ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นลองมารู้จักเมืองบริสเบน (Brisbane) กันสักหน่อย เมืองบริสเบนตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย และเป็นเมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ ภูมิอากาศแถบเร้อนชื้น ฤดูหนาวไม่หนาวมาก เป็นเมืองใหญ่อันดับ3ของออสเตรเลียรองจากเมลเบิร์นและซิดนี่ย์ อากาศร้อนชื้น ฤดูหนาวไม่หนาวมาก อยู่ได้อย่างสบาย ๆ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 53 22:54:14 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 22:53:09

ความคิดเห็นที่ 2 เอาหละ มาดูเมืองบริสเบนจากมุมสูงหน่อย.... ตัวเมืองบริสเบน  มองมุมสูง จาก จุดชมวิวสวนพฤษศาสตร์เมาท์คูต้า  เห็นตึกสูงลดหลั่นกันไป  สามารถเห็นขอบทะเลอยู่ลิบๆ เมืองบริสเบน เอนตั้งใกล้   ชายฝั่งใหญ่ แถมไม่ไกล   เขตป่า        พนาสน เรียกชื่อย่อ    เมืองบริสซี่   รู้ทุกคน ดังต้องมนต์   ยามมาเยือน เหมือนวิมาน จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:00:55

ความคิดเห็นที่ 3 ก่อนจะออกชมรอบๆเมืองบริสเบน มาดูที่พัก เจ้าจ.ข.ท กันหน่อย ผมพักเช่าห้องอยู่แถวชานเมือง เขตที่เรียกว่า Northgate  ย้ายมา 3 ที่แระที่นี่ถูกสุดๆติดรางรถไฟเลย..นอนไปฟังเสียงรถไฟไป ฟังฟรีไม่เสียตังค์    อยู่ห้องเช่า ราวรังหนู ดูมิดชิด    ขยับนิด ติดฝา น่าสงสาร    แต่ค่าเช่า ไม่เล็ก จ่ายกันบาน    ต้อง ซมซาน ทนอยู่  สู้ต่อไป จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:04:48

ความคิดเห็นที่ 4 นี่เป็นรถไฟทีอยู่ติดกับที่พักผมเลย ชื่อสถานี Northgate กำลังวิ่งเข้าเมืองบริสเบนซึ่งอยู่ห่างไปราว10ก.ม จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:10:47

ความคิดเห็นที่ 5 ไปลุยกลางเมืองบริสเบนกันนะครับ ตรงจุดนี้จะมีชิงช้าสวรรค์ใหญ่มาก เรียกว่า สวนสาธารณะเซาท์แบงค์ เป็นที่พักผ่อนของชาวเมือง ช่วงที่ผมไปตอนเที่ยงๆแดดร้อนยังไม่มีคน  แต่พอตอนเย็นจะมีหนุ่มๆสาวๆมาเดินเล่นกันเต็มเลย -----            ชิงช้าใหญ่       ใจกลางเมือง  เลื่องลือชื่อ        ตั้งยืนอยู่          เด่นสง่า        มาก็เห็น      เขตเซาท์แบงค์ มีหนุ่มสาว    เต็มตอนเย็น      มาเดินเล่น       ลอยชาย       สบายใจ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:14:41

ความคิดเห็นที่ 6 มาดูลักษณะบ้านเรือนสวยๆของคนออสซี่ กัน   เขามีบ้านเป็นสไตส์ของตัวเองนะ  เมืองบริสเบน  รัฐควีนแลนด์เนี่ย ส่วนมากจะสร้างด้วยไม้ เรียกว่าสไตล์ควีนแลนเดอร์ ------------  สร้างด้วยไม้  ใช้ซุงใหญ่       ใส่เป็นหลัง    ชื่อฝรั่ง         ควีนส์แลนเดอร์ ได้เจอเห็น  บ้านแบบนี้     มีอยู่               เมืองบริสเบน    ล้วนโดดเด่น สวยงาม            ยามได้ยล จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:22:04

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนหลังนี้ บ้านริมเขารอบนอกเมืองบริสเบน จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:28:00

