Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
PSYCHO HOTEL 6.......(ผีตายซาก)  

บทที่ 5
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9731827/W9731827.html


----

บทที่ 6



สาวลูกครึ่งคนน่ารักเทียนสี และสาวตุ๊กตาจ๋าอรุสาพากันเดินลงมาจากห้องพักซึ่งอยู่ชั้นที่สามของโรงแรมลงมายังลานจอดรถ  ทั้งสองรู้สึกว่าบรรยากาศภายในโรงแรมมันเงียบเชียบอย่างน่าประหลาดใจและน่าขนลุก แสงไฟตามทางเดินสลัวมัวหม่นราวกับจงใจสร้าง ตอนนี้ความมืดเข้ามาปกคลุมดูเร็วกว่าควรจะเป็น ราวกับกาลเวลาและความจริงเกิดการบิดเบี้ยว บรรยากาศน่าชวนให้ขนลุกขนพองแบบบอกไม่ถูก

หางตาเหมือนเห็นเงาของผู้คนปรากฏวูบวาบอยู่ตามทางเดิน แต่พอหันไปดูตรงๆ ก็ไม่พบอะไร ลมเย็นๆพัดผ่านมาเป็นระยะให้กลิ่นไอเหมือนพัดผ่านจากหลุมฝังศพเก่าแก่อันอ้างว้างเยือกเย็น  

ห้องพักต่าง ๆ ดูเหมือนปิดกันเงียบราวกับปราศจากผู้คนทั้งที่รถลานรถมีรถราจอดอยู่หลายสิบคัน ซึ่งแสดงว่ามีคนมาพักอยู่ในโรงแรมแห่งนี้จำนวนมากพอสมควร แต่มันก็ไม่ควรจะเงียบเชียบอย่างนี้เลย

“เธอรู้สึกไหม...”

อรุสาดึงแขนเทียนสี ถามพลางหันไปมองหน้ามองหลังอย่างหวาด ๆ มืออีกข้างยังกอดตุ๊กตาหมีไม่ยอมปล่อย

“ที่นี่มันมีอะไรแปลกๆ เธอรู้สึกไหม”

“รู้สึกอะไร”
สาวลูกครึ่งย้อนถาม พยายามทำเสียงให้เป็นปกติเหมือนไม่คิดไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ภายในใจก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน

“ฉันว่าเธอก็น่าจะรู้..”

อรุสาดักคอเพื่อน เพราะรู้นิสัยกันดี ในจำนวน 4 คน เทียนสีจะเป็นคนนิ่งที่สุด ควบคุมสถานการณ์และตัดสินใจได้ดีที่สุดในยามคับขัน

“เธอลองคิดดู ถ้าเธอไม่ทำเป็นแกล้งลืม เราขับรถออกมาในตอนกลางคืน แต่ทำไมจู่ๆ มันกลายเป็นเวลากลางวันได้ยังไง แค่นี้ก็น่าแปลกใจจะตายอยู่แล้ว จู่ๆ แผ่นซีดีก็บินออกมาจากเครื่องเล่นแทบจะฆ่าพวกเราตาย เธอก็รู้ว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ ยังมาเจอพายุประหลาดอีก พอพายุไป นาฬิกาของพวกเธอก็ตายสนิท แถมชี้บอกเวลาเที่ยงวัน..เอ หรือเที่ยงคืนก็ไม่รู้ เพราะมันเหมือนกัน”

พูดจบอรุสาก็จับข้อมือของเทียนสียกให้เจ้าของมือดู นาฬิกา อีกฝ่ายมองผ่าน ๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร

“ฉันก็ว่ามันน่าแปลก”
สาวเจ้าของนาฬิกายอมรับ
“แต่ตอนนี้พวกเรายังทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ พวกเราเหนื่อยและเพลียกันทั้งนั้น นอนสักคืนพรุ่งนี้ค่อยคิดว่าจะทำอย่างไรกันดี”

ขณะนั้นทั้งสองเดินลงมาเกือบถึงลานจอดรถแล้ว ผ่านห้องโถงใหญ่ด้านล่าง บริเวณนั้นยังเงียบเหงาปราศจากผู้คน นาย KTH หายไปจากหลังเคาน์เตอร์แล้ว เหมือนจะรู้ว่าคืนนี้จะไม่มีใครเข้ามาพักอีก ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกเพราะตามปกติจะต้องมีคนประจำอยู่ตำแหน่งนั้นเสมอ

