Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ผู้หยั่งรู้ [เรื่องสั้นแนว ตื่นเต้น ลึกลับ]

เรื่องสั้นมือใหม่ครับ แนะนำ ติชม ให้กำลังใจกันได้ครับ

***ผู้หยั่งรู้***

เวลาทียงคืน ขณะที่ เอก รปภ. หนุ่มพุบหน้าลงกับโต๊ะ หลับยามอยู่อย่างสบายใจในป้อมบริเวณท้ายโรงงานแห่งหนึ่งย่านชานเมืองที่บรรยากาศเงียบวังเวง ทันใดนั้นเอกก็ต้องสะดุ้งตื่นสุดตัว เมื่อมีมือปริศนาตีลงที่กลางหลังเขาอย่างแรง เสียงดังพลั๊กกกกกกกกกกกกก ไม่ทันที่เอกจะโต้ตอบอะไร เจ้าของมือปริศนานั้นก็พูดสวนขึ้นมาว่า “กลับห้องไปนอนซะ ไอ้บ้านี่หลับยามทั้งปี” เอกมองกลับไปหาต้นเสียงด้วยสายตาขุ่นเคือง ก่อนที่จะลุกเดินไปห้องน้ำด้วยอาการงัวเงีย

เอกเดินออกมายืนรอรถประจำทางที่ศาลาหน้าโรงงงานเหมือนอย่างที่เขาเคยทำอยู่ทุกวัน บรรยากาศยามเที่ยงคืนบนถนนสายชานเมืองเงียบสนิท นานๆ ทีจะมีรถบรรทุกผ่านไปสักคัน และแล้วสิ่งที่เอกรอคอยก็เดินทางถึง รถประจำทางสาย 123 ที่เขาใช้เดินทางกลับสู่ที่พักอยู่เป็นประจำ เมื่อรถจอดเทียบศาลา เอกรีบเดินขึ้นไปนั่งบนแถวที่นั่งยาวตอนท้ายสุดของรถประจำทาง สายตาก็กวาดมองดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย เอกสังเกตว่าตอนหน้าของรถประจำทางมีคนนั่งอยู่ 3 คนด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็ได้แก่คนขับรถที่ส่งเสียงหาวออกมาดังๆ ที่นั่งอยู่เบาะใกล้กันก็เป็นกระเป๋ารถเมล์ที่นอนหลับอยู่อย่างสบายใจ

อีกหนึ่งชายนรินามที่นั่งอยู่ตอนหน้าของรถประจำทาง เขาสวมชุดซาฟารีสีเทาเหมือนอย่างที่ข้าราชการนิยมใส่กัน ชายผู้นั้นหันหน้ามองตรงไปข้างหน้าอย่างสงบนิ่ง เอกพละสายตาออกไปมองดูความเคลื่อนไหวของวิวทิวทัศน์สองข้างในความมืดมิด ทุ่งต้นกกสูงท่วมหัวถูกฉาบฉายไว้ด้วยแสงจันทร์ในคืนเดือนหงาย แซมด้วยภาพของบ้านหลังเล็กๆ ที่โผล่เข้ามาให้เห็นในบางช่วงบางตอนของถนนสายยาวที่ทอดไปความมืด

ทันใดนั้นเสียงริงโทนจากโทรศัพท์มือถือของเอกก็ดังแทรกเสียงเครื่องยนต์ดีเซลของรถประจำทาง เขาตกใจเล็กน้อยที่มีอยู่ดีๆ ก็มีใครโทรหาเขาในเวลานั้น เอกล้วงมือเข้าไปกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบ iPhone 4 เครื่องใหม่ที่เขาเพิ่งซื้อมายังไม่ครบอาทิตย์ออกมาดู แต่หน้าจอโทรศัพท์กลับไม่โชว์เลขหมายของผู้โทรเข้าเหมือนอย่างที่มันควรจะเป็น ทำให้เอกลังเลใจที่จะรับสาย เขาครุ่นคิดอยู่นานเกือบนาที ปล่อยให้เสียงริงโทนดังแข่งกับเสียงเครื่องยนต์อยู่อย่างนั้น และแล้วการสนทนาระหว่างเอกบุคคลปลายสายได้เริ่มต้นขึ้น

“สวัสดีครับ” เอกเริ่มต้นบทสนทนา

“สวัสดีครับคุณเอกภพ ดอนกระโทก แปลกใจใช่ไหมว่าผมคือใคร” ชายลึกลับปลายสายตอบกลับด้วยเสียงสงบนิ่ง

“คุณเป็นใคร แล้วโทรมาทำไม อย่ามาล้อเล่นแบบนี้ผมไม่ชอบ” เอกเริ่มสับสนที่อยู่ดีๆ ก็มีชายที่เสียงไม่คุ้นหูมาทักทายเขาด้วยประโยคแปลกๆ

