ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผิวพรรณขาวตามเชื้อสายจีนกระวนกระวายกับการเลือกชุดสูทที่จะทำให้เขาดูดี ภูมิฐานที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ในราตรีนี้
ไม่ใช่ว่ากรุณธัชจะเพิ่งเคยเข้าสังคมผู้ดีเป็นครั้งแรก หากแต่งานเลี้ยงเพื่อระดมทุนสำหรับการเพาะกล้วยไม้หายากกลับคืนสู่ป่าค่ำคืนนี้ จะมีเศรษฐีณีหม้ายผู้งามสง่านาม บุษบาลาวัณ มาร่วมงานด้วยต่างหาก...
คุณบุษบาลาวัณ เจ้าของเรียวหน้าหวาน นัยน์ตาพราว และรอยยิ้มพริ้มพราย เพียงแค่หลับตานึกถึงหล่อน ก็คล้ายจมูกจะได้กลิ่นหอมกรุ่นมาจากผิวกายนวลเนียนนั้น... กลิ่นกระดังงาลนไฟ... เขาหัวเราะกับความคิดตัวเอง นี่เขากำลังตกหลุมรักผู้หญิงที่เห็นแค่เพียงภาพถ่าย เห็นแค่ชั่วครู่ชั่วคราวในโทรทัศน์ช่วงข่าวซุบซิบแวดวงไฮโซ... และที่สำคัญ เขากำลังหลงหัวปักหัวปำกับหญิงที่มีอายุรุ่นราวคราวแม่!
ในห้องจัดงานเลี้ยงซึ่งประดับประดาด้วยกล้วยไม้ดอกไม้นานาพรรณละลานตา ทางผู้จัดงานโอ่ใหญ่โตว่านี่เป็นฝีมืออันประณีตวิจิตรของนักจัดดอกไม้อันดับหนึ่งของโลก กรุณธัชในสูทโก้สีดำมิได้ซึมซับภาพอันตระการตาเหล่านั้นแม้แต่น้อย เขาเข้าไปทักทายแขกผู้ใหญ่ที่รู้จักพอเป็นพิธีแล้วก็ขอปลีกตัวออกมาเพื่อสอดส่ายสายตาหาความงดงามยวนใจเพียงหนึ่งเดียวที่เฝ้ารออยู่อย่างจดจ่อ
และแล้วร่างระหงในชุดราตรียาวสีส้มอ่อนก็ปรากฏขึ้น บุษบาลาวัณตกแต่งเรือนร่างที่ยังเต่งตึงราวอายุเพิ่งแค่สามสิบกว่าๆ ด้วยเครื่องประดับทองคำและเพชรเข้าชุด ที่ขาดไม่ได้คือกล้วยไม้สีม่วงอ่อน ริ้วลายและรูปทรงแปลกตา ดูไม่เข้ากับลักษณะของกล้วยไม้ชนิดใดๆ ในโลก ผิวดอกของมันมันวาวเมื่อต้องแสงไฟดูล้ำเลอค่า ว่ากันว่ากล้วยไม้อัญมณีช่อนี้เป็นช่อเดียวกับที่ประดับศีรษะมาตั้งแต่คราวหล่อนแตกเนื้อสาว... เห็นทีจะเป็นอัญมณีชิ้นโปรดนักโปรดหนาของหล่อน
ตามธรรมดาของหญิงหม้ายผู้รุ่มรวย เพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ ย่อมล่อให้มวลหมู่ภมร ทั้งหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่วนเวียนไต่ตอมเจ้าหล่อนอยู่เป็นนิจสิน ค่ำคืนนี้ก็เช่นกัน ผู้ชายหลายคนทั้งคนที่กรุณธัชรู้จักและไม่รู้จักดูจะพยายามเหลือเกินที่จะเข้าไปพูดคุยทักทาย ทว่าบุษบาลาวัณเป็นคนที่ไว้ตัว หากจะว่าหยิ่งก็อาจใช่ หล่อนไม่มีท่าทีพึงใจในหมู่ภมรที่รายล้อมเป็นฝูงเลย ออกจะเบื่อหน่ายเสียด้วยซ้ำไป... นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกหวั่นและไม่มั่นใจเข้าไปทุกที
