Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อักษรจากหัวใจ และความรักในแผ่นกระดาษ (ตอนที่ 7 - 8)

ตอนที่ 7

    ชายหนุ่มค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ ด้วยความสลึมสลือเมื่อเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นจากเครื่องโทรศัพท์มือถือสารพัดประโยชน์ ที่วางอยู่ข้างหมอน

เขานอนนิ่งอยู่บนเตียงครู่ใหญ่ หลังจากที่ได้ปิดเสียงนาฬิกาปลุกแล้ว และเพ่งเหม่อมองดูเพดานสีขาวครีมด้านบนอย่างเลื่อนลอย และฟังเสียงพัดลมไฟฟ้าส่งเสียงงึมงำ ก่อนถอนหายใจเบา ๆ เมื่อรู้สึกถึงเงื้อมือของความเหงาที่รีบเคลื่อนกายเข้ามาทักทาย และเกาะกุมหัวใจเขาราวสหายซื่อสัตย์ที่ไม่เคยห่างหายหรือเหินห่างไปไหนไกล

ความเงียบสงัดภายในห้องพักยิ่งตอกย้ำความอ้างว้างเดียวดาย จนชายหนุ่มรู้สึกเหน็บหนาวจนแทบจะสั่นสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ

กานต์ยกแขนขึ้นเกยหน้าผาก ในขณะที่สติสัมปชัญญะเริ่มค่อย ๆ กลับคืนมาสู่สมองและร่างกาย แต่กระนั้นก็ยังไม่มีกระจิตกระใจที่จะลุกขึ้นออกจากเตียงแต่อย่างใด

นักเขียนหนุ่มยกมือขึ้นปิดปากหาวอย่างเนือย ๆ ก่อนที่จะพลิกตัว เอื้อมมือไปหยิบหนังสือเล่มบางที่วางอยู่ข้างหมอนขึ้นมาเปิดหน้าที่ถูกที่คั่นด้วยใบเสร็จจากร้านสะดวกซื้อ ซึ่งถูกแปลงมาเป็นที่คั่นหนังสือชั่วคราว อ่านต่อจากที่ค้างไว้เมื่อคืนนี้ ในขณะที่แสงสว่างของยามเช้าเล็ดรอดสอดส่องผ่านช่องว่างระหว่างผ้าม่านเหนือโต๊ะทำงานเข้ามาในห้อง

หลังจากที่อ่าน  “ฤา แค่เพียง เสียงกระซิบ” ไปได้อีกหลายสิบหน้า และมีสติเพียงพอแล้ว กานต์จึงฝืนใจบังคับกายให้ลุกขึ้น และขยับหย่อนขาลงนั่งที่ขอบเตียง พลางเหยียดแขนทั้งสองข้างท้าวลงบนฟูกเพื่อค้ำและประคองร่างกายไม่ให้ล้มลงไปนอนกองบนเตียงอีกครั้ง

อดีตมนุษย์เงินเดือนกวาดสายตามองรอบห้อง แล้วก็ยังรู้สึกแปลก ๆ กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างค่อนข้างกระทันหัน และเหมือนจะยังทำใจไม่ได้ว่าเพียงเมื่อคืนวานนี้ เขายังคงนอนอยู่ในห้องพักเก่าที่คุ้นเคยอยู่เลย

กานต์สูดถอนหายใจยาว ก่อนที่จะกัดริมฝีปากแน่น แล้วยันตัวเองลุกขึ้นยืนในที่สุด มุ่งหน้าสู่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ล้างหน้าล้างตา และเตรียมพร้อมกับการเผชิญหน้ากับวันใหม่ที่เงียบเหงาตามลำพังอีกครั้ง





ข้อดีอย่างหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงก็คือโอกาสในการได้เสาะหา สังเกต และเรียนรู้สิ่งแวดล้อมและเรื่องราวใหม่ ๆ ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่กานต์บอกตัวเอง ในขณะที่เดินเลาะตรอกเล็ก ๆ ที่ทะลุออกไปยังถนนเพชรบุรี ซอย 7 โดยมีเป้าหมายเพื่อจะหาอาหารเช้าทานรองท้อง พอ ๆ กับเพื่อฆ่าเวลา

