 |
หลังจากที่คาเรนคิดอยู่ครู่หนึ่งก็บังเกิดแสงสีขาวล้อมตัวคาเรนไว้ มันแผ่ออกไปเป็นเหมือนโดมครอบตัวเธอไว้รัศมีเกือบหนึ่งเมตร พร้อมกับคาเรนที่ยืนอย่างมั่นคงมากขึ้นและเกร็งแขนดึงโซ่สีดำอีกครั้งและครั้งนี้แรงของคาเรนทำให้มาลโลต้องแปลกใจเพราะมันมีแรงกระชากมากกว่าก่อนที่เขาจะดูดพลังของเธอเสียอีก
เปรี้ยะ!!
เสียงแตกร้าวของอะไรบางอย่างดังขึ้น ทำให้มาลโลและเอเรียลต่างมองหาที่มาของเสียงนั่นก่อนที่มิสทอลเทนจะเอ่ยด้วยความตกใจ “ข...ข้ารับมันไม่ไหวแล้ว”
เปรี้ยะ!!! เปรี้ยง!!!
เพล้ง!! แก๊ง ๆ ๆ ๆ
โซ่สีดำที่รัดข้อมือของคาเรนไว้นั้นพลันแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยร่วงหล่นสู้พื้น จนมาลโลที่ดึงโซ่เมื่อครู่เซไปด้านหลังทันที ด้านคาเรนนั้นที่กลับมายืนสงบนิ่งแต่ท่าทางของเธอนั้นดูปกติแข้งแรงหาได้มีอาการเหนื่อยอ่อนแม้แต่น้อย เธอเงยหน้าขึ้นมองมาลและเอเรียลที่ยังยืนตกตะลึงอยู่ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่มันกลับแฝงไว้ถึงความตั้งใจอย่างยิ่ง
“แต่ฉันจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว แม้ว่าจะต้องเผชิญกับสิ่งใดหรืออะไร ฉันจะไม่ยอมให้พวกนายทำอะไรตามใจอีกต่อไป”
เปรี้ยะ!!
โดมที่เปล่งแสงสว่างสีขาวนั้นเปลี่ยนไปเป็นแสงสีทอง ซึ่งตัวคาเรนที่อยู่ใจกลางของโดมเปลี่ยนท่าทางจากที่ยืนปกติเป็นท่ายืนให้ปลายเท้าทั้งสองชิดเข้าหากันแล้วโยนกาลิอ้อน เบริอ้อนขึ้นไปเบา ๆ ซึ่งปืนทั้งสองกระบอกที่ลอยขึ้นไปนั้นหยุดนิ่งอยู่เหนือศีรษะของเธอไม่มากนัก ส่วนคาเรนเองหลังจากนั้นก็ผายมือทั้งสองออกด้านข้างพร้อมกับกล่าวอะไรบางอย่างออกมา
“En el nombre del señor del arcángel Quiero mandar la clave de cuatro del mundo Por favor, abrir la puerta de la terra Dan la libertad para Usted. Quién es mi poder. Quién es mi sabiduría Le deseo a mi lado”
“ป...เป็นไปไม่ได้!!!” มิสทอลเทนนั้นเอ่ยด้วยความตกใจ เมื่อฟังสิ่งที่คาเรนนั้นกล่าวออกมาราวกับคำอัญเชิญอะไรบางอย่าง แต่มันสุดปัญญาที่จะขัดขวางอะไรคาเรนได้แล้ว ด้านคาเรนนั้นยกมือทั้งสองมาตบกันที่หน้าอกหนึ่งครั้งก่อนที่จะแยกมือทั้งสองออกให้เกิดช่องว่างพอสมควร ก่อนที่เธอจะเปล่งคำพูดออกมาด้วยเสียงที่ดังก้อง
“Espada de la revolución mundial”
เมื่อสิ้นเสียงของคาเรน ร่างของเธอลอยขึ้นพร้อมกับที่เธอลดมือลงแล้วกางแขนทั้งสองออกเล็กน้อย ทันใดนั้นที่หน้าอกของคาเรนก็มีแสงสว่างเรืองลอยออกมารูปร่างเหมือนแท่งอะไรสักอย่าง ทันทีที่แท่งเรืองแสงนั่นหยุดลอยออกมาคาเรนก็ยกมือทั้งสองมากุมแท่งนั้นพร้อมทั้งห่อตัวลงเล็กน้อย
พรึ่บ!!!