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนนี่เป็นกีฬาที่คนออสซี่นิยมเล่นกันทั้งประเทศ..ที่นี่มีแต่กีฬาแปลกๆอันนี้คล้ายรักบี้แต่ไม่ใช่.เรียกว่าออสเตรเลี่ยนรูลส์นะครับ ---------------- ลูกยาวรี        กีฬาแปลก  แยกถิ่นอื่น   คนเป็นหมื่น  นิยมเล่น      กันที่นี่ ทั้งเด็กเล็ก   ผู้ใหญ่         เล่นได้ดี   เกมส์แบบนี้  เราคนไทย  ไม่นิยม จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:32:27

ความคิดเห็นที่ 9 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 53 23:34:03 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:33:28

ความคิดเห็นที่ 10 พักสายตาสักครู่นะครับเดี๋ยวมาต่อ  ดูเด็กฝรั่งน่ารักน่าชังไปก่อน ------------ ยิ้มเด็กน้อย    ไร้เดียงสา หน้าจิ้มลิ้ม ดูอวบอิ่ม        เลือดฝาด สะอาดใส ประกายตา     แวววับ     แสนจับใจ   ลูกของใคร     กันหนอ  น่าคลอเคลีย จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:37:17

ความคิดเห็นที่ 11 มาต่อกันครับ..นี่คือโบสถ์ตั้งอยู่กลางเมืองบริสเบน..สังเกตุได้ง่ายรูปทรงแปลกตา ------------ ความศรัทธา    ก่อร่าง         สร้างเป็นโบสถ์ ความเขลา      โฉดก่อร่าง    สร้างปัญหา มีสองทาง      ให้เลือก        ก้าวเดินมา กรรมบังตา      เลือกทางชั่ว ไม่กลัวเกรง จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:41:56

ความคิดเห็นที่ 12 ยังอยู่ในตัวเมืองบริสเบน  แต่ภาพนี้เป็นสองสาว 2  ประเทศคนใส่แว่นนั่น สาวลาติน จากโคลอมเบีย...ส่วนอีกสาวเป็น...สาวลาวฝั่งโขง เธอกำลังชี้อะไรไปดูกัน..ทั้งสองคนเป็นเพื่อนผมนะครับ     นางแบบ 2  คนชี้มั่วๆไปยังงั้นแหละ ---------------- สาวลาติน      ชี้นิ้ว      บอกชี้นก     ส่วนสาวลาว  ทำตลก.. นกตัวไหน ทั้งสองสาว   เย้ายวน   รัญชวนใจ...     ชี้ตรงใจ.      ผมที...    อย่ารีรอ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:46:19

ความคิดเห็นที่ 13 ออกนอกเมืองกันบ้าง.. ไปดูภูเขากัน อยู่ทางเหนือเมืองบริสเบนไปราว 1ช.มมีชื่อว่าGlasshouse Mountains.ถ้าแปลภาษาไทยเราก็ต้องบอกว่า  บ้านเขาแก้ว  แถวนี้ปลูกสัปรด สตรอเบอร์รี่ แมคาเดเมีย (ลูกมันกลมๆแข็งๆ  กินเหมือนถั่วแต่เป็นไม้ยืนต้น เป็นไม้ท้องถิ่นที่นี่) ----------- เขาเขียว     คือ    เขาใกล้ เห็นลางลาง คือ   เขาไกล แมกไม้      หลาก หลายใบ ฉ่ำชื่นใจ    ครอบ คลุมดิน แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 01:15:13 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:50:31

ความคิดเห็นที่ 14 คนในรูปนี้ไม่ใช่ผมนะครับเป็นฝรั่งแถวนั้น จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:52:26

ความคิดเห็นที่ 15 ใช้เส้นทางเดียวกับ Glasshouse Mouuntains  เมืองบริสเบน เลยไปอีกราว 20 นาที เจอชายหาดที่เมือง Caloundra ------------------ ขาวขาว       วะวาววับ ระยิบระยับ    แดดไหวไหว ฟ้าคราม      เห็นไกลไกล อยากย่ำไป  บนผืนทราย จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 23:57:34

