"ระยะหลังเขาเป็นบ้า" ชาวชามูบอก "คงทนรับสภาพที่ตัวเองต้องผูกติดกับทาสไม่ได้ ข้อความที่เขียนไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่คิดว่าเขาเริ่มคิดอยากฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทุกคนบนเกาะใหญ่ ไม่ว่าทาสหรือนาย เขาเริ่มทดลองเรื่องแก็สพิษต่อไป ตามที่บอกเจ้า ข้าคิดว่าเขาทำสำเร็จ แต่แก็สนั้นจะฆ่าทั้งทาสและนาย เพราะนอกจากจะทำลายทาสแล้ว ยังทำลายสภาพแวดล้อมที่ปรับปรุงแล้วด้วย เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป ถ้าหากนายไหวตัวไม่ทันก็จะตายเช่นกัน"
โคเวนพูดราบเรียบอย่างยิ่ง แต่นัคทาเพิ่งทราบว่าอีกฝ่ายคิดอะไรตอนยื่นหนังสือให้เขา โคเวนรู้สึกว่าถ้ารบกันตนเองที่อ่อนแอกว่าอาจแพ้ เขาไม่แน่ใจว่านัคทาจะยินยอมสงบศึกแล้วจริงหรือไม่ ความหวาดระแวงฝังรากลึกจนชาวชามูรู้สึกสิ้นหวังอย่างยิ่ง วูบนั้นใจเขาคงเหมือนมีปีศาจสิงจริง ๆ กระมัง เขาคงคิดว่า เอาเถิด ก็ให้มันตายบรรลัยให้หมดสิ้น ไม่ต้องเหลืออะไร นัคทาไม่รู้ตัว แต่ยามที่เขาปฏิเสธไม่รับสูตรหายนะดังกล่าว โคเวนก็ได้เห็นแสงสว่างเป็นครั้งแรกในรอบไม่รู้กี่ปีเช่นกัน
บางทีโคเวนคงคิดเรื่องนั้นอยู่เช่นกัน นัคเห็นเขาเบือนศีรษะไป ยกมือขึ้นลูบหน้า ซึ่งทำให้ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ว่าแม้แตกต่างกันมหาศาล ชามูกับอิยาก็ยังมีสิ่งเหมือนกัน พวกเขาร้องไห้ได้ ทั้งตอนดีใจและเสียใจ ทั้งตอนที่ดวงตาระคายเคือง
"หลังจากนั้นเล่า" ชาวอิยาถามในที่สุด ถึงอย่างไรเขาก็ยังชอบฟังนิทาน
"ข้าไม่แน่ใจ แต่ยังเชื่อว่าหมายเลข ๕๖ คงมีส่วนไม่น้อย ข้าคิดว่าทาสคนนั้นคงทราบว่านักทดลองทำอะไร จึงได้ทำลายเรือไม่ให้เขากลับไปขึ้นฝั่ง ทำลายเครื่องมือกลไกต่าง ๆ และฆ่าเขากับฆ่าตัวเองตาย แต่ทาสอ่านหนังสือไม่ได้ จึงไม่ทราบว่ายังมีสูตรเขียนไว้ในอนุทิน"
"อืม"
เรื่องที่อีกฝ่ายเล่าทำให้นัคทาคิดอะไรมากมาย เขาคิดว่าเหตุที่นักทดลองทุกข์ทรมานจนเป็นบ้าก็เพราะยอมรับความผูกพันในธรรมชาติไม่ได้ หลายร้อยปีให้หลัง อิยาไม่มีปัญหานั้น อิยากลับกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่เชื่อว่าทุกสิ่งในธรรมชาติสัมพันธ์กัน ที่จริงก่อนเขาจะพบเรื่องหมาป่า ทุกคนยังเชื่อว่าตนเกิดมาเป็นอาหารของชามูด้วยซ้ำ ว่าไป...แม้เขาเองก็เถิด ยามคิดทำร้ายโคเวนยังกลับเล่าเรื่องให้ทุกคนฟังว่าชามูกับอิยาเคยเป็นพี่น้องกัน เหตุใดเขาจึงเล่าอย่างนั้น หรือบางทีจะเป็นอย่างที่โคเวนเคยบอก...บางทีคนเราก็ทำตามจิตใต้สำนึกโดยไม่รู้ตัว
ยามค่ำนัคทาก่อไฟ เขาเดินลุยลงไปในทะเล แม้บัดนี้ชายหนุ่มยังค่อนข้างตื่นเต้นกับห้วงน้ำใหญ่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โคเวนมองเขาอยู่บนฝั่ง เห็นนัคทาสำรวจสิ่งต่าง ๆ ท่าทางกระตือรือร้นสนใจ