“คุณไม่ต้องรู้หรอกว่าผมเป็นใคร แต่ว่าผมช่วยคุณได้นะ” ชายลึกลับตอบกลับ

“ไอ้บ้าเอ๊ย แกจะมาช่วยเรื่องอะไรวะ” เอกสวนกลับไปอย่างมีอารมณ์

“ช้าก่อน คุณเอก อย่าเพิ่งวางสาย ผมรู้ว่าฐานะทางบ้านคุณไม่ค่อยดี แม่ก็เจ็บออดๆ แอดๆ 3 วันดี 4 วันไข้ เงินเดือน รปภ. ก็ไม่มากมายอะไร คุณไม่อยากได้เงินไปรักษาแม่เหรอ ผมช่วยคุณได้นะ” ชายลึกลับตอบกลับด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

“แกขู่ฉันเหรอ แกเป็นใครวะ” เอกสวนกลับด้วยอารมณ์โกรธสุดขีด แต่อีกใจหนึ่งก็ฉงน เนื่องด้วยเรื่องที่ชายผู้นั้นบอกมามันแม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อ

“ผมไม่ได้ขู่คุณ ผมยังรู้อีกว่าคุณเคยโดนโกงเงินค่าแรง ทำให้คุณต้องเปลี่ยนงาน มันน่าเห็นใจมาก พ่อคุณทิ้งครอบครัวไปตั้งแต่คุณอายุได้ 5 ขวบ จากนั้น 2 แม่ลูกก็อยู่กันด้วยความยากลำบาก คุณต้องออกจากโรงเรียนเพื่อมาช่วยแม่ทำงานทั้งที่ยังไม่จบม. 3 เชื่อเถอะว่าผมเป็นคนที่หยั่งรู้ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของคุณ ผมอยากช่วยคุณจริงๆ” ชายลึกลับตอบกลับยาวเป็นชุด ไม่เปิดโอกาสให้เอกได้โต้ตอบ

เอกนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เนื่องจากปูมหลังทั้งในอดีต และปัจจุบันของเอกที่ชายผู้นั้นบอกเล่าล้วนเที่ยงตรงอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้เพื่อนสนิทก็ยังยากนักที่รู้ข้อมูลเบื้องลึกของเอกอย่างหมดเปลือกเช่นนี้ เอกกลืนน้ำลายลงคออย่ายากลำบาก ก่อนที่จะกลั่นใจตอบกลับไปว่า “แล้วคุณจะช่วยผมได้ยังไงหล่ะ”

“อยากได้สิ่งดีๆ คุณต้องทำความดีตอบแทน ความจริงคืนนี้ผมตั้งใจจะมาช่วยผู้ชายคนหนึ่ง แต่ผมมอบหน้าที่นี้ให้คุณทำแทนแล้วกัน ถ้างานนี้สำเร็จคุณจะได้ผลตอบแทนเป็นเงินมหาศาล มากพอที่จะรักษาแม่คุณให้หายดี จะปลุกบ้านใหม่ให้แม่คุณก็ยังได้ คุณต้องทำตามคำสั่งของผมอย่างเคร่งครัด รับรองว่าผมไม่บังคับให้คุณทำเรื่องไม่ดี หรือผิดศีลธรรม” ชายลึกลับพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ

“จะเอายังไงว่ามาเลย” เอกรับคำอย่างกระชับ

“อีกประมาณ 1 กิโลเมตรข้างหน้า ให้คุณลงจากรถก่อนที่รถจะวิ่งขึ้นสะพาน” ชายลึกลับตอบกลับ

“แล้วจะให้ผมไปทำอะไรที่สะพานหล่ะครับ คุณรอผมอยู่ที่นั่นเหรอ” เอกเริ่มคล้อยตามชายลึกลับ

ชายลึกลับทำเสียงดุ “ผมบอกให้ทำอะไรก็ทำ อย่ามีปัญหา อย่าสงสัยอะไรทั้งสิ้น ให้รู้ไว้อย่างเดียวว่าผมช่วยคุณได้ และผมไม่โกหกคุณ ถ้าคุณอยากรู้ว่าผมเป็นใคร มองมาข้างหน้ารถซิ”