ความคิดเห็นที่ 16 ทีนี้มาข้ามไปเที่ยวเกาะกันบ้าง เอาหละได้เวลาไปทะเลกันแล้วข้ามไปเกาะกันเลย เกาะเฟรเซอร์เป็นเกาะทรายใหญ่ไม่มีดินปนที่สุดในโลก  อยู่ทางเหนือบริสเบนราวๆ 4ช.ม หาข้อมูลเพิ่มได้ที่นี่http://bangkok-guide.z-xxl.com/?p=3967 ทะเลสาบในเกาะทรายสวยมากขอบอก -------------------------------- .เกาะเป็นทราย  ไร้ดิน           ถิ่นนี้แปลก ตั้งแต่แรก        เมื่อเจอ         เผลอหลงใหล ที่กลางเกาะ      มีบึง             สวยจับใจ หาดทรายใส    เกาะเฟรเซอร์  ไปเจอมา ------------------------------- ทะเลสาบในเกาะชื่อว่าทะเลสาบเเมคเคนซี่ครับ น้ำโคตรใสเลย อยู่กลางป่าเลย ผมใช้เวลาเดินไปที่บึงนี้ราว3ช.มครับจากรีสอร์ทบนเกาะ...เขามีรถไปส่งแต่ไม่ฟรีนะครับ..พอดีชอบเดินป่าอยู่แล้ว(ไม่อยากบอกว่างก)  ไม่อยากเสียตังค์ค่ารถทัวร์จากรีสอร์ทเดินกันน่องโป่งเลย นี่ครับทะเลกลางป่า ---------- หาดทรายขาว          ราวแป้ง   มาแต่งโรย ลมโบกโชย             แผ่วมา    น่านอนฝัน อยากอาบแดด         อาบลม    บ่มผิวพรรณ เหมือนสวรรค์          บนดิน      ในถิ่นไพร จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:04:35

ความคิดเห็นที่ 17 มาดูสัตว์ท้องถิ่นกัน บ้างข้างล่างนี่ก็เป็นนก..ที่เห็นอยู่ทั่วไปตามชายฝั่งเมือง บริสเบนนกกินปลา  ที่เรียกว่า นกพาลิแกน จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:07:21

ความคิดเห็นที่ 18 อีกรูปตอนมันกำลังบิน -------------------------- ปีกกว้าง    คว้างเวหา ร่อนเร่มา    รอนแรมไกล เรื่อยเรื่อย   รายเรียงไป มิมุ่งหมาย  ไร้พรมแดน จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:09:18

ความคิดเห็นที่ 19 บางคนอาจจะสงสัย  แล้วเมืองบริสเบนมีน้ำตกมั้ย  มีครับ..นี่เป็นน้ำตก  ตกจากที่สูงแล้วผ่านหินลงมา เหมือนลงไปในรูเลย อยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติสปริงบรู๊ค..ไม่ไกลจากแถวโกลด์โคสต์สักเท่าไหร่ ห่างเมืองบริสเบน ไปทางใต้ สักชั่วโมง --------------------------------- น้ำตกรู      พรูพลั่ง     เสียงดังฉ่า ร่วงลงมา    สูงลิบลิ่ว   เป็นทิวสวย กระทบหิน  จนแตก     แยกเป็นกรวย น่างงงงวย  พิศวง       จนหลงชม จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:12:30

ความคิดเห็นที่ 20 นอกจากเมืองบริสเบน  แล้วผมยังมีโอกาส ไปเที่ยวเมืองอื่นบ้าง เป็นภาพตอนที่ผมได้ไปเยือน ฮูลูรู ซึ่งเป็นก้อนหินยักษ์สีแดง  ตั้งอยู่กลางใจกลางทวีปออสเตรเลีย แถบนี้จะเป็นเขตทะเลทรายทั้งหมด  ถ้าดูในแผนที่จะเห็นเมือง Alice Springs รัฐนอร์ทเทอร์น ทอรี่เทอรี่ ฮูลูรูอยู่ตรงกลางประเทศนะครับแถวๆ นั้นครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:19:31

ความคิดเห็นที่ 21 หินฮูลูรู เป็นชื่อภาษา ของคนพื้นเมืองอบริจิน..ซึ่งเชื่อว่าหินนี้เป็นหินศักดิ์สิทธิ์ บางคนอาจคิดว่าทำไมหินใหญ่จัง อยู่ๆมาโผล่กลางทะเลทรายได้ยังไง  ก้อนหินจริงนะครับ อย่าคิดว่าเป็นภูเขา  หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่าไอเยอร์ส ร๊อค แถบนี้ทะเลทรายทั้งนั้น -------------------------------------- หินสีแดง          ก้อนใหญ่   ของใครหนอ   มากองก่อ         มหึมา       น่าเกรงขาม กลางทะเลทราย เวิ้งว้าง      จดฟ้าคราม   มีชื่อนาม          ฮูลูรู        ตูยังงง จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:22:40

