วันวานโลกสอนฉันประพันธ์ชื่น ระบำฝันตราคืนตรึงตื่นหวาน ตะวันวาวทาบทาประสาสราญ ผ่านสายกาลสัมผัสถนัดเพลิน
หลอมอารมณ์ดมกรุ่นละมุนละม่อม ทนุถนอมจินต์พลอยแช่มช้อยเหิน รจนากวีดุจเพลงบรรเลงเกิน มิรู้เมินหมางเหน็บใจเจ็บเป็น
วันต่อวันผ่านปีมาชี้ช่อง ให้รู้หมองชาญเช่นขื่นเข่นเข็ญ มองเห็นโหยโบยสะท้อนในร้อนเย็น ดูประเด็นโลกเศร้าบอกเล่าครวญ
เริ่มประสาหม่นว้างอยู่อย่างไหน ไยร่ำไห้ระร้าวเหนื่อยน้าวหวน หนึ่งคำเจ็บเปลี่ยนช่วงทุ่มท้วงทวน ผะผ่าวผวนเหน็บหนาว...ยึดยาวนาน
รู้โลกมีสองด้านประสานอยู่ เกิดขึ้นได้ทุกอณูสุขคู่ผลาญ หวานหอมห่อโศกสุมประชุมพาน ดุจวิญญาณกุมพร่า,หรรษาปน
เจียนแจ่มแจ้งโลกเว้นแบ่งเส้นฝัน คุณค่านั้นชุมชุกอยู่ทุกหน ความหวาน,ขึ้ง,ล้า,สู้ชวนอยู่ค้น ประเดประดังล้นจัดแต่งแสดงทาง
สุดเวิ้งวาดคุ้งทะเลเตร็ดเตร่เดี่ยว ยังปราดเปรียวเหงาคลาดมิอาจขวาง ปรอย,ปลื้ม,แปลบ,ทุรนทุรายอีกหลายพราง ล้วนสอนสั่งอย่างให้สาไถยอาย
มาเถอะ..หลากหลอนเร่ามาเฝ้าหลั่ง ตระเตรียมแล้วระแวดระวังจักฟังสลาย มาพร้อมหวั่น,ว้างสลอนปันป้อนปราย พร้อมฝ่าไปแหวกว่ายในสายกาล
ลมยังลิ่วเวียนอยู่ทุกฤดูหนาว โดยเดือนดาวกระพริบแสงจารแจงผ่าน ทิวารารีสลับเปลี่ยนพากเพียรพาล ทุกข์,สำราญคู่ฟ้าบัดบ่าดิน
เพราะเช่นนี้เจตจินต์ไร้ภินท์หัก ทุกการณ์ผลักรู้ก้าวดับด่าวดิ้น จักเรียนรู้ระทมล้ำคู่ฉ่ำยิน ตราบชีวินลับหล้าไม่ลานาน
จวนเจียนเชี่ยวเหลียวสู้หดหู่สุม แจ้งหวานหอมประชุมรื่นรุมฐาน จรดนัยฟ้าลั่นสื่อบันดาล ฤดูกาลผ่านด้วยอำนวยไว้
ทุกสัมผัสเริ่มรู้อณูคลื่น ทยอยทมื่นเดียวดายย่างกรายไฉน ฟ้าพยับแดดฝนฟ่องคิดฟ้องใด โลกเติมไฟใส่หนาวด้วยร้าวเคือง
วันนี้ผ่านกาลกลกมลซึ้ง รู้เกร็ดแก้วดาวดึงส์รำพึงเรื่อง คราเคลิบเคลิ้มดูทะเลกล่อมเห่ประเทือง ต้องนึกเนืองฝนฟ้าเวลาแปร
ขอบคุณกับหล้าโลกโบยโบกสอน กวีกานท์พรชะล้างเคว้งคว้างแผ่ ปีกฟ้าโอบอ้ากว้างเยี่ยม,ย่าง,แล เถ้าท้อแท้พร้อมปลิวตามพลิ้วลม
วันวาน..ถึงวันนี้หวั่นหนีแล้ว หวามวับแวว,ตรมตึงประหนึ่งผสม ฉันกล้าก้าวพานเผชิญโดยเพลินพรม บ่ พรั่นล้มจมจ่อมตะล่อมราน
จากคุณ |
:
ญามี่
|
เขียนเมื่อ |
:
26 พ.ย. 53 12:06:59
|
|
|
|