Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
O ผู้หลงโลก..? O ติดต่อทีมงาน



ทำไมกลุ่มที่จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์จึงมีแต่กลุ่มก้อนเสื้อแดง ?

ทำไมไม่มีกลุ่มเสื้อสีอื่น ?

ดังนั้น...กลุ่มคนพวกนี้...ย่อมไม่ประนามกลุ่มก้อนเดียวกัน...ใช่หรือไม่ ?


-------------------------------------------------------------------
กลัวอะไรกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าไม่ใช่พวกสันหลังหวะ
โดย...ฝั่งขวาเจ้าพระยา...

-------------------------------------------------------------------
เพิ่งจะเป็นผู้บํญชาการทหารบก ครบ1 เดือน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังถูกกระบวนการข้อมูลข่าวสาร วาดภาพให้เป็น ผู้ทรงอิทธิพล ที่น่ากลัว และสุ่มเสี่ยงต่อการจุดชนวนการเผชิญหน้าครั้งใหม่ในสังคมไทย ด้วยการ  "ผลักคนที่มีความคิดเห็นแตกต่าง ไปอยู่ตรงข้าม" "ไม่แยกแยะระหว่าง ความจริงกับ ความเชื่อ"
     
      พลเอกประยุทธ์ยังถูกระบายสีว่า คือผู้ที่จะชี้เป็นชี้ตาย การเมืองไทยต่อจากนี้ไป ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคไหนจะได้จัดตั้งรัฐบาล ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ หรือว่า จะมีการยึดอำนาจ รัฐประหาร ก็อยู่ที่เขาคนเดียว เพราะเป็นผู้คุมกำลังที่มีความเป็นเอกภาพมากที่สุด และมีอายุราชการนานถึง 4 ปี
     
      ก่อนหน้าที่จะรับตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบกอย่างเป็นทางการ มีความพยายามที่จะยัดเยียดให้พลเอก ประยุทธ์ เป็น "สฤษดิ์น้อย" ซึ่งหมายถึง เป็นอย่างจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบก และนายกรัฐมนตรีในอดีต ที่ปกครองประเทศแบบเผด็จการ ใช้อำนาจเด็ดขาดกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
     
      แต่ผู้ที่พยายามจะป้ายสีให้ "ตู่ นะจ๊ะ" เป็นจอมพลผ้าขะม้าแดง คงจะเจอ "ของแข็ง" เข้าไป จึงต้องสงบปาก สงบคำ เลิกยัดเยียดให้พลเอกประยุทธ์ เป็น "สฤษดิ์น้อย" ไปเลย
     
      ทำไมจึงต้องทำลายพลเอกประยุทธ์ ตั้งแต่นาทีแรกที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก
     
      เหตุก็เพราะ พลเอกประยุทธ์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนมานานแล้วว่า ศัตรูของประเทศนั้น มีเพียงคนเดียว และเขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายสถาบันพระมหากษัตรย์ กองทัพบกจะต้องปกป้อง สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้ได้
     
      การให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมา ส่งสัญญาญเตือนไปยัง "ขบวนการล้มเจ้า" ว่า กองทัพพร้อมที่จะจัดการกับผู้ที่ล่วงละเมิด จ้องทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ใครที่กำลังทำอยู่ ก็ขอให้หยุดเสีย ใครไม่เชื่อ ก็อย่ามาโอดครวญภายหลัง เพราะถือว่าได้เตือนแล้ว นอกจากจะเป็นคำพูดที่ "ระคายหู" ของคนบางกลุ่มแล้ว ยังทำให้วัวสันหลังหวะบางตัว "เสียววูบ" ขึ้นมาทันที
     
      ความขัดแย้งในประเทศไทยขณะนี้ ไม่ใช่เรื่องความไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่อง สองมาตรฐาน ไม่ใช่เรื่องความไม่เป็นธรรมในสังคม อย่างทีกลุ่มคนเสิ้อแดงกล่าวอ้างกัน แต่เป็นเรื่องของ ความต้องการโค่นล้ม ระบอบการปกครองระบบประชาธิปไตยที่มีสถาบันพระมหากษตริย์เป็นประมุข เพื่อ สถาปนารัฐไทยใหมขึ้นมา
     
