คกระเป๋าและออกเดินทางไปเวียดนามทันที อย่างแน่นอนที่เดียวครับ แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนที่ท่านจะเดินทางไปเวียดนามนั้น เรามาทำความรู้จักกับประเทศเวียดนามกันก่อนสักหน่อยนะครับ
ชื่อเป็นทางการของประเทศคือ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  ( Nứơc cộng hòa xã hội chủ nghĩa Việt Nam ) ปัจจุบันสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามมีพื้นที่ ประมาณ  - ตารางกิโลเมตร และแบ่งออกเป็น - จังหวัด   ปัจจุบันมีประชากรจำนวน -  ล้านคน  ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่  - ของกลุ่มอาเซียน  ( มากกว่าไทยประมาณ - ล้าน คน )  เดี๋ยวจะหาข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องมาใส่นะครับ
การเดินทางทริปนี้ เป็นการเดินทางคนเดียวของกระผม และไปแบบที่เรียกว่า กระเป๋าใบพร้อมความมั่นใจไปคนเดียวเลยทีเดียว  ซึ่งกระผมจะเริ่มจากแพ็คกระเป๋าเดินทางตรงสู่สถานีขนส่งสายเหนือ หรือหมอชิตนั่นเองครับ โดยขึ้นไปที่ชั้นสาม ช่องจำหน่ายตั๋ว ของบริษัทขนส่งจำกัดครับ และจุดหมายปลายทางคือจังหวัดมุกดาหาร อ้อ ที่ขาดไม่ได้ที่ทุกท่านจะต้องนำติดตัวไปด้วยคือ หนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตนั่นเองครับ และบัตรประจำตัวประชาชนครับ  จังหวัดมุกดาหารเป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยครับ จาก สถานีขนส่งหมอชิต ถึงจังหวัดมุกดาหาร ระยะทางประมาณ  670 กิโลเมตร  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9- 10 ชั่วโมง และจะมีประเทศตั๋วเดินทางให้เราเลือก  มีรถปรับอากาศชั้นสอง ไม่มีห้องน้ำบนรถนะครับ และรถปรับอากาศชั้น หนึ่ง รวมถึงรถปรับอากาศวีไอพีครับ  ราคาค่าโดยสารก็ประมาณ 762 บาท สำหรับรถวีไอพี ส่วนประเภทอื่นก็ถูกลงมาครับ หลังจากที่จัดการซื้อตั๋วรถโดยสารเรียบร้อยแล้ว ก็ดูว่าเราจะขึ้นที่ชานชาลาที่เท่าไหร่ เวลาไหนนะครับ  พอเรียบร้อยก็จะออกเดินทางสู่สถานีขนส่งจังหวัดมุกดาหารเลยครับ  พอไปถึงที่นั่น ก็จัดเตรียมหนังสือเดินทาง และเข้าไปซื้อตั๋วรถโดยสารระหว่างประเทศ  เที่ยวแรกจะเริ่ม 07.30 น.  และเที่ยวสุดท้ายประมาณ 19.00 น.  ทุกครึ่งชั่วโมงจะมีหนึ่งเที่ยวครับ อัตราค่าโดยสารท่านละ  45 บาท รวมค่าประทับตรานอกเวลาทำการเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านอีก 5 บาทครับ เป็น  50 บาท ครับ
รถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศออกเดินทางเที่ยวแรก 07.30 น. เดินทางมาถึงที่ด่านสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ สอง มุกดาหาร ประมาณ 08.00 น. เราก็เข้าแถวเพื่อประทับตราเอกสาร ตม. 10 ซึ่งเราต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวตามหนังสือเดินทาง เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จะประทับตราที่หน้าหนังสือเดินทางเรา  พอเรียบร้อย ก็จะไปรอที่รถ และออกเดินทางต่อ เพื่อข้ามสะพานไปยังด่านสากล สะหวันนะเขต สปป.ลาว และก็มีพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ด่านสะหวันนะเขตนี้อีกครั้งหนึ่ง โดยต้องเตรียมค่าประทับตราหนังสือเดินทางท่านละ บาท ให้พร้อม และจะต้องนำสัมภาระผ่านเครื่องแสกนด้วยนะครับ เสร็จแล้วค่อยขึ้นรถ และรถโดยสารจะจำท่านเดินทางสู่สถานีขนส่งแขวงสะหวันนะเขต  