ทันใดนั้นก็เกิดแสงสว่างพุ่งออกมาจากกลางหลังของคาเรนสามเส้น ทั้งสามเส้นนั้นแผ่ออกกว้างสยายเป็นรูปของปีกนก โดยปีกคู่หนึ่งที่อยู่กางหลังนั้นสยายกว้างดูงดงามราวกับปีกหงส์ที่พร้อมบิน ส่วนอีกปีกนั้นแม้จะสยายออกเป็นรูปปีกแต่มันก็ห้อยตกไปเบื้องหลังราวกับปีกหงส์ที่หักอยู่
หลังจากที่ปีกทั้งสามงอกออกมาเรียบร้อยแล้ว คาเรนที่ห่อตัวก็กลับมายืดตัวตรงโดยมือทั้งสองยังคงกุมเจ้าแท่งเรืองแสงที่ออกมาจากหน้าอกเธอไว้ ก่อนที่เธอจะออกแรงดึงมันออกมาจากหน้าอกช้า ๆ จากแท่งที่ไม่อาจบอกได้ว่าคือสิ่งใดนั้น มันค่อย ๆ ปรากฏรูปร่างให้เห็นชัด ๆ มันคือด้ามจับของอาวุธประเภทดาบซึ่งด้ามนั้นเหมือนทำจากแร่ที่มีสีแดงสดมีอัญมณีสีเขียงประดับอยู่ด้านละสามเม็ด คาเรนที่ดึงมันออกมาเรื่อย ๆ นั้นต่อจากด้ามจับ ก็ออกมาจนถึงกั่นดาบซึ่งมีสีเงินเงางามลักษณะคล้ายโค้งลงครอบเชื่อมต่อกับปลายของด้ามจับ กั่นดาบอีกส่วนแผ่กว้างออกเป็นแท่งหากแต่มีลวดลายคล้ายกับก้านของดอกกุหลาบยามที่มันเลื้อยอยู่ในสวน และตรงส่วนที่เชื่อมระหว่างกั่นดาบกับตัวดาบก็มีอัญมณีสีแดงสดส่องประกายสวยงามยิ่งและเมื่อเธอดึงต่ออยู่ก็เป็นด้ามดาบที่เรียวเล็ก
คาเรนที่ดึงออกมาจนถึงด้ามดาบนั้นก็ดึงมันออกจากหน้าอกอย่างรวดเร็วแล้วสะบัดปลายดาบขึ้นฟ้า พร้อม ๆ กับสองปีกที่สยายกว้างในขณะที่อีกหนึ่งปีกห้อยจากด้านขวาไปข้างหลังปัดแนบไปกับเอวสะบัดอ้อมไปที่เอวด้านซ้าย คาเรนที่ชูดาบขึ้นฟ้าก็สะบัดดาบราวกับวาดรูปบนอากาศก่อนที่คมดาบจะมาหยุดชี้ไปยังมาลโลและเอเรียล พร้อมกับที่กาลิอ้อนและเบริอ้อนกลายเป็นแสงสว่างเข้าหลอมรวมกันกลายเป็นปืนกระบอกเดียวแล้วลอยมาอยู่ในมืออีกข้างของคาเรนที่ว่างอยู่ จากนั้นคาเรนที่ลอยอยู่ก็กลับมายืนบนพื้นอีกครั้งและเอ่ยชื่อของดาบที่เธอเรียกออกมาจากตัวในทันที
“ดวงจิตแห่งข้า!! ดีออส!!”
