 |
ศศิธรดวงสว่างคล้อยลงต่ำลงจากท้องนภา คืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง...ประเพณีบูชาพระเพ็งที่เริ่มพิธีตั้งแต่ยามตะวันลาลับขอบฟ้า จวบจนยามพระเพ็งตกคล้อย เป็นเวลาเกือบสองชั่วยามแล้วที่ประเพณีประจำปีสิ้นสุดลง ความเงียบงันจึงได้ปกคลุมไปทั่วเทวอมร
หากแต่ช่วงเวลาที่ผู้คนตกอยู่ในห้วงนิทรา กองกำลังกบฏของชเยศซึ่งนำโดยแม่ทัพวิสุตกลับเริ่มกระทำตามแผนที่วางไว้เนิ่นนาน..ลอบบุกเข้าไปในตำหนักวารีวัลย์หรือตำหนักใน ที่พำนักของธาราวดี สตรีผู้เป็นหนึ่งเหนือใครในแผ่นดินนี้...
ฉากที่ ๒ ตำหนักวารีวัลย์
(วิสุตเดินนำหน้าเหล่าทหารเลวพร้อมอาวุธ,แล้วหยุดลงที่หน้าตำหนักใน,ดวงตาจับจ้องไปโดยรอบ,เห็นท่าทีที่เงียบสงัดจนเกิดไป,หันไปพูดกับสีหนาท ทหารคนสนิท)
วิสุต เจ้ามิสังเกตเห็นถึงสิ่งผิดปกติบ้างหรือไรสีหนาท ทั้งที่วารีวัลย์เป็นตำหนักขององค์รานินทร์ หากแต่กลับมิมีทหารผู้ใดรักษาการณ์ ข้าเกรงว่าบางที..เราอาจจะถูกนางตลบหลังเอาก็เป็นได้
สีหนาท (หัวเราะเบาๆ) เหตุเพราะคืนนี้เป็นคืนบูชาเพ็ง เวรยามถึงได้หละหลวมเช่นนี้ ยิ่งได้สุราอาหารจากพิธีการ พวกทหารเลวพวกนั้นคงมัวเมากับงานรื่นเริง จนลืมแม้กระทั่งหน้าที่ของตนเองเสียกระมัง
วิสุต อย่าได้ชะล่าใจไปสีหนาท ท่านพ่อข้ากล่าวว่าสตรีนั้นเปรียบดั่งเช่นกุหลาบ แม้จักสวยงามน่าหลงใหล แต่หนามแหลมคมนั้นก็อาบด้วยพิษร้าย ยิ่งสตรีที่เป็นกษัตริย์ เจ้าคิดหรือสีหนาทว่าธาราวดีจักไร้พิษสง
สีหนาท หากนางมากเล่ห์ร้อยกลอย่างเช่นท่านกล่าว จักเป็นไปได้หรือที่เราจักสามารถล่วงล้ำเข้ามาถึงหน้าตำหนักในได้...บุกเข้าไปเถิดท่านแม่ทัพวิสุต บัลลังก์แห่งเทวอมรอยู่เบื้องหน้าท่านนี่เอง เพียงแค่ท่านลงมือ ประสงค์ของท่านชเยศผู้เป็นบิดาของท่านก็จักเป็นจริง
(วิสุตบุกเข้าไปในตำหนักวารีวน,ภายในช่างเงียบสงัด,มีเพียงตะเกียงไม่กี่ดวงส่องให้แสงสว่าง,หลังผ้าม่านสีขาวคือเงาของสตรีนางหนึ่งนั่งทอดกายอยู่บนตั่ง)
จากคุณ |
:
resin_part_14
|
เขียนเมื่อ |
:
25 พ.ย. 53 20:58:42
|
|
|
|
 |