ความคิดเห็นที่ 1 |
2
ต้นฉบับของกวินถูกปราดตามองอย่างรวดเร็วโดยอรพรรณ ด้วยความที่คุ้นเคยกับมันมาบ้างแล้วก่อนหน้า จึงทำให้ใช้เวลาไม่นานอย่างที่คิด บรรณนาธิการหญิงเงยหน้าขึ้นจากกองกระดาษ ถอนใจยาว สบตากับกวินที่ยั่งลุ้นอยู่ตรงข้ามโต๊ะ อรพรรณเป็นบรรณนาธิการเล่มซึ่งดูแลรับผิดชอบหนังสือประเภทนวนิยายของสำนักพิมพ์ ชีวิตของกวินในเส้นทางการเป็นนักเขียนจึงค่อนข้างจะผูกพันกับอรพรรณมาตั้งแต่ต้น ตอนนั้นอรพรรณยังเป็นเพียงผู้ช่วยบรรณนาธิการ หล่อนแนะนำต้นฉบับชิ้นแรกของกวินให้กับกองบรรณนาธิการในขณะนั้น และหลังจากนั้นมา กวินก็กลายเป็นนักเขียนที่มีผลงานออกกับสำนักพิมพ์ต่อเนื่องมาโดยตลอดด้วยแนวงานที่ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ เรียกได้ว่า ความดีงาม ความรัก ความสดใส หรือการมองโลกในแบบบริสุทธิ์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะไม่มีในหนังสือของกวิน ตรงกันข้าม หนังสือของกวินจะเต็มไปด้วยความแสบสันต์ของมนุษย์ กิเลสตัณหา ความน่ารังเกียจ รวมไปถึงความรุนแรงต่าง ๆ นา ๆ ทางความคิดและพฤติกรรม จนบางครั้งค่อนไปในทางล่อแหลมต่อประเพณีและศีลธรรมอันดีของประเทศ อันที่จริง กวินก็ไม่ทราบนักว่าต้นฉบับของเขามันดีเด่นอะไรตรงไหน ทางสำนักพิมพ์ถึงได้เห็นดีเห็นงามไปกับมัน เป็นไปได้ตรงที่มันผาดโผน ตรงไปตรงมา และค่อนข้างจะแหวกจริตมากพอสมควร มากพอที่จะก่อให้เกิดกระแส และกระแสที่ว่านี้ก็นำมาด้วยการขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีอยู่เล่มหนึ่ง งานของกวินกลายเป็นประเด็นใหญโตเพราะพาดพิงศาสนา เกิดกระแสถกเถียงอย่างครึกโครมจนแทบโดนสั่งเผา ยังดีที่ว่ามิติของมันยังพอจะมีความน่าสนใจมากพอที่จะเรียกกระแสปกป้องจากเหล่านักวิจารณ์และนักอ่านหัวใหม่อยู่บ้าง งานชิ้นนั้นเลยไม่ถึงกับจมดินลงไปพร้อมกับคำก่นด่าจากพวกหัวอนุรักษ์ แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าอย่างไร ผลประโยชน์จากหนังสือเล่มนั้นก็แทบจะมากมายมหาศาล เพราะยิ่งโดนกระแสต่อต้านจากพวกหัวเก่าสักเท่าไร คนก็แห่ซื้อกันเป็นเทน้ำเทท่า นี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลก็ได้ที่สำนักพิมพ์เลี้ยงกวินเอาไว้ ไม่ได้แก้ตอนจบนี่ อรพรรณเอ่ยขึ้นในที่สุด หลังจากทราบว่าสิ่งที่ติติงไปยังคงอยู่เช่นเดิม แต่กระนั้น ถ้าเป็น บก.คนอื่นอย่างเช่นมธุรส คงจะต้องมีการโมโหขัดเคืองและไม่พอใจออกมาแล้วกับความหัวดื้อของนักเขียน แต่อรพรรณกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น หล่อนยังคงมีสายตาแห่งการครุ่นคิดและพร้อมจะเข้าอกเข้าใจ อันที่จริง กวินรู้จักกับอรพรรณมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียน หล่อนเป็นสายรหัสของเขา ความสนิทสนมและความรักใคร่ที่มีให้กันมานานเป็นเหตุให้บางครั้งการทำงานก็เต็มด้วยความอะลุ้มอล่วยและเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน ผมพยายามแล้วพี่ แต่... มันไม่ได้จริง ๆ อ่ะพี่ มันยากมากนะพี่ ที่จะบังคับให้...
