นากระดาษ

ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว

เป็นคำกล่าวที่อธิบายถึงความอุดมสมบูรณ์ของเมืองไทยได้เป็นอย่างดี
ก็เมืองไทยน่ะนะ ถ้าที่ดินไม่อุบาทว์อุบายจนเกินไป จะปลูกอะไรก็ขึ้นทั้งนั้น
ส่วนในน้ำน่ะ ผมจำได้แม่นเลย ตอนสมัยยังเด็ก ผมเคยไปหิ้วปูนที่แถว ๆ สวน
หลวง ร.9 ตอนช่วงปิดเทอม ที่หน้าแคมป์ก่อสร้างจะมีคลองตื้น ๆ อยู่ น้ำงี้
ดำปิ๊ดปี๋ กลิ่นก็เหลือจะทานทน แต่มาวันหนึ่ง พอน้ำเริ่มงวดลงเรื่อย ๆ คนงาน
ก่อสร้างก็ลงไปวิดน้ำเพื่อจับปลา ผมยืนดูพลางคิดในใจว่า มันจะมีปลาที่ไหน
มาให้จับ ที่ไหนได้ผิดคาด ปลาช่อนตัวเขื่อง 2-3 ตัว ปลาหมอ ปลากระดี่ มี
อีกเพียบ !

อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ฝันไปเลยว่า 4 ตร.กม. จะยกให้

และประกอบกับความเป็นลูกชาวนา ทำนา ปลูกผัก ใส่เบ็ด ใส่มองมาแต่น้อย
มันก็เลยฝังลึกลงไปในสายเลือด ถึงแม้ว่าผมจะเรียนจบมหาวิศมะลัย ทำงาน
โรงงาน ชีวิตห่างเหินจากคันไถ เรียวเบ็ด ผมก็ยังมี My Dream ว่าสักวัน กูจะมี
ที่นาเป็นของตัวเอง แล้วก็กลับมาทำนา หาปลา นอนสูบกัญชาเล่น ๆ (เฮ้ย !)

แล้ว My Dream ก็เริ่มจะ Come True

ปีที่แล้ว ผมซื้อที่นา 11 ไร่ จัดแจงขุดสระไว้ด้วย โดยกะเอาไว้ว่าจะเลี้ยงปลา จะ
ลงบัวสาย แล้วทีนี้ก็จะใส่เบ็ด ใส่มองจับปลา พอจับมาได้ก็ต้มปลา ถอนสายบัว
มาด้วย แล้วก็เด็ดพร้อมกับโยนใส่หม้อแกง ต้มต่ออีกสักหน่อยพอให้สายบัวเริ่ม
นิ่มแล้วก็ตักใส่ชาม แกงปลาร้อน ๆ สายบัวร้อน ๆ ซดเสียงดังโฮก ตามด้วยข้าว
หอมมะลิร้อน ๆ ควันหอมฉุย ๆ

สุขสุด ๆ

แต่มันก็ยังเป็น My Dream อยู่ดี เพราะผมยังทำงานโรงงานอยู่เลย ไม่ได้ไปลง
สายบัว ไม่ได้ไปหาปลา ไม่ได้แม้แต่จะทำนาด้วยซ้ำ ได้แต่ให้แต่เขาเช่าทำนา
ไป พอเขาเกี่ยวข้าวเสร็จ ได้ข้าวเท่าไร ก็มาแบ่งให้ผมหนึ่งในสาม ไม่ได้ไปทำ
อย่างที่วาดฝันเอาไว้เลย

สงสัยผมคงจะรอให้แก่ก่อนแล้วค่อยกลับไปทำนามั๊ง

เอาเหอะ ถึงจะให้เขาเช่าทำนา แต่ปลายปีมาผมก็ได้ข้าวกินนะ แล้วก็อย่าทำเป็น
เล่นไป นา 10 ไร่ ได้ข้าวตั้ง 80 กว่าถุงปุ๋ย เขาแบ่งให้ผมมา 30 ถุงปุ๋ย ทยอยเอา
ไปสีเรื่อย ๆ ก็จะมีข้าวกินตลอดปีไม่ต้องซื้อข้าวกินเลย

และแถมเมื่อสองวันก่อน อบต. เขาเรียกประชุม บอกว่าตอนนี้หลวงมีโครงการ
ประกันราคาข้าว ก็เลยให้เกษตรกรมาทำเรื่องประกันราคาข้าวกัน ชาวบ้านก็พา
กันสงสัยว่า ประกันราคาข้าว มันคืออะไร อบต. เขาก็อธิบายไปว่าตอนนี้ราคา
ข้าวมันตันละ 16000 ถ้าเราทำประกันราคาข้าวไว้ว่า แล้วเราเกิดคิดจะขายข้าว
วันที่ 30 พย. นี้ แล้วทีนี้ราคาข้าวเกิดตกไปเหลือ 15000 เราก็จะขายข้าวขาดทุน
ไปตันละ1000 บาท ซึ่งหลวงจะทำการจ่ายเงินชดเชยส่วนที่เราขาดทุนให้โดย
โอนเงินเข้าบัญชีธกสให้ 1000 นึง เป็นการช่วยเหลือเหลือเกษตรกรน่ะ

" อ้าว ผมไม่ได้ขายข้าว แต่เก็บไว้กินเอง แล้วจะได้เงินเหรอ "
" ได้ ไม่ได้ ยังไงก็ทำไว้ก่อนเถอะ ดีกว่าปล่อยเสียเปล่า "
" อืม เหรอ ครับ "
" แล้วนอกจากนี้นะ นาใครเจอภัยแล้งหรือเจอน้ำท่วม หลวงเขาก็ชดเชยให้ด้วย
นะ ได้ยินมาว่าไร่ละสองพัน "

พอได้รับข้อมูลมาทั้งหมดมา ผมก็หยุดนิ่ง คิดและประมวลผล

กูไม่ได้ทำนา ให้เขาเช่า ข้าวก็ไม่ได้ขาย เอามากิน แล้วก็เอาเข้าประกันราคา
ถ้าข้าวราคาตกลง โดยเฉพาะยิ่งช่วงเก็บเกี่ยวใหม่ ๆ ชาวบ้านจะรีบยิ่งเอาข้าว
ไปขายทำให้ข้าวราคาตก พอข้าวราคาตก ก็จะได้เงินชดเชยส่วนต่าง
อืม มันดูยังไง ๆ น๊า ... เอาเปรียบ ... โกง ... ช่องทาง ... โอกาส ..............

และแล้วความคิดก็ตกผลึก

กูจะซื้อที่นาเพิ่มเฟ้ย !!!



ปล. เรื่องนี้เป็นเรื่องสมมุติกึ่งจริง

จากคุณ	: garnet19th
เขียนเมื่อ	: 26 พ.ย. 53 23:16:42