รวมทั้งเพื่อที่จะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในฝูงชน ด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่า บางที่มันอาจจะพอบรรเทาความอ้างว้างในใจลงได้บ้าง แม้ว่าเขาจะเป็นแค่เพียงคนแปลกหน้าในหมู่คนแปลกหน้าก็ตามที เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าเขาจะรักความสันโดษขนาดไหน เขาก็ยังไม่อาจขัดขืนหรือฝืนสัญชาติญาณของมนุษย์ที่ต้องการอยู่ท่ามกลางสังคมได้

กานต์เดินทอดน่องมองดูแผงร้านค้า และรถเข็นอาหารที่เหล่าบรรดาพ่อค้า แม่ค้า นำออกมาขาย และสูดกลิ่นอาหารหลากหลายซึ่งชวนให้น้ำลายสอในทันที

ท้ายที่สุด นักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกา “ฯลฯ (เปยยาลใหญ่)” ก็ตกลงปลงใจซื้อน้ำเต้าหู้ และปาท่องโก๋กลับมาทานที่ห้องพัก เพื่อที่จะเริ่มชีวิตประจำวันของนักเขียนอิสระอย่างเขา

สิ่งแรกที่กานต์ทำหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็คือเข้าสู่ระบบการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งเริ่มด้วยการเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบอีเมล์ว่ามีข่าวสารหรืออีเมล์ใหม่ ๆ เข้ามาจากเพื่อน ๆ หรือบรรณาธิการสำนักพิมพ์  
หรือผู้อ่านของเขาบ้างหรือไม่ ซึ่งหัวใจของเขาก็จะเต้นระรัวทุกครั้งเมื่อเห็นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จากบรรณาธิการหรือผู้อ่าน และก็แทบจะอดใจรอที่จะเปิดมันออกอ่านดูไม่ไหว

เมื่อเช็คอีเมล์เสร็จแล้ว ลำดับต่อไป กานต์ก็จะเข้าสู่ระบบของเว็บไซต์ที่เขานำนิยายของเขาไปโพสต์เอาไว้ เพื่อตรวจสอบยอดผู้อ่านว่ามีเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานหรือไม่ หรือมีข้อความใหม่ ๆ จากผู้อ่านหรือไม่ ก่อนที่

จะเข้าสู่หน้าหลักของเขาในเว็บไซต์นั้น ซึ่งจะมีข้อมูลของเขาทั้งหมด รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเพื่อน ๆ ในโลก ไซเบอร์ของเขา และข้อความที่เขากับเพื่อน ๆ เขียนพูดคุยโต้ตอบกัน ทั้งการถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดถึง ความห่วงใย กำลังใจ และความปรารถนาดี

ซึ่งหากมีข้อความใหม่ ๆ จากเพื่อน ๆ กานต์ก็จะค่อย ๆ ตอบข้อความกลับไปด้วยความปลื้มปีติและยินดี และไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ชายหนุ่มก็ไม่เคยเบื่อหน่ายหรือย่อท้อเลย เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเคยแต่พูดคุยกัน และรู้จักกันแค่ในมุมที่เหมือนจะเป็นเพียงแค่ด้านเดียวของตัวตนที่ถูกสมมุติขึ้นมาเท่านั้น โดยที่ไม่เคยพบหน้าคร่าตากัน หรือพูดคุยกันทางโทรศัพท์เลย

แต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างกันเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกคุยติดต่อสื่อสารกันด้วยความจริงใจ บนพื้นฐานของความสนใจในประเด็นที่คล้ายหรือใกล้เคียงกัน จนกระทั่งเกิดความสนิทสนมและไว้วางใจซึ่งกันและกัน และแทบจะพูดคุยกันได้อย่างสนิทใจ ทั้งเรื่องที่มีสาระ และไร้สาระ ทั้งการปรึกษา ขอคำแนะนำเกี่ยวกับหน้าที่การงาน การเขียน หรือความรัก ปรับทุกข์ หรือระบายความในใจ

