ชีวิตจริงที่ไม่มีชื่อเรื่อง
|
|
"ตอนคุณแม่ไม่อยู่นะ หนูอยู่กับคุณพ่อที่โต๊ะสนุ้กถึงตีสาม ไปเดินซื้อของแค่นี้หนูไม่งอแงหรอก ให้หนูไปด้วยนะ" ฟังลูกชายวัยแปดขวบพูดประโยคนี้แล้ว คุณแม่กำมะลออย่างฉันถึงกับยืนงง อึ้งไปพักใหญ่ ได้แต่หันไปมองหน้าคุณสามีด้วยสีหน้าที่ปั้นยากที่สุดในชีวิต เพราะฉันไม่รู้จริง ๆ ว่า ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันควรจะใส่อารมณ์แบบไหนไว้บนใบหน้าดี
ฉันแต่งงานกับพ่อม่ายลูกติด เมื่อกลางปี ๒๕๕๐ ที่ผ่านมา แต่งปุ๊บ สารพันปัญหาก็ตามมาปั๊บ อะไรที่แก้ง่ายฉันก็พยายามแก้ไปก่อน อะไรที่แก้ยาก ก็เอาไว้ทีหลัง ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ หาทางแก้กันไป ปัญหาเรื่องลูกเลี้ยงเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่มากนัก เด็กก็คือเด็ก เป็นไม้อ่อนดัดง่าย ถึงแม้บางครั้งจะต้องใช้ความอดทนและเทคนิคมากมาย กว่าไม้อ่อนนั้นจะได้รูปทรงตามแบบที่เราต้องการก็เถอะ แต่ปัญหาเรื่องสามีหรือคุณพ่อนี่สิ ที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะผู้ใหญ่เป็นไม้แก่ที่ดัดยาก ค่อย ๆ ทะนุถนอมโน้มกิ่งลงมา กิ่งก็แข็งไม่ยอมอ่อนตาม พอออกแรงใช้กำลังกิ่งก็พาลจะหักเสียหายเอาซะง่าย ๆ
หลังแต่งงานได้เพียงปีกว่า ๆ ฉันไม่ต่างจากภูเขาไฟที่กำลังครุกรุ่น รอวันที่จะระเบิด แล้วปล่อยให้ลาวาร้อนระอุทำลายทุกอย่างที่ขวางทาง ความอดทนของฉันน้อยลงทุกวัน จากที่เคยเป็นฝ่ายนั่งฟังเงียบ ๆ ใช้การเดินหนีเป็นการสงบอารมณ์ ก็กลายเป็นฝ่ายที่พูดในทุกสิ่งที่เป็นความคิดเห็นของตัวเอง ค้านในทุกประเด็นที่ไม่เห็นด้วย และพร้อมจะระเบิดอารมณ์เปิดศึกปะทะโดยไม่มีท่าทีลดลาวาศอก เพราะอะไรฉันถึงเป็นแบบนี้??? เพราะความรักของฉันน้อยลง หรือว่าฉันแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่ !!!
"หนูไม่เคยทำอะไรผิด สิ่งเดียวที่หนูคิดว่าหนูทำผิด คือ การแต่งงานกับพี่ใช่ไหม???" ฉันไม่แน่ใจว่านี่คือประโยคคำถาม หรือ บทสรุปความคิด ที่สามีต้องการจะบอกกับฉันกันแน่ "ทำอะไรสงสารลูกพี่บ้าง ทำไมเค้าต้องมารับผลกระทบ ที่เกิดจากการตัดสินใจของเราสองคน เค้ามีความสุขที่ได้มีแม่ แล้วอยู่ ๆ หนูจะมาขอเลิก ทิ้งพี่กับลูกไปแบบนี้ มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ?"
คำพูดของสามี ทำให้ฉันสะอึกไป "นั่นสินะ ! ฉันควรจะห่วงความรู้สึกของเด็กให้มากกว่านี้" ฉันแบ่งรับแบ่งสู้สถานการณ์ ด้วยการสอบชิงทุนมาเรียนต่อต่างประเทศ เป็นทุนเรียนต่อเนื่อง ๔ ปี ได้กลับไทยปีละครั้ง ครั้งละประมาณหนึ่งเดือน ฉันให้ระยะเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์และค้นหาสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในหัวใจ ถ้าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคือ "ความรัก" เพียงแต่ฉันกับสามียังปรับตัวเข้าหากันไม่ได้ เวลาก็น่าจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น ความห่างอาจทำให้ฉันกับสามีเข้าใจตัวเอง และเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น
จากคุณ |
:
น้องบั๊ฟ
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ต.ค. 53 21:11:41
|
|
|
|