      เรื่องนี้ เป็น "ความจริง" ไม่ใช่ "ความเชื่อ" เรื่องนี้เป็นสี่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว และกำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ ไม่ใช่เป็นการผลักคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างกัน ให้ไปอยู่ตรงข้าม
      เว็บไซต์จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ข้อความในโปสเตอร์ การพ่นสีเป็นข้อความที่ไม่เหมาะสมลงที่พื้นระหว่างการชุมนุม ที่พลเอกประยุทธ์อ้างถึง รวมทั้งการใช้ถ้อยคำ อันเป็นสัญลักษณ์อย่างเช่นคำว่า "เขียนจดหมายถึงฟ้า" คนที่อ่านออกเขียนได้ คิดเป็น ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่า สิ่งเหล่านี้หมายถึงอะไร ผู้ทำมีเจตนาอย่างไร
     
      การล่วงละเมิด จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงเป็นเรื่องที่มีอยู่จริง ไม่ใช่การสร้างเรื่องขึ้นมา เพื่อกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม
     
      พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกคนก่อน ก็รู้พอๆกับพลเอกประยุทธ์ว่า มีขบวนการล้มเจ้าอยุ่ และรู้ว่า ใครอยู่เบื้องหลัง แต่พลเอกอนุพงษ์เลือกที่จะลอยตัว รักษาเก้าอี้รอวันเกษียณอายุ แต่พลเอกประยุทธ์เดินหน้าชนเต็มตัว ไม่แอบอิงกับวาทกรรมปรองดอง สมานฉันท์ เพราะสำหรับเขาแล้ว ในเรื่องนี้ มีคนอยู่ 2 จำพวกเท่านั้น คือ คนดี กับคนชั่ว คนชั่วจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
     
      คนที่ไม่ได้คิดร้ายกับบ้านเมือง ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ต้องกังวลกับท่าทีของพลเอกประยุทธ์ พลเอกประยุทธ์เพียงแต่ทำหน้าที่ของกองทัพที่ถูกปล่อยปละละเลยมานาน เท่านั้น เมื่อพลเอกประยุทธ์สั่งสัญญาณออกมาว่า "กูไม่กลัว:-)" พวกที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์อยุ่ในขณะนี้ ต้องหวั่นไหวเป็นธรรมดา หนทางเดียวที่จะตอบโต้ได้คือ การสร้างภาพ ระบายสีว่า พลเอกประยุทธ์ กำลังจะทำให้สังคมแตกร้าวหนักขึ้น
     
      คนที่เคยโดนสร้างภาพ ระบายสี ใจมตีอย่างหนัก เหมือนที่ พลเอกประยุท์เริ่มจะเจอกับตัวเองในตอนนี้คือ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งทำหน้าที่ หัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวน คดีก่อการร้าย หลังเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง
     
      นายธาริต ถูกสื่อเสื้อแดงวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่องเป็นแรมเดือนว่า ตั้งศาลเตี้ย ไล่ล่าคนเสื้อแดง ยัดข้อหาก่อการร้ายให้ เอาดีเอสไอ ไปรับใช้พรรคประชาธิปัตย์ ในครั้งนั้น นายธาริตก็ถูกกล่าวหาเช่นเดียวกันว่า ทำให้สังคมแตกแยกหนักขึ้น เพราะคนเสื้อแดงไม่ได้รับความเป็นธรรม สุดท้ายจะต้องลงใต้ดิน จับอาวุธลุกขึ้นสู้ นายธาริตยังุถูกแกนนำคนเสื้อแดง บิดเบือนในเรื่องส่วนตัว และครอบครัวถูกลากมาเล่นงานด้วย
     
      แต่ในที่สุด นายธาริต ก็ทำหน้าที่ได้ตลอดรอดฝั่ง สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน การก่อการร้ายของแกนนำคนเสื้อแดง จนนำคดีขึ้นสู่ศาลได้ และศาลมีคำสั่งขังผู้ต้องการทุกคนไว้ระหว่างดำเนินคดี ส่วนคนที่หลบหนีการจับกุม ก็ไม่สามารถปรากฏตัวได้ ความสงบที่เกิดขึ้นอย่างน้อยที่สุดจนถึงบัดนี้ ก็เป็นเพราะแกนนำคนเสื้อแดง หมดฤทธิ์ ด้วยฝีมือของนายธาริต
     
