Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
พิสูจน์เจ้าสาว (คนดีแผ่นดินซ้อง ๑๓) ติดต่อทีมงาน

คนดีแผ่นดินซ้อง

ตอนที่ ๑๓ พิสูจน์เจ้าสาว

" เล่าเซี่ยงชุน "

เมื่อ เปาบุ้นจิ้น ให้เอาตัวโจทก์และจำเลยไปควบคุมไว้แล้ว ก็หาทางพิสูจน์ข้อสงสัยของตนต่อไป โดยให้นักการไปขุดศพบุตรสาวของเอียเทาที่ฝังไว้ แล้วนำตัว เอียเทา ไปดูด้วย ศพนั้นยังไม่เน่าเปื่อยเพราะเป็นฤดูหนาว เปาบุ้นจิ้นเห็นที่หูศพมีรอยเจาะถึงเก้าแห่ง ซึ่งไม่ใช่ประเพณีของชาวเมืองเปียนเหลียง จึงชี้ให้เอียเทาดู เอียเทาก็ยืนยันว่า

".......อันศพนี้เป็นบุตรสาวของข้าพเจ้า แต่ซึ่งเจาะหูเก้าแห่งนั้น ผู้ใดจะทำอย่างไรข้าพเจ้าไม่ทราบ เมื่อเอาศพมาฝังนั้น ข้าพเจ้าไม่ได้มาด้วย....."

เปาบุ้นจิ้นก็เอาอาวุธที่เป็นของกลางมาพิจารณาแล้ว เห็นว่าลักษณะนั้นก็ผิดกับอาวุธที่ชาวเมืองเปียนเหลียงใช้ จึงถามว่าอาวุธเช่นนี้ชาวเมืองเปียนเหลียงเขาใช้มีบ้างหรือ เอียเทาก็ยังยืนคำว่า

"....อาวุธนี้เป็นของชาวเมืองอื่นก็จริง แต่เพงไซอ๋องจะเอาที่ไหนมา ข้าพเจ้าไม่ทราบ...."

เปาบุ้นจิ้นจึงให้เอาเอียเทาไปควบคุมไว้อย่างเดิม แล้วให้ เตียเหลง กับ เตียเฮ้า ไปดูที่บ้านเพงไซอ๋อง สืบหาผู้ที่มาอยู่รับใช้บุตรสาวเอียเทา เมื่อส่งตัวมาอยู่กับเพงไซอ๋อง ให้เอาตัวมาให้หมด คนสนิททั้งสองก็ไปนำตัวสาวใช้สี่คน ชื่อ นางบ๊วยบ๋วย นางจีอี นางฮองหลุน และ นางเลียวฉุย มาให้เปาบุ้นจิ้นสอบสวน

สาวใช้ทั้งสี่ก็บอกว่า พวกตนเป็นคนใช้ของเอียเทา เมื่อเอียเทาส่งตัวบุตรสาวมาอยู่บ้านเพงไซอ๋อง จึงให้พวกตนมาอยู่รับใช้ด้วย เปาบุ้นจิ้นก็ถามว่า เอียเทามีบุตรสาวกี่คน นางบ๊วยบ๋วยบอกว่าเอียเทามีบุตรสาวสองคน เปาบุ้นจิ้นก็ว่าไม่ถูก ตนได้ยินว่าบุตรสาวเอียเทามีถึงสามคน

นางบ๊วยบ๋วยก็ยืนยันว่ามีสองคนเท่านั้น นางลวนเกียว ได้สามีเป็นชาวเมืองกังไส นางฮองเกียว ยังไม่มีสามี เอียเทาจึงยกให้กับเพงไซอ๋อง

เปาบุ้นจิ้นก็ร้องขึ้นว่า

".....รู้เรื่องแล้ว เพงไซอ๋องฆ่าสามีนางลวนเกียวตาย นางลวนเกียวแต่งกลอุบายให้นางฮองเกียว มาเป็นภรรยาเพงไซอ๋อง หมายจะกำจัดเพงไซอ๋อง จริงหรือไม่....."