สรุปว่าแกก็ยังยืนยันที่จะให้คนดี ๆ อย่างพระเอกต้องกดดันกับชีวิตของตัวเองจนถึงกับฆ่าตัวตาย ก็เขามองโลกในแง่ดีเกินไป จนจัดการอะไรกับชีวิตไม่ได้ ส่วนนางเอก ทั้ง ๆ ที่หักหลังพระเอกโดยการมีชู้ แต่ก็ยังจะทอดทิ้งพระเอก ไปเป็นเมียน้อยของคนเลว เพียงเพื่อแลกกับเงินทองและความสุขสบาย และใช้ชีวิตเอาเปรียบคนอื่นต่อไป เห็นได้ชัดว่าเธอฉลาดที่จะใช้ชีวิตบนโลก ลองดูให้ดี ๆ นะพี่ นางเอกแต่งงานกับพระเอกก็จริง แต่พระเอกก็ไม่เคยทำให้หล่อนมีความสุขเลย เพราะมัวแต่ไปยึดมั่นถือมั่นแต่กับคุณธรรมของตนเอง เรื่องอะไรที่หล่อนจะต้อง... อรพรรณยกมือขึ้นตัดบท ราวกับบอกให้รู้ว่าไม่จำเป็นที่กวินจะต้องอธิบายอะไรให้มันยืดยาวมาก แกยังคงแนวคิดของการดูถูกความรักและดูถูกชีวิตอยู่เหมือนเดิมสินะ กวินชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะผ่อนลมหายใจ แม้ว่าเอกลักษณ์ของงานเขียนแหวกจริตจะโด่งดังและสร้างกระแส แต่กระนั้น ด้วยความที่กวินเขียนงานพรรค์นี้ออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกินไป ผลที่ตามมาก็คือกลายเป็นความเบื่อหน่อยของนักวิจารณ์ จากที่เคยเป็นของแปลกใหม่ ตื่นตาตื่นใจ ก็กลายเป็นความซ้ำซาก ไม่มีอะไรใหม่และพายเรือในอ่าง หลัง ๆ เข้ากวินโดนวิจารณ์อย่างเจ็บแสบว่าเขียนงานแบบ ไม่รู้จักโต และนอกจากนั้น ตลาดงานก็เริ่มเปลี่ยนไป ในสถานการณ์ของบ้านเมืองที่กำลังเดือดร้อนและวุ่นวาย ชีวิตรอบข้างมีแต่ความตึงเครียด รวมเข้าด้วยกับสโลแกนของรัฐบาลที่โหมกระหน่ำค่านิยมแบบเรียบง่ายสดใสเพื่อบดบังปัญหาที่กองอยู่ตรงหน้า ดังนั้น จึงแทบไม่มีนักอ่านคนไหนในช่วงเวลานี้จะนึกนิยมชมชอบการอ่านงานไสตล์ชีวิตหม่นโลกมืดอีกแล้ว ผู้คนต้องการเพียงแต่แสงสว่างและกำลังใจ งานเขียนของกวินจึงเริ่มจะขายไม่ออก รวม ๆ กันเข้าก็กลายเป็นสาเหตุที่ร้อนถึงกองบรรณนาธิการ ที่เริ่มมีนโยบายจะเคี่ยวเข็ญให้กวินลองปล่อยงานที่เปลี่ยนแปลงความคิดของตัวเองบ้าง เพื่อคงระดับชื่อเสียงอันจะนำไปสู่ผลดีทางการตลาดต่อไป แต่สำหรับกวินในฐานะนักเขียน การทำอะไรแบบนี้ มันไม่ใช่ของง่ายเลย พี่พรรณ ผมไม่ได้มีอีโก้นะครับพี่ แต่มันแค่... กวินพยายามที่จะแก้ตัว ผมสาบานว่าผมพยายามแล้ว แต่... มันยากนะครับพี่ กับการที่เราจะเขียนในสิ่งที่เราไม่เคยเชื่อแล้วโกหกว่ามันเป็นความจริง อรพรรณถอนใจยาว ก่อนจะสบตากับกวินอีกครั้ง คล้ายกับสำรวจลึกลงไปในห้วงความคิด ก่อนที่เจ้าหล่อนจะสรุปออกมาในที่สุด เอาละ พี่จะนำเสนอพี่รสอีกที พี่ว่าจะผ่านไหมพี่ กวินอดจะถามไม่ได้ ถ้าคิดเอาจากมุมของพี่รส ชื่อกวินก็อาจจะยังพอขายได้ แต่ถ้าคิดแค่ในมุมของพี่ อรพรรณยิ้มอย่างมากไมตรี ฉลุย ! กวินพยักหน้ารับ รู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้เล็กน้อย แต่ก็ไม่โล่งไปหมดเสียทีเดียว เพราะถึงอย่างไรต้นฉยัยก็ต้องผ่านมธุรสอีกที ซึ่งอย่างที่รู้ด้วยตัวเองว่ารายนั้นเรียกได้ว่าแทบจะเป็นเจ้าแม่ของที่นี่เลยทีเดียว และก็ เข้ม มากกว่าอรพรรณหลายเท่านัก