ความคิดเห็นที่ 1 กระทู้เดิม อาศรมชาวโคลง ๒๒๕. คน ไทย ใต้ ระเบิด http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9681036/W9681036.html จากคุณ : xers เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 53 23:18:01

ความคิดเห็นที่ 2 06.28 น. ๏ ตะวันหลับ ขับรำกลอนนำก่อน   ตะวันรอน คอนรำกลับน้ำหนาว กลอนกันโคลง ลงสลักมั่นสักคราว โกงกันคลอน อ่อนร้าวแลหนาวใจ ๚ะ๛ ๏ น้ำมากชาวบ้านนอก ....... นอนเขลง หนาวมากช้ำรำเพลง .......... พร่ำสะอื้น   ตะวันตื่นลื่นโคลงเคลง ....... ขลุกขลุ่ย ตะวันเต่งเร่งโคลงครื้น ........ ค่ำย้อนคืนรัง ๚ะ๛ (งิงิ) 07.07 น. จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 07:11:13

ความคิดเห็นที่ 3 ...                  ๏ น้ำ        ขึ้นรีบตักไว้             โดยพลัน                  ลด           แลกแจกแถมกัน      ทั่วหน้า                  ตอ           "lair" ไม่เลือกสรร    ปันส่วน                  ผุด           เกิดเพื่อขายค้า         ตลาดค้าประชาชนฯ ... สวัสดี ขอรับ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวอาศรมฯทุกท่าน น้ำ....หนาว.... ยังไม่มี มีแต่ "น้ำลด" และ "ตอผุด" มาฝากก่อนแล้วกัน ขอรับ แหะ แหะ ไม่ค่อยสบาย กาย และ ใจ คงต้องหาเวลาไป "ดูใจ" ให้มากขึ้นแล้วล่ะ ขอรับ แหะ แหะ สวัสดี ขอรับ มาแล้วไปแล้ว ไปล่ะ ชะแวบ ปล.๑ แก้ไข คำที่ตาม "ตอ" ไม่ผ่าน แหะ แหะ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 12:52:05 จากคุณ : นายทิวา เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 12:50:01

ความคิดเห็นที่ 4 มาขอบคุณท่านผู้มากู้อนาคตโคลง ผมยังเขินเมื่อนึกว่า จำฉันทลักษณ์โคลงพลาด แต่มาดูแลอาศรมอยู่นานหลายเพลา นึกแล้วยังยิ้มแห้งแห้งอยู่เลย ขอบคุณจริงจริงครับ เอาภาพหน้าแตกมาฝากขอรับ โคลน ถล่ม เชิง เขา บ้าน เรา น้ำ ท่วม แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 14:49:30 จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 14:47:29

ความคิดเห็นที่ 5 น้ำที่เคยเย็นใสมาไหลเชี่ยว ชั่วประเดี๋ยวยะเยือกใจภัยถั่งโถม ธรรมชาติปรับสมดุลไม่โอ้โลม ใช้พลังหักโหมจมแผ่นดิน ขยะน้อยลอยเกลื่อนเปื้อนสายน้ำ ไม่ชอกช้ำเท่าคนใกล้ที่ใจหิน ยามทุกข์ยากลำบากน้ำตาริน ฉวยโอกาสหากินไม่สิ้นอาย จากคุณ : ลำน้ำ C เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 15:31:54

ความคิดเห็นที่ 6 น้ำป่ามาถาโถมโอบพสุธา นภาเลื่อนลอยต่ำฟ้าฉ่ำฝน เกินบรรพตเก็บกักไหลสู่มวลชน น้ำตาล้นอาบแก้มหมดแล้วเม่เอย ถามไถ่ทางไหนล้วนหมดสิ้น แดดิ้นหมดหวังฝั่งฝัน หมดแล้วสิ้นซึ่งทรัพย์พลัน ฟ้าผู้ลงธรรไม่หันปราณี น้ำใจไทยไหลหลั่งทุกทิศ ชีวิตเคยหมดสิ้นมีหวัง เพื่อนพ้องน้องไทยไม่ทิ้งกัน สมดั่งชาติไทย "รู้รักสามัคคี" จากคุณ : pretend_man (pretend_man) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 19:31:55

ความคิดเห็นที่ 7 20.05 น. ๏ โคลน - โล่ง โคลงโล้นสิ ........ แสงแรก (ประดับดิน) ถล่ม - หลัก ทะลักหล่มแตก ....... ต่างชี้ เชิง - ป้อง ช่องเปิงแปลก ........... เป็นเรื่อง เขา - ช่อง ของเช่านี้ ................. หนักเจ้าหนี้บาน ๏ บ้าน - พัง บังพล่านแพ้ ........... พลังลม เรา - แย่ แลเหย้าตม ................ ติดใต้ น้ำ - ซัด นัดซ้ำซม ................... ซานอยู่ ท่วม - นิด ทิดน่วมไห้ ................ หื่นน้ำหนาวซี   ๚ะ๛ (งิงิ) 20.40 น. จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 20:43:03

ความคิดเห็นที่ 8 วิถีชีวิตชาวน้ำของชนชาติไทย จะทิ้งไปได้อย่างไร จงนำกลับคืนมา ภาพล่าสุดสองฝั่งถนนไปสามชุก สุพรรณ วันอาทิตย์ ๗ พิจิก ห้าสาม จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 10:48:25

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีครับทุกท่าน + สวัสดีพี่นกฯ 2 7 ไม่ได้แวะมาเสียนานสบายดีนะครับ ยังมั่นคงในคำผวนจริงๆ ๏ ลอย คำลงร่วมร้อย      บทโคลง คอ ขับสัมผัสโยง           เสนาะร้อง รอ ดึกเคาะเกราะโมง      ยินแว่ว คอย เล่นเป็นเพื่อนน้อง   พี่ป้าน้าอา ฯ ไม่ได้เขียนนานแล้ว ฝืดๆ ขอรับ + สวัสดีพี่ทิวา 3 ๏ น้ำ  ลดตอผุดไม้                ผุพัง ขึ้น  อยู่กับพลัง                 พลิกลิ้น รีบ  กลบเกลื่อนหมายฝัง      ตอโผล่ ตัก  ใส่ปฎิกูลดิ้น                สะบัดป้ายโดนตัว ฯ + สวัสดีคุณแสงแรกฯ 4 การกู้ต้องอาศัยคนจำนวนมากช่วยกัน ประหยัดแรงกว่าครับ แหะๆ ส่วนเรื่องคดีนั้นผมก็ก่อไว้ที่นี่เยอะเหมือนกันครับ 55 ขอเติมกระทู้น่อครับ ๏ โคลน  หมักจากต่างด้าว   แดนไกล ถล่ม  กระเป๋าสาวไทย        หมดเบี้ย เชิง  เขาอยู่บ่ไกล              ใยบ่ หมักนา เขา  หมักขายยั้วเยี้ย           เก็บเบี้ยเราบาน ฮาฮา ๏ บ้าน  เรามีทรัพย์ล้น         เรียงราย เรา  สินิ่งดูดาย                  ทรัพย์เกลี้ยง น้ำ  ใจพวกเจ้านาย             ยิ่งเหือด ท่วม  เอ่อคือน้ำเลี้ยง           ระบบฉ้อการเมือง ฯ + สวัสดีคุณลำน้ำ C 5 สบายดีนะครับ ไม่ค่อยได้เข้ามาเลยผม ๐ เป็นหูตาสอดส่องพวกสนิม เกาะกินจนอิ่มยังเอาหน้า เอาของบริจาคมาติดตรา ติดชื่อถือว่าเป็นตนทำ... จะเหยียบความรู้สึกไปถึงไหน ทุกใจให้แล้วจึงโดนย่ำ มิอาจลงโทษให้เป็นธรรม ได้แต่เก็บงำทำตาปรอย + สวัสดีคุณpretend_man 6 น้ำป่าน้ำใจล้วนหลั่งท่วม ทุกข์ล้นสุขร่วมในครั้งนี้ โอกาสหายากในหลายปี สามัคคีคงเห็นให้เด่นชัด + สวัสดีคุณtiki ขอบคุณที่นำภาพมาร่วมแบ่งปัน น้ำท่วมถึงเกือบทุกที่เลยครับ ใต้อีสานกลางเหนือ จากคุณ : xers เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 15:06:44

ความคิดเห็นที่ 10 น้ำกำลังจะไป  หนาวกำลังจะมา ขอฝากช่วยประชาสัมพันธ์สำหรับโรงพยาบาลอุ้มผางด้วยนะคะ  ^___^ โรงพยาบาล อุ้มผาง ย่างสู่หนาว ก็ถึงคราว ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเขา ต้องการมาก ผ้าห่ม เพื่อบรรเทา ขอพวกเรา ช่วยบ้าง สร้างความดี 055 561 270 - 2 ขอท่านลอง ติดต่อได้ ในวันนี้ หรือจะโทร หาผอ.อย่ารอรี อยากให้มี บางใคร ได้ทำทาน คุณภาพ ของผ้า ที่หาได้ จัดส่งให้ ทันที ที่ประสาน ปัจจัยส่ง ไปถึง โรงพยาบาล เพียงไม่นาน ได้สิ่งของ ตามต้องการ ในบ้านป่า คนป่วย ขอช่วยหน่อย อยู่บนดอย เหน็บหนาว เขาส่งสาร ทั้งป่วยไข้ ไร้ผ้าห่ม ทนทรมาน ถิ่นกันดาร ขัดสน จนเศร้าใจ ต้องเสาะหา มาบรรเทา เจ้าเหมันต์ กว่าจะผ่าน คืนวัน อันหม่นไหม้ หากต้องการ รู้ว่า หนาวเพียงใด ขอเชิญไป เที่ยวน้ำตก ทีลอซู เดินทางสู่ ยอดดอย ลอยบนฟ้า จะรู้ว่า ความหนาว ทำอดสู มีคนป่วย มากมาย ให้ตรองดู เขาจะอยู่ อย่างไร ในเหมันต์  ? เนื่องด้วยหนูหิ่ง ฯ รู้จากพี่ปรียา  เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลอุ้มผาง  ว่าปีนี้อากาศจะหนาวมาก และผ้าห่มของทางโรงพยาบาลมีไม่เพียงพอกับผู้ป่วย  จึงต้องการผ้าห่มจำนวนมาก   ทางโรงพยาบาลได้ติดต่อผ้าห่มที่ซักแล้วไม่เป็นขุยจากร้านเรียบร้อยแล้ว  ในราคาผืนละ 140.- หากท่านใดสนใจจะบริจาคเพื่อเป็นทานให้แก่ผู้ป่วยของโรงพยาบาล  สามารถติดต่อได้โดยตรง ที่พี่ปรียา  โทร. 08 - 7042 - 4733 พี่ปรียาบอกว่าผ้าบางร้านไม่ได้มาตรฐาน  เวลาเข้าเครื่องซักจะเปื่อยยุ่ย  ใช้ได้ไม่นาน แต่ร้านที่ทางโรงพยาบาลหาได้ราคาผืนละ 140.- ถ้าต้องการใบกำกับภาษีจะตกราคา 150.- จะสั่งซื้อจากทางร้านโดยตรงก็ได้  (โทร.ถามพี่ปรียาได้เลยค่ะว่าร้านอะไร จ่ายเงินให้ที่ร้าน  แล้วร้านจะส่งผ้าห่มให้ร.พ.เลยค่ะ) บัญชีของโรงพยาบาลอุ้มผาง ธนาคารอาคารสงเคราะห์  สาขาอุ้มผาง ชื่อบัญชี  เงินบำรุงโรงพยาบาลอุ้มผาง (บริจาค) เลขที่บัญชี 581 - 2 - 00139 - 6 จากคุณ : หิ่งห้อยน้อยใจ เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 20:39:55

