ไปฟังเรื่องราว ความฝันที่สร้างได้จริงเพราะมีปัจจัยทุกอย่างรองรับอย่างตรงเป้า หรือนี้จะเป็นกฏแห่งแรงดึงดูด shelldon การ์ตูนแนวคิดเจ๋งจากคนไทยสร้างผลงานระดับโลก ... วิจารณ์ได้นะครับว่า อ่านแล้วน่าสนใจหรือเปล่า
ขอบคุณ ครับ เจ้าหยอยน้อย Shelldon ..อาจเพราะตำแหน่ง อาจารย์สอนหนังสือในวิชาสถิติและไฟแนนซ์ของดร.จิรยุทธ ที่ Cleveland State University, Ohio สหรัฐอเมริกา อาชีพที่มีความมั่นคง และได้รับการนับหน้าถือตาจากสังคม ไม่ได้ตอบโจทย์ในชีวิต.. ..อาจเพราะเพียงเปลือกหอยเรซิ่น เล็กๆ ของชำร่วย ภายใต้สินค้า shell Hut ธุรกิจในครอบครัวชุษณะโชติ คือ จุดเริ่มต้นความฝันและเริ่มมองการณ์ไกล.. ..อาจเพราะวิสัยทัศน์อันกว้างไกล พร้อมเห็นผลความสำเร็จที่ชัดเจน..ไม่คิดหวาดหวั่นย่อท้อต่ออุปสรรค และความยากลำบากที่เข้ามาท้าทาย กับเวลา 10ปี พร้อมเงินทุน รวมกว่า100 ล้านบาท ..เดินสาย เข้าพบบริษัท 200 กว่าแห่ง หาทุนร่วมสร้าง ..จนมีวันนี้ได้
แต่สิ่งนี้เป็นเพียงเรื่องราวในอดีต ซึ่งใครๆ ก็ยัง ไม่รู้จัก shelldon การ์ตูนอนิเมชั่นซึ่งถูกคิดค้นโดยคนไทย สามารถสร้างแบรนด์จนเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลก .. ไม่มีคำว่าล้มเหลว แต่มีคำว่าล้มเลิก ใครๆหลายคนอาจไม่เข้าใจความหมายนี้ชัดเจนนัก แต่ผู้อ่านจะได้สัมผัสถึงเรื่องราว ของการ์ตูนอนิเมชั่นหอยฮีโร่ Shelldon ตัวแทนนักสู้ ขวัญใจคนดู และอาจเรียกได้ว่า shelldon มี character ไม่แตกต่างจากผู้สร้าง ดร. จิรยุทธ ชุษณะโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเชลฮัท อินเตอร์ เทนเม้นท์ จำกัด มากนัก และวันนี้ Shelldon กำลังพิสูจน์ความสำเร็จอย่างเต็มที เดินหน้าอย่างเต็มตัว กับกระแสการตอบรับจากผู้ชมทั่วโลก 110 ประเทศ อีกทั้งเหตุผลมากมาย.. ว่าทำไมวันนี้ Shelldon จึงขึ้นแท่นทำรายได้อย่างต่อเนื่อง.. ต่อยอดธุรกิจMerchancedise มีผลกำไรอย่างมั่นคง ..
