Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ขอคำแนะนำจากเพื่อนด้วยจร้า เรื่องสั้น Dead Poet Part 9 : อมนุษย์ (พร้อมแปะเรื่อง) ติดต่อทีมงาน

Dead Poet Part 9 : อมนุษย์

ทุกเช้าวันที่โรงเรียนเปิด ณ ป้ายรถเมล์แถวประชาชื่น มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งรูปร่างเรียกได้ตามสามัญว่า “อีอ้วน” นั่งอยู่ เธอใส่เครื่องแบบนักเรียนเสื้อขาว กระโปรงสีกรมท่า มารอรถเมล์อยู่ที่ป้ายนี้เป็นประจำ

สวัสดีค่ะ “อีอ้วน” ที่แนะนำไปเมื่อกี้ ก็คือหนูเองนั่นแหละคะ หนูชื่อ พรพิมล สงวนนามสกุล อายุ 18 ปี เรียนอยู่ ม. 6 น้ำหนักไม่ขอระบุ ส่วนสูงเรียกได้ว่าเตี้ย (ทุกอย่างประกอบกันจนเรียกได้ว่าอ้วนมากอ่ะคะ) นอกจากรูปร่างที่ไม่ดีแล้ว หน้าตาหนูก็ยังไม่ดีอีกต่างหาก ยังดีที่มีแว่นสายตามาบดบังหน้าตาของหนูได้บ้างเล็กน้อย

ชีวิตประจำวันของหนูเวลาไปโรงเรียนมันน่าเศร้ามากเลยค่ะ ตั้งแต่ ม.1 แล้ว หนูมักถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนว่า “อีอ้วนๆๆๆ” หลังจากจบคำนั้นมักตามมาด้วยเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ทุกคนในห้อง พวกเพื่อนผู้ชายก็มักวิ่งเข้ามาแย่งแว่นของหนูไปซ่อน ทำให้หนูมองอะไรไม่เห็นเลยค่ะ ร่างกลมๆ ของเด็กหญิงคนหนึ่ง ได้แต่วิ่งเอามือคว้าลมไปมาตามเสียงล้อเลียน เสียงหัวเราะ “อีอ้วนๆ ทางนี้ๆ” ไม่มีใครเข้ามาช่วยหนูเลยค่ะ จนอาจารย์เข้ามาในห้อง เพื่อนๆ ถึงรีบเอาแว่นมาคืนให้หนู บอกตามตรงอย่างไม่อายเลยค่ะ ว่าเกือบทุกวันที่ไปโรงเรียน หนูจะแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำอยู่บ่อยครั้ง “อีอ้วน!” มันกลายเป็นชื่อเล่นของหนูโดยไม่ได้ยอมรับ และฝังเข้าไปอยู่ในส่วนลึกของจิตใจหนูตลอดเวลา

เวลากลับบ้าน หนูเดินทางโดยรถเมล์จากป้ายรถเมล์แถวหน้าโรงเรียน และลงที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอยทางเข้าบ้านหนู และหนูยังต้องแบกน้ำหนักตัวที่ไม่น้อยเลย เดินเท้าเข้าในซอยไปอีกประมาณ 500 เมตร (ที่ต้องเดินเนื่องจากวินมอเตอร์ไซค์ในซอยทุกคนไม่รับคนรูปร่างอ้วนอย่างหนูขึ้นมอเตอร์ไซค์)

บนรถเมล์ไม่ว่าตอนเช้า หรือ ตอนเย็น หนูมักจะต้องยืนโหนรถเมล์ไปตลอดทาง ท่ามกลางสายตาของผุ้โดยสารที่หนูไม่รู้จักซักคน แต่พวกเขากลับมองหนูเหมือนเป็นตัวประหลาด บางคนมองหนูตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้ม บางคนสะกิดเพื่อนข้างๆ ให้ดูรูปร่างหน้าตาอันใหญ่ยักษ์ของหนู แม้ว่าหนูจะใส่แว่น แต่หนูมองเห็นแววตาของพวกเขาได้อย่างชัดเจนเข้าไปถึงเสียงของความคิดที่ดังออกมาจากพวกเขา

“เฮ้ย ดูอีอ้วนนั่นเด่ะ :-)โครตน่าเกลียดเลยว่ะ ฮาๆ” จากแววตาหนูเดาว่าเขาคงคิดเช่นนั้น