ในขณะที่ความคิดโบยบินไปไกล สายตาของกวินเหลือบไปเห็นหนังสือปกสวย ๆ สองสามเล่มบนโต๊ะของอรพรรณ นามปากกาของผู้เขียนโดดเด่นอยู่บนปกให้เห็นชัดว่าเป็นงานของ วรรณี วรรณรัตน์ ในขณะที่ปกแต่ละเล่มมีการคาดกระดาษไว้อีกว่าเป็น หนังสือเสริมกำลังใจ เรียกได้ว่าฮาร์ดเซลล์แบบสุดฤทธิ์ ไวกว่าความคิด กวินหยิบหนังสือเหล่านั้นขึ้นมา นี่จะพิมพ์ซ้ำหรือพี่ อรพรรณพยักหน้า ใช่ แต่ต้องปรูฟเพิ่มนิดหน่อย คนอ่านเคยติมาน่ะว่ามีหลุดไปสองสามแห่ง หึ... ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คนอ่านกันทั้งบ้านทั้งเมือง พี่รสแกคงแฮปปี้น่าดู กวินเอ่ยออกไปโดยอัตโนมัติ ไม่อน่ใจแก่ตัวเองเหมือนกันว่าเอ่ยไปด้วยความรู้สึกเช่นไร จะว่าเยาะเย้ยก็ไม่ใช่ หรือจะว่าอิจฉาก็ไม่เชิง เป็นเครื่องยืนยันนะว่าต่อให้โลกมันจะทรามแค่ไหน แทนที่คนจะเข้มแข็ง แต่คนโดยมากก็ยังยินดีที่จะทำตัวอ่อนแอ หนีความจริง เสพแต่งานโหยหากำลังใจ พวกชนชั้นกลาง ! "แหม... เท่จังเลยนะยะ เอะอะก็ค่อนขอดชนชั้นกลาง" อรพรรณแหวออกมาอย่างอดไม่ได้ "โธ่เอ๊ย... แกอย่ามากระแดะลืมกำพืดหน่อยเลย มีใครแถวนี้ไม่ใช่ชนชั้นกลางบ้างไหม หรือแกจะบอกว่าแกไม่ใช่ อย่าลืมว่าไอ้ที่มีกินมีใช้อยู่ทุกวันนี้ก็เพราะชนชั้นกลางทั้งนั้น แฟนหนังสือแกอีกล่ะ ก็ชนชั้นกลางอีกนั่นแหละ ขึ้นชื่อว่าซื้อหนังสืออ่านฉันขอเหมาเลยว่าชนชั้นกลางทั้งนั้น อย่ามาด่ากันเองนักเลย เชิดชูกันเข้าไว้ ชนชั้นกลางจงเจริญ" "ก็แค่พูดเล่น" กวินแย้งเสียงอ่อย "จริงจังทำไมเนี่ย" ก็ฉันหมั่นไส้แก ทำมาเป็นว่าเขา องุ่นเปรี้ยวละสิไม่ว่า ทำไมไม่ลองเขียนอย่างเขาบ้างล่ะ จะได้ขายดีบ้างไง อรพรรณเอ่ยขึ้นมาราวกับว่าได้ที
"ไม่ต้องวกมาเรื่องนี้เลยนะ" กวินตอบโต้ไปทันที ในขณะที่อรพรรณก็คล้ายจะรบเร้าต่อ
เอาน่า คิดสิว่าท้าทายตัวเอง ไม่ได้หรอกพี่ ผมพยายามแล้ว ชายหนุ่มตอบกลับอย่างพยายามจะใจเย็น ก็บอกแล้วไง มันยากนะ ที่จะเขียนอะไรจอมปลอมแบบนั้นออกมา ผมเป็นพวกหลอกตัวเองไม่เป็น กวิน อรพรรณเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงจริงจัง มองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่คล้ายกับว่ารู้จักตัวตนของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี พี่เข้าใจในจุดยืนของแกนะ แต่แกน่ะยังเด็กนัก โลกนี้ยังมีอะไรให้แกเรียนรู้อีกเยอะ กวินนิ่งไปอย่างทันทีหลังจากที่อรพรรณพูดจบ คราวแรกคิดว่ารุ่นพี่ของตนพูดเล่น เลยตั้งท่าจะเอ่ยแซว แต่พอครั้นได้เห็นแววตาของอีกฝ่ายที่ยังจริงจังไม่เลิกรา ก็ทำให้คำพูดนั้นของอรพรรณดังซ้ำในสมองของกวินอยู่หลายรอบ และมันก็ส่งผลให้เขาร็สึกตีบตันขึ้นมาเล็กน้อยในความรู้สึกก่อนที่จะพยายามสลัดมันออกไป พยายามจะเอ่ยอะไรออกไปสักอย่าง แต่ก็พูดไม่ออก เลยได้แต่หัวเราะออกมาเบา ๆ แก้เจื่อน อย่าปิดกั้นตัวเอง เชื่อพี่ แล้วมันจะดีกับแก อรพรรณพูดซ้ำด้วยสำเนียงที่ยังคงจริงจังไม่ต่างจากเดิม ทันใดนั้น