...สิ่งมีชีวิตทั้งปวงก็ถือกำเนิดจากทะเลไม่ใช่หรือ แม้ไม่ใช่ทะเลที่นี่ก็เป็นทะเลที่โลกซึ่งอยู่แสนไกล โคเวนไม่ทราบหรอกว่าทุกอย่างมีความหมายหรือเปล่า เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องเริ่มมีทุกอย่างขึ้น เหตุใดจึงไม่หยุดอยู่เพียงทะเลไร้ชีวิตไม่มีอะไร ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นความโกลาหลยุ่งเหยิง กลายเป็นการกินและถูกกิน ความเจ็บปวดและความตาย กลายเป็นอารมณ์ความคิดความรู้สึกซึ่งผูกมัดรัดร้อยเป็นปมที่ไม่มีวันแก้ได้ ที่จริงบางทีสิ่งที่เขาสงสัยที่สุดคงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีปัญญาอย่างมนุษย์จากโลก ชามูหรืออิยากระมัง เหตุใดจึงมีสิ่งมีชีวิตแบบนั้นขึ้นมา
"ถ้าเป็นพ่อข้าคงบอกว่า เพื่อข้าจะได้มาเป็นพ่อเจ้าอย่างไรเล่า" นัคทาบอกเมื่อโคเวนพูดเรื่องนี้ "พ่อข้าจะทำกร่างเขื่องโขแล้วบอกว่าพระเจ้าบนฟ้าสร้างอิยาคนแรกขึ้นมา ก็เพื่อสักวันหนึ่งข้าจะได้เป็นพ่อเจ้าอย่างไรเล่า"
ชายหนุ่มพูดแล้วก็หัวเราะที่พ่อตนพูดจาใหญ่โตเกินตัว โคเวนเห็นเขาหัวเราะจึงยิ้ม แต่บางทีถ้อยคำนั้นอาจจะมีความหมายยิ่งกว่าที่นัคทาคิดกระมัง ชั่วขณะที่สารโปรตีนถือกำเนิดขึ้นในทะเลบนโลก เมื่ออสงไขยกัปกัลป์ก่อน มันก็อาจฝันถึงยามที่นัคทาและโคเวนมาพบกัน ในเมล็ดพันธุ์ทุกเมล็ดก็มีต้นไม้ใหญ่อยู่
...
เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์มากนัก การต่อแพจึงกินเวลาหลายวัน เป็นเวลาหลายวันที่นัคทาคิดถึงอนาคตสลับกับพยายามไม่นึกถึงมัน เขาย่อมอยากกลับไปหาครอบครัวพี่น้อง อยากพบภรรยากับลูกสาว อยากทราบว่าป่านนี้ทุกอย่างจะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ทุกคนยังสบายดีหรือไม่ จะปลอดภัยไหม การสงครามเล่าเป็นอย่างไร แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกกลัวที่จะกลับไป นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่นัคทาไม่ต้องแบกน้ำหนักของนัคทาแห่งอิยา ไม่ต้องกลืนรสขมขื่มเยี่ยงคนที่เป็นผู้นำทั้งหลาย เขารู้สึกสบายใจ ดีใจที่ได้พูดคุยกับคนที่เข้าใจเรื่องต่าง ๆ อย่างโคเวน
แต่หลายวันนี้้โคเวนไม่ได้พูดอะไรมากนัก ดูเหมือนกำลังครุ่นคิด นัคทาเองก็คิดเช่นเดียวกัน วิธีทั้งร้อยทั้งพันที่จะออกไปจากวงกตของทาสกับนาย การกินและการถูกกินได้ เขาเคยคิดว่าจะต่อเรือพาคนของตนหนีไป แต่เมื่อคิดอีกที...