รถของนางแบบยุคแรกจอดอยู่ไม่ไกลนัก สาวเทียนสีเดินนำไปลองเปิดประตูดูพบว่าประตูรถไม่ได้ล็อค แต่พอนึกได้ว่าที่ไม่ได้ล็อคเพราะตัวเองเป็นบอกให้พนักงานหนุ่มน้อยเป็นคนปลุกสาวนู ก็ต้องฝืนยิ้มให้กับตัวเอง ก็ใครจะไปล็อครถล่ะ เพื่อนหลับอยู่ทั้งคน

ขณะเทียนสีก้มๆเงยๆ พยายามมองหากระเป๋าของตนเอง อรุสาก็มองสำรวจไปรอบๆ เงยหน้ามองดูโรงแรม สังเกตว่ายิ่งชั้นสูงขึ้นไปเท่าไร ห้องพักต่างๆ ยิ่งพากันปิดไฟมืดสนิทราวกับไม่มีคนมาพัก สูงขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนก็มีแต่ความมืดดำปราศจากดวงดาว

จู่ๆพุ่มไม้ด้านข้างก็สั่นไหวเหมือนมีใครเขย่า หรือเหมือนมีใครพยายามแหวกออกมา และก็มีคนแหวกออกมาจริงๆ

เป็นพนักงานหนุ่มคนซึ่งโดนสกายคิกของสาวนูนั่นเอง

เทียนสีหันมามองแล้วรีบทำหน้าเป็นปกติเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร แต่พนักงานหนุ่มคนดังกล่าวก็มีสีหน้าท่าทางไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเหมือนกัน นั่นทำให้เทียนสีใจชื้นขึ้นมาบ้าง

“นายไปทำอะไรอยู่ในนั้น”

อรุสายืนกอดตุ๊กตาเอียงคอมองหน้าถามอย่างสงสัย พนักงานหนุ่มขมวดคิ้วเหมือนพยายามทบทวนความจำ แต่ในที่สุดก็ยิ้มแห้งๆ พูดอย่างไม่แน่ใจว่า
“ผมก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกัน จำได้แค่ว่าหลังจากปลุกเพื่อนของคุณ เธอก็ลุกออกมาจากรถ แล้วผมก็วูบไปเฉยเลย”

…โดนเตะก้านคอนะสิ วูบวาบอะไร...เทียนสีอยากบอกอย่างนี้จริง ๆ แต่บอกไม่ได้ขาด แล้วหญิงสาวก็พลันนึกอะไรได้ทันที

ตอนนั้นเธอหยิบเงินส่งให้หนุ่มคนนี้เป็นค่าจ้างให้ปลุกสาวนู ดังนั้นกระเป๋าจะหล่นอยู่ในรถไม่ได้แน่นอน มันจะต้องหล่นอยู่นอกรถ เทียนสีพยายามมองหาตามพื้นดินแถวๆนั้นแต่ก็ไม่พบอะไร

“มองหาอะไรครับ”

พนักงานหนุ่มเห็นท่าทางของสาวเจ้าแล้วถามอย่างสงสัย ไม่รู้สักนิดว่านั่นล่ะเป็นคนเริ่มต้นทำให้เขาเกิดอาการวูบ

“ฉันทำกระเป๋าตังค์หล่นแถวนี้”

สาวลูกครึ่งบอกตรง ๆ เพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็นอะไรต้องปกปิดเรื่องนี้ แถมบางทีเจ้าหนุ่มคนนี้อาจช่วยหาให้ก็อาจเป็นได้ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

พนักงานหนุ่มลองก้ม ๆ เงยๆ ตรวจดูตามพื้นดินแถวนั้นอย่างละเอียดสักพักก็ลุกขึ้นทำหน้าผิดหวัง

“ไม่เจอเลยครับ อาจจะมีคนเก็บไปแล้วก็ได้”