พอถึงที่นี่ก็จะไม่เห็นวุ่นวายเท่าใดนัก เพราะสถานีขนส่งค่อนข้างที่จะเล็ก แต่ก็นับว่ามีความเป็นระเบียบเรียบร้อยดีพอสมควรครับ  ที่นี่เราสามารถที่จะซื้อตั๋วรถโดยสารระหว่างประเทศ คือ สะหวันนะเขต ไปยังนครเว้ หรือเมืองหลวงเก่าเว้ของเวียดนามนั่นเองครับ ซึ่งรถจะเป็นรถปรับอากาศชั้นเดียว 45 ที่นั่ง สภาพดีนะครับ โดยเรานำหนังสือเดินทางไปซื้อได้ที่ช่องจำหน่ายตัวนะครับ สนนราคา ก็ 110,000 กีบ  หรือ ประมาณ 440 บาท นะครับ  ซึ่งรถจากสะหวันนะเขต เดินทางไปนครเว้นี้จะมีตั้งแต่ วันจันทร์ ถึงวันศุกร์  และแต่ละวันมีแค่เที่ยวเดียวนะครับ คือ 10.00 น. ครับ  ได้เวลารถโดยสารจะออกเดินทางโดยจากสถานีขนส่งรถ ไปจนถึงด่านชายแดนบ้านแดนสวรรค์ 350 กิโลเมตร ครับ โดยจะใช้เส้นทางเดินรถถนนหมายเลข 9 สะหวันนะเขต แดนสะหวัน โดยจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และรถโดยสารจะแวะให้ผู้โดยสารพักรับประทานอาหารระหว่างทาง ซึ่งเป็นร้านข้าวแกง ของชาวเวียดนาม มาค้าขายที่เมืองไทยครับ  อาหารเป็นประเภทข้าวราดแกง พอทานได้นะ ราคาก็ไม่แพง ประมาณ 40-60 บาท ครับ  และหลังจากนั้นจะออกเดินทางต่อไปยังด่านชายแดนบ้านแดนสะหวันประมาณอีกหนึ่งชั่วโมง  พอเดินทางถึงด่านแดนสะหวันผู้โดยสารทุกท่านก็จะต้องลงจากรถเพื่อที่จะนำหนังสือเดินทางไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประทับตราออกนอกเมืองครับ ค่าใช้จ่ายก็ท่านละ 40  บาทครับ  ซึ่งด่านนี้จะอยู่ห่างจากด่านสากลลาวบ๋าว ของเวียดนามประมาณ ห้าร้อยเมตร ซึ่งหลังจากเสร็จพิธีการที่ด่านนี้แล้วเราขึ้นรถโดยสารและพอไปถึงด่านเวียดนามทุกท่านจะต้องลงและให้เจ้าที่ ด่านตรงประตูทางเข้าตรวจหนังสือเดินทาง และทุกท่านเดินเท้าเข้าไปที่ช่องประทับตราหนังสือเดินทาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประทับตรา ซึ่งทุกท่านจะต้องกรอกแบบฟอร์มผ่านเข้าออกให้เรียบร้อยด้วยนะครับ ข้อควรระวังนิดหนึ่งคือ ห้ามถ่ายรูปหรือวีดีโอ ขณะเจ้าหน้าที่ทำงานนะครับ แต่สำหรับจะถ่ายรูปประตูด่านหรือที่อื่น ๆ เราก็สามารถที่จะถ่ายได้ตามสบาย และที่ด่านลาวบ๋าวนี้นะครับ ยังมีร้านค้าปลอดภาษี มีสินค้ามากมายหลายชนิดให้จับจ่าย รวมถึงซีมโทรศัพท์ของเวียดนามด้วย สนนราคาก็ประมาณ 100 บาทต่อซิมครับ ซึงจะขอแนะนำให้ซื้อซิมของ Viettel นะครับ เพราะจะมีมูลค่าโทรอยู่ในนั้นเยอะหน่อย สามารถที่จะโทรกลับเมืองไทยได้สบาย ๆ หลายนาทีครับ   เฮ้อวันนี้เหนื่อยแล้ว อ่านแค่นี้ก่อนนะครับ วันหลังจะมาเขียนต่อนะครับ

จากคุณ : Phasawat Long
เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 22:29:12




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com