ความคิดเห็นที่ 11 ... ธารหนาว ... ................... ... คือสายน้ำผู้สร้าง ... ทางชีวิต บ้างลิขิตโชคชะตาพาพลิกผัน จากสาขาน้อยใหญ่ไหลรวมกัน เชื่อมสัมพันธ์บริสุทธิ์ดุจวงจร ... ...เป็นวงจรชีวิต ... จิตสำนึก ที่ผนึกหัวใจให้ผันผ่อน ปรับตัวตาม... ความปรวนแปร ... กระแสจร ไหลหลากย้อนอย่างเชี่ยวกราก ... ยากพิทักษ์ ... ... คือสายน้ำผู้กลั่นแกล้ง ... สุดแรงเรี่ยว หลาก...พันเกลียวชีวิตวิกฤติหนัก ในวงล้อมมรสุมสุ่มเสี่ยงนัก ต้องประสบอุปสรรค ... จักวายปราณ ... ... เมื่อวงจรชีวิต ... ผิดธรรมชาติ จนมิอาจรักษ์ชีวินและถิ่นฐาน สายน้ำหลาก ... พรากฝัน ... อันตรธาน ย่อมไหลบ่า ... อุปาทาน ... พล่าผลาญใจ ... ... แม้นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดยากขัดขืน ยังหาญกล้าฝ่าฝืนว่ายืนไหว เพราะชีพต้องดำรงคงสืบไป ด้วยแรงใจ ... ความหวัง ... ทุกครั้งคราว ... ... พลันสายธารน้ำใจ...ไหลท่วมท้น ก็หลากสู่ ... ผู้ทุกข์ทน...บนธารหนาว ช่วยบรรเทาทุกข์โศกวิโยคราว คลายรวดร้าวเร้ารุม ... สุมธรณี ... ... คือดวงใจใสสะอาด ... ดุจธาตุน้ำ แสนชุ่มฉ่ำเยือกเย็นเป็นวิถี ความอุดมสมบูรณ์เพิ่มพูนดี ด้วยน้ำใจไมตรีมีต่อกัน ... ...จากใต้หล้าบาดาลจรดม่านเมฆ ร่วมแรงเสก ... วิมานสืบสานฝัน คือสายน้ำผู้สร้าง ... วางเดิมพัน สายสัมพันธ์แห่งชีวิตและจิตใจ ... . . . # ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ # จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 00:22:56

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีค่ะคุณxers และพี่ทุกคน น้ำนองท่วมไม่ทันจะสรรค์ฝั่ง หมดกำลังดูทุกข์เข้ารุกไล่ ข้าวของหล่นปนเปร่อนเร่ไกล ท่ามชีพไหวใจกลับดุจดับลง น้ำท่วมทั่วทุกข์หมองมาจ้องจิต เหลือเพียงสิทธิ์เศษฝันช่วยกั้นหลง โหยไห้เก็บขมขื่นยากยืนปลง ดาษด่าวดงล้นหลามยากข้ามไป เมื่อน้ำลดหยดร้าวยังก้าวเทียบ รอยเย็นเยียบกระทบเกินหลบไหว หนาวชวนร้างอ้าอวดช่างปวดไว ทิ่มแทงไปทั่วอณูเหนือรู้ราน เสียงหัวใจรัวร้อนสะท้อนโศก มองหล้าโลกพลิกแปรใช่แค่ประหาร ระดมระทมก่อเจ็บจำเก็บการณ์ หวังกระแสเผาผ่านอย่าบานตรม จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 21:40:49

ความคิดเห็นที่ 13 น้ำหนาวขาวประหลาดมิอาจแต้ม ที่ซอกแก้มกลีบแก้วผกายหอม โอ้น้อยใจไยเล่าเจ้ามิยอม ไห้พี่อ้อมขอบสวรรค์วันเบาๆ สวัสดีครับ คุณเซอร์ แวะมาเยี่ยมได้นิดเดี๋ยวจะเดินทางขึ้นอีสาน แสงแรก   ในอาศรมนี้มีแต่เพื่อนฝูงพี่น้อง ที่เรามาร่วมกันเรียนรู้ คัมภีร์เองก็ไม่มีใครเทียบเรื่อง หลงลืม  เข้าใจผิด ไว้เจอกันใหม่ครับ จากคุณ : คัมภีร์โบราณ เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 03:13:08

ความคิดเห็นที่ 14 น้ำ    ใดใครบอกได้                   ว่าหนาว น้ำ    แห่งหิมาลัยพราว                ยากสู้ น้ำ    หิมะโพลนขาว                    แค่เล็ก น้อยแฮ น้ำ    อ่างอาบเมิยรู้                     นั่นแล้สุดหนาว แวะมาพรมน้ำหนาวด้วยคนครับ ไล่ความเครียดกันหน่อย ชะแว้บ จากคุณ : แดงน้อย ณ อาศรมฯ (Little Red) เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 23:58:30

ความคิดเห็นที่ 15 11.01 น. ๏ อำ-พี่ อีพร่ำเพ้อ ........... เพียงอำ เภอ-น่าน พาลเหน่อคำ ..... ขับป้อน น้ำ-ปาด นาฎปล้ำดำ ........ ดูดดื่ม หนาว-สั่่น นั่นสาวค้อน ...... ค่าน้ำแพงโวย ๏ อ้าว-โกย โอยก้าวแปะ ... โป้งโรง-ตึ๊งแล อาบ-นวด อวดนาบโกง ..... เกาะเกลี้ยง น้ำ-ซับ นับซ้ำโหรง .......... เหรงรูด-บัตรฤๅ ร้อน-ทรัพย์ รับซ้อนเดี้ยง ... ดอกเีบี้ยจมหู ๏ นอน-อู่ หนูอ่อนอ้อน ..... เอาใจ อ่าง-รับ อับร่างไกว .......... กวักเจ้า   ฝัก-ใช่ ไกว่ชักใด ............ ชักดาบ บัว-เต่ง เบ่งตัวเร้า ............ เร่งให้หาวนอน-หอน now หนาวทุกคืนแลนา บารนี ๚ะ๛ (งิงิ) 11.38 น. แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 53 11:44:15 จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:40:30

ความคิดเห็นที่ 16 ... โลกแห่งความฝัน ... ............................. ...ให้โลกร้อน ... อ่อนล้า ... อย่างสาสม เสี้ยวอารมณ์ ... ตอบสนอง ... พ้องแสงสี ทั้งม่านหมอก ... ดอกไม้ ... สายนที พื้นปฐพี ... ทั่วถ้วน ... ล้วนสีเทา ... ฟ้าจำแลงแสงวัน...พลันมัวหม่น ทุกแห่งหน ... อึมครึมดูซึมเศร้า บรรยากาศเคลือบแคลง ... จากแสงเงา พาลให้เหงา ... นิ่งงัน ... หวั่นโลกา ... จักยิ่งร้อน .. อ่อนแอ ... แปรระนาบ เสื่อมสภาพ ... แหลกสลาย ... ในไม่ช้า ถ้อยทำนาย ... คล้ายสาปสิ้น ... ทั้งวิญญา- มุ่งดาหน้า ... ท้าทาย ... หมายต่อกร .... ... ความสิ้นหวัง ... ขังเราในเงาทุกข์ นิยามสุข ... เกิดครั้ง ... หวังไถ่ถอน คืนสมดุลธรรมชาติ ...ที่ขาดตอน ลดโลกร้อน ...ทุกขณะภาวะการณ์ ! ... ... ทุกดวงใจ ... เล็งเห็นประเด็นพ้อง ฟ้าเรืองรองจรดนที ... รัศมีฉาน กลางสายหมอก .. ดอกไม้ได้เบ่งบาน อวดสีหวาน ... สรรค์สร้างอย่างกลมกลืน ... .... "มิตรภาพ"  ซาบซึ้งตรึงใจเพื่อน- ร่วมโลกเหมือน ... เสพสุข ... ร่วมทุกข์ขื่น แก้ปัญหา...เยียวยาอย่างยั่งยืน ร่วมพลิกฟื้น ... โลกสวย ... ด้วยความดี ... ...ให้โลกเรา ... หลากสีสัน ... ในวันใหม่ ปลอดดวงใจ ... เคลือบแคลงในแสงสี ทั้งม่านหมอก ... ดอกไม้ ... สายนที ร่วมวิถีดีงาม ...  ตามเวลา ... ... เป็นสิ่งดี ... หากฝันนั้นก่อเกิด โลกบรรเจิด ... ดังมุ่งมาดปรารถนา เมื่อใจผูกสัมพันธ์ ... มั่นฉันทา ชั่วชีวา ... ก็จะอยู่คู่ฟ้าดิน ... . . . # ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ # แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 53 15:59:37 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 15:57:36

ความคิดเห็นที่ 17 ..สวัสดีครับ ๏ น้ำหนาวน้ำท่วมบ้าน            น้ำหนาว สั่นอกสั่นไหวสาว                    สั่นสู้ ห่มผ้าห่มน้ำหาว                      ห่มแดด หล่อจิตหล่อกายรู้                    หล่อน้ำใจสมาน ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 08:08:27

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีค่ะคุณxers และพี่ทุกคน น้ำหนาวน้ำท่วมรู้.....................รอนรุม เหน็ดเหนื่อยยาวประชุม.............ชิดหน้า ไฟเพลิงหลบอกสุม..................เสพยั่ว ใครใคร่หลงเหว่ว้า....................วาดแล้วหลงเหลือ จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 11:42:22

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีครับทุกท่าน + สวัสดีพี่หนูหิ่งฯ 10 ๐ เหมันต์ที่ไร้ปราณี รอย่ำยีผู้คนด้วยความหนาว โอบกอดเมื่อบีบรัดแต่ละคราว เยือกเย็นปวดร้าวไปทั่วแดน... ท่านที่สนใจบริจาคผ้าห่ม เชิญติดต่อตามเบอร์โทร ในบทกลอน คห. 10 นะขอรับ                            + สวัสดีคุณพลอยฯ 11 16                            ๐ เมื่อน้ำ..แปรสภาพจากอ่อนนุ่ม                            ปรับระดับความลุ่มไปเป็นลึก                            ต้นไม้ใบหญ้าก็รู้สึก                            ถึงความคึกที่เข้าข่มอย่างคะนอง...                            ขอบคุณภาพและคำกลอน                            ที่นำมาให้ชมกันเสมอๆครับ                            พี่นกโก๊กมีผู้ท้าชิงแล้วครับ หะหะ + สวัสดีคุณญามี่ 12 18 เห็นคุณญามี่เข้ามาบ่อยๆ ช่วงที่ผมไม่ค่อยได้เข้ามา ถือครั้งนี้เป็นการทักทายอย่างเป็นทางการนะครับ ๐ ขอขวัญมาอยู่เหย้า      เรือนเดิม ด้วยพลังที่เติม               แต่นี้ โพยภัยอย่าพิบัติเสริม      กรรมเก่า  เลยนา เรามนุษย์มิอาจชี้-           ลิขิตสร้างของสวรรค์ ฯ                            + สวัสดีป๋าคัมฯ 13                            สวัสดีครับไม่ได้เจอกันนานมากคิดถึงอยู่เสมอ                            ย้อนอ่านอาศรมครั้งที่แล้ว เห็นภาพฝีมือป๋า                            สวยมากครับ รู้สึกสวยขึ้นทุกครั้งที่นำมาลง                            ช่วงนี้ผมได้กล้องใหม่มา 1 ตัว                            หัดถ่ายอยู่เหมือนกัน สวยบ้างไม่สวยบ้าง                            อยากได้ข้อแนะนำบ้าง ถ้ามีเวลาว่างครับ                            - เคยเห็นภาพกล้องที่นำมาลง                            เป็น Cannon ใช่ไหมครับ                            เรื่องต่อกลอน ไม่ขอต่อนะครับ แตะไม่ได้ 55 .                            กลัวต่อแล้วจะติดเรทไป                            ฝีมือศัลยกรรมยังไม่ถึงขั้น                            ตกแต่งแล้วเดี๋ยวมีรอยแผลครับ หะหะ                             + สวัสดีพี่แดงน้อย 14 อ่านโคลงแล้วขำ 55 เข้าบ้านระวังสบู่ผิดกลิ่นเน้อครับ ๐ น้ำอาศัยร่างแล้ว      ระเหย น้ำเงียบและเมินเฉย    ระเรื่อยช้า น้ำที่บ่เงียบเลย          ก็ย่อม  มีนอ น้ำนั่นก็คือสิงห์จ้า       บ่ต้องชงเลยฯ                            + สวัสดีพี่นกฯ 15                                                        ๐ ดึกดื่นคืนเรียบฟ้า    ไร้ดาว                            คืนก่อนเคยสกาว        ยั่วข้า                            ดำดิ่งสู่ความหนาว       จนเจ็บ                            มิอาจเก็บใจล้า           ขื่นเข็ญ ฯ + สวัสดีพี่ศาลายา 17 อยากเปิดประเด็น เรื่องคำ ตามกลอนต้นกระทู้ "น้ำ กับบรรดาญาติและเพื่อนฝูง สระอาม ของมัน" แต่ฝีมือชำแหละแกะเกายังไม่แน่นเหมือน พี่ท่าน, ป๋าคัมฯ- และท่านอื่นๆ และความคิดขัดแย้งในตัวเองสูง หะหะ ช่วงนี้เรื่องรบกวนเข้ามากระทันหัน ทั้งเวลาและใจ (แก้ตัว) หะหะ เห็นพี่ศาลายาดูแลอาศรมก่อนนี้ได้ดีมาก อยากชวนมาเปิดประเด็นกัน ถ้าผมว่างจะแวบมาต่อด้วยขอรับ ๐ น้ำหนาว,หนาวเมื่อหน้า       ฤดูหนาว อากาศอาละวาดราว             กับน้ำ หนึ่งท่วมหนึ่งกร่อนคราว        โถมทับ ขอทุกคนข้ามพ้น                 เพทภัย ฯ ------------------------------------------------------- จากคุณ : xers เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 12:56:18