นางบ๊วยบ๋วยจึงว่าไม่เป็นความจริง เดี๋ยวนี้สามีของนางลวนเกียวก็ยังอยู่ เปาบุ้นจิ้น ก็ร้องตวาดขู่ด้วยเสียงอันดังว่า ผู้ใดเล่ามาทำร้ายเพงไซอ๋อง นางบ๊วยบ๋วยตกประหม่ากลัวอำนาจของเปาบุ้นจิ้น จึงพลั้งออกมาว่า นางโปย แต่นางอีจีได้ยินก็สะกิดไว้ นางบ๊วยบ๋วยจึงชงักนิ่ง ไม่พูดต่อไป เปาบุ้นจิ้นจะซักถามอย่างไรก็นิ่งเสียไม่ยอมตอบ

เปาบุ้นจิ้นเห็นมีพิรุธจึงให้พาสาวใช้สามคนออกไปข้างนอก เหลือไว้แต่นางบ๊วยบ๋วยผู้เดียว แล้วสั่งให้เจ้าหน้าที่ เอาเครื่องมือสำหรับทำโทษผู้ร้าย มาวางไว้ตรงหน้า และบอกว่าเจ้ารู้เห็นอย่างไรให้ว่าไปตามจริง ถ้าไม่บอกจะถูกทำโทษเดี๋ยวนี้

นางบ๊วยบ๋วยก็ตกใจกลัวอาญา ซึ่งจะต้องทนเวทนาแต่ผู้เดียว จึงเล่าความตามจริงว่า มีนางคนหนึ่งชื่อ โปยเลงกงจู๊ เอียเทาเอามาไว้ให้อยู่กับนางฮองเกียว แต่เดิมเมื่อแรกมาพูดจา ฟังสำเนียงไม่สู้จะเข้าใจ นางโปยเลงกงจู๊หัดพูดภาษาชาวเมืองกับนางฮองเกียวทุกวัน จนพูดจาสำเนียงชัดเหมือนชาวเปียนเหลียง แล้วส่งให้ไปเป็นภรรยาเพงไซอ๋อง

เมื่อถึงวันฤกษ์ดีเอียเทาก็ให้นางฮองเกียว ซ่อนตัวอยู่ในเรือน แล้วแต่งนางโปยเลงกงจู๊ให้สวยงาม มอบหญิงคนใช้ให้ไปด้วยสี่คน และสั่งกำชับว่าความอันนี้สำคัญมากนัก อย่าให้ผู้ใดรู้เลยเป็นอันขาด ถ้าแม้นเอาความไปเล่ากับผู้ใดให้รู้เหตุแล้ว จะฆ่าเสียทั้งสี่คน ถ้าการอันนี้สำเร็จก็จะให้รางวัล

แต่มาอยู่ที่บ้านเพงไซอ๋องได้สามวันแล้ว ก็ไม่เห็นเพงไซอ๋องไปมาหาสู่ นางโปยเลง กงจู๊ให้นางอีจีไปเชิญก็ไม่มา จึงใช้นางอีจีไปบอกความแก่มารดาเพงไซอ๋อง มารดาจึงพาเพงไซอ๋องมาส่งตัวที่ห้องนางโปยเลงกงจู๊ แล้วก็กินโต๊ะเลี้ยงดูพูดจากันเป็นปกติอยู่

จนเวลาดึก นางบ๊วยบ๋วยก็นอนหลับไปจนสว่าง ไม่แจ้งว่าเหตุผลเป็นประการใด ต่อมาเวลาเช้าจึงได้ทราบความว่า เพงไซอ๋องฆ่านางโปยเลงกงจู๊เสีย แต่ในเวลากลางคืนนั้น

เปาบุ้นจิ้นจึงให้คนเอาตัวสาวใช้อีกสามคนมาซักถามความจริง ทั้งสามคนก็ให้การต้องกันกับคำนางบ๊วยบ๋วยทุกประการ เปาบุ้นจิ้นจึงให้เอาตัวสาวใช้ทั้งสี่ไปคุมไว้ แล้วให้ ตังเกียง กับ สีปา ไปที่บ้านเอียเทาแจ้งความว่าเรื่องเพงไซอ๋องนั้น เอียเทาแพ้รับเป็นสัตย์ทุกข้อแล้ว จึงมาเชิญนางฮองเกียวให้ไปหาเปาบุ้นจิ้นเดี๋ยวนี้ จะได้พูดจาคิดอ่านกัน ถ้าไม่ไปโดยเร็วเห็นเอียเทาคงจะต้องตาย เจ้าหน้าที่ทั้งสองนายก็ไปทำตามคำสั่ง

