|
ตอนที่ 24
เรียกได้ว่ามื้อเที่ยงวันนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆเดือนที่ครอบครัวของเมษยาได้มีโอกาสมาทานอาหารนอกบ้าน แบบพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก บวกนาวิกไปด้วยอีกคนซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ สำหรับเมษยาแล้ว ตั้งแต่ จำความได้จนถึงตอนนี้ การเป็นลูกคนเดียวในครอบครัวที่ทั้งพ่อและแม่ไม่ค่อยจะมีเวลาให้มากนัก ทั้งยังแยกกัน ทำงานแล้วก็แยกกันอยู่คนละที่บ่อยๆ ก็ไม่ได้ทำให่รู้สึกเหินห่างกันแต่อย่างใด ตรงข้ามเธอกลับสนิทกับพ่อแม่ มากๆ พูดคุยได้แทบทุกเรื่อง มีอะไรก็เล่าให้ฟังตลอด ซึ่งก็จะได้รับความคิดเห็นหรือคำแนะนำดีๆกลับมาเสมอ
สรุปว่า กรเค้าอยู่กับพ่อแล้วก็พี่ชาย แต่ครอบครัวที่เค้าพาน้องเมไปแนะนำ ให้รู้จัก คือครอบครัวของแม่ที่เสีย ไปนานแล้ว แถมยังไม่เคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวที่อยู่ด้วยให้ฟังอีก อืม น่าแปลกอยู่นะ คุณว่ามั้ย ก็ถือว่าแปลก แต่ไม่รู้สิ เค้าจะมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับครอบครัวที่ไม่อยากพูดถึง แล้วก็ส่วนใหญ่ลูกชายก็ ชอบจะสนิทกับแม่มากกว่าพ่อไม่ใช่เหรอ หรือว่ายังไง วิก
คนถูกถามได้ยินชื่อตัวเองแว่วๆก็เงยหน้าขึ้นมาจากการดูรูปในกล้องดิจิตอลทั้งยังยิ้มค้างอยู่
อะไรนะครับ เมื่อกี้คุณป้าถามอะไรผมรึเปล่า
สามพ่อแม่ลูกมองหน้ากันยิ้มๆ
ป้าถามว่า ส่วนใหญ่ลูกชายจะสนิทกับแม่ม่ากกว่าพ่อใช่มั้ย
ถ้าถามผม ผมว่าผมก็สนิทกับทั้งสองคนพอๆกันแหละ แต่จะชอบคุยกับแม่มากกว่าในบางเรื่อง เพราะแม่ ใจดีกว่าพ่อ
พูดจบเขาก็ก้มหน้าดูรูปต่อ
ขอเราดูบ้างสิ เรายังไม่เห็นรูปตัวเองเลย วิกน่ะเอาแต่ดูอยู่คนเดียว
นาวิกเงยหน้าขึ้นมองเมษยาด้วยอาการเหมือนตกใจนิดๆ ทั้งที่ไม่น่าจะมีอะไรให้น่าตกใจเลย
คือว่า แบตมันจะหมดแล้วเม เราว่าไว้กลับบ้านโหลดลงโน้ตบุ๊คค่อยดูดีกว่า นะๆ เอ้อ แล้ว เค้าจะประกาศผล คนเข้ารอบต่อไปเมื่อไหร่เหรอ
อาการที่รีบเก็บกล้องและเปลี่ยนเรื่องชวนคุยหน้าตาเฉยแบบนี้ ทำให้เมษยาต้องขมวดคิ้วมองญาติผู้พี่ของเธอ อย่างจับผิด ท่าทางแบบนี้ เขาน่าจะมีอะไรปิดบังอยู่แน่ๆและมันก็คงเกี่ยวกับภาพถ่ายในกล้องนั้น
ประกาศผลพรุ่งนี้ก่อนสิบโมง ทางเวบไซต์ แต่คงไม่ต้องรีบตื่นมาเช็คเองหรอก เดี๋ยวอาจารย์ก็โทรมาบอกอยู่ดี