“ยัยนี่มีอาวุธเทพอยู่ในครอบครองด้วยรึเนี่ย!!?” “ม...ไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย!?” มาลโลและเอเรียลต่างเอ่ยด้วยความตกใจต่อสิ่งที่เห็น หากแต่มิสทอลเทนนั้นดูจะตกใจเสียยิ่งกว่าทั้งสองจนเอ่ยชื่อของผู้ที่ทั้งสองไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้พบอยู่ตรงหน้าด้วยตนเอง
“น...นางคือ อัครเทวทูตผู้ตกสวรรค์...ล...ลูซิเฟอร์!!!”
มาลโลและเอเรียลต่างมองมิสทอลเทนด้วยความตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก พวกเขาหันกลับไปมองคาเรนที่ยืนเอาดาบชี้พวกเขาด้วยสายตาที่ดุดันเอาจริงเอาจังอย่างมากพร้อมกับปีกที่สยายกว้างดูงดงามอย่างมากจริง ๆ แม้จะมีเพียงแค่สองปีกและแม้อีกปีกดูจะพิการก็ยังคงดูงดงามอยู่ดี
“เจ้าว่า นางผู้นี้คือลูซิเฟอร์เช่นนั้นรึ?” “เป็นไปได้ยังไงกัน? ก็ลูซิเฟอร์ถูกพระเจ้าขับไล่ไปอยู่ในนรกมานานแล้วนี่นา” ทั้งมาลโลและเอเรียลต่างก็ตั้งตัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ทันจริง ๆ ด้วยไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อนว่าอัครเทวทูตผู้ซึ่งท้าทายอำนาจแห่งพระเจ้าจนถูกขับไล่ออกจากสวรรค์จะมาปรากฏอยู่ที่เบื้องหน้าของตนเช่นนี้ ด้านมิสทอลเทนก็เอ่ยตอบทั้งสองไปด้วยความรู้สึกร้อนรนทันที
“ม...ไม่ผิดแน่ ดีออสเป็นอาวุธเฉพาะของลูซิเฟอร์ มันเป็นอาวุธที่ไม่มีการเปลี่ยนมือไปเป็นของผู้อื่นแน่นอน”
“ฮะ...!!”
มาลโลและเอเรียลที่ฟังคำตอบของมิสทอลเทนต่างสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงและท่าทางที่เหมือนจะอ้าปากเอ่ยอะไรออกมาของคาเรน ทำให้ทั้งคู่ต่างตั้งท่าพร้อมสู้ทันทีด้วยพวกเขานั้นเชื่อว่าระดับมหาเทพผู้ที่กล้าต่อต้านพระเจ้านั้นอาจจะมีเวทย์หรือวิชาอะไรที่แปลกประหลาดและเล่นงานพวกเขาได้โดยที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัวแน่ ๆ
“ฮัดชิ้ว!!”
ท่ามกลางความเครียดของมาลโลและเอเรียลด้วยเกรงกลัวในพลังอำนาจของคาเรนที่กลายเป็นลูซิเฟอร์นั้น คาเรนก็จามออกมาโดยไม่ได้สนใจว่าใครจะคิดเช่นไร เธอสูดน้ำมูกที่จะไหลออกมาพร้อมทั้งเอามือข้างที่ถือปืนสีดำแดงที่เกิดจากการรวมกันของกาลิอ้อนและเบริอ้อนขึ้นมาขยี้จมูกก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงออกจะเบื่อหน่ายอย่างมาก
“ทำไมฉันไม่ทนสภาพอากาศได้ดีแบบลิลิธกับอนาคิมบ้างน้า”
------------------------------
| จากคุณ |
:
joyka
|
| เขียนเมื่อ |
:
20 ธ.ค. 53 23:45:18
|
|
|
|
 |