“ใครจะมาเก็บ ก็เห็นที่นี่เงียบเหมือนไม่มีคนเลย ทั้งที่มีรถจอดอยู่มากมาย”
สาวลูกครึ่งพูดอย่างหมดหวังกับกระเป๋าเงิน พลางนึกสงสารหนุ่มน้อยอยู่เล็ก ๆ เพราะไม่รู้ตัวเลยว่าโดนสกายคิกของสาวนูเข้าไปเต็ม ๆ  แต่ก็ยังอุตส่าห์มีน้ำใจ

“เดี๋ยวผมจะลองไปถามพนักงานคนอื่นให้นะครับ”

ว่าพลางพนักงานหนุ่มก็ขอตัวเดินจากไปพร้อมด้วยท่าทางยังงงไม่สร่างกันการที่ตัวเองอยู่ดีๆ ก็วูบแล้วไปพื้นรู้สึกตัวในพุ่มไม้

อรุสามองหน้าเพื่อนอย่างเห็นใจ ก่อนบอกด้วยน้ำเสียงปลอบโยนว่า

“ทำใจดีๆไว้นะเทียน อย่าเพิ่งคิดสั้น มีอะไรก็บอกกันดีๆ เราเป็นเพื่อนกันช่วยเหลือกันอยู่แล้ว”

“ฉันยังไม่ได้คิดสั้น”

สาวลูกครึ่งตอบแบบทั้งขำทั้งหมั่นใส้ อ้าปากจะพูดต่อแต่แล้วก็ชะงักอ้าปากค้างด้วยสายตามองไปเห็นอะไรบางอย่างแบบไม่ตั้งใจ อรุสาเห็นท่าทางผิดปกติของเพื่อนก็เลยมองตามบ้าง

รถบรรทุกโลงศพคันที่เกือบวิ่งชนท้ายรถของพวกเธอจอดอยู่ไม่ห่างออกไปมากนักเทียนสีจำได้ดีไม่มีลืม

“มีอะไร”สาวตุ๊กตาจ๋ากระซิบถาม

“ยัยสา เธอจำรถคันที่เกือบชนพวกเราได้ไหม”
“จำไม่ได้”
“แล้วในชีวิตนี้เธอจำอะไรได้บ้างยัยสา”
“อย่างน้อยๆก็จำเบอร์โทรหนุ่มๆหล่อๆได้ก็แล้วกัน”
“ยัยบ้า”

สาวลูกครึ่งหันมาทำเสียงดุใส่เพื่อน รายนั้นทำเป็นไม่สนใจ ปัญหาอะไรก็ช่าง ให้สาวเทียนสีแก้ไขคนเดียว เชื่อมื่อเพื่อนอยู่แล้ว สาวลูกครึ่งหลังจากมองตรวจตราครู่หนึ่งก็ตัดสินใจเดินตรงไปยังคนบรรทุกโลงศพนั้นทันที อรุสาเดินตามมาอย่างไม่ต้องคิดอะไรมากมาย

โลงศพหายไปแล้ว กระบะด้านหลังว่างเปล่า แต่ถึงอย่างไรมันก็เป็นรถคันนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ขณะกำลังยืนดูอยู่นั่นเสียง เสียงห้วนๆกระด้างของใครคนหนึ่งก็ดังมาจากด้านหลังทำเอาทั้งคู่สะดุ้งด้วยความตกใจ

“พวกเธอมายุ่งอะไรกันรถของฉัน”

เจ้าของเสียงเป็นผู้หญิงอยู่ในชุดดำทั้งชุด ผมยาวสีหน้าทางเย็นชาและประกายตาเร้นลับมุ่งร้าย  เธอมาปรากฏตัวอย่างเงียบกริบราวตีนแมว

“รถของเธอ”  
สาวลูกครึ่งหันไปมอง เลิกคิ้วถามอย่างไม่มีท่าทางกลัวเกรงเพราะต้องการเจอคนขับรถคันนี้อยู่แล้ว

“ใช่...มีปัญหาอะไร”

“เธอนั่นเองที่ขับรถเกือบชนพวกเรา”

“อ้อ....”