      การวาดภาพ ระบายสีใส่พลเอกประยุทธ์ เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น อายุราชการที่นานถึง 4 ปี อำนาจในมือที่มั่นคง เป็นเอกภาพ บุคลิกที่ตรงไปตรงมา แยกแยะมิตร และศัตรู ชัดเจน และความไม่เกรงอกเกรงใจฐานันดรที่สี่ จะทำให้เขาต้องเผชิญกับสงครามข้อมูล ข่าวสาร ที่หนักหน่วงเป็นระยะๆ น่าเสียดายที่กองทัพบก เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 และสถานีวิทยุทั่วประเทศอีกหลายร้อยแห่ง แต่กลไกเหล่านี้ มีฐานะเป็นเพียง อู่ข้าว อู่น้ำ ที่ส่งส่วยให้กับ "นาย" เท่านั้น ไม่ใช่เครื่องมือที่จะใช้ต่อสู้ในเชิงข่าวสารได้อย่างมีประสิทธิภาพเลย








ปัญญาพลวัตร
      โดย...พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต
     
      สังคมไทยมีความเข้าใจและตีความค่านิยมหลักของประชาธิปไตยอันได้แก่ เสรีภาพ หลักอธิปไตยเป็นของปวงชน และความเสมอภาค แตกต่างหรือเบี่ยงเบนจากจุดกำเนิดของค่านิยมเหล่านี้หลายประการ
     
      การตีความที่แตกต่างเหล่านี้มิได้เป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะแต่ละสังคมมีพัฒนาการ บริบท และเงื่อนไขแตกต่างกัน ความแตกต่างในการตีความและการนำไปใช้ในบางกรณีเป็นการสร้างสรรค์และปรับให้สอดคล้องกับบริบท แต่ในบางกรณีอาจสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคำหรือวลีเดียวกัน นั่นคือมีการกลายพันธุ์ของความหมาย และมีการนำไปใช้ไปกำหนดกรอบการปฏิบัติเพื่อการทำลายล้างหรือสร้างความหายนะแก่สังคม
     
      รากฐานของหลักค่านิยมประชาธิปไตยสมัยใหม่มีจุดกำเนิดแบบคู่ขนานจากสองแหล่งคือ การปฏิวัติในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส กรณีประเทศอังกฤษสิ่งที่การปฏิวัติมีส่วนในต่อการสร้างประชาธิปไตยคือการสร้างหลักการของอิสรภาพสำหรับเสียงส่วนน้อย(principle of freedom for minorities) และการสร้างระบบรัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องเสรีภาพของปัจเจกชนจากการคุกคามของรัฐ
     
      ระบบรัฐธรรมนูญทำให้รัฐไม่สามารถกระทำเรื่องราวต่างๆได้ตามอำเภอใจ แต่กำหนดให้การกระทำใดๆ ของรัฐจะต้องใช้กฎหมายเป็นกลไกที่ระบุว่าเรื่องใดบ้างที่รัฐทำได้บ้าง และการกระทำนั้นไม่สามารถอยู่เหนือผลประโยชน์ของพลเมืองได้ ด้วยเหตุนี้ในระบอบประชาธิปไตย ผู้ที่เข้ามาเป็นรัฐบาลและบริหารรัฐจึงต้องยึดถือ “ค่านิยมเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งปวง” เป็นหลักและใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการบริหารประเทศ
     
      ค่านิยมเสรีภาพเป็นค่านิยมที่ประเทศประชาธิปไตยตะวันตกให้ความสำคัญมาก และอีกมิติหนึ่งของค่านิยมเสรีภาพนอกเหนือจากความต้องการมิให้รัฐคุกคามปัจเจกชนคือ การเน้นความต้องการของปัจเจกบุคคลหรือสนองตอบผลประโยชน์ส่วนบุคคล ระยะหลังแนวโน้มปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศคือการกลายพันธุ์ของค่านิยมเสรีภาพ โดยประชาชนจำนวนมากใช้เสรีภาพไปในทางการบริโภคนิยม การสร้างความพึงพอใจส่วนบุคคล การเน้นให้ความสำคัญกับความสุขและความสำเร็จส่วนบุคคล จนละเลยผลประโยชน์ของสาธารณะและคุณธรรมแห่งสังคม
     