ความคิดเห็นที่ 20 หนาวก็หนาวอย่างเลี้ยง......................ไข้ขม ไหวอกหล่นลงจม................................หม่นเศร้า รอเมื่อไหร่สายลม................................พัดผ่าน ขอฝากรานจากเหย้า............................ติดพลิ้วพ้นหาย จากคุณ : ขวดแก้วสีฟ้า เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 14:22:05

ความคิดเห็นที่ 21 เพิ่งสิ้นแล้งแหนงใจกับภัยแล้ง จะกลั่นแกล้งคนไทยถึงใหนหนอ ฟ้ากระหน่ำฝนกระหนาบบาปไม่พอ น้ำท่วมท่อทะลักท้นล้นสายธาร     ดุจความวัวยังไม่หายความควายแทรก เหมันต์แตกหนาวเหนือเผื่ออิสาณ กลายเป็นภัยหนาวหนักอยู่ดักดาน แล้วชาวบ้านจะปลอดภัยเมื่อใดนี่    มันเป็นภัยใดหนาถึงคราคร่ำ ภัยแผ่ซ้ำกระหน่ำซัดแสนบัดสี มีแต่ภัยกันชั่วนาตาปี แผ่นดินนี้ทำให้หรือใครทำ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 53 23:58:42 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 53 23:56:55 จากคุณ : Cyber Sage เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 21:12:47

ความคิดเห็นที่ 22 ... สายน้ำบรรจบสร้าง       เมืองอมร ไหลเชื่อมเป็นวงจร       ชีพด้วย หัวใจแห่งนาคร            เห็นค่า น้ำเชี่ยวชนชาติม้วย      หม่นครั้งปรวนกระแส น้ำแปรวิปริตกร้าว        เกินการณ์ ทุกสิ่งจมบาดาล           ต่อหน้า ธรรมชาติแต่งตำนาน     สนองตอบ ตามเหตุปัจจัยท้า          เลือกสร้างทำลาย # ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ # จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 00:09:58

ความคิดเห็นที่ 23 08.55 น. ๏ ฟ้าเริ่มใส ไล่เสริมเริ่มใหม่จ้า เตรียมตัวมา ตามัวหมอกชัวร์หนาว ตรวจตะกร้อ ต้อกระจกตาขาว นกจ้าวหงิก จิกง่าวเข้าโรงหมอ ๏ เลือดหวานฮ่ะ ว่ะหาญกล้าวันซวย ข้าวสวยหมด สดมวยหม่ำกล้วยหนอ หวังมีทุน หมุนทีสวนมีพอ หมอรอเชือด เลือดชอชวนล่อฮา-ท่าจะหมดตูดจนได้ แลนาบารนี ๚ะ๛ (งิงิ) 09.17 น. ----------------------------------------------------------------------------------------- จาก My Blog http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=noggoge&month=11-2010&group=1&date=07&gblog=52 ----------------------------------------------------------------------------------------- วัคซีนหวัดนกเข็มที่. 13     08.07 น. (ตะวันตื่น ลื่นโคลงเคลง - ตะวันเต่ง เร่งโคลงคืน) ๏ นัดหมอ หนอมัดขึ้น ......... เขียงยก ล่อตอก ลอกต้อกระจก ....... จุกไข้ รอหน่อย (อ)ร่อยหนอนก ..... นี้เลือด หวานแล ด้วยแก็ก แดร็กกล้วยได้ ...... ฟลุคโต้สบานตะเกียง ๏ ผ่าเหนียง เพียงหน้าตื่น ...... ตาใส สุขอยู่ สู่ยุคใจ .................... แจ่มจ้า สิ้นทุกข์ สุขถิ่นไทย ............. ที่หมด ต้อกระจก ตกกะจ้อม้า .......... มั่วเม้าเจ้ามาร์ค-ดีแต่ปาก สมควรตกจากเก้าอี้นกยา บารนี ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 08.34 น. โดย: นกโก๊ก  วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:37:14 น.   ----------------------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 53 12:52:31 จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 09:19:19

ความคิดเห็นที่ 24 หยุ่มนาม ยามหนุ่มเอื้อ................บูมสาว ยามแก่ แหย่กามคาว...................ห่วยท้อ ข้อหมา ค่าหมอยาว.....................เมินจ่าย จวดเป๊บ เจ็บปวดจ้อ.....................แก่แล้วฤาตู แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 53 13:51:46 จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 13:17:06

ความคิดเห็นที่ 25 19.56 น. ๏ ที่ผวน ทวนพี่พลั้ง ........... พลาดแหล ทีพร่ำ ทำพี่แถ .................. แถกดิ้น ผวนคิด ผิดควรแล ............. รอบใหม่ เพ็ญร่วน ผวนเล่นลิ้น .......... นั่นแล้เหลวไหล ๏ สื่อไทย ใสทื่อแท้ ........... เทียมมี ต่างคิด ติดข้างฝี ................ ปากโม้ สาวหนุ่ม สุ่มหนาวหลี .......... กันแหลก   นวลผก นกผวนโล้ .............. ล่องน้ำหนาวลม ๚ะ๛ (งิงิ) 20.20 น. ----------------------------------------------------------------------------------------- จาก My Blog http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=noggoge&month=11-2010&group=1&date=07&gblog=52 ----------------------------------------------------------------------------------------- วัคซีนหวัดนกเข็มที่. 15     17.14 น. (ตะวันหลับ ขับรำกลอน - ตะวันรอน คอนรำกลับ) ๏ ไม่ว่ากัน วันกล้ากล้ากลัวกลัว รู้ตัวมา ตามัวหามจั่วเสา หลงด้นป่า ด่าป่นคนโง่เง่า นกรู้เศร้า เหล่าสู้ทู่ซี้ทำ ๏ หลงตาหวาน ตาลหวาค่าน้ำตาล เลือดหวานจ๋อย ว้อยจานทองท่านขำ นกโก๊กร่อน ก่อนโรคโขกหมานำ ไม้เท้าย่ำ ทำเหย้าเท่ารังหนู ๏ ค่ำยันเช้า เหย้าฉันมันขนำ เช้ายันค่ำ ย่ำขันมันห่างคู่ ครองอยู่บ้าน ย่านบู้บี้อยู่รู 'บ้าน'หนูตาย นายตู'บ้า'อยู่คนเดียว ๚ะ๛ (งิงิ) 17.56 น. โดย: นกโก๊ก  วันที่: 16 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:57:43 น.   ---------------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 53 20:22:42

ความคิดเห็นที่ 26 ..สวัสดีครับ คุณ xers (#19) อยากเปิดประเด็น เรื่องคำ ตามกลอนต้นกระทู้ "น้ำ กับบรรดาญาติและเพื่อนฝูง สระอาม ของมัน" แต่ฝีมือชำแหละแกะเกายังไม่แน่นเหมือน พี่ท่าน, ป๋าคัมฯ- และท่านอื่นๆ และความคิดขัดแย้งในตัวเองสูง หะหะ ช่วงนี้เรื่องรบกวนเข้ามากระทันหัน ทั้งเวลาและใจ (แก้ตัว) หะหะ เห็นพี่ศาลายาดูแลอาศรมก่อนนี้ได้ดีมาก อยากชวนมาเปิดประเด็นกัน ถ้าผมว่างจะแวบมาต่อด้วยขอรับ ๐ น้ำหนาว,หนาวเมื่อหน้า       ฤดูหนาว อากาศอาละวาดราว             กับน้ำ หนึ่งท่วมหนึ่งกร่อนคราว        โถมทับ ขอทุกคนข้ามพ้น                 เพทภัย ฯ ต้องขออภัยที่พึ่งมาตอบ เพราะไม่สบายหลายไปวัน พึ่งพอมีแรงมาเล่นเน็ต ก็เลยพึ่งเห็นว่ามีคนพาดพุง เอ๊ย พาดพิง ... เหมาเอาเป็นกำลังใจให้หายไข้มาทำงานได้ซะเลย (ฮา) ขอบคุณมากครับ "น้ำ กับบรรดาญาติและเพื่อนฝูง สระอาม ของมัน" ^ ผมพึ่งเคยได้ยินนี่แหละ แหะๆ เท่าที่อ่านมา ยังไม่เคยเจอโคลงหรือกลอนที่ "น้ำ" สัมผัสกับ "สระอาม"... ถึงแม้มันจะอ่านออกเสียงยาวว่า "น้าม" ก็เถอะ .... แต่สมัยใหม่ คงไม่ถือแล้วกะละมัง ตามทริษเดาของศาลายานั้น สระ "ใอ ไอ  เอา  อำ" มันมีความพิเศษ ของมันอยู่ คือมันถูกจัดเป็นสระเสียงสั้นทั้ง ๆ ที่มันออกเสียงยาวได้ ขณะเดียวกันพวกมันก็เป็นสระที่มีเสียงตัวสะกดด้วย ใอ, ไอ    เท่ากับ  อะ + ย   (หากออกเสียงยาวจะเท่ากับ อา+ย) เอา          เท่ากับ  อะ + ว   (หากออกเสียงยาวจะเท่ากับ อา+ว) อำ            เท่ากับ  อะ + ม  (หากออกเสียงยาวจะเท่ากับ อา+ม) ถึงแม้ในตำรากลอนจะห้ามรับ-ส่งสัมผัสระหว่างสระสั้น-ยาว แต่จากทริษเดานี้ บวกกับเทรนด์สมัยใหม่ เราจึงเห็นการอนุโลมว่า - ใอ-ไอ-อาย  รับสัมผัสกันได้  (ในตำรากลอนส่วนใหญ่ระบุไว้) - เอา-อาว  รับสัมผัสกันได้  (ในลิลิตเตลงพ่ายเห็นมีหลายบท) - อำ-อาม  รับสัมผัสกันได้  (อย่างที่คุณ xers เปิดประเด็นมานี่แหละ ... เพียงแต่ศาลายายังไม่เคยอ่านเจอในวรรณคดี) ดังนั้นในโคลงดั้นจัตวาทัณฑี ของคุณ xers คู่สัมผัส "น้ำ" - "ข้าม"   จึงเป็นไปตามทริษเดานี้แล ... (ไปจนได้นะศาลายา  อิอิ) ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้อ่าน คคห.นี้ กรุณาใช้วิจารณญาณก่อนนำไปใช้นะครับ เพราะเป็นแค่ ทริษเดา ...ส่วนตัว ศาลายา ยังไม่คุ้นชินกับการรับ-ส่ง สัมผัส "น้ำ" กับ "สระอาม" หรอกครับ แหะๆ ๏ เหนือหนาวใต้หนักน้ำ             ท่วมหมอง ป่าโล่งเมืองขวางคลอง              ขัดน้ำ หนาวหนาวภาคทั้งสอง              เสมอหม่น แล้ง-ท่วม-หนาว ช่างซ้ำ-           ซากแท้ทุกข์สยาม ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 08:06:25

