ข้าวหลามทางภาคกลาง โดยเฉพาะเมืองชล ที่เห็นมา เป็นข้าวหลามกระบอกโตๆ ต้องผ่าซีก แล้วใช้ช้อนตักกิน กะทิเยิ้ม หวานมัน
แต่ที่ทางเหนือ การกินข้าวหลาม คือการ get together....
หน้าหนาว เราจะล้อมกองไฟกัน ..หน้าวนี้ ข้าวเพิ่งเกี่ยวเสร็จใหม่ ผลผลิตเริ่มได้เก็บกิน ข้าวใหม่หอม และอ่อนนุ่ม อากาศหนาว พวกเรา ครอบครัวเดียวกันและเพื่อนบ้าน ต้องก่อกองไฟล้อมวงผิง เพื่อความอบอุ่นก่อนนอน อาหารหลักก็รับทานแล้วไปเมื่อชั่วโมงเศษ..เมื่อเข้าใต้ไฟ อากาศหนาวเหน็บมาเยือน เข้านอนก็เร็วเกินไป จะมีอะไรสันทนาการเท่ากับการมานั่งล้อมวงผิงไฟ และคุยสารพันเรื่องอีกหนอ?.. เมื่อทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆ มานั่งล้อมกองไฟกัน มือก็อยู่ไม่สุข มาหาของกินก่อนนอนให้อร่อยปาก สบายท้องกัน
เอาข้าวใหม่มาใส่กระบอก ใส่น้ำลงไป ใบตองแห้งปิดจุก ทิ้งไว้แค่ให้ข้าวอิ่มตัวสัก 5-6 ชม. ที่เตรียมไว้ว่าจะมาก่อกองไฟตอนเย็นนั่นแหล่ะ มาเผากัน ตั้งแค่เผาข้าวหลาม..พลิกจนเกรียมทั่วๆ ก็มาเหลาเปลือกไม้ไผ่ออกให้บางที่สุด เสร็จแล้วก็แจกจ่ายไปทีละกระบอกทั่ววง สองคน สามคน บอกนึง...วิธีกินก็ไม่ต้องยุ่งยากเหมือนหลามของทางใต้ แค่บิออก แล้วดึงลง เหมือนปอกกล้วย ก็เห็นเนื้อข้าวหลามขาวๆ หอมๆ ไม่มีกะทิ ไม่มีเกลือ ไม่มีเครื่องปรุงรสใดๆ รสชาดที่ได้รับ ก็แค่ ความหอมของข้าวใหม่ ความหอมของผิวไผ่ ความร้อนระอุจากกองไฟ ..แค่นี้ก็อร่อยเหลือแล้ว... เด็กๆ เล่นกันรอบกองไฟ บางทีเอามัน เอาแมงมาเผา เขี่ยออกมากินกันสนุกสนาน ตามประสาเด็ก
ตอนนี้ ข้าวหลามเมือง หาได้ยาก คนเมือง เริ่มจะเอากะทิมาปนข้าว ไม้ข้าวหลามที่ใส่ข้าวเผา เริ่มจะลดน้อย เหลือไม่เท่าไหร่..ตัดเผากันไปทุกปี ...ที่สำคัญ วันนั่งล้อมวง.. ... มันเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว........
จากคุณ |
:
ไฟเขียวเลี้ยวขวา
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ธ.ค. 53 01:31:46
|
|
|
|