ความคิดเห็นที่ 22 หินจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน ยามตื่นมาตอนเช้า  พอสายๆอีกหน่อยจะเป็นอีกสี -------------------- น้ำตาลอ่อน วอนเว้า    สีเศร้าหมอง รอแดดส่อง  ลายลับ    สลับสี ยืนตระหง่าน นานมา    ชั่วตาปี ไร้ชีวี    ฉันคือหิน        ดินยังเมิน จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:27:42

ความคิดเห็นที่ 23 สังเกตุพอคนละเวลาสีจะเริ่มเปลี่ยนแล้วสายๆหน่อยเป็นสีส้ม จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:28:55

ความคิดเห็นที่ 24 มีทางขึ้นไปเดินข้างบนได้  แต่ผมไม่ได้ขึ้นเพราะ กลัวคนพื้นเมือง  แช่งให้ตกลงมาเนื่องจาก  เป็นหินศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา  แต่ก็ยังมีคนฝ่าฝืนเดินขึ้นไป ตกลงมาตายปี หนึ่งก็หลายคน..ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ -------------- หินแดงแดง        อย่าประมาท  ธรรมชาติ           สรรค์เติมแต่ง  ระวัง                 เจ้าที่แรง  มักชอบแกล้ง     คนป่ายปีน  ปีหนึ่ง              ร่วงหลายหน  เพราะซุกซน      ไม่จบสิ้น  ตายไปฝังใต้ดิน  เพราะดูหมิ่น เหยียบย่ำบน จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:34:47

ความคิดเห็นที่ 25 ดูหินูฮูลูรูใกล้ๆกัน เป็นภาพวาดสมัยโบราณ ของชนพื้นเมืองชาวอบอริจิ้น.ซึ่งอาศัยอยู่แถวนี้กันมาก่อนเมือหลายร้อยปีที่แล้ว ----------------- ขีดเขียน เกิดเส้นลาย       ปักตรึงไว้ บนแผ่นหิน ฝีมือ คนเดินดิน               อะบอริจิ้น  พื้นเมืองเดิม บันทึก เป็นเรื่องราว         คล้ายบอก เล่ามีรูปเสริม สีขาวใช้แต่งเติม             แต่แรกเริ่ม หลายร้อยปี จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:39:50

ความคิดเห็นที่ 26 บนก้อนหินยักษ์ฮูลูรู บ้างมีรูกลวงกลม  ใครซนเดินไม่ระวังนี่ ตกลงไปคงไม่ได้ขึ้นกลับมาอีกเลย ----------------------     กลางกลวงเป็นรูเปิด         ล้วนก่อเกิดแรงลมกร่อน     แสงแดดส่องซอกซอน     ฝนตกซ้อนหินผุพัง จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:42:51

ความคิดเห็นที่ 27 ที่จริงแล้วชาวอบอริจิ้น ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่นี่ ห้ามนักท่องเที่ยว เดินขึ้นไปบนหิน แต่ก็ยังมีคนฝ่าฝืน -------------------- ทางขึ้น  สูงลิบลิ่ว เดินตัวปลิว ลืมเหลียวหลัง หมายมุ่ง   เกินกำลัง   สวรรค์ชัง พลั้งถึงตาย จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:47:08

ความคิดเห็นที่ 28 เที่ยวทริปนี้ผมได้เดินเล่นรอบฮูลูรูด้วย.. เห็นคนตัวเท่ามดนะครับส่วนคนยืนข้างๆ..ความลับครับ..สังเกตดูหินตรงนี้รูปร่างคล้ายแนวคลื่นเลย ------------- คล้ายเกลียวคลื่นยื่นแผ่ ชะแง่ผา   แสงแดดจ้า หลบร้อน ก่อนจะสาย เดี๋ยวไปต่อ ข้างหน้า ตั้งเรียงราย ทั้งหินซ้าย  หินขวา เชิญมาทัวร์ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:49:22