ก่อนที่กวินจะรู้สึกอึดอัดไปมากกว่านี้ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะ แล้วจากนั้นบานประตูก็ถูกเปิดออกอย่างนุ่มนวล สายตาของอรพรรณและกวินตวัดไปมองผู้มาเยือน พบหญิงสาวร่างสูงเพรียวค่อย ๆ เดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า คล้ายกับพกความประหม่าและตื่นเต้นมาเล็กน้อย แต่กระนั้น แววตาของเจ้าหล่อนก็ยังคงมีประกายระริกบ่งบอกบุคลิกของเจ้าตัวที่น่าจะเป็นคนรักสนุกและมากอารมณ์ขัน สวัสดีค่ะ พี่พรรณ หล่อนยกมือไหว้ผู้อาวุโสสุดในห้อง ก่อนจะค่อย ๆ เสยผมยาวสีน้ำตาลที่ปรกหน้าให้ปัดออกไปด้านหลัง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วคล้ายกับเลื่อนสายตามามองกวิน พี่พรรณมีแขก ราวกับได้ที กวินรีบลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว ราวกับหวาดกลัวที่จะต้องคุยในประเด็นก่อนหน้ากับอรพรรณอีก ผมขอตัวนะครับ เดี๋ยวก่อนสิกวิน อรพรรณเรียกไว้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่กวินกำลังเดินปรี่ไปที่ประตู จะรีบไปไหน ลืมไปแล้วหรือว่าพี่ยังไม่ได้คุยธุระกับแกเลย นั่นสิ กวินนึกขึ้นได้พอดี ก่อนจะยิ้มเจื่อน ๆ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่อาจจะหนีจากอรพรรณได้ในเวลานี้ ในขณะที่หญิงสาวแขกของอรพรรณก็ยังคงสบตามองเขาอยู่ไม่เลิก อดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าเจ้าหล่อนผู้นี้จะมีส่วนเกี่ยวพันอะไรกับธุระที่อรพรรณอยากจพูดกับเขาหรือเปล่า นี่คุณพิม อรพรรณเริ่มแนะนำ หลานสาวของคุณวรรณี วรรณี? กวินทวนคำ งุนงงในแวบแรก ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นหนังสือปกสวย ๆ บนโต๊ะทำงานของอรพรรณ แต่กระนั้นก็ยังไม่แน่ใจ วรรณี วรรณรัตน์น่ะหรือ ใช่ค่ะ พิมเอ่ยตอบอย่างรวดเร็ว พร้อมกับยิ้มกว้าง ในขณะที่กวินก็ยังงงจับต้นชนปลายไม่ถูก หญิงสาวคว้านามบัตรในกระเป๋าสตางค์ส่งให้กวินอย่างทันท่วงที กวินรับมาแล้วมองผาด ๆ จำไม่ได้เลยว่ารายละเอียดในบัตรเป็นอย่างไร สมองครุ่นคิดถึงแต่ความน่าประหลาดใจที่วันนี้ชีวิตของเขาเหมือนจะได้พบเจออะไร ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับวรรณี วรรณรัตน์เสียมากมาย ตั้งแต่รายการทีวีตอนเช้า หนังสือบนโต๊ะอรพรรณ แล้วยังจะหลานสาวอีก ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดี ๆ นักเขียนเก่าเก็บในความทรงจำที่เขาเองก็แทบจะหลงลืมไปนานแล้วถึงได้กลับมาปรากฏย้ำในวันนี้ วรรณี วรรณรัตน์เป็นนามปากกาของคุณป้าดิฉันเอง พิมพูดต่อ อรพรรณสังเกตเห็นความงุนงงบนใบหน้าของกวิน จึงพยายามที่จะอธิบาย คือว่าคุณพิมเขามีเรื่องอยากให้แกช่วยน่ะกวิน ช่วยอะไร หญิงสาวผ่อนลมหายใจยาว ก่อนจะเอ่ยมาอย่างทันทีทันใดไม่อ้อมค้อม ฉันอยากให้คุณเป็นโกสต์ไรเตอร์ให้กับคุณป้าของฉัน
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 18:55:35
| จากคุณ |
:
บุรุษชายขอบ (Waasuthep)
|
| เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ย. 53 18:49:22
|
|
|
|