นาวิกพยักหน้าแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบซาลาเปามาทานโดยไม่พูดอะไรอีก ไม่นานนักหลังจากนั้น ทุกคนก็พากัน ออกมาจากร้านแล้วเดินข้ามถนนกลับไปโรงแรมอีกครั้ง เพราะจอดรถยนต์ไว้ที่นั่นตั้งแต่เช้า ระหว่างกำลังจะถึง ที่จอดรถ เมษยาก็ต้องหยุดเดินเพื่อรับสายโทรศัพท์จากอาจารย์ไทจิ ทำให้อีกสามคนที่เหลือเดินทิ้งระยะห่างไป พอสมควร แล้วเมื่อเดินมาถึงทางเลี้ยว อยู่ดีๆก็มีใครคนหนึ่งโผล่มาจากตรงนั้นพอดี จนเกือบจะชนกันเข้า
ขอโทษค่ะ/ครับ
ต่างฝ่ายต่างพูดขอโทษแทบจะพร้อมกัน ซึ่งเป็นจังหวะที่เมษยากดวางสายโทรศัพท์พอดี จึงได้มองเห็น ชัดเจนว่าเป็นใครที่เกือบจะเดินมาชนกัน
อ้าว พจน์ ยังไม่กลับอีกเหรอเนี่ย นึกว่ากลับไปตั้งแต่แข่งเสร็จแล้ว
ธีรพจน์ยิ้มนิดๆพลางยกมือขึ้นขยับแว่น
ก็กำลังจะกลับอยู่นี่ไง บังเอิญจังที่ได้เจอเม ผมยังไม่ได้บอกใช่มั้ยว่าวันนี้ เมทำผลงานได้ดีมากๆเลย นะครับ โดยเฉพาะเพลงแรก เลือกเพลงที่ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้ดีจัง
ต้องขอยกความดีทั้งหมดให้อาจารย์ไทจินั่นแหละ เพราะอาจารย์เป็นคนเลือกเพลงนี้ให้เองเลย แต่พจน์เองก็ทำได้ดีมากเหมือนกันนะ นั่งฟังอยู่ข้างหลัง มีแต่คนปรบมือกันใหญ่
เมษยาพูดไปตามที่รู้สึก ชายหนุ่มตรงหน้าอาจจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญของเธอก็จนจริง แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าจะมีความเป็นเพื่อนกันไม่ได้ซะหน่อย
เม รีบมาได้แล้ว มัวทำอะไรอยู่
เสียงร้องเรียกของนาวิกที่เดินย้อนกลับมาตามอีกครั้งทำให้เมษยาต้องรีบบอกลาธีรพจน์ทันที
พี่ชายเรามาตามแล้ว ไปก่อนนะ"
ธีรพจน์มองตามร่างหญิงสาวกับชายหนุ่มอีกคน จนพ้นจากระยะสายตา แล้วแววตาที่ดูอ่อนโยน เป็นมิตรของเขาก็เปลี่ยนไปกลายเป็นความเยือกเย็นน่าหวาดกลัว ขึ้นมาอีกครั้ง ถึงแม้ว่าผู้ชนะการแข่งขันกับ รองอันดับ 1 จะได้ไปแสดงคอนเสิร์ตที่ยุโรปด้วยกัน แต่ ผู้ที่จะทุนเรียนต่อที่เวียนนา ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของ นักดนตรีหลายๆคน มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น และคนๆนั้นก็ต้องเป็นเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ก็ตาม
...