ความคิดเห็นที่ 27 ลองลงโคลงเคลงรับ-ส่งสัมผัส "น้ำ" กับ "สระอาม" ตามวิถีนกผีกวีคำผวนปั่นป่วนใจกันจั๊กบทสองบทแน้ 12.09 น. ๏ ท่องน้ำ ท่ามน้องกล่าว ........... หนาวกรรม น้ำพร่อง น้องพร่ำคำ ................ ครั่นคร้าม นามกล้วย หน่วยกามนำ ........... น้ำรัก หวานแล นานต่ำ น้ำตาลข้าม ................. ขีีดร้อยโรครุม ๏ คุมน้ำ คำหนุ่มเว้า ................. วาบหวาม ตามนิด ติดน้ำกาม ................... กี่ถ้วย น้ำรัก หนักล้ำลาม ................... ปามด่ำ ดื่มฤๅ ฉ่ำนะ ฉะน้ำกล้วย ................... ก็น้ำว้าหนาว ๚ะ๛ (งิงิ) 12.46 น. ----------------------------------------------------------------------------------------- จาก My Blog http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=noggoge&month=11-2010&group=1&date=07&gblog=52 ----------------------------------------------------------------------------------------- วัคซีนหวัดนกเข็มที่. 16 ลบ comment 11.11 น. (ตะวันตื่น ลื่นโคลงเคลง - ตะวันเต่ง เร่งโคลงคืน) ๏ เชื่อกล้วย ช่วยเกื้อยุค ......... ยากเข็ญ จะปรับ จับประเด็น ................ เด่นนี้ คิดพลาด คาดผิดเห็น ............ เหตุเกิด โรคแทรก แรกโศกชี้ ............. ชัดเศร้าเบาหวาน ๏ ทักผลาญ ทานผักแก้ .......... กันซี ผักลวก พวกรักดี .................. เด่นแท้ ไร่ผัก รักไพร่มี ..................... ไม่อด แถมง่าย ถ่ายแหง๋มแล้ ........... ริกรี้ชี้ชวน-คนสวนปลูกผักกินกันจ้า บารนี ๚ะ๛ (งิงิ) 12.02 น. โดย: นกโก๊ก วันที่: 17 พฤศจิกายน 2553 เวลา:12:03:56 น. จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 12:52:55

ความคิดเห็นที่ 28 ท่องอุทยานน้ำหนาว.........................เพชรบูรณ์ วังโป่งวังทรายพูน............................ไก่ก้อ หล่มสักหล่มเก่าคูณ..........................หนองไผ่ เขาทรายแฝดเขาค้อ..........................คู่สร้างลือนาม จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 14:11:25

ความคิดเห็นที่ 29 ย่องๆมาเรียนด้วย แต่ อาม ยังบ่ฮู้ สัมผัสลอย..แค่ไหนสิ คงหลายช่วงเลยเนอะ แล้วจะมาติดตามต่อนะคะ พี่ศาลายา คุณ xers รถมาแล้ว แล้วมาใหม่ค่ะ โคลงดั้นจัตวาทัณฑี หนาวเหนือ ฤ เมื่อร้าว................เรืองหนาว บอกเล่าบรรจุไหว.....................วรรค,เว้น สระอาม,ครุ่นคิดยาว..................เยือกสั่น ผิดถูกขอเค้นข้อง......................ขัดไข เนืองหนาวบนคุ้นใคร่..................คัดงาม ฉันทลักษณ์ชักในทาง................ท่วงแท้ คำสลักกลัดเกลาถาม.................ถึงบ่อย รอยร่อยร้อยแก้ได้....................ดุจสรรค์ หนาวสนุกเบนวาดเส้น.................สอยสม เวียนฝากดุจฝันฝน.....................ฝั่งกะโน้น อาม,อำส่งกมลถม......................ถักเปื่อย คอยค่อยพจน์โพ้นคล้อง..............เคลื่อนพลัน จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 11:35:27

ความคิดเห็นที่ 30 ๏ ลอย  ไหลลามหลากล้น                ลานตา คอ  แหงกแถกลอยมา                     หมดสิ้น รอ  คอยสุดเลือนลา                        เลยล่วง คอย  เถิดคอยลมลิ้น                       เล่ห์ร้ายลมลวง  ๚ะ๛ ๏ น้ำ  มาพาหม่นไหม้                      หมองมัว ขึ้น  หืดมืดมัวซัว                            โศกเศร้า รีบ  รุดแต่จวนตัว                            แตกตื่น ตัก- กวัก-วิดค่ำเช้า                         โชกชื้นน้ำตา  ๚ะ๛ มาร่วมแจมด้วยคน  ขอรับ จากคุณ : เปลวอัคคี เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 53 19:55:14

ความคิดเห็นที่ 31 ๏ น้ำคำคนเชื่อได้                   โดยใด หนาวเหน็บกลับคำไข              ขื่นซ้ำ หนาวหิมะชั่วคราวไคล             คลาเคลื่อน น้ำท่วมลดแล้วน้ำ                   โอษฐ์ล้นหลากสยอง ๚ะ๛ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 13:19:00 จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 13:12:25

ความคิดเห็นที่ 32 ลอย กระทงทะเล้น............................ลอยหาย คอ  ตกหมกหลังลาย.........................หยาบช้า รอ  เลือกซ่อมขยาย..........................ขันแข่ง คอย แต่งลายข่ายกล้า.......................แก่นแท้ทรชน น้ำ ลดตำแหน่งร้อน...........................ตอผุด ขึ้น ล่องฉันทาทรุด............................เปลี่ยนข้าง รีบ ถักก่อแรงฉุด..............................มุดซู่ (สุ้) ตัก ฝ่อหมอแจกจ้าง..........................ต่ำเตี้ยตะกวด จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 15:50:03

ความคิดเห็นที่ 33 21.24 น. ๏ ลอย - น้ำ รำหน่อยน้อย ......... นวลถนอม บุญ - หน่อย บ่อยหนุนพยอม ..... พยักยิ้ม ลอย - ทุกข์ รุกถอยออม ........... อดอยาก บาป - หนัก บักนาบพริ้ม ............ ผิว์พลั้งพลอยหมอง ๏ คราบ - ทอง ครองทาบแท้ ...... เทียมดู น้ำ - พิษ นิดพร่ำพรู ................. พล่านน้ำ ตา - หลั่ง ตั่งหราหรู ................. หลงเล่น หนาว - ซ่า หน้าสาวปล้ำ ........... ปลดเปลื้องปางกระทง-หลงทางแลนา บารนี ๚ะ๛ (งิงิ) 21.55 น. --------------------------------------------------------------------------------------- จาก My Blog http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=noggoge&month=11-2010&group=1&date=07&gblog=52 --------------------------------------------------------------------------------------- วัคซีนหวัดนกเข็มที่. 19 ลบ comment 20.51 น. (ตะวันหลับ ขับรำกลอน - ตะวันรอน คอนรำกลับ) ๏ มีจังหวะ จะหวังพลังผักหญ้า พนาไพร ในพาราสารขัณฑ์ ยุคนายมาร์ค นาคหมายอะไรกัน จนหลายขั้น รั้นขายอะไรกิน ๏ จังหวะเศร้า เว้าสะใจนะนี่ นกผีเบื่อ เผื่อ begin หนี้สิน ไม่ระวัง หลังหวะจะพังภิณท์ หนี้สินจม สมจินตนาป๋าเปรม ๚ะ๛ (ฮี่ีฮี่) 21.13 น. โดย: นกโก๊ก วันที่: 19 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:17:11 น. --------------------------------------------------------------------------------------- แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 53 22:03:07 จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 53 21:58:26

ความคิดเห็นที่ 34 น้ำหลากลากทุกข์ล้น  เต็มเมือง เหมือนเทพเทวาเคือง  ขุ่นข้อง น้ำใจหลั่งนองเนือง     ปริ่มจักร วาลแฮ มาเถิดเพื่อนพี่น้อง      ปลดร้ายไปลอย (กระทง) (หัดแต่ง) จากคุณ : กัลลอร์ง เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 20:36:12

ความคิดเห็นที่ 35 สวัสดีครับ ภาพใหญ่จริง  ขอรับ แก้ไขก่อน แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 22:31:08 จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 22:29:40

ความคิดเห็นที่ 36 ถึงหนาวหนาวแต่เนื้อ      นวลกาย ยังอุ่นแสนสุขสบาย        ยิ่งแท้ กลมเกลียวกอดกันหาย   หนาวสั่น  สะท้านเฮย ดังญาติมิตรสหายแล้       กอปรเกื้อกูลกัน ฯ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 22:37:25 แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 53 22:36:11 จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 22:33:43

ความคิดเห็นที่ 37 " จากคุณ : ฮกกงจื้อ (the darkknight) เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 23:14:26

ความคิดเห็นที่ 38 อีกความเชื่อหนึ่งของการลอยกระทง คือ... ลอยเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ดังนี้... การลอยกระทงเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท          รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ที่ไปปรากฏอยู่ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที มีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ คือ ครั้งหนึ่งพญานาคทูลอาราธนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ เมื่อพระองค์จะเสด็จกลับ พญานาคทูลขออนุสาวรีย์ไว้กราบไหว้บูชา พระพุทธองค์จึงทรงประดิษฐานรอยพระพุทธบาทไว้ที่หาดทราย ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานที เพื่อให้บรรดานาคทั้งหลายได้สักการะ บูชา ข้อมูลจาก : http://www.loykrathong.in.th/viewthread.php?tid=57 จากคุณ : วฤก เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 53 23:39:13

ความคิดเห็นที่ 39 ... เส้นทางของสายน้ำ .......................... ... หลากสายธารน้อยใหญ่ไหลบรรจบ นำชุ่มชื้นผืนภพสบคุณค่า ความสมดุลพูนเพิ่มเสริมอาณา จิตอาสาแทนคุณหนุนเนื่องไป ... ... เมื่อสายน้ำสร้างวิถีแห่งชีวิต จึงอุทิศกำลังครั้งยิ่งใหญ่ แล้วก่อร่างสร้างฝันอันยาวไกล ฝ่าทุกข์ภัยที่กระหน่ำเข้าทำลาย ... ... แม้นสายน้ำไหลหลากมาพรากฝัน จนเขื่อนขัณฑ์ต้องแตกแหลกสลาย วงเวียนกาลผ่านวิถีที่กลับกลาย พลิกบทร้าย ... ยากไร้ ... ในวังวน ... ... ทั้งหวาดหวั่นพรั่นพรึงซึ่งมูลเหตุ แลอาเพศวิปริตผิดเพี้ยนผล ยังหมายต่อลมหายใจ...ไม่จำนน พร้อมผจญทุกข์โศก ... โชคชะตา ... ... ครั้นต้นทุนสูญเปล่า .. ราวเศษซาก เป็นวิบากพ่ายแพ้แก่ดินฟ้า ด้วยใจแกร่ง ... มิย่อท้อ ... รอเวลา พร้อมเดินหน้าปกป้องด้วยสองมือ ... ... จักพลิกฟื้นผืนดินทุกถิ่นหล้า อยู่ชั่วนาตาปีที่ยึดถือ พร้อมยอมรับปรับสภาพ ... ตราบความคือ ยากยุดยื้อ ... ธรรมชาติเกรี้ยวกราดเรา ... ... เกิดเรืองราวมากมายผ่านสายน้ำ และความจริง ... ยิ่งตอกย้ำ ... ดุจกรรมเก่า บนเส้นทางสายน้ำ ... รอยย่ำเท้า สะท้อนเงาผู้กล้าท้าเดิมพัน ... ... ผู้ครองชีพอยู่รอดปลอดภัยได้ ด้วยแรงใจเต็มเปี่ยม ... เทียมเขื่อนกั้น อยู่เคียงข้างสายน้ำ ... สายสัมพันธ์ เพื่อสร้างฝันวันใหม่ให้เป็นจริง ... . . . # ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จากอินเตอร์เน็ต ค่ะ # แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 53 02:08:49 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 02:07:00