เมื่อมาถึงบ้านเปาบุ้นจิ้น ภรรยาของเปาบุ้นจิ้นก็ออกมาต้อนรับ และพานางฮองเกียวเข้าไปข้างใน เปาบุ้นจิ้นเรียกให้ขึ้นนั่งเสมอกัน นางฮองเกียวก็ไม่นั่ง ว่าเป็นแต่ผู้น้อยไม่สมควรจะนั่งเสมอท่าน เปาบุ้นจิ้นจึงพูดว่า

"...เจ้าอย่าเป็นทุกข์ตกใจ เจ้าไม่เป็นไรดอก เราให้หามาวันนี้ หวังจะถามความให้จะแจ้ง เอียเทาบิดาเจ้ารับสัตย์ทุกข้อแล้ว เจ้าอย่าอำพรางเลย บอกตามจริงเสียเถิด....."

นางฮองเกียวก็ให้การว่า

".....พังหองส่งนางโปยเลงกงจู๊ มาให้บิดาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงหัดให้พูดเหมือนชาวเปียนเหลียง แล้วยกให้เพงไซอ๋อง ก็ส่งตัวไป การอันนี้พังหองเป็นต้นคิดจัดแจงทั้งนั้น บิดาข้าพเจ้าก็เป็นไป ด้วยกลัวอำนาจพังหอง ....."

เปาบุ้นจิ้นจึงให้คนใช้ พานางฮองเกียวหลบไปก่อน แล้วเบิกตัวโจทก์จำเลยเข้ามา เปาบุ้นจิ้นก็ถามเอียเทาว่า หญิงคนใช้ทั้งสี่ได้ให้การยืนยันว่า เอียเทาทำกลอุบาย เอานางโปยเลง กงจู๊มาปลอมเป็นฮองเกียวบุตรสาว ให้ทำร้ายเพงไซอ๋อง จริงหรือไม่

เอียเทาก็ปฏิเสธไม่ยอมรับ คงยืนคำว่าผู้ตายนั้น คือนางฮองเกียวบุตรสาวของตนเองจริง ๆ เปาบุ้นจิ้นก็เอาตัวสาวใช้ทั้งสี่คน มานั่งตรงหน้าเอียเทา แล้วถามว่า หญิงสี่คนนี้รู้จักหรือไม่ เอียเทาก็บอกว่ารู้จัก แต่ความที่นางให้การนั้นไม่จริง ที่หญิงทั้งสี่ว่ามาดังนี้ ด้วยรับสินบนเพงไซอ๋อง แต่งถ้อยคำให้มาว่าทั้งนั้น

เปาบุ้นจิ้นจึงให้คนใช้พานางฮองเกียวออกมาแล้วถามว่า

"....นี่ใคร นางฮองเกียวบุตรสาวท่านหรือมิใช่ นางนี้รับสินบนเพงไซอ๋องด้วยหรือ...."

เอียเทานั้นพอแลเห็นนางฮองเกียวก็สิ้นสติปัญญา ไม่รู้จะเอาอันใดมาพูดแก้ตัว จึงรับเป็นสัตย์ทุกข้อ พอจะเรียบเรียงใจความได้ว่า

วันหนึ่งพังหองได้เชิญให้เอียเทาไปหาที่บ้าน แล้วบอกว่า

"...ซึ่งเราเชิญท่านมานี้ด้วยมีกิจธุระเป็นข้อสำคัญ เราไม่เห็นผู้ใดที่จะไว้วางใจเป็นที่ปรึกษา ช่วยกันคิดอ่านเอาเป็นธุระได้ เห็นแต่ตัวท่านผู้เดียว...."