“น่าสงสารจัง ไม่น่าเกิดมาเลย ถ้าฉันอ้วน เตี้ย น่าเกลียดขนาดนี้ ฉันโดดน้ำตายดีกว่า เฮอะ” หนูเดาว่าเธอคงคิดแบบนั้น
น้ำตามันรินไหลท่วมอยู่ในใจของหนูทุกๆ ครั้ง จนบางครั้งเอ่อล้นมาถึงขอบตา สีหน้าและแววตาที่เวทนา สงสาร สมเพช ขบขัน ความอ้วน และหน้าตาอัปลักษณ์ของหนู มันถาโถมจนสองขาอวบๆ ของหนูแทบจะค้ำยืนบนรถเมล์ต่อไปไม่ไหว สายตาของหนูต้องหลบมองลงต่ำ พลางคิดในใจ “หนูไม่ใช่คนเหรอ?”

หลังกลับจากโรงเรียน เมื่อลงที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอย หนูจะเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ผมเผ้ายาวรกรุงรัง หนวดเฟ้ม ใส่เสื้อผ้าชุดเก่าๆ สกปรก นอนให้แมลงวันตอมอยู่บนเก้าอี้ที่ป้ายรถเมล์เป็นประจำ หนูมักเลือกที่จะยืนรอรถเมล์แทนการที่จะต้องนั่งข้างๆ ที่เขานอน และหนูขอบอกอีกอย่างว่าหนูเกลียดมาก เวลาต้องเดินผ่านตรงที่เขานอน เพราะว่ากลิ่นเหม็นสาบ และกลิ่นเหล้าจากตัวเขามันทำให้หนูรู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียนทุกครั้ง ทุกคนที่มารอรถเมล์ต่างมองเขานอนกับขวดเหล้าด้วยสายตาที่ประหลาด หนูพยายามเดาความคิดจากสายตาของผู้คนที่ยืนรอรถเมล์ขณะมองมาที่เขา

“มัน...ไม่มีบ้านอยู่เหรอวะ มานอนตรงนี้ทำไมวะเนี้ย เกะกะ” จากแววตาหนูเดาว่าพวกเขาคงคิดเช่นนั้น

“เหม็นที่สุด กลิ่นจะลอยมาติดเสื้อฉันไหมเนี้ย สกปรกที่สุด หมาที่บ้านฉันยังสะอาดกว่าเลย” หนูเดาว่าพวกเธอคงคิดแบบนั้น

“พวกเก็บขยะพวกนี้ มันจะตื่นขึ้นมาปล้นเราเวลาไหนก็ไม่รู้ ตำรวจทำไมไม่มาจับไปให้หมดๆ ซะ” หนูเดาว่าพวกผู้ใหญ่คงคิดแบบนั้น

หนูก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เขามาจากที่ไหน และทำไมต้องมานอนที่นี่  จนกระทั่ง หนูได้ยินแม่เล่าให้ฟัง จึงได้รู้ว่าผู้ชายขี้เมาที่นอนอยู่ตรงป้ายรถเมล์ เขาเคยมีครอบครัวมาก่อน แต่ต่อมา ภรรยาของเขาหนีไปอยู่กับชู้ เขาทำใจไม่ได้ เพราะมีแต่ชาวบ้านคอยถามเขาว่าทำไมภรรยาถึงทิ้งเขาไป หนูไม่รู้ว่าที่พวกชาวบ้านถามอาจจะเพราะด้วยความสงสาร ความสมเพชเวทนา หรือความสะใจ หนูคิดเอาเองต่อว่า เวลาที่เขากลับที่บ้าน เขาคงได้เห็นแต่ของใช้ของภรรยา ทำให้เขานึกถึงแต่ความหลังอันหวานชื่น ก่อนจะกลับสู่ความจริงอันโหดร้าย เขาจึงตัดสินใจเผาบ้านตัวเองทิ้ง และหนีจากชาวบ้านที่รู้จักมานอนอยู่ที่ป้ายรถเมล์นั้น