ความคิดเห็นที่ 40 ๏ ทุกข์ขมโศกปั้นขื่น                 กระทงขันธ์ ลอยฝากคงคาฝัน                     ขุ่นฝ้า ชลอวางหว่างคืนวัน                  เวียนว่าย ลอยเลื่อนบาปบุญล้า                 ล่องล้างลงเล  ๚ะ๛ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 53 11:00:25 จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 10:51:30

ความคิดเห็นที่ 41 ขอทุกท่าน สุข,รวยทรัพย์ นับไม่สุด ตลอดไปค่ะ ปรารถนาแค่ขอก็ได้จริง ............................................. แล้วคลื่นหมอกลอยเย้ากระเซ้าหญ้า วิกฤติภัยไล่ล่าเบาบ่าคลั่ง ขมขื่นปวดร้าวหยุดผ่าวประดัง กรีดร้องสะอื้นรั้ง...ดุจสั่งรู้ น้ำคืนคลอง,ทะเลมาเห่กล่อม ประคองถนอมวาดหวานประสานหรู หมื่นปรารถนาดั่งให้ชนได้ชู กระทงน้อยลอยอยู่ตรงประตูรวย รวยเวิ้งวาดหาดสมระดมสุข ประสานร้าวทุกดวงพานล่วงห้วย แว่วระฆังกังสดาลสมานระรวย ระทดระทวยเหือดแห้งชัดแจ้งงาม ค่ำสู่ดึกลมเร่งบรรเลงชื่น ชนยืนดูชลาลัยส่งนัยถาม กระซิบขอหวังฉ่ำทุกค่ำยาม หวานหวามไหวสราญสู่บ้านเรือน 　 สัมผัสรสราตรีทิวาสงบ ภาพที่พบมีสิทธิ์ประดิษฐ์เสมือน ดื่มด่ำสุขกับยามดาวตามเดือน ขอได้ไหมยามเยือนขอเหมือนคิด 　 ระบายพรรจนาทาบทาสี พรดีดลทุกท่านเบิกบานสนิท เสียงหัวเราะอรรถรสสะกดชิด ม่านวิจิตรคลี่ห่มดับลมปลิว จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 15:44:24

ความคิดเห็นที่ 42 ขออภัย โพสท์ผิดกระทู้ค่ะ ... แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 53 22:52:31 แก้ไขเมื่อ 21 พ.ย. 53 22:47:13 จากคุณ : D_AkIrA เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 22:44:25

ความคิดเห็นที่ 43 ... จันทร์งามยามเด่นฟ้า......ชลธี เสริมส่งกาลดิถี.............เพริศพร้อม เทียนทองแต่งราตรี........เรืองสว่าง ขมาแม่คงคาน้อม..........ประทีปน้อยลอยไสว โคมใจฉายแข่งคล้อง......คืนตระการ สงบจิตอธิษฐาน.............ทุกข์พ้น รู้คุณรักษ์สืบสาน............วารสวัสดิ์ น้ำจิตน้ำใจล้น...............เลิศล้ำประเพณี ............................................................................. ............................................................................. ... คืนที่จันทร์เต็มดวง ... ส่องสรวงภพ เวียนบรรจบอีกครั้งดังดิถี เพ็ญพิสุทธิ์ ... ดุจฤกษ์งามยามดี ประเพณี ... สืบสาน ... มานานเนา .... คืนที่แสงเทียนทอง ... ส่องความหมาย ผิวน้ำฉายภาพฝันของจันทร์เจ้า กระทงน้อย ... ลอยเรียงเคียงคลื่นเบา เกาะกลุ่มเคล้าเคลื่อนไป ... ไกลฝั่งธาร ... ... ทั้งสำนึก ...ระลึกคุณ .... “แม่คงคา” เทพธิดาแห่งสายน้ำ...นำอธิษฐาน ขอขมาลาโทษ ... โปรดประทาน คุณูปการ ... สร้างสมดุลเสริมคุณนั้น  ... ... กระทงน้อย ...จงลอยให้... ไกลทุกข์โศก ความวิโยคเลือนหายกลายผกผัน ขอประสบแต่สุข...ทุกคืนวัน ด้วยจิตอันบริสุทธิ์ดุจสายน้ำ ... จันทร์เจ้าเอย ... สวยเด่นเป็นขวัญฟ้า เรื้องธารางดงามยามคืนค่ำ หล่อหลอมจิตวิญญาณ ... การกระทำ วิถีธรรมชาติพ้อง ... ประเพณี  หลากพลุไฟพุ่งตระการบานเต็มฟ้า แสงเจิดจ้า ... ร่วมประดับประดาสี กระทงน้อยยังลอยล่องท่องนที เป็นสักขี ... ตำนาน ... ผ่านสายน้ำ ... ............................................................................. ............................................................................. # ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จากอินเตอร์เน็ต ค่ะ # จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 53 22:48:34

ความคิดเห็นที่ 44 17.48 น. ๏ พร่ำหนาว พราวน้ำวับ ......... แวมวาว ไฟส่อง ฟองใส่ขาว .............. คลื่นน้ำ กรอกชะ กระฉอกฉาว ........... ฉิวเฉื่อย โคลงลิ่ว คิวโล่งซ้ำ ............... ส่ายโค้งโคลงเคลง ๏ เพลงร่าย พรายเร่งเร้า ....... ลำนำ เพลงแหล่ แพเร่งรำ.............. เร่งเร้า ลอยบาป ลาภ boy กรรม ...... girl เกิด กี่ท่า กล้าที่เจ้า ................... จ่ายครั้ง'ลอยกระทง' ๚ะ๛ (งิงิ) 18.15 น. ----------------------------------------------------------------------------- จาก My Blog http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=noggoge&month=11-2010&group=1&date=07&gblog=52 ----------------------------------------------------------------------------- วัคซีนหวัดนกเข็มที่. 21     09.44 น. (ตะวันตื่น ลื่นโคลงเคลง - ตะวันเต่ง เร่งโคลงคืน) ๏ นัดล้อต๊อก ลอกต้อ .......... ตอนเพลา หลังเที่ยง เลี่ยงทักตา ........... ตื่นเต้น กลัวตาเน่า เต่านา ................ เนี้ยนก นั่งด่า หน้าดั่งเพ้นท์ .............. พ่นด้วยสีแดง ๏ พักแหนง แพงหนักคร้า ...... ค่าหมอ จ่ายสด จดส่ายรอ ................ ฤ ได้ ตรีหมื่น ตื่นมีพอ .................. เพียงอยู่ จี้นาค จากนี้ไชร้ .................. สิต้องอดออม ๚ะ๛ (อิอิ) 10.05 น. โดย: นกโก๊ก  วันที่: 21 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:06:57 น.     ----------------------------------------------------------------------------- วัคซีนหวัดนกเข็มที่. 23 ลบ comment 09.43 น. (ตะวันตื่น ลื่นโคลงเคลง - ตะวันเต่ง เร่งโคลงคืน) ๏ งาบอด งดอาบน้ำ ......... หนึ่งเดือน สู่ยุค สุขอยู่เรือน ............. หลับเลื้อย งานหนัก งักนานเตือน ...... ต้องเชื่อ หมอแร่ะ แมะล่อเอื้อย ...... อดเลื้อยในสวน ๏ เนี้ยครวญ นวลเขี่ยขี้ ..... คร้านฮา สั่งนก ศกนั่ง-ผา .............. สุก-แท้ งดข้าว ง่าวคดหนา ........... เนี้ยเพิ่ม สลัดผัก สลากภัทรแน้ ...... แนบเนื้อสะเต๊กนำ ๏ รับกรรม รำกับข้าว ........ ต้มหมู ทื่อมุก ทุกมื้อดู ............... แดกหง้าย --->(หง้าย โทโทษเอก ง่าย) ห้ามเคี้ยว เหี่ยวคร้ามรู ...... เลนซ์เคลื่อน ที่นา ค่อยดูด ขูดด้อยอ้าย ....... อาจได้เด่นแหล ๚ะ๛ (งิงิ) 10.11 น. โดย: นกโก๊ก วันที่: 22 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:13:18 น. ------------------------------------------------------------------------------ จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 18:28:02

ความคิดเห็นที่ 45 07.24 น. ๏ หมดเหงื่อ เมื่องดเลื้อย ....... รำคลาน เพียงสั่ง พลังเสียงขาน .......... ขับร้อง เร่งไพร่ ไล่เพ่งงาน ............... ง่วนหนัก ย่ำรุ่ง ยุ่งร่ำต้อง .................... ตื่นเช้าชักตึง ๏ ซึ้งผวน สวนพึ่งหน้า ........... น้ำหนาว สานงั่ง สั่งงานสาว ................ หนุ่มรู้ รำเนื่อง เรื่องน้ำคราว ............ ไม้เครียด ดูออก ดอกอู้วู้ .................... ค่อยให้น้ำมัน ๏ ขยัน ขันยะข้า .................. ขำขัน หน้าจืืด หนืดจ้ามัน ............... ไม่ล้าง ยาตอด หยอดตาวัน ............. ละสี่ มื้อแล กันฝุ่น กรุ่นควันคว้าง ............ ฟาดเข้าเลนซ์ตา ๏ ข้าวปลา ข้าเปล่าตั้ง .......... เตาไฟ ต้องแช่ แต่ช่องใน ............... แน่น-ตู้ เย็น-แร่ะ แยะเล่น-ไม .......... โครเวฟ อินกรุ่น อุ่นกินวู้ .................. ว่าเเล้วลุยเลย ๚ะ๛ (งิงิ) 08.12 น. จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 08:17:42

ความคิดเห็นที่ 46 จากคุณ : วฤก เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 53 23:23:25

ความคิดเห็นที่ 47 ... นาวาชีวิต ... ................ นาวาชีวิตพร้อม...................ผจญภัย กลางคลื่นลมหวาดไหว..........พลาดพลั้ง ทุกข์ท่วมทะเลใจ.................เจียนอับ-ปางเฮย ยืนหยัดจนสุดรั้ง..................ล่วงพ้นกาลขัย ............................................................................. ............................................................................. ห้วงน้ำ ... อันกว้างใหญ่ ยามบ่าไหล ... เชี่ยวกระชั้นจนปั่นป่วน เป็นสัญญาณ ... บอกเหตุอาเพศรวน คลื่นลมปรวนเปลี่ยนไปไม่เที่ยงแท้ ... เรือน้อย ... กลางห้วงน้ำ คงลอยลำประคองตัวตามกระแส ทั้งทุกข์โศกโชคชะตาคราผันแปร ยังแน่วแน่นิ่งได้ ...แม้ภัยมา ... เรือน้อย ... เปรียบชีวิต หวังพิชิต ... ดิ้นรนมุ่งค้นหา ดำเนินไปในกงล้อกาลเวลา ผจญฝ่า ... ท้าทาย ...ทุกคลื่นลม ชีวิต ... ลิขิตฝัน แม้คืนวันเคยประสบพบขื่นขม ลอยเวิ้งว้างกลางทะเลแห่งอารมณ์ สุ่มเสี่ยงนัก ... จักล่องล่ม ... จมอับปาง ... เรือน้อย ... ล่องลอยไป มรสุมครั้งใหม่สั่นไหวบ้าง ธรรมชาติตีกรอบรอบทิศทาง กว่าวายวาง ... ต้องยื้อยุด ... จนสุดแรง... ............................................................................. ............................................................................. # ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จากอินเตอร์เน็ต ค่ะ # จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 53 14:49:31

ความคิดเห็นที่ 48 " จากคุณ : ฮกกงจื้อ (the darkknight) เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 53 20:36:49

ความคิดเห็นที่ 49 " จากคุณ : ฮกกงจื้อ (the darkknight) เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 53 20:48:46