สิ้นเสียงจากปลายสาย เอกสังเกตเห็นชายในชุดซาฟารีชูมือขึ้นข้างลำตัว แล้วโบกมือให้เอกโดยไม่เหลียวหลังกลับมามอง เอกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขากำลังคุยโทรศัพท์กับชายลึกลับที่นั่งอยู่ในรถคันเดียวกับเขาอยู่นาน 2 นานโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวแม้แต่น้อย เอกสกัดกลั้นอารมณ์งุนงง ก่อนที่จะพูดกรอกเข้าไปในสายโทรศัพท์ว่า “คุณสวมชุดซาฟารีใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว ผมเองหล่ะ แต่เราคงไม่มีเวลาได้ทักทายกันแล้ว รถใกล้จะถึงสะพาน คุณควรจะลงรถไปได้แล้ว ผมจะติดต่อกลับไปอีกที เข้าใจตามนี้นะ” ชายลึกลับออกคำสั่ง

ยังไม่ทันที่เอกจะได้โต้ตอบอะไร ชายในขุดซาฟารีลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปกระซิบกระซาบกับคนขับรถ ทันใดรถประจำทางก็จอดลงที่เชิงสะพานแห่งนั้น เอกเดินลงจากรถด้วยอาการงุนงง รถประจำทางคันนั้นก็วิ่งข้ามสะพานสูงจนลับตาไป เหลือไว้เพียงความเงียบเหงาวังเวงของถนนสายชนบทในยามที่เวลาเคลื่อนเข้าใกล้ตี 1 ครึ่ง เอกหยิบโทรศัพท์ iPhone 4 ขึ้นมาดู ก็ปรากฏว่าชายในชุดซาฟารีได้ตัดสายไปเรียบร้อย ครั้นเอกจะโทรกลับไปก็พบว่าไม่มีรายชื่อสายโทรเข้าแต่อย่างใด สิ่งเดียวที่ทำได้คือ รอ…….. รอจนกว่าชายผู้นั้นจะติดต่อกลับมา

เวลาล่วงเลยเข้าตี 3 เอกนั่งหลับเดียวดายภายใต้บรรยากาศหนาวเย็นที่เชิงสะพานแห่งนั้น ทันใดนั้นเอกก็ต้องสะดุ้งตื่น เสียงริงโทนจากเครื่อง iPhone 4 ดังกังวานแทรกขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัด หน้าจอโทรศัพท์ไม่แสดงชื่อ หรือเลขหมายผู้โทรเข้า เอกกลั่นใจกดรับสายแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู

“ต้องขอโทษที่ให้คุณรอนาน” ชายลึกลับเปิดบทสนทนา

“จะให้ผมทำอะไร ขอให้เป็นเรื่องดีๆ ละกัน” เอกตอบกลับอย่างแบ่งรับแบ่งสู้

“เดินขึ้นไปที่กลางสะพาน กำลังจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น” ชายลึกลับออกคำสั่ง

เอกสลัดความง่วงทิ้งไป พลางเดินไปหยุดอยู่ที่จุดกลางสะพานข้ามคลองที่สูงจนน่ากลัวแห่งนั้น “ผมอยู่ตรงกลางสะพานแล้ว ให้ทำอะไรต่อ” เอกตอบกลับอย่างคลางแคลงในสิ่งที่ชายลึกลับกำลังจะออกคำสั่งให้เขาทำ

“รปภ. อย่างคุณน่าจะว่ายน้ำเป็นนะ ออกแรงหน่อยละกัน” ชายลึกลับตลอบกลับ

เอกนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ครุ่นคิดว่าชายลึกลับผู้นี้จะออกคำสั่งให้เขาทำอะไร

“ไม่ต้องห่วง ผมไม่ได้ให้คุณกระโดดลงไปเล่นน้ำ จำได้ไหมที่ผมบอกว่าอยากได้ของดี ต้องทำดีตอบแทน” ชายลึกลับทิ้งจังหวะก่อนพูดต่อ

“คุณต้องช่วยผู้ชายคนหนึ่ง รออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวเขาก็มาแล้ว” พูดจบชายลึกลับก็ตัดสายทิ้งไป

“อะไรวะ!!!” เอกสบถระบายความคับข้องใจออกมาดังลั่น ไม่ทันไรความเงียบสงบแห่งค่ำคืนถูกทำลายลงด้วยเสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นคับถนน รถเฟอราลี่สีแดงคันงามวิ่งฝ่าความมืดมาด้วยความเร็วสูง ยังไม่ทันที่เอกจะได้ตั้งตัว รถสปอตคันงามก็ชลอความเร็วเล็กน้อยก่อนที่จะหักเลี้ยวเสยราวสะพานเสียงดังสนั่น ประตูรถเปิดออกพร้อมกับภาพของชายผู้หนึ่งวิ่งออกจากรถ ปีนขึ้นราวสะพานแล้วกระโดดลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงพื้นน้ำแตกกระจายดังตูมมมมมมมมมมมมมม

เอกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหันหลังกับไปมองพื้นน้ำเบื้องล่างที่แผ่กระเพื่อมออกเป็นวงกว้าง แต่ไม่เห็นชายผู้นั้นอยู่บนผิวน้ำ

“ใช่แล้ว เขาต้องกระโดดน้ำฆ่าตัวตายแน่นอน” เอกพึมพำในใจแล้ววาง iPhone 4 ลงบนฟุตบาทอย่างถนุถนอม ก่อนกระโดดตามชายผู้นั้นลงไป ในใจยังคิดเคลือบแคลงว่าการช่วยชีวิตชายผู้ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อนคือการทำดีตามความหมายที่ชายลึกลับได้ทิ้งปริศนาเอาไว้หรือไม่…

ใต้ผิวน้ำ เอกกวาดตามองหาชายผู้นั้นอย่างรวดเร็ว กลัวว่าจะไม่ทันการณ์ เมื่อเอกหมุนตัวกลับหลังสุดตัว ก็พบชายผู้นั้นอยู่ห่างจากจุดที่เอกอยู่เพียงไม่กี่เมตร เอกว่ายเข้าไปหาร่างชายผู้นั้นอย่างช้าๆ แล้วพยามกระชากแขนของชายผู้นั้นเพื่อพาขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่ชายผู้นั้นปัดป้อง เหมือนไม่ยอมรับการช่วยเหลือของเอก ชายผู้นั้นยังคงปัดป้องอยู่หลายครั้ง จนเอกหมดความอดทน เงื้อมือชกเข้าที่ใบหน้าของชายผู้นั้นอย่างจัง ทำเอาเขาถึงกับหยุดนิ่งไป เอกไม่รอช้ารีบคว้าแขนชายผู้นั้นแล้วดึงเขาขึ้นสู่ผิวน้ำ

เอกตะโกนถามดังลั่น“คุณว่ายน้ำเป็นไหม” ชายผู้นั้นพยักหน้าแทนคำตอบ สีหน้าของเขาฉายแววแห่งความงุนงง

“คุณเป็นใคร” ชายผู้คิดสั้นเอ่ยถามขณะที่ใช้มือ และเท้าวักน้ำให้ลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ

“มีใครคนหนึ่งสั่งให้ผมมาช่วยคุณ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องช่วยคุณ อย่าถามอะไรผมอีกเลย กลับบ้านไปซะ” เอกตอบกลับด้วยเสียงตะโกน ในขณะที่พยายามพยุงตัวให้ลอยอยู่บนผิวน้ำ

ชายคิดสั้นว่ายน้ำตามเอกกลับเข้าฝั่งไปอย่างว่าง่าย เขาเดินนำหน้าเอกขึ้นตลิ่งไปรวดเร็ว แล้วเดินลัดเลาะขึ้นไปบนสะพานอย่างเร่งร้อนจนลับสายตาเอกไป เอกเดินตามชายผู้นั้นขึ้นไปบนสะพานด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการที่ต้องทนอดหลับอดนอน แถมยังต้องมาออกแรงช่วยใครที่ไม่รู้จัก เมื่อเอกเดินขึ้นมาถึงตรงกลางสะพานก็พบกับความว่างเปล่า รถสปอตคันงามพร้อมชายผู้นั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย ถ้าสตาร์ทรถขับออกไปเขาก็น่าจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์บ้าง แต่กลับมีเพียงความเงียบวังเวง “คืนนี้เราเจอเรื่องแปลกๆ อีกแล้วเหรอวะ” เองครุ่นคิดอยู่ในใจ

ท้นใดเสียงริงโทนจากเครื่อง iPhone 4 ที่วางอยู่บนฟุตบาทก็ดังขึ้นก่อนที่เอกจะเดินไปถึง เอกคว้าขึ้นมาและกดรับสายทันที การสนทนาระหว่างเขา และชายลึกลับในชุดซาฟารีก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง

ชายลึกลับเปิดบทสนทนา “ดีใจด้วยที่คุณทำสำเร็จ”

เอกยืนนิ่งตั้งใจฟังไม่สนทนาโต้ตอบ

“คืนนี้คงเหนื่อยมากแล้วนะคุณเอก อีกไม่กี่ชั่วโมงก็สว่างแล้ว คุณน่าจะหาที่นอนแถวๆ นั้น พรุ่งนี้คุณจะได้ในสิ่งที่ควรได้ แล้วคุณจะต้องขอบคุณผมคุณเอก” พูดจบชายลึกลับก็วางสายไปอย่างเคย เอกเหนื่อยเกินกว่าที่แสดงกิริยาตอบโต้ใดๆ ได้แต่หย่อนก้นนั่งลงบนฟุตบาท เอาหลังพิงราวสะพานแล้วก็งีบหลับไปภายใต้บรรยากาศเงียบสงบในค่ำคืนที่เวลาล่วงเลยเข้าสู่ตี 4…


