ลำนำมโหรีแห่งความรัก
|
|
ค่ำแล้ว นวลน้องแก้วแววจิตพิสมัย น้ำค้างพรมลมชื่นระรื่นใจ แก้วเนตรทรามวัยจงไสยา จะขับกล่อมถนอมเสียงสำเนียงครวญ ฟังโหยหวนชวนใจให้โหยหา จะขับคำร่ำพจน์รจนา ให้ยอดรักนิทรายามราตรี ฯ
พระจันทร์จรแจ่มฟ้าราตรีนี้ หากไม่มีดารามาเคียงข้าง คงจะเปลี่ยวเฉลียวใจให้อ้างว้าง เวหาร้างห่างดารามาคู่กัน เปรียบดังพี่นี้หากพรากจากน้อง คงจะต้องสิ้นชีวาพาอาสัญ ด้วยเจ้าเป็นเช่นยอดดวงชีวัน จากกันพี่พลันจะขาดใจ ฯ
หนาวนัก ลมโชยชักความรักให้ห่างหาย มาร้างคู่อยู่เดียวเปล่าเปลี่ยวกาย แทบวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์ เมื่อก่อนเคยเชยชื่นระรื่นจิต จุมพิตกอดประทับรับขวัญศรี มาบัดนี้พี่ระทมตรมฤดี ต้องโศกีกอดผ้าห่มข่มหนาวเอย ฯ
ความรัก สุดจะหักห้ามจิตพิสมัย แม้นกำเนิดเกิดขึ้นในดวงใจ ก็ระรื่นชื่นไปทั้งกายา เรืองระยับวับวาวพราวพร่าง หอมมิต่างอย่างดวงปวงบุปผา สนิทแน่นแนบไว้ในอุรา สุดจะหาคำเปรียบเทียบรักเอย ฯ
ค่ำคงแล้วแก้วเนตรของเชษฐา พระจันทราลอยล่องไม่หมองศรี ส่องสว่างกลางนภายามราตรี รัศมีส่องไปในสากล พระพายพัดซัดกลิ่นผกามาศ บุพชาติดาษดาทุกแห่งหน อวดประทินกลิ่นอวลยวนกมล ใคร่จะยลบุปผาหนักหนาเอย ฯ
แสนสะท้าน ลมพัดพานรานจิตคิดถวิล หวนคะนึงถึงเจ้านวลยุพิน กลิ่นประทินหอมจรุงฟุ้งขจร ครั้นเมื่อแรกมาประสบพบจอมขวัญ ดังสวรรค์บันดาลสายสมร พิศพักตราน่าชมสมอุทร ให้อาวรณ์เจ้าสายสมรเอย ฯ
จากคุณ |
:
คีตวาทิต
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ก.ย. 53 01:25:36
|
|
|
|