ความคิดเห็นที่ 29 เลย ฮูรูลู มาหน่อยสัก30นาทีมั้ง  ก็เจอหินอีกกลุ่มหนึ่งชื่อว่า  กะตาจูตา เเต่หินกลุ่มนี้เป็นแถวเป็นแนว สามารถเดินเล่นข้างในหุบหิน เหมาะสำหรับคนชอบเดินป่าหรือเดินออกกำลัง ไม่ไกลมากแค่สองหมาหอบ..ข้างในจะเป็นทางเดินคล้ายๆวงกลมเดินวนกลับมา ที่เดิมได้ ------------------------ ก้อนต่อมา กะตาจูตา.. ห่าเรียกยาก พูดลำบาก ไม่ชิน คำท้องถิ่น ได้มาเห็น ตะลึง  นั่งลมดิน     อยากขอหวย ให้ตายดิ้น คาหินกอง จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:52:32

ความคิดเห็นที่ 30 ผมไปเจอสัตว์เลื้อยคลานทะเลทรายเข้า  น่าจะเป็นกิ้งก่าทะเลทราย  ภาษาอังกฤษเรียกตัวนี้ว่า..ธอร์นนี่ เดวิล.(ชื่อยังกะพระเอกหนังฝรั่งเเต่ดูตัวมันสิ.)..ไม่เป็นอันตรายนะจับได้ จริงๆ..นะมันพรางตัวเก่งมาก   สีเหมือนดินกรวดทะเลทรายเลย ----------------------- กลมกลืน กลบเกลื่อนกาย      กับหินทราย กรวดนานา ยืนเพ่ง เล็งแสบตา               ยังแทบหา หัวไม่เจอ กิ่งก่า ตัวลายลาย                 หนามงอกได้ด้วยนะเออ เดินไป อย่าเผอเรอ               เดี๋ยวซ่าเซ่อ เหยียบ มันตาย จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:54:53

ความคิดเห็นที่ 31 มาดูท้องฟ้ายามพลบค่ำ  ในทะเลทราย ใจกลางออสเตรเลียกัน ---------------------- ตะวันคล้อย ลอยหาย สยายแสง เหลืองอมแดง แกมดำ สีคล้ำหมอง คล้ายใจ คนครวญคร่ำ น้ำตานอง อย่าเศร้าหมอง เดี๋ยวก็เช้า  ก้าวต่อไป จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:57:07

ความคิดเห็นที่ 32 ทริบนี้ผมพักโรงแรม กลางทะเลทราย แถวหินฮูลูรูนั่นแหละ   ที่นี่มีสเต็กจระเข้ให้กินด้วยแต่ผมไม่กล้ามีคนอื่นสั่งมากิน..แถมบางคนบอก รสชาติเหมือนเนื้อไก่ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 00:59:49

ความคิดเห็นที่ 33 จบลำนำคำกลอนนำเที่ยว บริสเบน(Brisbane)กับ อลิสปริงส์ แถวฮูลูรู ด้วยภาพนี้ดอกไม้สวยๆงามๆนะครับ       ทิวลิปขาวสลับแดงแต่งเติมสี       มวลมาลีชูช่อกอไสว       คิดถึงบ้านเคยอยู่จากมาไกล               ดอกไม้ไทยทวนความจำให้คำนึง       บัวชายบ้านบานหรือยังหวังรอลูก         แม่คนปลูกเฝ้าชม  ผมบ่นถึง       พ่อแข็งแรงหรือเปล่า อย่าดื้อดึง       สักวันหนึ่งอยู่พร้อมหน้าไม่ช้านาน จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 01:08:33

ความคิดเห็นที่ 34 หิวแล้วครับ..เอาของกินมาฝาก..ก่อนจบกระทู้นะคร๊าบ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 01:10:23

ความคิดเห็นที่ 35 จบรีวิว กลับตาลาย  มึนหลายรอบ กลับมาตอบคำ คำถาม หากสงสัย ภาพอาจน้อย ร้อยคำกลอน ลึกจากใจ โปรดอภัย บ้างผิดพลาด อาจหลงลืม จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 01:11:10