เอกถูกปลุกให้ตื่นในเช้าวันใหม่ด้วยเสียงริงโทนจากเครื่อง iPhone 4 รู้สึกได้ถึงแสงแดดที่แยงตา เขาขยับร่างกายบิดขี้เกียจอย่างเชื่องช้า บนสะพานที่เอกนอนหลับอยู่มีรถวิ่งผ่านไม่ขาดสาย เอกล้วง iPhone 4 เครื่องเก่งออกมาจากกระเป๋า ก่อนที่จะรวบรวมสติเพื่อกดรับสาย

“รู้ไหมคุณตื่นสายแล้วนะ อาจทำให้คุณพลาดรางวัลใหญ่ได้” ชายลึกลับเปิดบทสนทนา

“รางวัลใหญ่อะไร คุณจะให้อะไรผม” เอกเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“วันนี้วันที่เท่าไหร่ คุณเอก” ชายลึกลับสวนกลับ

เอกครุ่นคิดสักพักก่อนตอบ “วันพุธที่ 16 คุณมีรางวัลอะไรจะให้ผม หรือว่าคุณหลอกผม”

“ใจเย็นๆ ลองคิดดูดีๆ วันนี้วันหวยออกนะคุณ แล้วคนที่จะให้รางวัลไม่ใช่ผม แต่เป็นกองสลากต่างหากหล่ะ รางวัลใหญ่ซะด้วย” ชายลึกลับตอบกลับ

“แล้วผมจะให้เอารางวัลใหญ่มาจากไหน คุณจะให้ผมเหรอ” เอกเอ่ยถามด้วยความสงสัย

ชายลึกลับตอบกลับ “ไม่ใช่ผม แต่คุณต้องไปตามหาเอาเอง จำไว้ให้ดีนะ 435678 ผมจะบอกอีกรอบ 435678 เบอร์นี้รางวัลที่ 1 เลยนะคุณ” เอกรีบเมมโมรี่หมายเลขไว้ใน iPhone 4 แล้วตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนหลายรอบ

“แล้วผมจะไปหาสลากใบนี้ได้จากที่ไหน คุณยังไม่บอกผมเลย” เอกถามอย่างกระตือรือร้น

“ตั้งใจฟังให้ดี สลากใบนี้อยู่ที่แผงขายสลากที่สี่แยกคอกวัว ที่นั้นมีแผงขายสลากอยู่หลายสิบแผง ให้คุณไปที่แผงหมายเลข พ.12 คุณต้องจำไว้ให้ดีนะ แผงหมายเลข พ.12 ตอนนี้เวลาคุณเหลือน้อยแล้ว ที่จะไปซื้อสลากใบนั้น” ชายลึกลับทิ้งช่วง ก่อนที่จะเปิดบทสนทนาต่อ

“จากสะพานที่คุณอยู่มันไกลจากสี่แยกคอกวัวมากเลยคุณรู้ไหม ถ้าจะนั่งรถประจำทางก็ต้องต่อถึง 2 ต่อกว่าจะถึง ลองคิดดูเล่นๆ คุณน่าจะถึงใกล้ๆ เที่ยงพอดี คุณมีเงินค่าแท็กซี่ไหมหล่ะ จะได้ไปถึงเร็วหน่อย” ชายลึกลับเสนอแนะ

เอกรู้ดีอยู่แก่ใจว่าคนหาเช้ากินค่ำอย่างเขา มีเงินติดกระเป๋าอยู่แค่ร้อยกว่าบาท ถ้าจ่ายค่าแท็กซี่ไป ก็คงจะไม่มีเงินเหลือพอซื้อล๊อตตาลี่ บางทีความจนก็ทำให้เรื่องที่ดูเหมือนจะง่าย กลับกลายเป็นเรื่องยาก “ค่าแท็กซี่ผมไม่มี่หรอก คุณบอกผมได้ไหมว่าจะนั่งรถเมล์สายไหนไปได้”

“เอาอย่างนี้ คุณนั่งรถสาย 124 รถสายนี้วิ่งระยะไกลเข้าเมือง คุณลงรถที่เยาราชแล้วนั่งรถสาย 324 ต่อไปลงที่แยกคอกวัว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยหน่ะคุณเคยไปไหม” ชายลึกลับเสนอแนะ

“ผมเคยไปอยู่ แต่ไม่ได้ไปจากทางนี้ ผมเลยไปไม่ถูก คุณแน่ใจนะว่าผมต้องนั่งรถสาย 124 แล้วไปต่อสาย 324 ที่เยาราช” เอกถามย้ำด้วยความกระตือรือร้น