เอียเทาก็ถามว่าธุระนั้นประการใด พังหองจึงว่า

"....ทุกวันนี้ราชการบ้านเมืองก็สำเร็จเด็ดขาด อยู่ในเราโดยมาก ท่านก็ย่อมแจ้งอยู่แล้ว แต่มีความเจ็บแค้นนักเปรียบเหมือนเสี้ยนหนามเสียดแทงอยู่ในดวงใจ ด้วยเต็กเซงมีข้อสาเหตุกับเรามาช้านาน ต้องพึ่งท่านจึงจะกำจัดเต็กเซงได้ เราเห็นอุบายไว้สิ่งหนึ่งท่านเอาเป็นธุระจึงจะสำเร็จ ด้วยบัดนี้นางโปยเลงกงจู๊ บุตรเจ้าเมืองไซหยง ติดตามจะกำจัดเต็กเซง....."

แล้วพังหองก็แจ้งกลอุบายที่จะเอานางโปยเลงกงจู๊ ปลอมเป็นนางฮองเกียว ให้แต่งงานกับ เต็กเซง ซึ่งเป็นที่เพงไซอ๋อง แล้วนางก็จะคิดกำจัดเพงไซอ๋องต่อไป เอียเทาได้เอาความซึ่งรับเป็นธุระนี้ไปปรึกษาภรรยาของตน นางก็ว่า

"....ความอันนี้ ถ้าทราบไปถึงพระเจ้าซ้องยินจงฮ่องเต้ จะมิพากันวอดวายเสียหรือ ไม่ควรจะเอาผู้อื่นมาเป็นธุระหาความผิดใส่ตัว....."

เอียเทาก็ว่า

".....ซึ่งเจ้าพูดนั้นก็ชอบอยู่ เราก็กลัวความผิดเหมือนกัน ได้ว่ากับพังหองแล้ว พังหอง รับไม่ให้มีผิดถึง อนึ่งพังหองมีคุณต่อเราเป็นอันมาก ซึ่งเราได้เป็นขุนนางมียศศักดิ์ ทั้งนี้ก็เพราะพังหอง ครั้นเขาออกปากให้ช่วยแล้วก็จำเป็นจะปัดเสีย ไม่รับธุระก็ดูเป็นคนปราศจากกตัญญู....."

และเอียเทาก็สรุปว่า

".....พังหองเป็นต้นคิด เอานางโปยเลงกงจู๊ บุตรเจ้าเมืองไซหยง ซึ่งเป็นภรรยาเฮกหลี มาให้ข้าพเจ้าเอาไว้ปลอมเป็นนางฮองเกียว แล้วจึงได้ให้มาเป็นภรรยาเพงไซอ๋อง การอันนี้ข้าพเจ้าไม่ได้คิดทำเองเลย เพราะด้วยพังหองทั้งนั้น....."

เพงไซอ๋องซึ่งนั่งฟังอยู่ด้วย จึงได้รู้ความจริงว่า นางโปยเลงกงจู๊ ซึ่งตนฆ่าเสียนั้น ที่แท้เป็นภรรยา เฮกหลี ทหารเอกของเมืองไซหยง ที่ตนได้ฆ่าเสียเมื่อครั้งไปตีเมืองไซหยง ติดตามมาแก้แค้นแทนสามี

เปาบุ้นจิ้นจึงให้คนสนิท ไปเชิญพังหองมาสอบถาม แต่พังหองไม่ยอมมาและได้บอก ฝากคนสนิทมาว่า

"....เราเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ไม่ควรที่เปาเล่งถูจะเรียกตัวเราไป ชอบแต่เปาเล่งถูมาหาเราจึงจะควร เมื่อเปาเล่งถูถือยศไม่มาหาเรา ถ้ามีกิจธุระสิ่งไร จงไปพบพูดกันในพระราชวัง เมื่อเวลาคอยเฝ้าเถิด....."

เปาบุ้นจิ้นหรือ เปาเล่งถู ก็มิได้ว่าประการใด แล้วสั่งให้เสมียนเขียนถ้อยคำให้การของโจทก์จำเลยและพยานทั้งสี่ รวมทั้งนางฮองเกียวและคำสารภาพของเอียเทาเตรียมเอาไปถวายให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตร แล้วก็ปล่อยตัวทุกคนกลับบ้าน เหลือไว้แต่เอียเทาผู้เดียว


##########

นิตยสารโล่เงิน
กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 08:45:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com