ความคิดเห็นที่ 36 ขอต้อนรับหนุ่มไทยคนไกลบ้าน สู่ถนนกลอนกานท์ได้อ่านเขียน จากเมืองไทยไปทำงานหรือเล่าเรียน มาแวะเวียนเล่าต่อจะรอฟัง.. เล่าเรื่องสนุกดี น่าติดตามค่ะ.. แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 08:21:36 จากคุณ : คุณแม่ใจดี เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 08:21:15

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นหนุ่มไทย ไกลบ้าน มาขานกล่าว เรื่องมันยาว เท้าความกลับ แต่หนหลัง พรหมลิขิต บันดาล  ได้น่าชัง เชิญมานั่ง ฟังต่อ  ขอ  เล่าเอง ---------------- ผมจะเล่าเรื่องเรื่องผมให้ฟังนะครับ  ไม่ทราบอย่างนี้เรียกพรหมลิขิตได้หรือเปล่า เ หตุเกิดช่วงปีที่เกิดสึนามิที่เมืองไทยเมื่อปลายปี 2547       ช่วงหลังเกิดสึนามิได้สัก1อาทิตย์  นั้นผมทำงานอยู่ในสนามบินดอนเมือง..ที่กรุงเทพ..  มีวันหนึ่งได้มีฝรั่งชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ ชื่อทอม เข้ามาคุยด้วย แล้วบอกว่า  เขามีเรื่องขอความช่วยเหลือหน่อย...พอดีเขารับอาสาเอาเครื่องมือช่างมากล่องใหญ่มาก  ที่คนสวิสเซอร์แลนด์  บริจาคมาให้ช่วยคนไทย   จะเอามาบริจาคช่วยเหลือ ชาวไทยที่ประสบภัยจากสึนามิ         ..แต่เขาไม่สามารถนำไปคนเดียวได้   ต้องการคนช่วยขน  ผมไม่ลังเลรับอาสา และตัดสินใจออกงานที่สนามบินเลย  โดยเอากล่องเครื่องมือนั้น  ขนใส่รถทัวร์ลงมาภาคใต้ จุดแรกที่ผมกับทอมหยุดพัก   คือจังหวัดระนอง   เราพักเกสต์เฮาน์ในตัวเมือง จ.ระนอง  และที่นี่เอง  ผมได้เจอกับฝรั่งหญิงจากออสเตรเลีย  เธอชื่อเมลลิสา เมลลิสา  บอกว่า  เป็นนักท่องเที่ยวแต่ตอนนี้เธอเป็น    อาสาสมัครช่วยสึนามิ อยู่ที่เขาหลักพังงา  ช่วงเกิดสึนามิ เมลลิสา ปลอดภัย  เพราะเที่ยวอยู่เกาะเต่า ฝั่งอ่าวไทย  เธอบอกว่ามาแวะ จ ระนอง  เพื่อจะข้ามไปต่อวีซ่าที่เกาะสองฝั่งพม่า (เขตแดนจ.ระนอง) ก็ได้คุยกันสัก5นาทีได้มั้ง  แล้วเมลลิสา ก็จากไป ผมเลยได้ความคิดตรงนี้  จากฝรั่งผู้หญิงออสซี่คนนี้ ..ว่าน่าจะเอากล่องเครื่องมือไป  บริจาคให้ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ เขาหลักจ.พังงา   เลยปรึกษากับ ทอม (เจ้าของกล่องเครื่องมือ).. แต่กว่าจะนำเครื่องมือนี้ ไปที่เขาหลักพังงา   ผม ต้องมานั่งๆนอนๆ รอทอมอยู่ที่ระนองวันแล้ววันเล่า  เพราะทอมเป็นฝรั่งขี้เมา ทอมเมาติดลม  อยู่ทีระนองเกือบเดือน..  .รอไม่ไหว   สุดท้ายเลยตัดสินใจแกมบังคับทอม   ชวนทอมกลับไปบ้านผมก่อนที่ จ.พัทลุง เพื่อไปเอารถยนต์จากบ้าน  แล้วขนเครื่องมือเหล่านั้นไป ที่เขาหลัก  จ.พังงา และผมก็ได้เจอเมลลิสาอีกที่นี่   ซึ่งเธอทำหน้าเป็น อาสาสมัครตำแหน่งเลขา   ประจำศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ เขาหลัก จ.พังงา     ผม ทำงานอาสาสมัครอยู่ที่นั่นประมาณ1เดือน ช่วยชาวบ้านซ่อมแซมบ้านบ้างเรือประมงบ้าง  สอนหนังสือเด็กเล็กบ้าง สุดท้ายชะตาเราต้องกัน    9  เดือน  จากนั้น  เราตัดสินใจแต่งงานกัน  ที่บ้านผม   จ.พัทลุง  แต่งแบบไทย  เราอยู่กันที่บ้านผม จ.พัทลุง 4 ปี แล้วเมลลิสา เธอก็ตัดสินใจ ชวนผม มาหาประสบการณ์ที่ออสเตรเลีย  บ้านเธอ. .ตอนนี้ผมอยู่บริสเบน ออสเตรเลียกับเมลลิสาได้ 2  ปีแล้วครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 14:49:16