เสียงผิวปากที่ฟังดูอารมณ์ดีของวศินขณะเดินเข้ามาในร้าน ทำให้แป้งร่ำต้องละสายตาจากการ คิดเงินตรงหน้ามามองอย่างแปลกใจ
วันนี้วันเสาร์แท้ๆ แต่ลูกค้าหนาตากว่าเสาร์ที่แล้วนะเนี่ย หวังว่าวันต่อๆไปคนจะเยอะแบบนี้ทุกวัน
พอได้หังเหตุผลที่ทำให้เขาอารมณ์ดี แป้งร่ำก็แอบถอนใจ เธอไม่แน่ใจว่าวศินได้สังเกตรึเปล่าว่าวันนี้ กรปิดร้านทั้งวัน
พี่วศิน ยังจำได้อยู่มั้ยคะ ว่าวันนี้มีอะไร
ชายหนุ่มเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
ก็เป็นวันที่เมแข่งไวโอลินรอบแรกไงคะ แป้งยังนึกอยู่เลยว่าพี่จะไปดูรึเปล่า
หญิงสาวตอบพลางยื่นตังค์ทอนให้ลูกค้าที่ยืนรอ พอหันมามองอีกทีก็เห็นเขาทำหน้าบึ้งตึงผิดกับเมื่อกี้ เป็นคนละคน
ไปให้เสียเวลาทำไม พี่ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกับสองคนนั้นอีกแล้ว ที่พี่แวะมาเนี่ย พี่จะบอกน้องแป้ง ว่า พรุ่งนี้พี่จะไปเที่ยวทางเหนือกับเพื่อนๆ คิดว่า คงไปประมาณอาทิตย์นึง แป้งดูแลร้านคนเดียวไหวนะ
แล้วถ้าแป้งบอกว่า ไม่ไหวล่ะคะ พี่จะว่าไง แป้งร่ำถามกลับแบบจริงจัง ไม่มีท่าทีว่าล้อเล่น อีกฝ่ายยักไหล่เหมือนไม่สนใจ
ไม่ไหวก็ปิด บอกตรงๆตอนนี้พี่เบื่อแล้ว เดี๋ยวกลับมาค่อยว่ากันอีกที
ขณะที่กำลังพูด เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น วศินรีบล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาดู เขายิ้มกว้าง เมื่อมองชื่อสายที่โทรเข้า
เดี๋ยวพี่ต้องรีบไปธุระก่อน ไว้เจอกันใหม่ ยังไงถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาได้ตลอดนะ
แป้งร่ำยังไม่ทันอ้าปากได้พูดอะไรอีก ร่างของชายหนุ่มก็เดินลิ่วออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว เธอถอนใจกับตัวเองอย่างเบื่อๆอีกครั้ง คิดไม่ออกว่าจะเอายังไงต่อไปกับชีวิตตัวเองดี
สนามหญ้าริมสระว่ายน้ำข้างบ้านของเมษยา กลายเป็นสถานที่สำหรับอาหารเย็นมื้อวันนี้ ที่ดูจะมี ความพิเศษกว่าทุกวัน เพราะผู้เป็นพ่อกับแม่ตั้งใจจะจัดเป็นงานเลี้ยงฉลองเล็กๆให้กับการแข่งขันไวโอลิน รอบแรกที่เพิ่งผ่านพ้นไปได้ด้วยดีของลูกสาวคนเดียว กรเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน เขาเดินมองไปรอบๆตัวบ้านอย่าง สนใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้เข้ามาในตัวบ้าน ที่ผ่านๆมา ก็เพียงแต่จอดรถส่งเมษยาหน้าประตูรั้วเท่านั้น ในมือ ของเขาถือกล่องคุ้กกี้ ซึ่งเพิ่งลงมือทำเองเมื่อช่วงบ่ายนี้มาด้วย
มาถึงเร็วดีนี่ พอดีเลย ผมอยากจะขอคุยด้วยเป็นการส่วนตัวหน่อยได้มั้ย
น้ำเสียงฟังดูมีอำนาจของเจ้าของบ้านดังขึ้นจากด้านหลัง กร หันไปหาเขาทันทีที่ได้ยิน คุยเป็นการส่วนตัวกับผมน่ะเหรอครับ?
ชายหนุ่มถามย้ำอีกครั้งพลางชี้มาที่ตัวเองเพื่อความแน่ใจ
ใช่ ไม่นานหรอก ตามมาทางนี้สิ
| จากคุณ |
:
Travel to the moon
|
| เขียนเมื่อ |
:
19 พ.ย. 53 00:51:19
|
|
|
|