      จากการศึกษาของนักวิชาการหลายคนในประเทศตะวันตกพบว่าค่านิยมเสรีภาพส่วนบุคคลมีส่วนสำคัญที่ก่อให้มีการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรม ความเฉื่อยชาทางการเมือง การขาดความรับผิดชอบ ลัทธิเสพสุขนิยม และความเสื่อมทรามทางคุณธรรม
     
      ค่านิยมเสรีภาพในสังคมไทยก็มีสภาพไม่แตกต่างจากที่นักวิชาการตะวันได้สรุปเอาไว้เพราะทั้งประชาชนธรรมดาและผู้ที่มีบทบาททางการเมืองมีการใช้เสรีภาพในทางที่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อสังคมอย่างมากมายในชีวิตประจำวัน เช่น เยาวชนใช้เสรีภาพทางเพศจนเกินขอบเขตก่อให้เกิดปัญหาการทำแท้งและการมีบุตรโดยไม่ทราบว่าใครคือบิดาเป็นจำนวนมาก หรือในทางการการเมืองมีบุคคลบางกลุ่มใช้เสรีภาพในการบิดเบือนและเผยแพร่ข้อมูลเท็จเพื่อโจมตีและทำลายชื่อเสียงของบุคคลและสถาบันหลักของสังคม
     
      ด้านค่านิยมเกี่ยวกับการใช้ระบบรัฐธรรมนูญและกฎหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่นั้น ในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย นักการเมืองผู้ใช้อำนาจมิได้ยึดค่านิยมเหล่านี้เป็นสรณะแต่ประการใด แต่มีการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของตนเอง ครอบครัวและพวกพ้องเป็นหลัก เช่นการใช้ระเบียบแต่งตั้งคนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล ศาลรัฐธรรมนูญหรือรัฐสภา หรือการทุจริตประพฤติมิชอบที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย การบริหารและการปฏิบัติที่มีรากฐานจากค่านิยมเหล่านี้ย่อมเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นการสร้างค่านิยมเรื่องนี้ให้เหมาะสมยิ่งขึ้นจึงจำเป็นต้องเน้นมิติ “การใช้อำนาจ รัฐธรรมนูญ กฎหมายและระเบียบเพื่อประโยชน์ของสังคมและคนส่วนใหญ่ให้มากขึ้น”
     
      สำหรับกรณีการปฏิวัติฝรั่งเศสได้ให้ความสำคัญกับค่านิยมความเสมอภาคและอำนาจอธิปไตยของปวงชน(popular sovereignty) ซึ่งเน้นความเสมอภาคในอำนาจการปกครองตนเองของประชาชน และการใช้อำนาจอธิปไตยจักต้องดำเนินการในนามของประชาชน ค่านิยมความเสมอภาคในภายหลังได้มีการพัฒนาและขยายความเป็นเรื่องหลักสองเรื่อง คือ ความเสมอภาคในโอกาส(equality of opportunity) และความเสมอภาคของเงื่อนไข(equality of condition)
     
      ความเสมอภาคในโอกาสเป็นค่านิยมที่ให้ความสำคัญกับ ความเท่าเทียมของปัจเจกชนแต่ละคนที่เป็นพลเมืองพึงได้รับโอกาสในการบริหารรัฐ การใช้ทรัพยากรของรัฐ และการได้รับบริการจากรัฐ อย่างไรก็ตามในสังคมมีสถานการณ์ซับซ้อนซึ่งมีข้อเท็จจริงหลายประการที่แสดงว่า โอกาสของบุคลหรือกลุ่มคนไม่เท่าเทียมกันเพราะมีความไม่เท่าเทียมทั้งแต่เริ่มต้น บางคนเกิดมาอยู่ในตระกูลร่ำรวยและมีทรัพย์สินย่อมมีโอกาสในการกู้เงินจากธนาคารมากกว่าคนไร้ทรัพย์สิน หรือคนที่เป็นเครือญาตินักการเมืองย่อมมีโอกาสได้รับสัมปทานในการใช้ทรัพยากรของรัฐมากกว่าบุคคลทั่วไป และย่อมมีโอกาสในการได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา ผู้ชำนาญการ และเลขานุการประจำกรรมาธิการของรัฐสภามากกว่าประชาชนทั่วไป สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ บุคคลสำคัญในสังคมไทยระดับประธานรัฐสภาตีความความไม่เสมอภาคว่าเป็น “ความอิจฉาริษยา ไม่อยากให้ใครได้ดี”
     