“ใช่แล้ว แต่ผมไม่รับประกันนะว่าคุณจะไปถึงแยกคอกวัวก่อนเวลาเที่ยง ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของคุณ ถ้ามันเป็นของคุณ คุณก็จะได้มัน แต่ถ้าไม่ใช้ คุณก็ต้องยอมรับความจริง ผมช่วยคุณได้เท่านี้ และนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมโทรไปหาคุณ ขอให้โชคดีนะคุณเอก”

พูดจบชายลึกลับก็ตัดสายทิ้งไปอย่างเคย ทำให้เอกร้อนใจมาก ด้วยเงื่อนเวลาที่กระชั้นเข้ามาทุกขณะ ขณะนี้เวลา 9 โมง 15 เขามีเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที ที่จะเดินทางไปแผงขายสลากหมายเลข พ.12 ซึ่งระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ และในเส้นทางสายนอกเมืองแบบนี้ นานๆ ทีจะมีรถประจำทางวิ่งผ่านมาสักคัน

เอกชะเง้อมองหารถประจำทางสาย 124 อย่างร้อนรน ในระยะสายตาเขาเห็นรถประจำทางสายหนึ่งวิ่งมาจากระยะไกล รถคันนั้นวิ่งใกล้เข้ามาจนในที่สุดก็เข้าระยะที่สายตาของเอกมองเห็นหมายเลขของรถคันนั้น ใช่แล้วมันเป็นรถเมล์สาย 124 เอกดีใจจนเกือบจนร้องตะโกนออกมา เขาไม่รอช้าที่จะโบกมือเรียกรถก่อนที่มันจะวิ่งผ่านไป เมื่อรถจอดเทียบข้างทางเอกรีบกระโดดขึ้นรถ มันเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ เอกเอ่ยถามกระเป๋ารถเมล์ “ไปเยาราชไหมพี่” กระเป๋ารถเมล์พยักหน้าแทนคำตอบ เอกโล่งใจที่ข้อมูลเรื่องการเดินทางที่ชายลึกลับให้มานั้นถูกต้อง สิ่งที่เอกทำได้ตอนนี้คือภาวนาให้รถวิ่งไปถึงเยาราชไวๆ แต่ดูเหมือนว่าพนักงานขับรถจะไม่รู้รับถึงแรงปรารถนาของเอก รถยังเคลื่อนตัวไปอย่างไม่สู้จะเร็วนัก ทั้งที่ถนนก็โล่งว่าง ดูเหมือนจะเป็นการขับรถชมวิว

ปกติเอกมักจะงีบนอนบนรถเมล์ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวัน หรือกลางคืน แต่ในเวลานี้เขาร้อนรนจนนอนไม่หลับ แต่ก็น่าประหลาดใจที่การจราจรในเมืองหลวงดูเหมือนจะคล่องตัวเป็นพิเศษ รถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ไม่มีจอดติดที่แยกไฟแดงไหนนานๆ ช่วยผ่อนคลายความร้อนรนในใจเอกได้บ้าง กระเป๋ารถเมล์สะกิดที่แขนซ้ายของเอก นั่นทำให้เอกสะดุ้งเล็กน้อย “เยาราชแล้วพี่” กระเป๋ารถเมล์บอกเตือนเมื่อถึงจุดหมายปลายทางอย่างที่นัดแนะกันไว้ เอกเตรียมตัวลงจากรถ แขนซ้ายก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เวลาเพิ่งจะล่วงเลยมาแค่ 10 โมงครึ่งเท่านั้น ดูเหมือนเอกจะมีเวลาเหลือเฟือในการเดินทางไปจับจองเป็นเจ้าของสลากใบนั้น

เอกยืนรอที่ป้ายรถประจำทาง นึกทบทวนในใจว่าเข้าจะต้องนั่งรถเมล์สาย 324 ต่อไปยังแยกคอกวัว ไม่ช้าไม่นานรถเมล์สายทีว่าก็วิ่งเข้ามาจอดเทียบทางเท้า ผู้คนขึ้นลงรถกันขวักไขว่ ทำให้เอกมีเวลาสังเกตดูแผ่นป้ายบอกเส้นทางการเดินรถที่แปะอยู่ข้างรถเมล์คันนั้น แล้วชื่อของแยกคอกวัวก็ปรากฏอยู่บนป้าย เป็นอีกครั้งที่เอกนึกขอบคุณชายลึกลับที่แนะนำวิธีการเดินทางให้เขาอย่างแม่นยำ เอกนั่งบนรถประจำทางสาย 324 ด้วยอารมณ์ที่ผ่อนคลายขึ้น ใช้เวลาไม่นานรถสายนั้นก็พาเอกถึงแยกคอกวัว เอกลงจากรถไปยืนอยู่ที่ฟุตบาทพลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เวลาเพิ่งจะเดินทางมาถึง 11 โมงเท่านั้น บรรยายกาศรอบๆ เต็มไปด้วยแผงขายสลากหลายสิบแผงที่ยังคงซื้อขายกันอยู่คึกคัก