ความคิดเห็นที่ 38 คู่กันแล้ว ไม่แคล้วคลาด มิอาจคิด พรหมลิขิต บันดาล แต่หนไหน ขอบฟ้ากว้าง น้ำกั้น  หนทางไกล เกิดเพศภัย คลื่นยักษ์  รักสองเรา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 15:08:18

ความคิดเห็นที่ 39 อืมมมม .... สวัสดีครับ คุณ Jayaus. เจอกันในห้องไกลบ้าน แล้วยังตามมาเจอกันในนี้ด้วย แสดงว่าเราชอบอะไรคล้ายๆ กัน ยินดีต้อนรับครับ :) จากคุณ : ทราย แดนหิมะ (Scientist) เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 02:51:37

ความคิดเห็นที่ 40 ครับ..คุณทราย แดนหิมะ (Scientist).ยินดีจังมีคนตามมาจากห้องไกลบ้านด้วย..พอดีเป้นคนชอบอ่านชอบเขียน ก็เลยมาห้องนี้ด้วยครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 04:24:05

ความคิดเห็นที่ 41 ผมเล่นอยู่ที่นี่นานแล้วครับ ฮาๆๆๆ ยินดีที่ได้พบ ฮ่าๆๆๆ จากคุณ : Scientist เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 15:50:36

ความคิดเห็นที่ 42 ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 53 16:55:56 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 16:54:55

ความคิดเห็นที่ 43 งั้นเอาเป็นว่าผมตามคุณมาแล้วกัน..จริงๆแล้วกใหม่ทุกที่แหละเพิ่งมาตั้งกระทู้และคอมเมนต์ได้เดือนกว่าๆเอง..แต่ห้องนี้ยังใหม่ๆซิงๆ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 16:55:09

ความคิดเห็นที่ 44 ตามมาจาก BP ครับ .. ทำรีวิวได้น่ารักมาก ๆ เลยครับ .. เก่งมาก  ๆ แต่งเป็นกลอนซะแหล่มเลย ;) จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 16:21:25

ความคิดเห็นที่ 45 ยินดีกับความรักด้วยคนนะครับ อยู่ที่ไหน ไม่สำคัญ อยู่กับใคร นะคร๊าบบ   แหะๆ จะแต่ง แต่แต่งกลอนไม่เก่ง จากคุณ : mohicann เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 16:29:00

ความคิดเห็นที่ 46 ยินดีด้วยค่ะ ... พรหมลิขิต บรรดาลชักพา นำให้เราพบกันทันใด ..... จากคุณ : เมล็ดพืชน้อย เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 17:24:42

ความคิดเห็นที่ 47 ยินดีด้วยค่ะ เพราะโลกกลม และพรหมลิขิต แท้ๆ เลย ^_^ จากคุณ : route rover เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 18:00:08

ความคิดเห็นที่ 48 พรหมลิขิต ชักพา ^^ จากคุณ : moo por เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 19:54:13

ความคิดเห็นที่ 49 รักกันนานๆนะคะ  คู่แล้วไม่แคล้วกัน ยังไงก็ต้องกลับมาเจอกันอีกอยู่ดี ^_^ จากคุณ : GorgeouS_Bull เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 11:14:22

ความคิดเห็นที่ 50 สุดยอดมากครับ... ^_^ จากคุณ : Chef Oliver เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 53 22:29:11