      ด้วยเหตุที่ความเสมอภาคในโอกาสยังมีจุดอ่อนดังที่กล่าวมา จึงได้มีการนำเสนอหลักของความเสมอภาคในเงื่อนไขขึ้นมาเสริม เพราะการที่บุคคลจะใช้โอกาสใดที่ตนเองมีอยู่ได้นั้นก็ต้องมีความพร้อมในเรื่องของเงื่อนแห่งการใช้ หากเงื่อนไขไม่พร้อมก็ย่อมยากที่จะใช้โอกาสที่ตนเองมีอยู่ได้ เมื่อไม่สามารถใช้โอกาสความเสมอภาคที่แท้จริงจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้
     
      ความเสมอภาคของเงื่อนไขเป็นสิ่งที่รัฐบาลและสังคมต้องสร้างขึ้นมาเพื่อให้บุคคลมีความพร้อมในการใช้โอกาส การลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน โดยการใช้นโยบายการพัฒนาที่เน้นการกระจายรายได้ และการสร้างระบบสวัสดิการทางสังคม ตลอดจนการสร้างมาตรการและเงื่อนไขต่างๆที่เอื้ออำนวยต่อการใช้โอกาสจึงเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความเสมอภาค
     
      ในสังคมไทยการตีความเรื่องความเสมอภาคหรือความเท่าเทียมของนักวิชาการและกลุ่มการเมืองเสื้อแดงมีลักษณะที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ทางการเมืองของพวกตนเองเป็นหลัก โดยพิจารณาความเท่าเทียมแบบเสี่ยงเสี้ยวและฉาบฉวย รวมทั้งใช้วาทกรรม “สองมาตรฐาน” อย่างเหมารวมไปทุกเรื่อง โดยขาดการจำแนกแยกแยะและไตร่ตรองว่าแต่ละเรื่องนั้นมีเงื่อนไขที่ก่อเกิดและพัฒนาแตกต่างกัน
     
      ตัวอย่างการสร้างค่านิยมความเสมอภาคแบบบิดเบือนและบั่นทอนประชาธิปไตยที่มีการเผยแพร่ในกลุ่มของมวลชนเสื้อแดงที่เห็นชัดมีอยู่สองเรื่องหลัก เรื่องแรกคือ การชุมนุมประท้วงรัฐบาล พวกเขาเชื่อว่ารัฐบาลกระทำไม่เท่าเทียมกันในการจัดการกับผู้ชุมนุม โดยใช้ความเด็ดขาดกับผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง และไม่ดำเนินการใดๆกับกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งที่โดยความเป็นจริงแล้วการชุมนุมของเสื้อแดงและการชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นการชุมนุมที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
     
      การชุมนุมของเสื้อแดงเป็นการชุมนุมที่มีความรุนแรง มีการสะสมอาวุธ มีการยึดอาวุธของทางราชการ มีการเผาเมือง ทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยอาวุธสงคราม และมีกองกำลังก่อการร้ายให้การสนับสนุน ขณะที่การชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นการชุมนุมอย่างสันติปราศจากความรุนแรง ดังนั้นเมื่อเงื่อนไขแตกต่างกัน วิธีการในการปฏิบัติของรัฐก็ย่อมแตกต่างกันซึ่งเป็นเรื่องที่ชอบด้วยเหตุผลแล้ว กลุ่มใดที่มีแนวโน้มสร้างความรุนแรงและทำลายสังคม รัฐก็ย่อมมีความชอบธรรมในการใช้อำนาจเพื่อให้สังคมเกิดความสงบและมีเสถียรภาพกลับขึ้นมาใหม่
     
      กรณีที่สองเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง สิ่งที่กลุ่มเสื้อแดงต้องการคือ ให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนกับที่เคยยุบพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชน นัยของเรื่องนี้คือเมื่อใครถูกฟ้องเรื่องอะไรแล้วสิ่งที่พวกเขาคิดคือผลลัพธ์ที่ออกมาต้องเท่าเทียมกัน โดยมิได้ดูถึงเงื่อนไขและเหตุของการฟ้องแต่ประการใด สิ่งนี้เป็นค่านิยมความเสมอภาคที่ขบวนการเสื้อแดงสร้างขึ้นมาในกลุ่มมวลชนของพวกเขา
     
      กล่าวโดยสรุปสังคมไทยจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขค่านิยมกลายพันธุ์ที่บ่อนทำลายสังคมอย่างเร่งด่วน และต้องส่งเสริมให้มีการสร้างค่านิยมประชาธิปไตยที่สอดคล้องกับบริบทวัฒนธรรมและมีทิศทางในการสร้างสรรค์สังคมให้มีคุณภาพ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""







ไม่ค่อยมีเวลาแวะมาดูกระทู้ตัวเอง....ที่มีคนคลั่งไคล้...แวะเวียนมาอ่านฉันท์
อ่านกลอนที่ใช่มือเขียนไม่ขาดสาย....ไม่เลวเลย..กับการจุดประทัดโยนใส่เล้าไก่ขนแดงงวดนี้....5555


บทนี้เขียนไว้พักหนึ่งแล้ว....

เอามาให้อ่าน...ลองใช้ตีนเขียนดูบ้าง


O ฐุย..! ! อุดมการณ์เพื่อชาติ..!? O

O นั่นภาพ-การเผาเมืองที่เบื้องหน้า-
การเข่นฆ่าหมู่โจร, ไฟโชนแสง
ทั้งตึกใหญ่ไฟฟอน..อันร้อนแดง-
พร้อมควันพลุ่งเป็นแผงทิ่มแทงตา

O ท่ามกลางคำสับปลับ..ก็รับรู้-
มีบางผู้ที่เห็นถูกเข่นฆ่า
ตึกริมทางถูกไฟสุมไหม้..คา-
ฝีปากกล้าผายลมอุดมการณ์ !

O บ้างหลบลี้หนีคุก..หางจุกตูด-
หลังจากพูดปาวปาว..ทำห้าวหาญ
ผายลมโอ่วาทกรรมอย่างชำนาญ
ก่อนหมอบคลานหลบหนี..สุดชีวิต

O ทิ้งเพื่อนให้นอนคุก..อย่างทุกข์เข็ญ
ก่อนซ่อนเร้นหรุบหัว..ด้วยกลัวผิด
ปิดถนน..เผาตึก..เขา-นึกคิด-
ว่าคือสิทธิ์ตามระบอบ..อันชอบธรรม ?

O บัดนี้..คนรู้เช่นเขาเห็นชาติ
เมื่อหมู่ทาสท้ารบให้ขบขำ
มีเรื่องเงินบริจาค..เป็นฉากนำ
พร้อมเรื่องต่ำทรามช้า..บรรดามี

O สู้แล้วรวย..เสียงแจ้วเขาแว่วว่า-
ถูกสามช่าเก็บกัก..อยู่สักที่
หลายสิบล้าน..เงินผันเข้าบัญชี-
หมู่ญาติพี่น้องเขา..โคตรเหง้านั้น ?

O โอ..เรียกร้องสังคมอุดมการณ์
เพียงเงินผ่านมือไป..ก็ไหวหวั่น
ลูกชาวบ้านธรรมดา..เขาว่ากัน-
บัดนี้มันร่ำรวย..ไปด้วยเงิน

O อาชีพการประท้วง..ในช่วงหลัง
ให้คนฝังฝากตัว..ไม่กลัวเขิน
ที่ผ่านมือนับเถิด..แสนเพลิดเพลิน
คือเม็ดเงินล้างถิ่น..ซื้อวิญญาณ

O จะร่วมล้มอำมาตย์แห่งชาตินี้
ร่วมบัตรพลีชีวาตม์อย่างอาจหาญ
วันนี้เห็นชาติพันธุ์..เผยสันดาน-
ความดิบด้านเถื่อนถ่อย..ให้พลอยตะลึง !

O ตาถลนถลึงอยู่..เสียงขู่เข็น
ทำแค่นเค้นเสียงไปว่า..ใจถึง-
ต้องเจอกันให้รู้..ว่ากู, ม-อึง
เดี่ยวกันหนึ่งต่อหนึ่ง..อย่าพึ่งใคร ?