จนกานต์รู้สึกว่าเพื่อน ๆ ในโลกไซเบอร์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาไปแล้วโดยปริยาย

  และข้อความจากเพื่อน ๆ ในโลกไซเบอร์นี้ ก็สามารถทำให้เขามีความสุขและร่วมรู้สึกยินดีปรีดาไปกับความสำเร็จและความสุข หรือเศร้าซึมไปกับความผิดหวังของเพื่อน ๆ ที่ไม่เคยพบหน้ากันได้เหมือนกัน

ซึ่งหากวันไหนที่ไม่มีข้อความทักทายใหม่ ๆ เขาก็จะรู้สึกหงอยเหงาไม่น้อยเลยทีเดียว

กานต์จะใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงอยู่กับการตรวจและตอบข้อความใหม่ ๆ เหล่านี้ ก่อนที่จะเข้าสู่ระบบเพื่อนำตอนใหม่ของนิยายที่เขาได้เขียนเอาไว้ อัพโหลดขึ้นเพื่อนำเสนอต่อผู้อ่านต่อไป

แต่ในช่วงนี้ที่เขายังไม่สามารถเขียนตอนใหม่ของนิยายเรื่องใหม่ได้ เขาจึงข้ามขั้นตอนดังกล่าวไปยังขั้นตอนต่อไปเลย นั่นก็คือการตรวจสอบบอร์ดสนทนาว่า เพื่อน ๆ ในบอร์ดมีการตั้งกระทู้พูดคุย หรือถกเถียงหารือกันเรื่องอะไรบ้าง บางเรื่องที่เขามีความสนใจ หรือมีประสบการณ์พอที่จะเป็นประโยชน์ต่อกระทู้นั้น ๆ เขาก็จะร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยคน แต่หากอันไหนที่เขาไม่สันทัด ก็จะเพียงอ่านแล้วผ่านไป

เมื่อเสร็จกระบวนการในเว็บไซต์ดังกล่าว กานต์ก็จะเข้าไปอ่านหนังสือพิมพ์ ตรวจสอบข่าวสารสถานการณ์บ้านเมืองคร่าว ๆ พอที่จะไม่ตกข่าว ก่อนที่จะเข้าสู่ระบบสื่อสารที่เป็นที่นิยม อาทิ MSN Messenger, Facebook, Hi5 ซึ่งหากมีเพื่อน หรือนักเขียนนิยายออนไลน์ที่เขารู้จัก อยู่ในระบบในเวลาเดียวกันก็จะส่งข้อความ
ทักทายกันตามภาษาคนรู้จักและคุ้นเคย

และเมื่อกระบวนการต่าง ๆ ดำเนินมาถึงจุดนี้ กานต์ก็จะออกจากระบบทั้งหมด จนเหมือนเป็นการปลีกวิเวก เพื่อที่จะทุ่มเทความตั้งใจและสมาธิทั้งหมดทั้งปวงไปกับการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดและจินตนาการออกมาเป็นตัวหนังสือในตอนใหม่ของนิยายของเขา

เพียงแต่ในระยะนี้ เขาไม่สามารถที่จะเขียนอะไรออกมาได้เลย

กานต์นั่งนิ่งมองดูหน้าจอที่ว่างเปล่า แทบรู้สึกเหมือนเขาอยากมีหนทางไหนที่จะช่วยให้ความคิดของเขาสามารถพิมพ์และผันตัวเองออกมาเป็นถ้อยคำบนหน้าจอด้วยตัวมันเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียเลย

ชายหนุ่มวางปลายนิ้วคาไว้บนปุ่มตัวอักษรของคีย์บอร์ด และเพ่งมองจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์จนแสบตา แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถที่จะผลักดันตัวเองให้กลั่นตัวอักษรออกมาได้แม้แต่ตัวเดียว

อย่างน้อยก็ไม่นานพอที่จะให้มันได้หายใจหายคอ ก่อนที่จะถูกลบจนราบเป็นหน้ากลองด้วยการรัวกดปุ่มย้อนถอยหลังของเขา  