ความคิดเห็นที่ 50 23.56 น. ๏ น้ำซับ นับซ้ำเหน็บ ........... หนาวหาย ทรัพย์ใหม่ ใส่หมับสาย ........ ศัพท์พ้อง เสียงรับ ทรัพย์เรียงราย ........ ฤๅหมด น้ำสี่ นี่ซ้ำ ต้อง ................... ติดหนี้หัวโต ๚ะ๛ (งิงิ) 00.07 น. เรือนสาม น้ำสี่ ... สมัยนี้ยังมีบ่าวสาวคู่ใดจำใส่ใจกันบ้างไหมหนอ จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 53 00:12:10

ความคิดเห็นที่ 51 แจมตามพี่นกสักบทนะคะ อิอิ 23.56 น. ๏ น้ำซับ นับซ้ำเหน็บ ........... หนาวหาย ทรัพย์ใหม่ ใส่หมับสาย ........ ศัพท์พ้อง เสียงรับ ทรัพย์เรียงราย ........ ฤๅหมด น้ำสี่ นี่ซ้ำ ต้อง ................... ติดหนี้หัวโต ๚ะ๛ (งิงิ) 00.07 น. เรือนสาม น้ำสี่ ... สมัยนี้ยังมีบ่าวสาวคู่ใดจำใส่ใจกันบ้างไหมหนอ นกโก๊ก น้ำลึก นึกล้ำ แหล่ง ............เลยหนาว ทรัพย์ล่อง ส่องรับ คราว.......คลั่งเทิ้ม เสียงวับ ทรัพย์เหวี่ยง ราว ....รอนรัด  ทรวงเอย หนาวเรื่อย เหนื่อยร้าว เยิ้ม ...ยอกหนี้ บ่ หาย จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 53 18:08:08

ความคิดเห็นที่ 52 (โคลงกลอักษรรวนสมุทร) หนาวเพรียกเมาหมอกล้อม....................... หลุดฝัน เธอเพรียกใจฉับพลัน................................. หลุดเศร้า พร้อมเพรียกเทพสรวงสวรรค์...................... หลุดหล่น  ได้นา ลองเพรียกมนต์เมาเร้า.............................. หลุดหลอน รอนล่วงเมาสมัครข้าง.............................. ขอบขม หมองล่วงเพียงพิศผสม............................ ขอบว้าง หวานล่วงเลื่อนระดมตรม........................ ขอบท่วม  ล้นแล ใครล่วงใจระทึกค้าง............................... ขอบหมาย หลายหลากร้อนวุ่นเค้น........................... สุดสาว ฟ้าหลากแสงกระพริบพราว..................... สุดพริ้ง ใจหลากรักผลิตระนาว........................... สุดกลบ เนียนเฮย คนหลากร้าย ฤ ทิ้ง................................ สุดกล กมลยิ่งซับซ่อนร้อย................................ รสการณ์ เขียนยิ่งจารจรดปาน............................. รสข้น ฟ้ายิ่งเปลี่ยนสีสาน............................... รสแทรก ทรวงฤๅ ฝันยิ่งตามไปค้น................................... รสไหว ในโลกเป็นถิ่นแคว้น.............................. เชี่ยวแจง หล้าโลกเจนปรับแปลง............................ เชี่ยวล้ำ มองโลกผ่านร้อนระแหง........................... เชี่ยวขื่น ตระหนักโลกฉ่ำล้ำช้ำ.............................. เชี่ยวกระบวน จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 14:20:10

ความคิดเห็นที่ 53 บันทึกทางโคลง โคลงสินธุมาลี แบบอังคาร จันทาทิพย์ หนังสือรวมบทกวี "หนทางและที่พักพิง"  ของ อังคาร จันทาทิพย์ ในส่วนของโคลงนั้น เป็นโคลงสินธุมาลี ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่า "ยืนยันว่าหลายสำนวนนำรูปแบบฉันทลักษณ์ของโคลงโบราณคือโคลงสินธุมาลีมารับใช้เนื้อหา ซึ่งใน 'ที่ที่เรายืนอยู่' กวีนิพนธ์เล่มก่อนหน้าก็มีอย่างนี้ โคลงสินธุมาลีมีแบบแผนสัมผัสในหนึ่งบทเหมือนโคลงสี่สุภาพ แต่ไม่ได้บังคับเอกเจ็ด โทสี่ บาทที่สี่มีเพียงเจ็ดคำเหมือนโคลงดั้น แต่โคลงดั้นมีแบบแผนสัมผัสสระ สัมผัสวรรณยุกต์ที่ซับซ้อนกว่า และโดยส่วนตัวก็ไม่ชอบแบบแผนบังคับของโคลงดั้น ที่สำคัญเรื่องความสั้นยาวของบทกวีก็ไม่ใช่สิ่งบังคับตายตัวได้ ฉะนั้นเมื่อคำและความควรจบภายในโคลงหนึ่งบท ก็จำเป็นต้องหารูปแบบที่เหมาะสมมารองรับ เลยเลือกใช้แบบแผนสัมผัสอย่างโคลงสินธุมาลี และจงใจใส่วรรณยุกต์เอกโทตามแบบโคลงสี่สุภาพอย่างเคร่งครัด แต่เลือกที่จะทำให้เสียงในบาทที่สี่สั้นลงเหลือเจ็ดคำ ฟังเพราะกว่า เขียนโดยยึดแบบแผนนี้มาตลอด ติดใจจังหวะจะโคนแบบนี้" อาจจะเพราะรำคาญคนที่ไม่รู้จริง ไปวิจารณ์ว่าเป็นโคลงดั้น มีคำโทไม่ครบ เขาจึงเขียนได้ในบล็อกว่า "ป.ล. ตอน ๒ เป็นโคลงสินธุมาลี ไม่ใช่โคลงดั้นนะครับ -- โปรดเข้าใจด้วย" ขออนุญาต ยกโคลงที่อยู่ในบล็อกมาให้ทัศนา ครับ แนวรบด้านตะวันออก ... (อังคาร  จันทาทิพย์) ๒ ต้นสายปลายเหตุ ต้น-------------------กำเนิดไหน หลักแหล่งคุ้มชีวิตไหล------------------เลือดข้น ว่านเครือ รัฐ ชาติ ใคร------------------กำหนดเขต แยกเหล่า ทำลายต้น--------------------ตัดสิน ถิ่นฐาน ทาง ซ้อนทับ--------------------อารยธรรม พันผูกวิถีชีวิตกำ-------------------------เนิดสร้าง สู่กรอบครอบปิดงำ----------------------เงื่อนเปลี่ยน รุกประดังพนมดงรักร้าง------------------แรมรา ปราสาทหินร่ำไห้-------------------------สะอื้นวิหาร ปัจจุบันบั่นอดีตราน-----------------------รากเหง้า ถือครองอนาคตกาล----------------------สึกกร่อน กรรมสิทธิ์เหนือความเศร้า----------------โบราณสถาน สะอื้นวิหาร ร่ำไห้--------------------------ปราสาทหิน ร้าวรวดเหย้า ใครยิน-----------------------ตอกย้ำ ชีพสั้นกว่ากรวด ดิน------------------------มรดก คุณค่าใดสถิตค้ำ---------------------------ตระหง่านคง... จำหลักลงล้ำลึก----------------------------รหัสนัย อนาคตเก่าแก่ ไข--------------------------เงื่อนค้าง อ่านอดีต ปัจจุบัน ใคร----------------------ครอบปิด เปลือยสุข-โศกนาฏกรรมสร้าง-------------เปล่าสูญ?.... =================================== ..คิดโคลงไม่ค่อยออก ตื้อ ๆ ชอบกล วก ๆ วนๆ หน่อยก็ขออภัยครับ ๏ หนาวหนาวโคลงขาดผ้า ................ ห่มหนาว หนุ่มหนุ่มคราขาดสาว ...................... อกไหม้ รุ่มรุ่มอุราราว ................................. เพลิงนรก หวั่นหวั่นเดียวดายให้ ........................ เหน็บหนาว   ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 10:41:44

ความคิดเห็นที่ 54 ... **** กลับมาแก้ไขงานเก่า จากการได้รับคำวิจารณ์อันเป็นประโยชน์จากท่าน ผู้มีพระคุณนะคะ ) ... บทกลอน ... (เพิ่มชื่อของบทกลอน) มีการเพิ่มกลอน 1 บทเพื่อให้เนื้อความสอดคล้องกันมากขึ้น และปรับเปลี่ยนถ้อยคำในบางบาทของบทกลอนด้วยค่ะ ... โคลง ... แก้ไขเพื่อสื่อให้เห็น "สิ่งที่ต้องการเปรียบเทียบ" ให้เด่นชัดขึ้นค่ะ และสำนวน "ปากกัดตืนถีบ" แม้นจะมีความหมายดี แต่เป็นสำนวนคนอื่นที่มีมานาน แล้วค่ะ เลยปรับแก้ไขค่ะ ... ขอขอบพระคุณท่านผู้มีพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ *** โลกใต้ทะเล ................. ... ยามผิวน้ำปรับสภาพจนราบเรียบ ในความเงียบ ... นิ่งงัน ... อาจผันผวน ยิ่งดำดิ่ง ... ยิ่งเวิ้งว้าง ... ช่างแปรปรวน ยังว่ายทวน ... ท้าทาย ... หมายมุ่งไป ... ... ด้วยผิวน้ำนั้นซับซ้อน ... ซ่อนกระแส บดบังแม้รอบทิศทาง ... ต่างเคลื่อนไหว ทุกชีวิตต้องหาญกล้าฝ่าโพยภัย ที่รุกไล่กระหน่ำเร้าเข้าจู่โจม ... ฉวัดเฉวียน ... เวียนว่าย ... โฉบสายน้ำ เรี่ยวล้ำ ... หยัดยืน ... แม้นคลื่นโถม เกาะกลุ่ม ... เผชิญโชค ... โลกประโลม ครีบจำแลง ... ดุจแสงโคม ... สะคราญตา ... ... พริ้วไหว ... ในห้วง ... ด่ำดวงจิต เพลินพิศ ... เรียนรู้ ... หมู่มัจฉา โลกเหมือนเสรี ... ร่ายลีลา โชคชะตา ... ฝากไว้... ในวังวน ... การเคลื่อนไหวใต้ท้องทะเลลึก อึกทึก ... ฤานิ่งรับ ... ความสับสน ทุกภาวะแวดล้อมหล่อหลอมตน ต้องดิ้นรน ... แหวกว่ายกลางสายน้ำ ............................................................................. ............................................................................. ผิวน้ำยังนิ่งครั้ง.................คลุมกระแส การเคลื่อนไหวปรวนแปร.....ปลุกเร้า พลิกชีพมัจฉาแล...............ทางรอด เพียรว่ายทวนน้ำเย้า............ยั่วเย้ยโชคชะตา ............................................................................. ............................................................................. ต้นฉบับเดิม ................. คล้ายเหนือน้ำนั้นแน่นิ่งอิงกระแส เพื่อปรับแปรสอดผสานการเคลื่อนไหว ดุจชีพต้องดำรงคงสืบไป ยามทุกข์ภัยรุกเร้าเข้าจู่โจม ... ฉวัดเฉวียน ... เวียนว่าย ... โฉบสายน้ำ เรี่ยวล้ำ ... หยัดยืน ....  แม้นคลื่นโถม เกาะกลุ่ม ... เผชิญโชค ... โลกประโลม ครีบจำแลง ... ดุจแสงโคม ... สะคราญตา ... ... พริ้วไหว ... ในห้วง ... ด่ำดวงจิต เพลินพิศ ... เรียนรู้ ... หมู่มัจฉา กลางโลกเสรี ... ร่ายลีลา โชคชะตา  ... ฝากไว้... ในวังวน ...  การเคลื่อนไหวใต้ท้องทะเลลึก อึกทึก ...  ฤานิ่งรับ ... ความสับสน ทุกภาวะแวดล้อมหล่อหลอมตน ต้องดิ้นรน ... แหวกว่ายกลางสายน้ำ ............................................................................. ............................................................................. ความนิ่งเหนือน่านน้ำ.............อิงกระแส การเคลื่อนไหวปรวนแปร........ปลุกเร้า ชีพผจญคลื่นลมแล...............ทางรอด ปากกัดตีนถีบเย้า..................ยั่วเย้ยโชคชะตา ............................................................................. ............................................................................. # ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จากอินเตอร์เน็ต ค่ะ # แก้ไขเมื่อ 02 ธ.ค. 53 08:36:59 แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 53 22:24:58 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 14:07:12 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 13:56:51