O ตาถลนถลึงอยู่..ท้าสู้กัน
ลืมหมดสิ้นความฝัน..เผ่าพันธุ์ไพร่ ?
ที่คิดโค่นอำมาตย์ - ต้องชาติใด-
จึงสู้ได้..เล่าสู..อยากรู้จริง

O เมื่อเม็ดเงินไม่มา..ก้าวขายาก
ต้องลำบากตรากตรำ..เจ็บช้ำยิ่ง
ยามนอนตากน้ำค้างราวค่าง..ลิง
ม-อึงพักพิงห้องอยู่..เลิศหรูล้ำ

O นี่มันสองมาตรฐาน..สันดานเอ๋ย
กูนอนเกยก่ายขา..กันคลาคล่ำ
ม-งนอนห้องฉ่ำเย็น..มือเคล้นคลำ-
นวดหูด..ฮำ...ผ่อนคลายสบายตัว

O เห็นแตกกันเป็นเสี่ยง..แต่เพียงเริ่ม
เคยเคลิบเคลิ้มตามเต้นก็เห็น..ทั่ว
ที่ผ่านมาเพียง..เขลา..กับ..เมามัว-
คอยหยอกยั่วเย้ากัน..เท่านั้นเอง

O เห็นใช่ไหม..ไฟควันเคยผันพลุ่ง
คืนยันรุ่ง..ให้ตรอง..ให้มองเพ่ง
เกิดจากความหม่นมัว..ในตัวเอง-
ที่คร่ำเคร่งขายสิ้น..จิตวิญญาณ

O ขบวนการเพื่อประชาธิปไตย
ย่อมมิใช่แนวทาง..เพื่อล้างผลาญ
หรือป้ายสีกล่าวหา..ทำสามานย์-
ร่วมก่อการร้าย..ฆ่า..ชีวาชน

O แว่วเสียงข่มขู่กัน..ดังลั่นเมือง
อย่างโขเขื่อง..โดยทาสของชาติฉล
บอกว่า..แนวสับปลับ..ใกล้อับจน
ถึงดิ้นรนให้ตาย..ก็-พ่ายแพ้ !


เชื่อเหอะ...สูเอย...หมดหวังอย่าไปเพ้อฝันถึงวันชื่นคืนสุขเลย....
โลกมันหมุนไปหลายรอบแล้ว....มัวดักดานอยู่กับอดีตกันอยู่ได้...
เฮ้อ...


จะก่อหวดใหม่ที่อยุธยา....เวรกรรมน้ำดันท่วม....จนไม่เป็นข่าว !

โฟนอินจะปลอบใจคนโคราชก็ไม่มี..หายจ้อยไปกับน้ำท่า.....!

โอ๊ย...กลุ่มจาย...


...


วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

O รองเรืองเมลืองชุติพิจิตร
ก-ละ-พิศพิมานบน
โล่งลิบระยิบ, ทิพะสถล-
ดุจะหล่น..ละลิ่วรอ

O เจดีย์, พิถีวัตระประพฤติ
จิตะยึดและยกยอ
โมหันธ์ถวัลยะ ฤ พอ-
คณะขอจะอาจขืน ?

O บุญบาปและลาภขณะประนอม-
บทะย้อม ฤ อาจยืน-
หยัดจิตะคิดพิริยะฝืน-
ระอุตื่น ณ ในตน

O เห็นแต่จะแผ่วุฒิวิภาค
อติพากยะเพียบพล
กล่อมขวัญ, สวรรค์ก็อนุสน-
ธิพิกลพิการสอน

O บุญบาปกระหนาบพิษะกระหน่ำ
ก็ระส่ำระสายตอน
ชาติภพตระหลบอุระสะท้อน
ฤ จะผ่อนพลังหลง

O แว่วเสียงก็เพียงจะเยาะจะเย้ย-
มรรคะเอย..ฤ แอบองค์
ไป่ทอดตลอดระยะ, บ สง-
เคราะหะบงกะชาติบัว

O พรรณนาเหมาะสาวกะจะรู้
ธรรมะตู่..ก็เป็นตัว
โอภาสจะพาดภวะสลัว
ฤ เยาะยั่วและพร้อมหยัน ?