เอกกวาดสายตามมองหาแผงหมายเลข พ. 12 ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าแผงนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขาลงรถเมล์ ทำให้เอกอดคิดถึงข้อความปริศนาที่ชายลึกลับทิ้งท้ายไว้ในทำนองที่ว่า การจะได้รางวัลใหญ่ครั้งนี้ขึ้นอยู่กับโชคชะตา ถ้าดวงมันจะได้ ทุกอย่างก็จะดำเนินไปอย่างราบรื่นง่ายดาย เอกคิดทบทวนเหตุการณ์ในวันนี้มันง่ายดายอย่างน่าเหลือเชื่อ เขาก้าวเท้าเดินเข้าไปที่แผงหมายเลข พ.12 ด้วยความมั่นใจ

เมื่อยืนอยู่หน้าแผงที่ละลานตาไปด้วยสลากหลากหลายเบอร์ เขาหยิบ iPhone 4 เครื่องเก่งขึ้นมาเพื่อเรียกดูหมายเลขสลากที่เมมโมรี่ไว้ ใช่แล้วเขาต้องมองหาสลากหมายเลข 435678 เอกท่องจำหมายเลขขึ้นใจ จากนั้นจับมือถือเครื่องเก่งแนบไว้กับลำตัวเพื่อเปิดมุมมองให้มองหาหมายเลขสลากได้อย่างถนัด ทันใดนั้นเอกก็รู้สึกชาวาบ และขนลุกซู่ไปทั้งตัว ถึงขั้นนิ่งอึ้งไปกว่าครึ่งนาที…………….

ก็จะอะไรซะอีกหล่ะ สลากหมายเลข 435678 ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาท่ามกลางสลากหมายเลขอื่นอีกนับร้อยฉบับ เอกยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัวอย่างลืมตัว รอยยิ้มกว้างอย่างเด็กได้ของเล่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเอก เมื่อตั้งสติได้เอกรีบคว้าสลากใบนั้นขึ้นมา แล้วยื่นแบงก์ร้อยที่เหลืออยู่ใบสุดท้ายในกระเป๋าให้แม่ค้า เมื่อเอกรับเงินทอนจากแม่ค้าแล้วยังต้องมานั่งรวบรวมสติอยู่พักใหญ่ เอกพยายามระงับความตื่นเต้น สูดหายใจลึก ตั้งสติคิดว่าภารกิจของเขายังไม่สิ้นสุด ต้องรอจนกระทั้งบ่าย 4 โมงเย็น ทุกอย่างจึงจะเฉลยออกมาว่าเขาจะเป็นผู้คว้ารางวัลใหญ่ในงวดนี้หรือไม่ เอกพับฉลากใบนั้นใส่กระเป๋าสตางค์อย่างบรรจง

และแล้วเวลาจับเลขหมายฉลากก็มาถึง ทั่วบริเวณแยกคอกวัวมีการถ่ายทอดภาพ และเสียงการออกหมายเลขรางวัล คลาคล่ำไปด้วยบรรดานักเสี่ยงโชคที่หยิบฉลากของตัวเองขึ้นมาดูเทียบกับหมายเลขที่ประกาศออกมาแต่ละหมายเลข บรรยากาศอบอวนไปด้วยความตื่นเต้นของบรรดาเซียนหวยน้อยใหญ่ที่มีสลากอยู่ในมือจำนวนไม่เท่ากัน และแล้วเวลาที่เอกรอคอยก็มาถึง การจับหมายเลขรางวัลที่ 1 กำลังจะเริ่มขึ้น เอกระงับความตื่นเต้นด้วยการกลั่นหายใจอย่างหนักแน่น

และแล้วลูกบอลหมายเลข 4 ก็ถูกตักออกมาจากกล่องที่ 1 เอกแทบไม่เชื่อสายตาต่อภาพที่ปรากฏขึ้นในจอทีวี

ตามมาด้วยบอลหมายเลข 3 ที่ถูกตักออกมาจากกล่องที่
2 นั่นยิ่งทำให้หัวใจเอกยิ่งเต้นถี่รัวขึ้นอีก