^ ^ : สิ่งที่มีอยู่คือ ต้นทุนสำคัญ ใกล้ตัว Shelldon เกิดขึ้นจากเพิ่มมูลค่าธุรกิจต่อยอดของชำร่วยหอย เรซิ่น ธุรกิจในครอบครัวบวกกับ คิดสร้างจินตนาการสร้างสรรค์ โดยมีเครื่องมืออย่าง คือ พรแสวง และพรสวรรค์.. พร้อมเปิดโอกาสหนทาง ..ที่มาของ Shelldon เพราะความคิดต่าง คือการสร้างโอกาส .. ดร. จิรยุทธ: เริ่มจากพี่สาวผมทำธุรกิจของขวัญของชำร่วย โดยเน้นเอาเปลือกหอยมาทำเป็นเรซิ่น เวลาเราออกบูธจะทำบล็อกอาคารใหญ่ๆ เลย ก็จะมีเทียนใส มีกรอบรูป ที่ตกแต่งเป็นธีมทะเล แต่ว่าเราให้ตัวหอยเป็นตัวเอก ผมทำหน้าที่ช่วยติดต่อคนในต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องของอินเตอร์เนชั่นแนลมาร์เก็ตติ้ง ผมว่าการสร้างแบรนด์เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับงานศิลปะ งาน Hand Make ถ้าไม่มีแบรนด์ ในระยะยาวอยู่ไม่ได้แน่ๆ เราก็เลยอยากจะส่ง งานไปทั่วโลก แล้วก็อยากจะสื่อความหมายดีๆ ไป Shelldon ก็เลยเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับShell Hut น่ะครับ Shell Hut เกิดขึ้นมาปี 2000 ประมาณ เดือนตุลาคม Shelldon เกิดประมาณต้นปี 2001 ตอนนั้นไม่เคยรู้เรื่องอนิเมชั่นมาก่อน อยู่อเมริกาจึงคุยกับเพื่อนๆ คนที่ทำฟรีแลนซ์ให้ดิสนีย์ ก็วาดออกแบบให้ ปรากฏว่าดีไซน์ไม่ได้สักที ผมตัดสินใจกลับมาที่เมืองไทย ตอนนั้นลุยหนัก ลุยเต็มที่ เพราะการเอาหอยมาเล่นเป็นตัวเอกไม่เคยมีใครคิดมาก่อน ปี 2002 เดือน พ.ค. ก็มาทำงานที่Shell Hut บอกน้องดีไซน์เนอร์ทั้งหมด ให้ช่วยออกแบบ เขาก็สร้างเป็นดร.เชลล์ เป็นเทสเตอร์ตัวแรก กว่า100ดีไซน์ ผมอยากเลือกแบบเปลือกหอยดูมีคุณค่าหายาก ปรากฏว่ามาลงตัวที่เปลือกหอยของเยลก้าสตาร์เชลล์ ( yokia star shell) หรือเปลือกหอยพระอาทิตย์ หลังจากนั้นผมก็คิดว่าถ้าอย่างนั้นต้องหาช่องทาง ผมมีความสนใจอนิเมชั่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยคิดต่อยอดทำหนังการ์ตูนอนิเมชั่น ทางภาพยนตร์หรือทีวี เลยลองทำทีวีซี่รีย์ก่อน เป็นการเช็คเรตติ้งด้วย แล้วค่อยเพิ่มมูลค่าในงานสร้างต่อเป็นภาพยนตร์ เลยหาบริษัททุนร่วมสร้างที่สิงคโปร์ จากนั้นก็สำเร็จเป็นShelldonในรูปของทีวีซี่รี่ย์ season 1 เริ่มออกอากาศช่อง 3 ปี 2008 มีการตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี จากนั้นผมก็หาช่องทางกับตัวแทนจำหน่าย พอดีได้ไปเมืองคานส์ปี 2007 ก็นำ Shelldon ไปเสนอ เขาสนใจกันมาก เพราะConcept ไม่มีใครทำมาก่อน พอผมเล่าเรื่องราวความเป็นมา Shelldon เขาทึ่งผมบอกว่า ยูเครซี่มากเลย มันน่าสนใจ คือมีเรื่องราวประกอบ เขาสนใจมาเป็นตัวแทนให้เรา พอมีหนทาง จึงเริ่มจัดจำหน่าย ไป10-20 ประเทศ ก่อน จากนั้นก็ขยายเพิ่มขึ้น 45 ประเทศ และ 80 ประเทศ กระทั่งตอนนี้ 110 ประเทศแล้ว ที่เติบโตก้าวหน้าได้ขนาดนี้เพราะเราเลือก บริษัทตัวแทนจัดจำหน่ายระดับเวิลด์คลาส.. และ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราโชคดี ที่ได้ตัวแทนจำหน่ายระดับเวิลด์คลาสคือฮิปเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เขาเป็นคนปั้นแบรนด์โทมัส รถไฟโทมัส บ๊อบเดอะบิลเดอร์ บาร์นี่ ปรากฏว่าพอเขารู้เรื่องราวของ Shelldon แต่เขาสนใจจะพัฒนา Brand Shelldonให้ ..