ชายหนุ่มขยับเนคไทผ้าไหมสีเทาเพื่อลดความประหม่า ขอไวน์จากบริกรมาอีกแก้ว เดินตรงไปทางที่ร่างระหงยืนเฉิดฉายอยู่ ยิ่งใกล้เขาก็ยิ่งต้องสูดลมหายใจลึกเพื่อลดความตื่นเต้น ทำไมกันกับผู้หญิงคนนี้เขาถึงใจเต้นไม่เป็นส่ำ ทำไมเขาถึงเป็นไปได้ขนาดนี้...ถามตัวเองเท่าไรก็ไม่เคยได้คำตอบ แต่สุดท้ายกรุณธัชก็ต้องชะงักเมื่อมีคนนำไวน์แบบเดียวกับเขาไปเสนอให้หล่อนเช่นเดียวกัน แต่หล่อนโบกมือปฏิเสธ แวบหนึ่งเขาเห็นหางตาเรียวยาวคู่นั้นชำเลืองมาทางเขาปราดหนึ่ง กรุณธัชรีบเอี้ยวตัวหลบสายตาหล่อนเป็นพัลวัน ...จังหวะไม่ดีเลย... เขาถอนหายใจแล้วเดินถือแก้วไวน์สองแก้วนั้นเตร่ไปเตร่มาอย่างหงอยๆ ในงาน
แก้วนั้นของเพื่อนหรือคะ? คำถามนั้นทำเอาชายหนุ่มแทบหยุดหายใจ เขาค่อยๆ หันไปมองต้นเสียงนั้นเต็มๆ ตา... บุษบาลาวัณกำลังคลี่รอยยิ้มหวานให้เขา ดวงตาของหล่อนต้องกับโคมไฟระย้าสะท้อนเป็นประกาย...ประกายคล้ายเย้ายวน
เอ่อ... ไม่ทันตั้งตัว หัวสมองคิดหาคำตอบแม้จะแค่ง่ายๆ ก็ไม่ออก แค่ส่งเสียงครางในลำคอก็ยังทำได้ยากลำบากนัก
ถ้าหากยังไม่มีเจ้าของ อย่างนั้นขอให้ดิฉันได้ไหมคะ?
เหมือนฝันที่เป็นจริง บุษบาลาวัณอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ไม่ใช่แค่รูปภาพอีกต่อไป แต่เป็นตัวตนหล่อนจริงๆ มีเลือดเนื้อ และสามารถจับต้องได้
สัมผัสนุ่มนิ่มจากเรียวนิ้วยามที่หล่อนแตะโดนมือเขาโดยบังเอิญตอนรับแก้วก่อให้เกิดความรู้สึกร้อนรุ่มพลุ่งพล่านอย่างประหลาด
บุษบาลาวัณ สุขสฤษฎิ์ ค่ะ เรียกดิฉันว่าบุษก็ได้ น่าจะคล่องปากมากกว่า มองริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูสวยของหล่อนแล้ว ชายหนุ่มเกือบลืมว่าจะต้องแนะนำตัวบ้าง
ผมกรุณธัช เศวตรวิจิตครับ ยินดีเหลือเกินที่ได้พบคุณ ปกติก็เคยแต่ได้เห็นเรื่องของคุณไม่ทางโทรทัศน์ก็หนังสือพิมพ์นิตยสาร... คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอคุณจริงๆ...
ที่ว่าเรื่องของฉันน่ะ อย่างเช่นเรื่องอะไรบ้างล่ะคะ? ตาหล่อนฉายแววอยากรู้เต็มที่
ก็เรื่องฉายานางพญาสองพันปีของคุณ... เรื่องคุณกับฟาร์มกล้วยไม้ที่เชียงราย ...อ้อ แล้วก็เรื่องเครื่องประดับประจำกายของคุณ... ผมหมายถึงเครื่องประดับรูปกล้วยไม้นั่นน่ะครับ
แล้วพอเจอกับตัว เป็นยังไงบ้างล่ะคะ?
