<img src='http://www.uppicweb.com/x/i/ia/3att00001.jpg'border=0>
เราได้รับเมลนี้วันที่ 30 พ.ย. 53 ..
ตอนแรกเราไม่ได้สนใจอะไร ก้อคงเป็นเมลทั่วไปที่ส่งต่อๆกันทุกวันอยู่แล้ว
เป็นเรื่องปกติ แต่พอเราเลื่อนลงมาเรามาสะดุด กับภาพของชายชราคนนี้
แกมีผิวสีดำไหม้เกรียม คงเพราะโดนแสงแดดที่แรงมาก ทุกๆวัน..
ใบหน้าแกมีรอยเหี่ยวย่นเต็มไปหมดจนแทบจะมองโคลงหน้าเดิม
ไม่ออกอยู่แร้ววแกไม่เหมือนผู้ชายวัย 59 ปีสักนิดเดียว
แกคงผ่านช่วงเวลาความเหนื่อยล้าหลายสิปปี เราคิดว่านะ ..
แต่ รู้ อะ ไร ใหม .....
แกมี..."ยิ้ม"...ที่สวยงามที่สุด...++**
ยิ้มของแก.. สมกับที่เป็นยิ้มสยามจริงๆๆค่ะ ..
.."ยิ้ม"..ที่แม้จะเหน็ดเหนื่อยแค่ใหนก้อไม่เคยคิดจะยอมแพ้
.."ยิ้ม".. ที่คนอีกหลายๆคนต้องยอมยกนิ้วให้แก
.."ยิ้ม"..ที่เต็มไปด้วยมิตรภาพที่งดงาม
..."ยิ้ม".. ที่ไม่รู้หรอกว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
แต่..วันนี้แก ขอ แค่ยิ้มสู้ไว้ก่อนเท่านั้น...
ใครอยู่แถวระยองได้โปรดสละเวลาเข้ามาอ่านนิดนึงนะค่ะ
ขอร้องจริงๆ ....
ไม่ได้ขอให้ใครเข้ามาช่วยเหลือแกมากมายอะไรทั้งนั้น..
แค่ขอ...ใครผ่านไปแถวนั้น หรืออยู่ใกล้แถวนั้น
ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงของเราซื้อข้าว ซื้อน้ำไปฝากแกถุง2ถุงพอแล้ว
เพราะมันจะช่วยให้ 3 ชีวิตนี้มีแรงขับเคลื่อนต่อไป ...
เราอ่านเมลไป น้ำตาไหลไป เราอ่านเสร็จ ขอโพสลงพันทิพทันทีเลย
นึกถึงถ้าเป็นพ่อแม่เราบ้างเราจะทำไงนะ .....
ไม่มีใครเลือกเกิดได้ เราเลือกได้แค่เราจะ "สู้ต่อ" หรือ จะ "ยอมแพ้"
ลุง คน นี้ เลือก ที่ จะ สู้ ไม่ ถอย ...
ถ้าเราอยู่ใกล้เราไปเยี่ยมแกแล้ว เราไม่ได้รวยอะไรหรอกนะ
แต่พอช่วยได้เราอยากช่วย เราเป็นคนไทยเหมือนกันอยากช่วยกัน..
+++++++++++++
สุดยอดแห่งการสู้ชีวิต (บ.อาปีโก้ ระยอง)
ได้อ่านแสงไฟในเศษฟืน เรื่องราวชีวิตจริงของหญิงชราสู้ชีวิต
ทำให้นึกถึงคนใกล้ๆตัว เราบ้าง
ลุงปราโมชย์ ชายชรา อายุ 59 ปี
ที่ชีวิตใกล้วัยเกษียณ แต่ในความจริงแทนที่จะได้ใช้ ชีวิตพักผ่อน
ในปั้นปลาย อยู่กับลูกหลานอย่างมีความสุข ไม่อาจทำเช่นนั้นได้..
