ความคิดเห็นที่ 1 แวะมาอ่านวิบากรรมค่ะ เป็นเรื่องจริงนะคะ ทุกคนเกิดมามีกรรมติดตัวมาแต่กำเนิด แล้วแต่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว เมื่อถึงเวลา กรรมจะสนองเราแน่นอน สาธุ ขอให้หมดกรรมเสียทีเถิด จะได้สบายเสียที ให้กิ๊ฟเลยค่ะ จากคุณ : กิ่งฟ้า เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 00:14:10

ความคิดเห็นที่ 2 ให้กิ๊ฟไม่ได้ โหวตให้แทนนะคะ สวัสดียามดึกค่ะ หลับฝันดีนะคะ จากคุณ : กิ่งฟ้า เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 00:15:57

ความคิดเห็นที่ 3 ... ยามคลื่นเห่ - ชเลจร ลอยร่อนคว้าง ลมกระด้าง จู่โจม โหมกระหน่ำ ฟองชั่ว-ดี ถี่-ห่าง ในอ่างกรรม ผุดพรายน้ำ หมุนวน ปนฝุ่นไคล ... ... แรงกระเพื่อม เลื่อมระบาย เกิดลายริ้ว สำเนียงกริ้ว ปรวนแปร กระแสไหว จนข้นคลัก โคลนตม ทับถม-นัย- บ่อหลุมได้ ระดับหลั่น ลาดชัน-เชิง ... ... ทุกเกลียวคลื่น ตื่นแตก รอยแยก-เคลื่อน สั่นสะเทือน ทะเลใจ ในวันเหลิง- ให้ลำบาก ยากเลี่ยง เสียงปึง .. เปิง ขัง-ระเริง ถ่วงล้น ก้นบึ้งใจ ... เพียงกาลส่อ มรสุม รุม-รุกหนัก จึงรู้ว่า ยากนัก จักทนได้ ไร้ประวัติ อนัตตา คุณค่าใด บงการ “ใช่” – “ไม่ใช่” นี้ - มีตัวตน ... ....................................................................... ....................................................................... . . . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 10:07:24

ความคิดเห็นที่ 4   อาสวะกิเลส เหตุแห่งทุกข์ ที่คลุกเคล้าเผาให้ใจสับสน เกิดทิฐิมิจฉา...เข้ามายล เห็นตัวคนเป็นตนคอยดลใจ พุทธสอนให้ปล่อยวางสร้างตัวรู้ จิตจับดูรู้จิตคิดเคลื่อนไหว อย่าปล่อยจิตของจริงทิ้งมันไป ต้องจับไว้ให้อยู่แล้วดูมัน ตัวสมมุติวางไว้ได้ทั้งหมด แต่จับจดจิตไว้เอาให้มั่น เมื่อจิตดูรู้จิตจนติดพัน พอเห็นขันธ์จะค่อยปล่อยวางลง พยายามตามติดจิตอย่าเคลื่อน ตัวเขยื้อนคือขันธ์ที่มันหลง ขันธ์เกิดดับสลับเปลี่ยนเวียนเป็นวง จิตยังคงดูจิตที่ติดมัน(ขันธ์) ขันธ์หมุนเวียนเปลี่ยนแปรตามแต่จิต เป็นนิมิตหมุนเวียนเปลี่ยนตามขันธ์ เมื่อหยุดจิตนิ่งดูรู้เท่าทัน กิเลสพลันถูกปลิดจากจิตใจ จากคุณ : พันคม เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 11:26:30

ความคิดเห็นที่ 5 ... ... จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 13:06:32

ความคิดเห็นที่ 6 _ ใครลิขิต_ ยามเมื่อยังเยาว์วัยไร้ความคิด พ่อแม่ช่วยลิขิตทุกสิ่งสรรพ์ กินนอนเล่นเรียนวิชาสาระพัน ด้วยใฝ่ฝันให้ลูกรอดปลอดภัยพาล........_ แต่สังขารทั้งหลายนั้นไม่เที่ยง_ จะหลีกเลี่ยงหาสุขสนุกสนาน ก็ไม่พ้นความทุกข์มารุกราน แล้วไม่นานเปลี่ยนไปไม่คงทน วัยหนุ่มสาวเร่งสร้างทางชีวิต ต่างลิขิตสูตรสำเร็จเผด็จผล เพียรสร้างงานสร้างหลักฐานและสร้างตน สร้างครอบครัวทั่วทุกคนทุกสังคม........_ แต่สังขารทั้งหลายนั้นไม่เที่ยง_ อาจเบนเบี่ยงพลาดไปไม่สุขสม เกิดความทุกข์เผาใจให้ระทม ที่ขื่นขมก็ไม่นานผ่านเลยไป ครั้นแก่ตัวล่วงเข้าเฒ่าชรา สร้างกุศลศรัทธาให้ยิ่งใหญ่ สมาทานศีลภาวนารักษาใจ หวังจะได้ความสงบเมื่อจบลง.........._ แต่สังขารทั้งหลายนั้นไม่เที่ยง_ เฝ้าหลีกเลี่ยงความโลภและโกรธหลง กลับเจ็บไข้ได้ทุกข์นั่งลุกปลง แล้วก็คงจากไปไม่จีรัง ชีวิตนั้นล้วนเป็นดังเช่นนี้ ทั้งร้ายดีเคล้าคลุกสุขสิ้นหวัง ตั้งแต่เกิดจนตายวุ่นวายจัง อย่าคลุ้มคลั่งใครลิขิตไม่ติดใจ........ เราสร้างกรรมเช่นไรย่อมได้ผล ทั้งดีร้ายเวียนวนไม่ไปไหน กรรมเป็นตัวลิขิตชีวิตใคร สร้างกรรมดีแล้วไซร้เป็นสุขเอย. _ "ปภัสสร"_ สังขารทั้งหลายนั้นไม่เที่ยง = สัพเพ สังขารา อนิจจา จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 19:46:55

ความคิดเห็นที่ 7   บัญชีกรรมทำไว้ไม่ต้องคิด ถึงเปิดปิดพลิกหงายจากหลายสิ่ง มันผุดโผล่โอ่อ่าตามค่าจริง จะอยู่นิ่งจะเคลื่อนไหวต้องได้เจอ กรรมบังเบียดยิ่งเกลียดยิ่งกลัดกลุ้ม กลับกลุ้มรุมรบเร้าเอาเสมอ ยิ่งคิดหนียี่งปรี่ใกล้ให้ออเออ หากใครเผลอซ่อนคิดจิตเจ็บจำ ปากอภัยใจอาฆาตทุ่งมาดร้าย ทุรนรายไม่เลิกเลยถลำ สำคัญผิดคิดรู้ตูไม่จำ แต่ซ่อนงำไว้สุดลึกสำนึกตน ถอยตัวตนออกมาก้มหน้าคิด เพ่งดูจิตให้เห็นเป็นเหตุผล สุขก็อยู่ทุกข์ก็อยู่คู่ใจตน ร้อนทุรนสงบเย็นเลือกเป็นเอา แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 53 22:45:44 จากคุณ : พันคม เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 20:52:05

ความคิดเห็นที่ 8 แวะมาอ่านค่ะ อ่านทั้ง 3 กระทู้ เลยค่ะ ไม่ได้ร่วมแจม นะคะ .. หมดความสามรถค่ะ.. . จากคุณ : สุนันยา เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 53 22:28:43