กานต์กลับเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง เพื่อหาข้อมูล และอ่านข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ เพื่อที่จะหาทางคลายความเครียดและความกดดันตัวเองลงบ้าง  

แต่เพียงครู่เดียวเขาก็รู้สึกเบื่อหน่าย จนต้องวกกลับมาที่หน้าจอเปล่าสีขาวอีกครั้งหนึ่ง

เขาเคลื่อนขึ้นไปอ่านตอนก่อน ๆ ที่เขาเคยเขียนก่อนหน้านี้ ราวกับพยายามพยามไล่ล่าความฝันที่อยู่ไกลแสนไกลและกำลังหลุดลอยไปจากปลายนิ้วของเขาทุกขณะ  

กานต์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ เมื่อตระหนักว่า เขาคงไม่สามารถที่จะทำอะไรที่ได้ประโยชน์หรือได้เรื่องได้ราวมากไปกว่านี้ เขาจึงกดปุ่มปิดคอมพิวเตอร์แล้วยันตัวเองลุกขึ้นยืน

พลางตัดสินใจที่จะออกไปเดินเล่นข้างนอก เผื่อว่าการเปลี่ยนอิริยาบทและบรรยากาศอาจช่วยบรรเทาอาการเขียนไม่ออกของเขาได้บาง

และนอกเหนือไปกว่านั้น เขาชอบการเดินเล่นและค่อนข้างที่จะเดินทนเลยทีเดียว เพราะรู้สึกมีความสุขเสมอราวกับว่าช่วงเวลาที่เขาได้เดินนั้น มันมากกว่าแค่เป็นการผ่อนคลาย การขยับเขยื้อนร่างกายหรือการออกกำลังกายธรรมดา

สำหรับเขา การเดินเป็นเหมือนช่วงเวลาพิเศษที่เขาจะได้มองดูและสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบกาย และเก็บเกี่ยวความรู้สึกหรือบรรยากาศเหล่านั้นที่สามารถนำไปใช้ในนิยายของเขา นอกจากนั้น ยังเป็นโอกาสที่เขาจะได้อยู่กับความคิดและจินตนาการของตัวเอง และพัฒนาเรื่องราวหรือพล็อตเรื่องต่าง ๆ ที่เขาเคยคิดค้างเอาไว้ และบางครั้งเขาก็จะได้พบเห็นเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่กระตุ้นความรู้สึก และทำให้เขาหวั่นไหวอย่างรุนแรงจนสามารถนำความรู้สึกนั้นมาเขียนเป็นเรื่องเป็นราวได้

ในการเดินเล่นทุกครั้ง กานต์มักพบว่าเขาชอบทดสอบและท้าทายตัวเองเสมอ ๆ บางครั้งก็ด้วยการบอกให้ตัวเองลองอธิบายภาพที่เห็นเบื้องหน้าออกมาเป็นคำพูดในใจ บางคราวก็ให้บรรยายรูปลักษณ์ ใบหน้า ท่าทางหรืออารมณ์ของคนที่อยู่รอบกาย

และเวลาเพลิน ๆ เขาก็จะสามารถเดินได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยเลยทีเดียว และมักกลับมาบ้านด้วยความรู้สึกสุขกายสบายใจเสมอ

นักเขียนหนุ่มมองดูความเรียบร้อยในห้องพัก และตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้งว่า เขาได้นำทุกอย่างติดตัวไปหมดแล้ว ทั้งกุญแจห้องพัก โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าตังค์

เสร็จแล้วจึงดึงประตูห้องปิดลงเบา ๆ และก้าวเดินไปข้างหน้า แม้จะยังไม่รู้จุดหมายปลายทางเลยว่า ในบ่ายวันนั้น หัวใจจะนำพาให้เขาเดินไปทางใด

แต่ไม่ว่าจะไปที่ไหน มันก็คงจะดีกว่าการนั่งอุดอู้คุดคู้ จมอยู่ในห้วงความลังเลและความท้อแท้เหนื่อยใจที่เหมือนเป็นบ่อทรายดูดอย่างแน่นอน

จากคุณ : ชาครีย์นรทิพย์
เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 09:56:48




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com