เราก็เลยโชคดี.. ^ ^ นับได้ว่า Shelldon เข้ามาได้ถูกจังหวะ ต่อกระแสอนุรักษ์ธรรมชาติและเตือนภัยโลกร้อน Gobal warming ที่ถึงผนวกเข้ากับ Character s Shelldon ที่ได้ตอบโจทย์ความเข้าใจในเรื่องเดียวกัน ให้กับผู้ชมทั่วโลก ..และสิ่งนี้เองคือหนทางบุกตลาดโลก ..สร้างBrand Shelldon ดร. จิรยุทธ: สิ่งที่ทำให้ผมภาคภูมิใจมากพราะShelldon ได้เป็นหนึ่ง ที่เข้าฉายในช่องของเอ็นบีซี ทุกวันเสาร์ 10 โมงครึ่ง ตอนเช้า เป็นภาษาอังกฤษ ภาษาของเชลดอน การเขียน บทเขียนต่างๆ เป็นคนของฮอลลีวู้ดช่วยเขียน แต่โครงเรื่องทั้งหมดมาจากเรา ตอนนี้ก็มีแปลเป็นภาษาสเปน ช่องเทลามอนโด ของอเมริกา ทุกวันอาทิตย์ 8 โมงเช้า มีแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส ฉายที่ช่อง 5 ฝรั่งเศส มีแปลเป็นภาษาอาหรับ ฉายที่ประเทศอาหรับทั่วโลก มีแปลเป็นภาษารัสเซีย ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาเราเน้นตลาดยุโรปแต่ปีนี้จะเน้นตลาดเอเชีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ต้องให้เวลา Shelldon ทำความคุ้นเคยกับคนเอเซียสักหน่อย แต่ตอนนี้ลุยมาได้ 110 ประเทศแล้ว และเราจะไม่หยุด ต้องไปไกลกว่านี้แน่นอน อนาคตคงต้องปั้นตัว Shelldon ไปในรูปของConsumer Product ผมคิดเสมอว่า ทำไม เฮลโลคิตตี้ โปเกมอน จึงสามารถเป็นตัวกำหนดจีดีพีของญี่ปุ่นได้ ทั้งๆ ที่เรายังไม่เห็น หนังใหญ่ หรือเห็นหนังซีรี่ย์ของเขาจริงๆ จังๆ เลย แต่ประสบความสำเร็จมาก ทำให้ผมเริ่มมองเห็นช่องทางว่าเป้าหมายจริงๆ ของShelldon แล้วต้องไม่ใช่แค่หนังภาพยนตร์ เป็นการ์ตูนทีวีซี่รี่ส์แล้วจบ .. Shelldon มี character ที่ชัดเจนเป็นตัวแทน มีคุณสมบัติที่ทุกคน ในโลกต้องการกับ 3 เรื่อง คือการให้ การลดภาวะโลกร้อน และการค้นพบตัวเอง ในเรื่องราวของShelldon แต่ะละตอนจะบอกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราคิดออกมาในรูปแบบนี้ แล้วมันก็สำเร็จจริงๆ..
^ ^ คิดเป็นสัดส่วนโดยรวม ประมาณ 80% รายได้จากกลุ่มประเทศในแถบเอเชียรวมทั้งประเทศไทย 20% โดย ช่วง 5 ปีนับจากการออกอากาศ Shelldon ทั่วโลก คือตัวเลขประมาณการรายได้รวมประมาณ 500 ล้านกลายเป็นคำตอบง่ายๆว่า ทำไม จึงมีต่อยอดทางธุรกิจMerchancedise อย่างมั่นคง ..