จะไปได้อย่างไร ในเมื่อเพียงเกาะนี้ตรงส่วนที่ยังไม่ได้ปรับสภาพเขายังแทบหายใจไม่ได้ ความจริงก็คือไม่ว่าดาวนี้จะมีแผ่นดินมากมายเท่าไร อิยาที่ไม่มีชามูช่วยให้พลังก็จะอยู่ได้เพียงบนเกาะที่ปรับสภาพแวดล้อมแล้วเท่านั้น บางทีเขาอาจจะบอกให้โคเวนเลือกชามูกลุ่มหนึ่งไปด้วยกัน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าโคเวนจะมีอิทธิพลถึงเพียงนั้น และทุกอย่างจะดำเนินไปได้ง่าย ๆ เขาคิดว่าจะเล่าความจริงเรื่องทาสกับนายให้ทุกคนฟัง แต่ครั้นคิดอีกทีแล้ว ถ้าหากไม่หาวิธีการเล่าที่ดี มันก็อาจจะสร้างความยุ่งเหยิงแทนที่จะเป็นความเข้าใจกระมัง ด้วยเหตุนี้แม้จนวันสุดท้ายนัคทาจึงนึกอะไรไม่ได้ และรับทราบว่าเมื่อกลับไป ทุกอย่างก็อาจเป็นแบบเดิม
"นัคทา" โคเวนเอ่ยขึ้นในคืนสุดท้าย ก่อนวันที่พวกเขากำหนดว่าจะทดลองล่องแพกลับไป "เมื่อกลับไปได้แล้ว เรามาพบกันอีกได้ไหม"
"หือ"
"คานายังต้องการเลือดอยู่" ชาวชามูบอก
"ได้ จะให้เลือดของข้าเอง คานาเป็นลูกสาวเจ้า หากเจ้ากินเลือดข้าแล้วดี คานาคงกินแล้วดีเช่นกัน"
"ข้าเองก็อยากพบครอบครัวของเจ้าบ้าง" แต่คงไม่ได้กระมัง นัคทาย่อมให้ใครรู้ไม่ได้ว่าตนคบหากับชามู
"จะพาลูกไปแล้วกัน ยังเด็กอยู่ ไม่รู้เรื่องอะไร" ชาวอิยาบอก "ลูกสาวข้าชื่อนายี อ่อนกว่าคานาสักสองสามปี"
โคเวนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มองเข้าไปในกองไฟ
"ถ้าเช่นนั้นก็มาพบกันอีกครั้ง" เขาว่า "ระหว่างนั้น ข้าจะพยายามคิดทางอื่น ๆ ข้ายังคิดอะไรไม่ออก แต่ตอนนั้นเจ้าถามข้าว่ามีทางอื่นอีกไหม เจ้าอุตส่าห์ถาม ข้าจะพยายาม"
วันรุ่งขึ้นเมื่อดันแพไปตรงที่น้ำลึกพอสมควร และกางใบรับลมซึ่งพัดสู่เกาะใหญ่แล้ว แพก็ล่องไปได้โดยไม่มีปัญหาใด ใช้เวลาประมาณวันเศษจึงขึ้นฝั่งที่เกาะได้ มันเป็นฝั่งห่างไกล คิดว่าคงต้องเดินทางอีกหลายวันกว่าจะพบที่ที่มีอารยธรรม แต่นัคทาเชื่อว่าอาจไม่ต้องใช้เวลามากขนาดนั้นหรอก
"ถ้าหากพบฐานเก่าหรือพวกหอสังเกตการณ์ของชามู ก็อาจจะขโมยยานเหาะมาได้ เจ้าก็ไปส่งข้าที่ฐานแล้วกัน หลังจากนั้นสามวันข้าจะกลับมารอเจ้าที่ฐาน เจ้าก็พาคานามา"
โคเวนพยักหน้า และพบว่าเหตุการณ์เป็นดังที่เพื่อนบอกจริง ๆ เมื่อได้ยานเหาะมาแล้ว หนทางที่เดินกันจนแทบจะตายทั้งคู่จึงกลับกลายเป็นสั้น ใช้เวลาไม่กี่วันก็กลับมาได้ เขาแยกกันที่ฐาน นัคทาคงกลายร่างเป็นสุนัขป่ากลับเผ่าตน โคเวนก็กลับเมือง ต่างฝ่ายต่างไม่ทราบว่ากลับไปแล้วตนจะได้พบอะไร
"อย่าลืมพาลูกมาหาข้า ข้าจะกินอาหารมีประโยชน์ให้มาก จะมีเลือดให้เธอ" นัคทาบอกเป็นคำสุดท้าย เขาไม่อาจสัญญาสันติภาพหรือมิตรภาพถาวรได้ ดังนั้นจึงพยายามจะให้สิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ตนจะนึกออกเช่นนี้เอง
จากคุณ |
:
ลวิตร์
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ต.ค. 53 02:30:59
|
|
|
|