วันนี้หนูต้องอยู่ที่โรงเรียนดึกล่ะค่ะ เพราะอาจารย์สั่งให้ทุกคนช่วยกันจัดบอร์ดวิชาการให้เสร็จทันใช้ในวันพรุ่งนี้ กว่าหนูจะได้กลับก็ดึกแล้ว รถเมล์ขับมาจอดที่ป้ายรถเมล์ตรงหน้าปากซอยบ้านเหมือนเดิม โชคร้ายที่แสงไฟตามถนนกับไฟที่ป้ายรถเมล์ไม่ติด ทำให้สายตาหนูมองผ่านแว่นเห็นเพียงแต่ความมืด กับเงาลางๆของผู้ชายขี้เมาที่นอนขดตัวกอดขวดเหล้าอยู่ตรงเก้าอี้นั่ง

หนูรู้สึกกลัวมากค่ะ เพราะไม่เคยกลับดึกอย่างนี้ จริงๆ คือกลัวเขานั่นแหละค่ะ เพราะที่ป้ายรถเมล์ตอนนี้มีแค่หนูกับเขาสองคน หนูจึงค่อยๆ ย่องเดินก้าวผ่านไปข้างหน้าอย่างช้าๆ หนูหันไปมองทางซ้ายมือของหนู รู้สึกโล่งใจที่เห็นเขาหลับสนิทอยู่ที่เดิม กลิ่นเหม็นจากตัวเขายังลอยมาทำลายโสตประสาทเป็นระยะ หนูคิดแง่ร้ายขึ้นมาว่า หากเขาลุกขึ้นมาปล้นหนู หนูคงพาร่างอ้วนๆ หนีไม่ทันแน่นอน ดังนั้น จุดหมายของหนูคือปากทางเข้าซอยบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากป้ายรถเมล์

“คร่อก!” เสียงกรนของเขาดังขึ้น ทำเอาหนูสะดุ้ง หนูตัดสินใจใหม่ รีบสาวเท้าเดินให้ถึงปากซอยเลยดีกว่า อย่างน้อยยังมีคนที่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ซึ่งน่าจะพอช่วยหนูจากสถานการณ์นี้ได้

ในที่สุด หนูพาตัวเองฝ่าความมืด จนมาถึงปากซอยเข้าบ้าน เห็นชายวัยรุ่นคนหนึ่งอยู่ที่วินมอเตอร์ไซค์ หนูรู้สึกโล่งใจขึ้นมาก เพราะชายขี้เมาตรงป้ายรถเมล์คงไม่สามารถมาทำอะไรหนูได้แล้ว หนูจึงเดินเข้าไปในซอยอย่างสบายใจ

ทันใดนั้น หนูรู้สึกเหมือนถูกฉุดกระชากอย่างแรงจากด้านหลัง หนูถูกผลักล้มลงบนพื้นหญ้าข้างทาง ซึ่งเป็นมุมมืดของซอย กระเป๋าของหนูหลุดไปจากมือ ของในนั้นกระจายเต็มพื้น แว่นตาของหนูหลุดกระเด็นไปไกล ร่างอ้วนๆ ของหนูถูกมือมันกดลงกับพื้น หนูกรีดร้องดังสุดเสียงขอให้คนที่วินมอเตอร์ไซค์มาช่วย หนูกลัวจนน้ำตาไหลออกมาเต็มสองตา หนูมองไม่เห็นหน้ามัน แต่ได้กลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งจากตัวมัน

“อีอ้วน! มาสนองตัญหาให้กูหน่อยเถอะ” เสียงแหบพร่าของชายหื่นกามคำรามขึ้น

มันขึ้นค่อมตัว และต่อยหนูเข้าที่ท้องน้อยอย่างแรง จนหนูจุก หนูขัดขืนมันต่อไปไม่ไหว หนูคิดถึงแม่ “แม่จ๋าหนูคงไม่รอดกลับไปหาแม่แล้ว” หนูคิดแล้วร้องไห้ มันใช้ริมฝีปากที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าหอมจูบหนูไปทั่วใบหน้า มือของมันเริ่มล้วงเข้าไปที่ใต้กระโปรงของหนู แม้ใจของหนูคิดจะขัดขืนต่อการกระทำอันป่าเถื่อนหยาบช้าราวกับสัตว์ป่าของมัน แต่ร่างกายหนูไม่อาจสามารถสู้พละกำลัง และแรงของมันได้ แม่จ๋าหนูคิดถึงแม่