กับกลยุทธ์ทั้ง 3 ด้านชื่อมโยงด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ คือ character desing / Concept/ connection ... ดร. จิรยุทธ: ที่เราต้องมองเรื่อง Concept Character Content ก็คือStory lineต่างๆให้ชัดเจนก่อน โดยทำการ ศึกษาอย่างละเอียด ไม่เอาความเป็นตัวตนของเราไปตัดสินความต้องการของตลาด แล้ว Character Desing กับเนื้อเรื่องต้องสอดคล้องกัน แต่ว่าถ้า Character Desing มีทั้งเรื่องสนุก สวย เติบโตได้ดี ก็จะดึงผลตอบแทน มาจาก Broadcating Boxoffice และ Home Entertainment แต่ตลาดเมืองไทยมันเป็นตลาดปราบเซียนนะ มันไม่มีอะไรแน่นอนเลย แต่ต่างประเทศก็ไม่มีอะไรมาก คือต้องหาตัวแทนจำหน่ายระดับเวิลด์คลาสให้ได้ ให้สนใจในรูปแบบของเรา แล้วเวลาเลือกตัวแทนจำหน่าย เราต้องดูหลายอย่างคือ หนึ่งเขามีช่องทางBroadcating แค่ไหน สองเขาต้องมีเครือข่ายไหม ส่วนในประเทศเราทำเองทั้งหมด วิ่งสปอนเซอร์ สร้างกิจกรรมหลายหลากด้าน เช่น School Tour เยี่ยมเด็ก จัดกิจกรรมเพื่อสังคมให้กับน้องๆ ในโครงการ เชลล์ดอน น้ำใจสู่น้ำใสให้น้อง ..งานวันเด็ก ปีใหม่ คริสต์มาส เปิดพื้นที่ประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ ผมมีความแน่วแน่เป็นคีย์หลัก เพราะความอดทน คือทุกอย่าง ที่เราทำ ทำ อย่างตั้งใจ ถึงอย่างไรก็ไม่ยอมแพ้ มีพาร์ทเนอร์ที่ดี เมื่อมีจิ๊กซอร์ที่ถูกต้อง วางลงถูกที่ มารวมกันให้ถูกภาพ ก็สำเร็จเสร็จตามเป้าหมาย ..
^ ^ ผลงานดีๆอาจมากมายถูกโยนทิ้งในถังขยะ เพราะยังยังขาดคนต่อจิ๊กซอว์ที่พร้อมจะเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ให้กลายเป็นภาพที่สมบูรณ์ หากเราต้องการให้ Creative Economy เป็นกระแสเศรษฐกิจคลื่นลูกใหม่ เกิดความยั่งยืนได้จริงในยุคโลกาภิวัฒน์ มิใช่ มาเร็ว ไปเร็ว .. ดร. จิรยุทธ เป็นคนริเริ่มต่อจิกซอว์ แต่ละตัว..นั้นแล้ว Shelldon การ์ตูนซีรีย์ Shelldonmovie ล่าสุดกับการร่วมทุนสร้าง Birds land กับทาง GMM เติมความฝัน ให้ผู้ใหญ่ที่อยากมีพื้นที่เล็กๆได้กลับไปมีความสุขอย่างเด็กอีกครั้ง ..
ดร. จิรยุทธ: ขณะนี้ทางบริษัท กำลังอยู่ในระหว่างการผลิตภาพยนตร์ Shelldon ในรูปแบบใหม่โดยได้ร่วมกับบริษัท ALLOSCOPY ประเทศสิงคโปร์ นำนวัตกรรมใหม่ของวงการ Entertainment ของโลกมาใช้ นั่นคือเทคโนโลยี 3D Stereoscopic ภาพยนตร์ 3 มิติ จะเป็นมิติใหม่ของวงการภาพยนตร์ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก มีกำหนดฉายราวปี 2012 นี้ ส่วนBirds land ผู้ใหญ่แกรมมี่แชร์ความฝันว่าอยากจะทำการ์ตูนตั้งแต่หนุ่มๆ แล้ว เพราะการ์ตูนมันเป็นเรื่องของขอบเขตเวลา ที่ไม่มีมิติพรมแดน ก็พอนึกถึงเรื่องของพี่เบิร์ด แล้วก็ร่วมแสดงความคิดเห็นกันโดยที่ผมก็เอา Know How ..มาร่วมคิดกับจีเอ็มเอ็ม แล้วก็พัฒนาการ์ตูนพี่เบิร์ดออกมา เวลาทำพี่เบิร์ดเป็นการ์ตูนคนไทยต้องมองแล้วรู้ว่าคือพี่เบิร์ด คือขวัญใจ คือซุปเปอร์สตาร์ของคนไทย ซึ่งเราก็มองอนาคต Birds land อยากขายไปทั่วโลก แต่อย่างน้อยที่สุด ก็พยายามคิดถึง Character Desing ทำการ์ตูนพี่เบริด์ให้เป็นสากล..