ทุกวันที่เรามาทำงานที่อาปีโก้ ระยอง ภาพที่เห็นจนชินตา
คือลุงที่ดูแลสวน อยู่กลางแดดเปรี้ยงๆ
ที่แม้แต่คนหนุ่มสาวอย่างเรายังทนแทบไม่ไหว
แต่ลุงยังคงทำงาน พร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
เหมือนว่างานที่แกทำสำคัญกว่า
ความลำบากของร่างกาย ทำให้น้องคนหนึ่ง
( น้องชิต ) อดที่จะเข้าไปพูดคุยกับแกไม่ได้
จากการถามเรื่องราว ทำให้เราได้รับรู้ว่า
ความลำบากที่เคยเห็นจาก forward mail
ที่ผ่านๆมาอยู่ใกล้เราแค่นี้เอง
เราได้รู้ว่าชิวิตของลุงนั้นต้องอยู่อย่างลำบากในเพิงสังกะสีเก่าๆ
ขนาด 3 X 3 เมตร
ที่สร้างขึ้นชั่วคราวของแคมป์คนงาน
ไม่ต่างจากกองขยะ ที่ทั้งอุดอู้ สกปรก
และหากวันไหนฝนตก จากสภาพที่เห็น บ้าน
ที่แกอยู่ไม่สามารถกั้นฝนอะไรได้เลย
แต่ลุงก็ต้องทนอยู่ต่อไป เพราะคำตอบจากปาก
ด้วยเสียงสั่นเครือ..
ลุงไม่รู้จะไปอยู่ทีไหน
ลุงมี 3 ชีวิตที่ต้องหาเลี้ยงป้าที่ป่วยด้วยโรคเก๊าต์
ด้วยความที่ไม่มีเงิน เมื่อโรครุมเร้าไม่อาจพาไปรักษา
จนอาการ ป่วยเรื้อรังจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ต้องนอนป่วย จนหลานสาว อายุไม่ถึง 10 ขวบดี
ต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน
เพื่อมาดูแลย่าของตน
ส่วนหลานคนเล็ก ก็ถึงวัยเข้าโรงเรียน
แต่ด้วยความขัดสนทำให้ไม่สามารถโรงเรียนได้
ด้วยการที่อาศัยอยู่ที่แคมป์คนงาน ลุงทำงานเพียงคนเดียว แต่มี 3 คน
ที่ต้องดูแล ทำให้มีคำเสียดสีจากคนงานแคมป์เดียวกันว่า
ทำงานคนเดียว กินใช้น้ำ ไฟ ตั้ง 3 คน
แต่ลุงก็ต้องก้มหน้ารับและไม่อาจตอบโต้ คำนินทา เสียดสี
จากเพื่อนร่วมแคมป์
ด้วยกลัวว่าหากต้องย้ายไป ป้าและหลานต้องลำบากยิ่งกว่านี้..
และที่สำคัญ " จะไปอยู่ที่ไหน ? "
สัปดาห์ก่อนนู้น เรากับน้องๆได้มีโอกาสไปดูสภาพที่อยู่ของลุง
ตอนนั่งรถไปก็คุยกับลุงไป ....
ลุงบอกว่าที่จริงมีลูกถึง 6 คน
แต่เมื่อเติบโตมีครอบครัวก็ไม่มีใครกลับมาเหลียวแล
หลายปีก่อนลูกชายที่หายไปนานกลับมา พร้อมเด็กน้อย 2 คน
และบอกลุงว่าได้เลิกกับแฟน
จึงมาหาลุงเพื่อขออาศัยชั่วคราว พร้อมฝากลูกไว้..จากนั้นก็ได้หายไป
และไม่เคยกลับมาดูแล หรือแม้แต่ส่งเงินมาให้ลูกอีกเลย
แต่ลุงรักหลาน 2 คนนี้มากถึงกับบอกว่าลุงตายไม่เป็นไร
แต่ขอให้หลานกินอิ่มท้องก็พอ..
วันนั้นพี่นิดซื้อขนมให้ลุงตอนเที่ยง
พอตอนเย็นยังเห็นห่อขนมอยู่
พี่นิด : ลุง ไม่กินล่ะ..ไม่ชอบเหรอ
ลุง : ลุงเก็บไว้ให้หลาน..เค้าไม่ค่อยได้กิน..