สวยกว่าที่เขาเขียนชมไว้อีกครับ
ดิฉัน หรือกล้วยไม้ล่ะคะ? หล่อนแกล้งเย้าแต่สีหน้าเหมือนจริงจัง
ชายหนุ่มหัวเราะตอบในท่าทีชวนมองของหล่อน ช่างอัศจรรย์เหลือเกิน ในบางครั้งหล่อนก็ทำให้เขาประหม่าแทบตาย แต่ในบางคราหล่อนกลับทำให้เขากล้า...กล้าที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ใกล้ชิดหล่อน
คุณบุษ เข็มกลัดคุณ... กรุณธัชเหลือบเห็นเข็มกลัดเพชรเม็ดใหญ่ตรงช่วงไหล่ของหล่อนห้อยลงทำท่าจะเลื่อนหลุด หล่อนตกใจรีบขยับกลัดเข็มให้เข้าที่ตามเดิม แต่ดูไม่ง่ายเลยสำหรับเจ้าตัวที่จะทำได้ถนัดมือ
คุณกรุณธัชคะ ช่วยดิฉันทีเถอะ
ผู้ถูกขอร้องรีบรับคำอย่างยินดี เขาค่อยๆ บรรจงกลัดเข็มกลัดเพชรให้หล่อนอย่างเบามือ แต่ถึงกระนั้น...
โอ๊ะ! กรุณธัชสะบัดนิ้ว เลือดสีแดงสดซึมเป็นเม็ดอยู่ตรงปลายนิ้วเขา
ตายจริง! ขอโทษค่ะ เพราะฉันแท้ๆ
ไม่เป็นไรหรอกครับ เข้าไม่ลึกหรอก... ไม่นึกเลยว่าเข็มกลัดมันจะกัดได้จริงเสียด้วย เห็นบุษบาลาวัณหน้าเสียเขาจึงต้องพยายามเอาอารมณ์ขันเข้ามากลบเกลื่อน
ขอดูหน่อยได้ไหมคะ...
เขาค่อยๆ ยื่นนิ้วให้หล่อน โดยไม่ทันคาดคิด หล่อนก้มลง จรดริมฝีปากอ่อนนุ่มลงกับหยดเลือดนั้น วินาทีนั้นใบหน้าเขาร้อนผ่าวราวกับถูกกระตุ้นด้วยแอลกอฮอล์ดีกรีสูง
เครื่องประดับบนศีรษะหล่อนสะท้อนแสงเกิดประกายวิบวับหลอกตาราวกับว่ามันกำลังเคลื่อนไหวอยู่...เกิดกลิ่นหอมประหลาดกำจายไปทั่ว เป็นกลิ่นที่ดึงดูดให้เขายอมติดกับหล่อนได้ทั้งกายและใจ...ยิ่งเขาลองขยับเข้าไปใกล้มันก็เหมือนกลิ่นหอมจะยิ่งเข้มข้นติดปลายจมูกมากขึ้นเท่านั้น
เสียงดนตรีบรรเลงเพลง มนต์บุปผา ดังขับกล่อมทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยง ขณะที่ชายหนุ่มกำลังตื่นตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ราวมัวเมาอยู่ในห้วงนิรมิต เขารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่สัมผัสอ่อนนุ่มนั้นหายไป
ดิฉันต้องไปแล้วค่ะ... ไม่มีถ้อยคำอำลาอาลัย หล่อนหันหลังเดินจากไป ทว่าลีลาในรอยยิ้มก่อนจาก ทิ้งรอยยั่วเย้า ชวนเชิญ และท้าทาย...
คุณบุษ คุณจะไปไหนครับ?
ไม่มีคำตอบ...
เหมือนกับหล่อนจะล่วงรู้ว่าหากคืนนี้กรุณธัชไม่ได้เจอแม้แต่เงาหล่อนอีก เขาก็จะต้องดั้นด้นค้นหาเพื่อที่จะเจอหล่อนอีกให้ได้
ผู้หญิงอย่างบุษบาลาวัณไม่ใช่ประเภทที่จะหว่านเสน่ห์กับใครไปทั่ว เขารู้...เขาเป็นกรณีพิเศษ และไม่มีทางที่เขาจะโยนโอกาสนี้ทิ้ง
ตั้งแต่คืนนั้น กรุณธัชถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในหัวเขามีแต่ภาพดวงหน้าหวานละมุนและอัญมณีปริศนาบนศีรษะของเธอ ทำไมต้องเป็นภาพนี้ก็ไม่รู้สิ...เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะหากนึกถึงบุษบาลาวัณคราใด ภาพกล้วยไม้ลึกลับก็จะปรากฏมาพร้อมกันครานั้น
จากคุณ |
:
ปลากินเมฆ
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ธ.ค. 53 00:16:16
|
|
|
|