^ ^ จริงหรือ ? ..ประเทศไทยยังขาด ความเชื่อมโยง ในแง่ของการผลักดันการ์ตูนอนิเมชั่นสู่เวทีโลก ..เพราะอะไร .. นโยบายแผนการดำเนินการต่อยอด Creative Economy จุดประกายนักฝันไทยสร้างอนิเมชั่นไทยให้มีภาพลักษณ์ ครองตลาดนานาชาติอย่างเป็นรูปธรรม..
ดร. จิรยุทธ: ส่วนตัวผมคิดว่าประเทศไทยมีศักยภาพด้านต่างๆ พร้อมใช้อยู่แล้ว เช่นเด็กไทย เก่งเยอะมาก แต่มันเก่งคนละด้าน บางคนเก่งเล่นดนตรี บางคนเก่งวาดภาพ บางคนเก่งเขียนเรื่อง แต่ไม่มีคนมาเชื่อมต่อ ไม่มีฐานรองฐาน ศูนย์กลางรวบรวม ผม หมายถึงทั้งเอกชนและรัฐบาลต้องมาช่วยกันวางเรื่องต่างๆ ที่อยู่กระจัดจาย นำมาเชื่อมต่อเป็นภาพที่สมบูรณ์ อนิเมชั่นไทยในอนาคตต้องพึ่งทั้งภาคเอกชนและรัฐบาล คือพอช่วยเสร็จแล้วต้องต่อยอดออกไป แต่เราควรคัดสรรเสียก่อน เอาคีย์หลักสัก 5 บริษัท แล้วถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยสร้าง เน็ตเวิร์กต่อไปอีก 5-10 บริษัท ต่อยอดไปเรื่อยๆ ให้มันเป็นปิรามิดลงมา อาจใช้เวลามากนิดหนึ่ง แต่ว่าน้อยที่สุดวันหนึ่งมันรูปแบบทางความคิดที่แข็งแกร่งขยายไปทั่ว คนที่ประสบความสำเร็จก็จะดูแลเน็ตเวิร์กของตัวเองได้ สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับการจัดสรร การเลือก เงื่อนไข และสัญญา ประเด็นคือเวลาคุณจะช่วยใคร คุณต้องมั่นใจว่าเขาช่วยตัวเองได้ไหม แต่ถ้าจะช่วย ก็ต้องช่วยอย่างเฉลียวฉลาด มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ..
^ ^ : สุดท้ายเร็วนี้ Shelldonที่จะกลับมาโลนแล่นในจอทีวีอีกครั้งหนึ่ง กับ ซีรีย์ซีซั่น 3 ครั้งนี้ จะมีเนื้อหาอะไรเป็นพิเศษ ครองใจคนดูเช่นเคย ดร. จิรยุทธ: ซีซั่น1-2 บอกถึงที่มา ค้นหาตัวตน ซีซั่น 3-4 Shelldon ต้องแอดเวนเจอร์แล้ว คือ Shelldon รู้ว่าตัวเองมีศักยภาพที่จะช่วยเหลือคนอื่นๆได้ ช่วยเหลือเพื่อนหอยเขาได้ อย่างเช่นน้ำมันเสียตกลงมาสู่ทะเล เขาสามารถขับเอาออกซิเจนจากระดองไปช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของโลกได้ เพราะเขาเป็นหอยพระอาทิตย์ที่มีกระดองแข็ง เราก็สร้างรื่องมันมา เรื่องราว ซีซั่นนี้มีความตื่นเต้นการผจญภัยในกับเพื่อนผอง และ Shelldon ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้เพื่อนใหม่ๆ และบางเหตุการณ์จะโยงไปถึงบรรพบุรุษ Shelldon ด้วยว่าเขามีความเป็นมาอย่างไร เช่น เรื่องของกล้องเทโลสโคป ผจญภัยเจอโจรสลัด จะสนุกสนานมากขึ้น 6 มกราคม 2554 เตรียมพบกับ Shelldon ซีรีย์ ซีซั่น 3 ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น.-18.30 นะครับ.. ท้ายสุด ต้องยกนิ้วให้ Shelldon พร้อมกล่าวว่า จงมีความอดทน แน่วแน่ ตั้งใจ..สุดท้ายแล้วความโชคดีจะเข้าของคุณ อย่างแน่นอน
จากคุณ |
:
เจ้าหยอยน้อย
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ย. 53 12:46:39
|
|
|
|