..เก็บไว้ไห้เค้าคงดีใจ ทำเอาคนซื้อให้น้ำตาซึม ..
.... เห็นในรถเงียบ ชิต เลยทำลายความงียบ
ชิต : ลุ ง..เมื่อเช้านี้กินข้าวกะอะไร
ลุง : กินกับแกง
ชิต : แล้วตอนเที่ยงล่ะ
ลุง : .....( เงียบ ) ..ลุงกินมื้อเดียว..ลุงไม่มีตังค์
ตอนเช้ายืม รปภ. 10 บาท เลยซื้อแกงได้ถุงเดียวเลยกิน
มื้อเดียว
.. คราวนี้ทั้งรถเงียบเลย.... [[ ตอนนี้คนอ่านน้ำตาร่วงเลย]]
ชิต...ทำลายความงียบ.. . อีกรอบ
ชิต : แล้วเย็นนี้จะกินกับอะไร
ลุง: ( ยิ้ม ...ยกถุงผักบุ้งที่เก็บหลังโรงงานให้ดู )
นี่ไง..ลุงเก็บมาเยอะ..กินกับน้ำพริก
พี่นิดตาแดงๆ.. จะร้องไห้
ภาพแรกที่เราเห็นเมื่อลงรถ เห็นหลานสาวพยุงป้ากินข้าวอยู่ใน
บ้าน
ป้ากินข้าวเปล่ากับน้ำ คือ น้ำจริงๆ ..น้ำเปล่าที่เราดื่มเนี่ยแหละ ..!!
แต่ป้าเทใส่ถ้วย เหมือนกับข้าว แล้วก็เอาข้าวเปล่าคลุกน้ำในถ้วยกิน
ชิตเอายามาให้ ลุงกับป้าอ่านหนังสือไม่ออก
ต้องเรียกหลานที่จบป. 3 ครึ่งมาช่วยจำ
ป้าร้องไห้จนเราจะร้องตาม
หลานเอ้ย...ตั้งใจทำงานนะลูก..อย่าให้ต้องมีชีวิตเหมือนยาย
( แกแทนตัวเองว่ายาย..)
วันนั้นเรากลับมาพร้อมกับความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ในใจ..และคิดว่า
พอมีทางไหนที่จะช่วยลุงได้
แม้เพียงความช่วยเหลือเล็กๆ แต่มันคือ คุณค่าที่ยิ่งใหญ่
ที่ได้ให้กับชายชราคนหนึ่ง
พร้อมกับอีก 3 ชีวิตที่ต้องดูแล
เราส่งเมลล์นี้มา ด้วยความที่อยากช่วยเหลือลุง
แต่ไม่รู้จะช่วยด้วยวิธีไหน
อยากให้เพื่อนๆช่วย Forward mail นี้ต่อกันไปเรื่อยๆ
เผื่อว่าคนที่อยู่แถวอมตะซิตี้ ระยอง หรืออาจห่างไกลกว่านั้นแต่มีใจที่จะช่วย
เหลือ 4 ชีวิตที่กำลังลำบาก
ถ้าเพื่อนไม่ได้ผ่านไปก็ช่วย Forward mail นี้ต่อๆกันไปทีถือว่าเป็นการทำ
บุญเท่าที่เราทำได้ เผื่อว่าวันหนึ่ง
จะมีใครสักคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือ
ลุงปราโมชย์ ให้เป็นอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้....
+++++++++++++++++++++++++++++
เราขออณุญาติผุ้ส่งเมลฉบับยี้โพสลงที่นี่นะค่ะ
เราคิดว่าน่าจะเป็นผลดีของลุงกับป้าและหลาน
S&P LOVER..+*
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 14:03:37
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 14:02:52
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 13:56:06
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 13:52:09
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 13:46:52
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 13:43:32
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 13:42:21
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 13:41:38
แก้ไขเมื่อ 30 พ.ย. 53 13:40:50