และแล้วลูกบอลหมายเลข 5 ก็ถูกตักออกมาจากกล่องที่ 3 เอกรู้สึกวิงเวียนอย่างหนักคล้ายว่าใกล้จะอ้วกออกมา

ต่อด้วยลูกบอลหมายเลข 6 ถูกตักออกมาจากกล่องที่ 4 อาการร้อนวูบวาบของเอกยิ่งรุนแรงขึ้น

ลูกบอลหมายเลข 7 ถูกตักออกมาจากกล่องที่ 5 เอกถึงกับทรุดลงนั่งบนพื้นฟุตบาทโดยไม่รู้ตัว ทำให้เซียนหวยน้อยใหญ่ที่อยู่รอบๆ ตัวเอกเกิดอาการตกใจเล็กน้อย ภายในสมองของเอกเต็มไปด้วยความสับสน เขาต้องการเลข 8 อีกเพียงหมายเลขเดียวเท่านั้น

และแล้วลูกบอลหมายเลข 8 ก็ถูกตักออกมาจากกล่องที่ 6 ตามมาด้วยเสียงของผู้ประกาศรางวัลทวนซ้ำหมายเลขรางวัลที่หนึ่งว่า 435678

เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ เอกสะกดกลั้นความรู้สึกตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป เขากระโดดอย่างลิงโลดโดยไม่สนใจต่อสายตาผู้คนรอบข้าง แสดงอาการดีใจเหมือนอย่างลูกคนรวยที่พ่อแม่ซื้อของเล่นราคาแพงให้ เมื่อห้วงอารมณ์แห่งความตื่นเต้นดีใจผ่านพ้นไป ความตื่นตันใจก็เข้ามาแทนที่ เอกยืนนิ่งปล่อยให้น้ำตาไหลอาบ 2 แก้มอย่างไม่อายใคร นี่คงจะเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวในชีวิตที่เขาได้ตอบแทนคุณมารดาอย่างที่อยากจะทำมานานหลายปี แต่ไม่มีโอกาส ด้วยเงินก้อนโตนนี้คงจะเพียงพอสำหรับการรักษาโรคร้ายของแม่ที่ป่วยมานานปีให้หายขาย และน่าจะเหลือเงินพอปลูกบ้านให้แม่อยู่เป็นหลักเป็นฐาน คิดได้ดังนั้นเอกกำสลากไว้ในมือแน่น


เพี๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เอกสะดุ้งสุดตัว
เมื่ออยู่ดีๆ ใครก็ไม่รู้มาตบหัวเขาอย่างแรงจนรู้สึกแสบหนังหัว เขาหันมองไปทางด้านซ้ายนอกประตูป้อมยามก็ปรากฏร่างของรปภ. หนุ่มรายหนึ่งยื่นทำหน้ายียวน “นอนหลับยามอีกแล้วนะไอ้เอก กูยืนดูอยู่นานแล้ว คราวนี้ฝันเรื่องหล่ะ เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ร้องไห้ ไอ้บ้า” เอกนั่งรวบรวมความคิดอยู่ในป้อมยามพักหนึ่ง ที่แท้เรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด ทั้งชายลึกลับในชุดซาฟารี เรื่องถูกหวยรางวัลที่ 1 กลับกลายเป็นเพียงความฝัน เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก็ปรากฏว่าเวลาล่วงเลยเข้าเที่ยงคืน เอกปาดน้ำตาที่อาบเต็ม 2 แก้มก่อนที่จะลุกเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมตัวกลับไปนอนต่อที่ห้องพัก


เช้าวันที่ 16 ขณะที่เอกกำลังนั่งรอรถประจำทางอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน เสียงหนึ่งลอยมาทักทายเขา “วันนี้รวยจ้า วันนี้รวย” แม้ค้าหวยสะพายแผงขายล๊อตเตอรี่มาหยุดยืนต่อหน้าเอก ถึงแม้เขาจะเป็นคนยากจนแต่ก็ไม่ข้องแวะกับเรื่องการเสี่ยงโชค เขาเลยทำทีหันมองทางอื่นไปเรื่อยเปื่อย “วันนี้รวยจ้า” แม้ค้าหวยยังคงตื้อไม่เลิก เอกหันไปมองแผงขายล๊อตเตอรี่ที่ถูกยื่นมาจ่อใกล้หน้าเขา พลันสายตาของเอกก็ไปสะดุดอยู่กับสลากหมายเลข 435678 ที่นอนรออยู่บนแผง……

***จบแล้วครับ***

ขอบคุณทุกท่านครับที่อ่านเรื่องสั้นผมจนจบ มีอะไรแนะนำ ติชมได้ครับ

จากคุณ : เด็กชายเอ
เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 14:44:25




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com