หญิงสาวชุดดำปรากฏรอยยิ้มมุมปากแบบเหยียดๆเป็นครั้งแรก

“พวกเธอนั่นเอง ขับรถเกะกะขวางทาง ไม่โดนชนตกถนนก็บุญแล้ว”
“ปากเหรอนั่น”

อรุสาสวนคำขี้นมาอย่างอดรนทนไม่ได้ เทียนสีหันไปเอานิ้วชี้แตะริมฝีปากเหมือนจะบอกให้เงียบๆ สาวลูกครึ่งพิจารณาคู่ต่อกรอีกครั้งก็เห็นว่าบริเวณอกเสื้อด้านซ้ายมีป้ายชื่ออยู่ด้วย แสงไปสลัวเกินไปจนทำให้อ่านไม่ออก
อรุสาทำตามที่เพื่อนแนะนำจริงๆ แต่มือเอื้อมไปกดหลังตุ๊กตา ทันใดนั้นเอง นัยน์ตาของตุ๊กตาหมีก็มีแสงสว่างจ้าออกมาราวกับไฟฉายไปยังสาวชุดดำแบบสว่างชัดเจนทุกกระเบียดนิ้ว

ป้ายชื่อนั้นเขียนว่า INN

“อ๋อ..ชื่ออิน”

สาวลูกครึ่งอ่านแล้วผงกหัวอย่างคนเข้าใจ บอกต่อว่า

“เธอก็เป็นพนักงานของโรงแรมนี้ แต่อยู่แผนกไหนก็ไม่ทราบถึงทำตัวแปลกแบบนี้”

“แล้วจะเอายังไง”  

สาวอินถามเสียงเย็นชายกมือปิดนัยน์ตาจากแสงไฟ

“ก็ไม่เอายังไง ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร” เทียนสีตอบ ไม่ได้แสดงอาการตกใจขวัญหนีต่อวาจาคุกคามของฝ่ายตรงข้าม พนักงานสาวลึกลับจ้องมองครู่หนึ่งแล้วหันหลังเดินออกไป แต่ไม่ได้เดินเข้าด้านหน้าโรงแรม เธอเดินอ้อมไปทางด้านหลังซึ่งเปล่าเปลี่ยวมึดดำกว่าทางด้านหน้าโรงแรม สาวลูกครึ่งเกือบเดินตามไปดูด้วยความสงสัย แต่อรุสาดึงแขนไว้ก่อน

“เอาไปยุ่งกับเขาหน่อยเลย เสียเวลา” บอกเพื่อนพลางจัดการดับไฟจากตุ๊กตาจ๋าของเธอ ตอนนี้เทียนสีเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมอรุสาถึงถือตุ๊กตาตัวนี้เป็นประจำ มันไม่ใช่ตุ๊กตาธรรมดา เธอเกือบลืมไปแล้วว่ายัยสาคนนี้มีพรสวรรค์ในด้านประดิษฐ์สิ่งของมากมาย และประยุกต์สิ่งต่างๆรอบตัวมาให้ใช้งานได้แบบเหลือเชื่อ

“เมื่อกี้เพียงเธอบอกคำเดียว ฉันจะให้ตุ๊กตาจ๋าของฉันยิงมิซายด์ชนาดจิ๋วถล่มยัยคนนั้นซะก็ได้”

เทียนสีมองตุ๊กตาจ๋าของอรุสาอย่างสยอง เธอไม่เคยสงสัยในความสามารถของอรุสา ผู้แค่ให้เธอเดินเข้าห้องครัวสักพัก ไม่นานเธอก็เดินกลับออกมาพร้อมด้วยระเบิดรุนแรงพอจะระเบิดคนทั้งคนได้ ไม่รู้ว่าเธอทำได้อย่างไร แต่รู้ว่าทำได้

ตอนเดินกลับเข้าไปในโรงแรม เทียนสีไม่ได้บอกอรุสาให้มองดูถนนหน้าโรงแรม  ถนนซึ่งมืดดำปราศจากแสงแม้สักดวง ไม่มีไฟฟ้าที่ไหนส่งมายังโรงแรมแห่งนี้ แล้วพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ภายในโรงแรมมาจากไหนกัน จะว่ามาจากไดนาโมมันก็ควรมีเสียงดังให้ได้ยินบ้าง แต่ทุกอย่างกลับเงียบสนิทผิดธรรมดา

เครื่องปั่นไฟอยู่อยู่ในห้องไต้ดิน หญิงสาวพยายามคิดในแง่ดี

*******

แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 53 00:50:00

จากคุณ : Psycho man
เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 53 00:47:53




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com