ความคิดเห็นที่ 55 ...                   ๏ ความ       จริงปกปิดไว้                     ไม่แสดง                   หวัง            กลบความเท็จแฝง              ชั่วช้า                   มืด             มิดหมดสิ้นแสง                  ทางสว่าง                   มน             หม่นทั่วทั้งหล้า                   ปิดฟ้าอยุติธรรมฯ ... สวัสดี ขอรับ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวอาศรมฯ แหะ แหะ สวัสดี ขอรับ จากคุณ : นายทิวา เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 17:07:28

ความคิดเห็นที่ 56 19.33 น. ๏ ฟ้า - หนาว ฟาล์วน่า น้ำ .......... ท่วมศาล แจ้ง - โทษ โจทก์ แท้งหลาน ...... ลูกม้วย จาง - คู่ จู่คราง ยาน .................. ยืดยาด ปาง - สี่่ ปี่สาง ป้วย ................... ปี่ก้อชวนฮา   ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 19.55 น. ----------------------------------------------------------- จากกระทู้ถนนนักเขียน (บทกวี) ๏ บ้านโคลงผวน [๓๓]...คอย ๏ ของ คุณ: คนสาธารณะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9957984/W9957984.html ----------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 14     หลงคอยเก้อ นอนละเมอเผลอ 'ตลบมุ้ง' เละเลยนิ .. อิอิ 17.48 น. ๏ ปล่อย -เขาบ้าเถอะ ข้า ........ เปล่าคอย ตาม - แห่เจ้าศาลหอย ............ แต่ห้าม กรรม - ยาก ยุคหลงพลอย ...... กากย่ำ เวร - ตะไล ไม่คร้้าม .............. วะเต้นตามใจ ๏ เป็น - ใคร ไม่รู้รึ .................ไปเข็น ตาม - ผิดถูก ทุกประเด็น ......... ติดผล้าม --->(ผล้าม โทโทษเอก พล่าม) กรรม - หมด โทษทีเห็น .......... กฎหม่ำ ว้อย - ท่าน ว่าต้องห้าม ........... หว่านถ้อยคำมา-หลังสิบห้าวัน ช้าเกินกาลอายุความมันหมดแหล แลนาบารนี ๚ะ๛ (งิงิ) 18.39 น.     จากคุณ : นกโก๊ก     เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 18:44:43   ----------------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 19:55:32

ความคิดเห็นที่ 57 สิบห้าวันบ่ม้อ.............................ขนหมด ศรีธนญชัยคด ......................... ถอนเกลี้ยง เมินเสียเหลี่ยมประชด .............. . จกส่อง บกพร่องหลงนกเอี้ยง ................ ทุ่มเลี้ยงควายเฒ่า จากคุณ : ชิชิ เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 53 22:16:44 A:124.121.121.221 X: TicketID:296692

ความคิดเห็นที่ 58 ๏ หั่นหัวข้าฯ เถอะร้อย............ราชมัล ฉีกร่างตากสุริยัน...................อย่าช้า เทเลือดราดเขตขัณฑ์.............คามเหือด หากสักเสี้ยวใจข้า..................ขบถร้อนภูมี ๚ะ ๏ ถวายหัวพลีพื้นพ่อ .............ภูมิพล   ข้าฯ เอย ถวายร่างรองบาทกมล............หมอบเฝ้า ถวายสัตย์พหุพหล.................แหนแห่ ถวายภักดิ์ใต้ฝุ่นเท้า...............เทิดไท้จอมสยาม ๚ะ๛ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 53 15:20:26

ความคิดเห็นที่ 59 " จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 13:41:35

ความคิดเห็นที่ 60 อาศิรวาทนวมราชสดุดี ๏ ๕ ธันวามาสแม้น               มหาสมัย ฟ้าโปรดพระทรงชัย               ปกหล้า ภูมิพล พ่อหลวงไทย              ถ้วนถิ่น ครองราชย์ครองธรรมข้าฯ        อุ่นเกล้าเนาเขษม ฯ ๏ ราษฎร์ปรีดิ์เปรม จึ่งไท้         เปรมปรีดิ์ อุทิศวรกายพลี                      ค่ำเช้า เพื่อพสกรักสมัคคี                  เหนียวแน่น พิทักษ์พงศ์คงเหย้า                 ตราบฟ้าดินวสาน ฯ ๏ แปดสิบสามพรรษแพร้ว            เพราสมัย สยามร่วมฉลองชัย                เทิดเกล้า ขอพรรัตนตรัย                     สยามเทพ- ธิราชเฮย ปก ธ ทุกค่ำเช้า                   กว่าร้อยชนมวาร ฯ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะฯ ข้าพระพุทธเจ้า พิราบเงิน แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 23:05:46 จากคุณ : พิราบเงิน เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 14:37:08

ความคิดเห็นที่ 61 (กลบทโตเล่นหาง) สยามภพภูวนาถเจ้า..................... จรัสเมือง พระอัจฉริยภาพเรือง.................... ราษฏร์ห้อม เป็นฉัตรพสกนิกรเนือง............... เนาสงบ สุขเฮย ชนสมัครจงรักน้อม..................... นอบซ้องสดุดี เปรมปรีดิ์พระเกียรติกึกก้อง............ ใกล้ไกล ธ ย่างบาททั่วไป............................. ไป่ท้อ เสโทหลั่งหยดใส............................. สรรค์สุข ราษฏร์นา ราษฏร์สุดซึ้ง ธ บ่พ้อ....................... เพิ่มเกื้อมหาศาล จารจรดฟ้า,หล้า ผ่าน...................... ผองชน หนึ่งกษัตริย์เหนือกษัตริย์วน............ แว่นแคว้น ธ ช่วยพสกนิกรดล........................... ดื่มด่ำ หลุดยาก,เข็ญ ข้นแค้น..................... เคลื่อนเคลิ้มสดใส ขอเทิดไท้หนึ่งเจ้า............................. จอมกษัตริย์ หนึ่งพ่อผู้รักขจัด............................... เจ็บ,ร้อน รักลูกมุ่งปก,ปัด................................ ปรุงชื่น ขอ ธ ทรงพระเจริญสะท้อน................ ทั่วฟ้าแผ่นดิน ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมอขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า  ญามี่ ปล. เป็นการเขียนถวายพรครั้งแรกและบทแรก ด้วยมี่ตกภาษาไทยยิ่งคำราชาศัพท์รู้น้อยกว่าน้อย แถมไม่มีพรสวรรค์ในการเรียบเรียงมีแค่ใจรัก บทนี้เขียนด้วยทุกอณูรักพ่อ ผิดพลาดขออภัยจากทุกท่านด้วยค่ะ สวัสดีค่ะ พี่,เพื่อนทุกคน จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 16:12:25

ความคิดเห็นที่ 62 ... นบองค์พระประมุขไท้........ทรงธรรม พระพิริยะนำ....................ศาสตร์พร้อม ศิลป์เสริมราชอุปถัมภ์.........ยังประโยชน์ สุขแล ทวยราษฏร์ภักดีน้อม..........ชีพนี้พลีถวาย รวมวงศ์สายเหล่าเกล้า........ชาวไทย สุขพ่อเหนือสิ่งใด..............เด่นด้าว ข้ารองพระบาทใน.............กำเนิด สยามนา ทูลกระหม่อมแก้วน้าว........ลูกน้อยสามัคคี ศรีจักกรีศักดิ์ก้อง..............เกียรติคุณ พระอภิบาลการุณย์............ชาติเชื้อ “ทศพิศราชธรรม”คุณ.........ควรค่า ไผทแฮ พระกิจพระกอบเกื้อ...........ชิดใกล้ปวงประชา พระเมตตาเปี่ยมล้น............กมลวาร พุทธศาสน์ ธ ประสาน.........สว่างล้ำ พระอัจฉริยภาพจาร............เจิดจรัส เศรษฐกิจพอเพียงค้ำ..........ชีพได้ดำรง ขอ    องค์มหาราชเจ้า........ใจเมือง ทรง   ยศบารมีเรือง............รุ่งแท้ พระ   ขวัญปราศความเคือง..ครองสุข สวัสดิ์เฮย เจริญ โสตถิ์สถิตย์แล้..........โลกซ้อง“ภูมิพล” ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า "ploythana" *** แก้ไขคำพิมพ์ผิดและสลับตำแหน่งค่ะ*** แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 53 23:42:31 แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 53 23:25:33 แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 53 23:22:30 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 20:35:45

ความคิดเห็นที่ 63 ... เพลงของพ่อ .................. ๑) ... ดุจสายลมพริ้วไหว ... เสียงใครนั้น ร่ายรับขวัญ ... เจ้าเอยมิเคยห่าง ท่วงทำนอง...สนุกเสนาะ ...ไพเราะพลาง- เผลอแทรกบางรู้สึกบ้าง ... อย่างการุณย์ ... ... ลมปากผิวพาทย์บรรเลงเป็นเพลงกล่อม เสียงเห่ห้อมเจ้าตัวน้อยพลอยอบอุ่น “อย่างอแง ...นะเนื้อนิ่มผู้อิ่มบุญ ...” เจ้าดรุณฟังความ ... ตามบิดา ... ... พ่อผิวปากจากใจความใฝ่ฝัน เร่งคืนวันจนประสบได้พบหน้า ฑูตจากสรวง ... เทพบุตร ... เทพธิดา ลูกเกิดมา... งดงาม ... ด้วยความรัก... ... ไร้เดียงสา ... บริสุทธิ์ ... ดุจผ้าขาว ตาเฉิดฉายประกายดาวพราวประจักษ์ พวงแก้มอิ่ม ... จิ้มลิ้ม ... นิ่มนวลนัก เสียงทายทัก ... อ้อแอ้ ... แลสมวัย ... ... แม้นมือพ่อหยาบด้าน... กร้านกรำโลก จักพัดโบกความชั่วร้าย ... อย่าหมายใกล้ ทุกวิถีที่พ่อพา ... เจ้าพ้นภัย ... เพื่อเติบใหญ่...ได้เลือกเฟ้น ... เส้นทางตน ... ...โอละเห่ ... หลับตา ... หนาลูกน้อย พ่อจะคอย ... ช่วยประคอง ... แซ่ซ้องผล ทั้งยามสุขโศกเศร้าเหงาทุกข์ทน อย่ากังวลเลยสักนิด ... จงนิทรา ... ... ห้วงบรรเจิดเพริศพรายกลายเสกสร้าง แสงวับวาวพราวพร่างกลางฟากฟ้า อีกดาวฤกษ์เบิกชัยในชีวา นอนหลับตา...พริ้มตลอด...ราตรีนี้ ...  เจ้าหลับลึกขี้เซา ... พ่อเบาเสียง ยินสำเนียงกรนหาว...เจ้าแทนที่ พ่อไกวเปล...ใต้แสงจันทร์อันรุจี เจ้าสุขี...หลับเพลิน ... อยู่เนิ่นนาน... # ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ # ***ขอขอบคุณท่านผู้มีพระคุณที่ช่วย ติง บางคำเชื่อม บางตำแหน่งที่ไม่กลมกลืนค่ะ กลับมาปรับแก้ไขใหม่ค่ะ *** . . . แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 53 17:31:01 แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 53 17:26:05 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 22:56:54