O ไตรรัตน์สมรรถพละ ฤ ฉุด
นยะพุทธะรัดพัน-
จิตสู่ประตูอริยะนั้น
ทะนุนันทิรูปนาม

O โดยภาษประกาศพระชินวร
ระบุสอนระบิลความ
ต้นกลางลุปลาย..วุฒิพิราม
ยุติทราม บ สืบสาย

O โอ หนอ ฤ พอจิตะขจัด
กิจะวัตระวุ่นวาย
ท่วงทีพจีนยะสยาย
บุญะถ่ายสิทั่วถึง

O กราบหมอบ ฤ ตอบมุหะจริต
มุประดิษฐะเพื่อดึง-
สายตาประดา..พิศะจะซึ้ง-
บทะซึ่งจะคอยสรรค์

O แบบบุญจะหนุนภพะประสาร-
วิญ(ะ)ญาณะค้ำยัน
ศรัทธาสถาปนะสวรร-
คะถวัลยะในทรวง

O บิดเบือนเขยื้อนมุสะสยาย
เกาะอุบายะบำบวง-
ศักดิ์สิทธิ์และฤทธิ์อุตริปวง
นิระห่วงจะเสียหาย

O บัวต่ำเพราะสัมผัสะกะตม
ฤ จะชม..ระลมชาย
สบทราบประภาพสุริยะฉาย-
รุจิบ่ายประโลมบัว ?

O โดยตรรกและหลักอริยะวาท
อธิชาติชมชัว
เพื่อตัดขจัดมุหะระรัว-
อัตะกลั้ว, ปลาตการณ์

O โดยตรรกและมรรคะปฏิบัติ
เหมาะ, สมรรถะดวงมาน
เงื่อนเหตุ..กิเลศ..สมะสมาน
จะทะยาน - ก็อาจยั้ง

O เดี๋ยวนี้..และที่ขณะระลึก
สติตรึกและตรองฟัง
โลกนี้..และที่ระยะจะหวัง
ทิฐิตั้งประคองตน

O เท่านี้..พิถีจิตะประพฤติ
เหมาะจะยึดและตามยล
เพียงใด..เพราะใจนะอนุสน-
ธิกะลมระลอกสาย

O เพียงนั้น..จะบันดละสมา-
ธิสภาวะในกาย
เงียบงาม ณ ยาม วตะระบาย
สุขะศานติซ่านซ้อน

O ปลงเปลื้องละเมืองก-บิ-ล-พัสดุ์
พระ-เลาะลัดพเนจร
ป่นเหตุกิเลศ..ประทุษะถอน-
ทุขะรอนปลาตร้าง

O กิ่งโพธิ์เพราะโผ..วตะระลอก-
ระดะหยอก-ก็ไกว..กาง
ไหวสั่นกระนั้น..เฉพาะจะขวาง-
และมล้างพลังลม

O คือใจพิจัยธรรมะสภาพ
ระบุทราบกะอารมณ์
รู้ครวญชนวนทุขะระทม
พิษะถมกระทบถึง

O ที่ไหน..ไสวเพราะพลุลุแล่น-
รุจิแสนยะตราตรึง
ที่นั้น..จะฝันสุญะระรึง
ขณะหนึ่ง บ พึงหมาย

O ที่ไหน..พิสัยชนะสมา-
คมะวาระวุ่นวาย
ที่สุด..วิมุติภวะจะหมาย-
เฉพาะขายกะหมู่เขลา !

O แว่วดัง..ก็สังคิตะประดิษฐ์
นิรมิตะมอมเมา-
จิตหลง..มุสงเคราะหะและเร้า-
สติเฝ้าประโลมฝัน

O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี
พิเราะคีตะล้อมพัน-
ต้นธาตุ..พระชาติพระอรหันต์
ละสวรรคะรับเสียง !

O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี
เสนาะคีตะคล้อยเคียง-
ต้นธรรม..เหมาะสัมผัสะเจรียง-
พฤติเบี่ยงประโคมบุญ !

O ซอสี..ก็สีปะเหลาะประโลม
ทะนุโสมนัส, จุน-
เจือวัตรวิบัติกระแดะและหนุน-
ธนะ-ทุน..นะคือ..ธรรม !
.
.
.








































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































































แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 53 21:28:55

แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 53 10:18:00

แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 53 10:10:53

แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 53 10:04:33

 
 

จากคุณ : สดายุ...
เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 53 20:49:50




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com