“เพล้ง!” หนูมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รู้ว่าเป็นเสียงของขวดแก้วกระทบกับหัวของมันอย่างแรง จนเศษแก้วเล็กๆกระจายมาบาดแขนหนู ทันทีที่หนูได้ยินเสียงนั้นไม่นาน ร่างของมันล้มลงไปนอนอยู่ข้างตัวหนู จากนั้น หนูได้ยินเสียงมันถูกกระทืบหลายต่อหลายครั้ง มันพยายามร้องห้าม จนกระทั่งมันเงียบเสียงไป

คนที่ช่วยหนูหยิบเอาแว่นที่กระเด็นไปกลับมาให้หนูใส่ หนูพยายามลุกขึ้นนั่ง หนูแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะเบื้องหน้าของหนู คือ ชายขี้เมาหนวดเครารุงรัง เสื้อผ้าเหม็นสาบ ในมือของเขาถือขวดเหล้าที่แตกอยู่ ซึ่งหนูคิดว่าคงเกิดจากการตีหัวของชายหื่นกามคนนั้น หนูหันไปมองร่างที่นอนข้างตัวหนู หนูอยากรู้ว่ามันเป็นใคร มันคือชายวัยรุ่นสวมเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ หนูคิดว่ามันคงนั่งดื่มเหล้าอยู่ พอเมาได้ที่แล้วเห็นหนูเดินผ่าน จึงเกิดอารมณ์หื่นจนห้ามใจไว้ไม่ไหวเป็นแน่แท้

“หนูเป็นอะไรบ้างไหม?” ชายขี้เมาพูดพร้อมพยุงหนูลุกขึ้น “เด๋วลุงพากลับไปส่งที่บ้านนะ บ้านหนูอยู่ไหนล่ะ”

หนูเอามือหนึ่งกุมท้องเพื่อบรรเทาความปวด และยกมือหนึ่งชี้นิ้วไปที่หลังคาบ้านสีแดงที่อยู่ถัดจากที่เกิดเหตุไปประมาณห้าร้อยเมตร ชายขี้เมาจึงเดินไปล้วงเอากุญแจรถมอเตอร์ไซค์มาจากกระเป๋าเสื้อของชายหื่นกามที่นอนหมดสติอยู่ และขับมอเตอร์ไซค์จากวินมาหาหนู

“ขึ้นมาซิ  ทางมันไกล หนูเดินไปไม่ไหวหรอก” ชายขี้เมาพูด กลิ่นเหล้า และกลิ่นเหม็นทำให้หนูคลื่นไส้จะอาเจียน

หนูตัดสินใจขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ชายขี้เมาไป ระหว่างทางหนูถามเขา

“ทำไมลุงมาช่วยหนูได้ล่ะคะ”

“ลุงเห็นหนูตั้งแต่เดินลงจากรถเมล์แล้วล่ะ ว่ามันมืดและน่าจะอันตราย ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของหนู ลุงจึงเอาขวดเหล้าฟาดเข้าที่กบาลไอ้หนุ่มคนนั้น”

 หนูกล่าวขอบคุณ ชายขี้เมาสกปรกคนนั้น และเมื่อกลับถึงบ้านทันทีที่แม่ของหนูเปิดประตูออกมา แม่รีบวิ่งเข้าไปเอาไม้กวาดมาไล่ชายขี้เมาให้ไปพ้นจากหน้าบ้านหนู โชคดีที่หนูห้ามแม่ได้ทัน และเล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ได้รู้

หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ชายหื่นกามโดนตำรวจจับ ชายขี้เมายังคงนอนอยู่ที่ป้ายรถเมล์เหมือนเดิม ซึ่งหนูยังคงสังเกตเห็นแววตาของผู้คนที่มองไปที่ชายขี้เมาที่นอนอยู่ตรงนั้น รวมถึงสายตาที่มองมาที่หนูด้วย แต่ตอนนี้แม้ว่าไปโรงเรียนแล้วจะโดนแกล้ง โดนล้อมากมายแค่ไหน หนูไม่ร้องไห้อีกแล้ว หนูกลับยิ้มให้กับเพื่อนๆ ทุกคน ผู้โดยสารรถเมล์ทุกคน หนูพยายามช่วยเหลือทุกคนเท่าที่ทำได้ หนูเริ่มจะสนุกไปกับชีวิต และความอ้วนของหนูแล้วล่ะค่ะ

จากคุณ : @Love_ที่รัก
เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 17:06:34




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com