ความคิดเห็นที่ 64 ๒) ... หากยินเสียงกล่าวย้ำ ... พ่อพร่ำบ่น ... อย่าร้อนรน ...หน้าเง้า ... เคล้าต่อต้าน อาจวูบหนึ่งในจิตคิดรำคาญ ฟังพ่อขานขับกล่อม ... พร้อมเสียงเพลง ... ... ลมผิวปาก...แผ่วล้ากว่าแต่ก่อน ด้วยเหนื่อยอ่อน ... ฝืนสังขาร ... พาลครุ่นเคร่ง เจ้าประคุณทูลหัวอย่ากลัวเกรง หากบางเพลงถูกขัดไว้ ... ด้วยไม้เรียว ... ... แนวริ้วยาว ... เจ้าเจ็บ  .. พ่อเจ็บกว่า คลึงนวดยารอยฟกช้ำ....เป็นจ้ำเขียว เหตุและผล ... จำให้ขึ้นใจเชียว อย่าลัดเลี้ยวเคี้ยวคด ... ละ-ลดไป ... ... ใต้แผ่นฟ้าสีคราม ... งามยิ่งแล้ว แสงเพริศแพร้ว  ... จากตะวันนั้นสดใส และดวงแก้วดวงนี้ที่อำไพ ฉายแววแกร่ง ... สู้แสงได้ไม่แพ้กัน ... อีกขวบปีที่ผ่านพ้น ... ซุกซนนัก พ่อตระหนัก...ความจริงทุกสิ่งผัน โลกทรรศน์...เปลี่ยนไปได้ทุกวัน ความคิดฝัน...ปรับแปร...แม้วัยเยาว์ ... ... จิตเจ้ารู้ดูความ...ตามประสา โลกมายามากสีสันพลันเร่งเร้า ช่างซักถามตามเนื้อหาปัญญาเชาว์ ฉายรูปเงา ... เค้าลาง ... อย่างใจดล ... ...เปรียบโซ่ทองคล้องนิยามผูกความรัก ให้ประจักษ์ชัดแจ้งทุกแห่งหน สืบสกุลรุ่นต่อไปในเชื้อชน เป็นบุญล้น...มีเจ้าร่วม ... รวมชีวี ... เหลี่ยมเจ้าคมสมน้ำงามยามเติมวาด ความสามารถโดดเด่นเป็นศักดิ์ศรี รับขวัญเจ้า ... ขัดเกลาเจ้า ... จนได้ดี พ่อสุขี ... ที่สุดแล้ว ... นะแก้วเอย ... # ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ # . . . แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 53 17:26:40 แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 53 15:36:09 แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 53 23:08:46 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 22:57:41

ความคิดเห็นที่ 65 ๓) ... แว่วบทเพลงแสนหวาน ... กังวานก้อง วันเจ้าครองคู่ไป ... โอ้ใจเอ๋ย เพลงของพ่อ...ยังอบอุ่น ... แสนคุ้นเคย ด้วยการเอ่ย ... อวยพร...กลอนมงคล ... ... เสียงแหบแห้งแปร่งไป ... ใช่ปัญหา แก่ชรา...รู้แก่ใจรับในผล ราวรวงข้าวเรี่ยดินยินยอมตน- โน้มลำต้นเสื่อมวัย ... ไปตามกาล ... ... ด้วยเจ้าคือ ... ยอดดวงใจให้พ่อแม่ ได้เหลียวแลอุ้มชู ... ผู้สืบสาน ทายาทที่แสนภูมิใจในวันวาน ส่งเจ้าผ่าน .. ฝั่งฝัน  ... วันครองเรือน ... จงเตรียมร่ายบรรเลง ... บทเพลงใหม่ ด้วยการ “ให้” ...หัวใจ “พลี”  ... พิสุทธิ์เสมือน- วันที่ฟ้าเพริศพราย ... ฉายดาวเดือน วันที่พ่อพาเจ้าเยือน ... เพื่อนตะวัน ... ..................................................................................................... ..................................................................................................... # ขอขอบคุณภาพประกอบสวย ๆ จากอินเตอร์เน็ตค่ะ # แก้ไขเมื่อ 07 ธ.ค. 53 17:27:17 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 22:58:21

ความคิดเห็นที่ 66 17.53 น. ๏ ทรงภูิมิทรงภพพร้อม ......... ทรงพา พสกนิกรนานา .................... ชาติเชื้อ ไทยในนอกพารา ................ ร่วมหนึ่ง นำหลักพอเพียงเอื้อ ............. โอบอ้อมอารี ๏ บารมีพระมากพ้น ............. พรรณนา พิศภาพพ่อบูชา .................. ค่ำเช้า เฉลิมชีพพระชันษา .............. พาชื่น สายพระเนตรพ่อเจ้า ............ จิตน้อมนำชัย ๚ะ๛ 18.39 น. ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมอขอเดชะ จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 53 19:58:44

ความคิดเห็นที่ 67 (กลบทช้างประสานงา) เป็นอีกเดือนสุขซึ้ง.....................ใจไทย เจ็บทุกข์มลายไปไกล..................เพริดสร้าง พ่อสุขลูกสดใส..........................ซับดื่ม ด่ำเอย ซึ้งดั่งโลกระบายล้าง....................ลบเศร้าซุกไหว ซุ่มไวเพลินวาดห้วง......................ซับเริง ซ้อนรักละมุนกลบเพลิง................พับเพ้อ ผะแผ่วผ่าวหมดเชิง......................ตามกร่าง ตาก่อตื่นติดชะเง้อ.......................ภาพเคลิ้มสุขสรรค์ สงบเสกนิรันดร์หล่อวุ้ง..................วาบหวาน หวาดหวั่นเคยตะลีตะลาน...............เริ่มคล้อย ร้อยเคียงซ่านสบายสมาน...............สมัครภัก- ดีนา เหมือนภาพหล้าเพริศพร้อย.............พรักพร้อมฉ่ำฉม ฉุยฉายลมลิ่วล้อม.........................ลานหทัย เลือนแหล่งเคยขื่นนัย.....................ร่ำไห้ รวยหอมกลิ่นวินิจฉัย......................ผันชื่น ผูกชิดเพียงหวังใกล้.......................กอดฟ้าแหนหวง จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 11:43:42

ความคิดเห็นที่ 68 ... เทิดองค์อมรินทร์พระปิ่นฟ้า เฉลิมพระชนมพรรษาเดชาสมัย พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลกังวานไกล ราษฎร์น้อมใจอภิวาทแทบบาทบงสุ์ ... องค์พ่อหลวงของปวงเกล้าเหล่าข้าน้อย ทรงเรียงร้อยถ้อยประพันธ์อันสูงส่ง ในพระราชดำรัสพิพัฒน์พงศ์ ชาติไตรรงค์ธำรงไว้ในโลกา ... หลากสีสันบรรเจิดงามเฉิดฉาย ฤาโคมสายจากสวรรค์เสกสรรค์หล้า ประหนึ่งเครื่องบรรณาการผ่านเทวา ประทานส่งองค์มหาราชาธรรม ... แสงสีเสียงเพี้ยงแสดงจำแลงสถาน สรวงสถิตย์ทิพวิมานเหนือน่านน้ำ คีตกานท์นุ่มนวลชวนดื่มด่ำ พลุรุ่งล้ำสว่างไสวไปทั่วทิศ ... เปลวเทียนหลายดวงน้อยร้อยรวมแสง จำรัสแจ้งแสมอรักภักดีจิต เสียงประสานก้องธานีศรีนิมิต คือศักดิ์,สิทธิ์แห่งปวงเกล้าเหล่าชาวไทย ... ใต้ร่มบุญราชพฤกษ์ที่ลูกพึ่ง ช่วงชีพหนึ่งจึ่งพลีเพื่อพ่อได้ ขอจงทรงพระเจริญเนิ่นนานไป พระเดชไกลพระคุณก้องซ้องสดุดี ... วันที่ห้าธันวามาบรรจบ ลูกขอนบองค์เทพไท้ในดิถี ธ เลอคุณบุญญาบารมี กว่ารวีศจีจันทร์อันเรืองรอง ... ขอคุณพระศรีรัตนตรัย จงคุ้มครองพ่อให้ไกลทุกข์ผอง ทรงรื่นรมย์สมพระประสงค์ปอง พระนามก้องเกริกฟ้าอาภาเทอญ ... ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า "ploythana" แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 53 22:31:56 จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 53 19:42:56

ความคิดเห็นที่ 69 (โคลงกลบทสีหติกำกาม&โตเล่นหางแบบ๑) บางค่ำล้ำเหนื่อยล้า.................. ลมเยียบ ฟ้ามืดชืดเย็นเทียบ...................   ทั่วห้อง เสียงแผ่วแว่วลมเลียบ.............. แลอยู่ เหงาหนึ่งถึงเสียงพร้อง.............. เพริดแพ้ภัยหนาว ราวตาฝ่าเยือกล้อม................... ลานลาย อยากหลับกับหมอนหมาย......... มอบเพ้อ ลมแรงแข่งสวนปราย................ ปรอยแปลบ หวังลึกนึกใคร่ชะเง้อ.................. เงียบคว้าฝันหวาน พานเคลิ้มเริ่มห่มผ้า.................. เผลอหา หลับเถอะเจอะเจอครา.............. คิดใกล้ สองเราเล่าฝากมา.................... เหมือนหนึ่ง ชิดเอย ท่ามเหม่อเพ้อเจ้อให้................. ห่วงทั้งหลับไหล หลับฝันดีค่ะทุกท่าน  แม้จะหนาวๆแล้ว อิอิ จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 02:03:30

ความคิดเห็นที่ 70 แสงพรายฉายวาดเวิ้ง........แวววัน ความศิวิไลซ์พลัน.............ผ่านหล้า จิตจำรัสอัศจรรย์...............จึงสดับ แสงแห่งศรัทธาฟ้า............เฟื่องฟุ้งจรุงสมัย .............................................................. .............................................................. ... ยามแสงทองส่องหล้า ... อุรารุ่ง ยังหมายมุ่ง...ปรารถนาพาสุขสม ความสว่างวาดวัน...ฝันชื่นชม แสนรื่นรมย์ดังจิต...สัมฤทธิ์การ ... ... วิถีทางสู่ฝัน...นั้นยิ่งใหญ่ ด้วยหัวใจพลีภักดิ์รักสืบสาน ความสำเร็จ...อุบัติหล้า ... ฟ้าประทาน แสงเพริศแพร้ว...แก้วตระการ...ผ่านชีวัน ... .............................................................. .............................................................. จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 53 18:31:10

ความคิดเห็นที่ 71 .                   โคลงเฟือนข้าขีดตั้ง  เป็นยา  เยียวเวย        บรรเทาพิษทุรคา         รวดร้าว        มิคำที่พรรณนา            มิอาจ        มิอยู่กับเจ้า                ชั่วฟ้าดินแปร          โคลงเฟือนวางเวี่ยเศร้า  กับชล        คลองเจิ่งน้ำตาปน           เลือดน้ำ        สิเนห์น่านนองสถล-         มารคดอก        ไยมิหมดเล่าช้ำ              บ่าล้าแรงกระมัง          โคลงเฟือนคงฟั่นเน้อ  ชลธี        วานพระคงคาตี            บอกร้อง        วอนขุนหมื่นกวี            จอมปราชญ์        โปรดอย่าหยันแม้นข้อง  ขุ่นน้ำโคลงเฟือน          ใจจะหมดจะหมดด้วย  ใจใคร        รสจะหมดหมดกระไร     กลิ่นเร้า        ถอนสถิตนี่ไฉน            จะหมด        จนจะหมดหมดเจ้า         กี่รั้งเคยมี          มณฑลนลาฎแต้ม    รอนรุม        พิมพ์แต่จุมพิตจุม       พิตทั้ง        ลานศศิสองอันชุม      รอยจูบ        จะอยู่ลับเร้นรั้ง           สู่พ้นพรรณนา          หนาวตระหนกท่วงถ้อย  เย็นชา        ใจไม่ยังกรุณา               เลือดเนื้อ        บุพเพคงสิ้นวา               ศอกสืบ        หมดไม่ได้ยืดเยื้อ           รักสิ้นโคลงคง          โคลงคงยืนกว่าข้า   ในไตร  ลักษณา        อายุบทกวีไกล          กว่าเจ้า        ใจสุทธิสมัย              วันก่อน        จะอยู่ยืนกว่าเถ้า        ฝุ่นเนื้อในกวีฯ แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 53 10:33:56 จากคุณ : สุปศกาล เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 53 01:23:09