Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
แผดเสียงปืน 6 นาฬิกา ติดต่อทีมงาน

แผดเสียงปืน 6 นาฬิกา
   
    เสียงปืนหลายชุดลั่นตรอกโกโรโกโส...
     หมาขี้เรื้อนซุกตัวในผ้าขี้ริ้วคลุ้งกลิ่นสาปวิ่งหางจุกตูดออกจากที่นอนอบอุ่น หลังจ่าศร เริ่มลั่นไกพร้อมแสงเช้าค่อยๆ คลี่ราตรี เป้าหมายการทำงานครั้งนี้เป็นเจ้าพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ของภาคกลาง มีทั้งลูกน้อง อำนาจ และปืนที่พร้อมปลิดชีพคนที่ยัดเขาเข้าตะราง
    บ้านร้างตีฝาสังกะสีตั้งเด่นในวงล้อมของตำรวจ แม้เกลี่ยกล่อมหลายรอบ แต่เป้าหมายยังไม่ยอมจำนนกลับสาดกระสุนแทนคำตอบ ทุกอย่างราวเงียบงัน จ่าศรกระชับเสื้อเกราะพร้อมเช็ดด้ามปืนชุ่มเหงื่อ แล้วย่างสามขุมไปในบ้านร้าง ชุดคุ้มกันด้านนอกเริ่มยิงเบี่ยงเบนความสนใจ
    เสียงปืนสงบลงจนได้ยินเสียงหอบหายใจของเป้าหมาย ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่ประชิดปากประตูทางเข้า ชุดคุ้มกันด้านนอกประชิดวงล้อมหลังห่ากระสุนจบลง จ่าศรรุดไปภายในพบสองศพนอนจมกองเลือด ปลอกกระสุนเกลื่อนกลาด แกร๊ก...เสียงลั่นไกจากหลังตู้เหล็กเจาะหัวตำรวจหนึ่งนาย
    “หกนาฬิกา!!!” เสียงวอร์ลั่นมาในอากาศ จ่าศรเอี่ยวตัวไปด้านหลังพร้อมประทับเล็ง กระสุนแผดลั่นเจาะกลางหน้าผากปิดตำนานเจ้าพ่อค้ายาบ้า
    รุ่งขึ้นสื่อทุกแขนงแพร่ภาพ จ่าศร ตำรวจน้ำดี สารวัตรเตรียมเสนอเลื่อนยศให้สมกับสโลแกน ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน กู้ภาพลักษณ์ดำด่างในสายตาประชาชนในฤดูกาลเลื่อนยศ
    “ไอ้สิงห์ พ่อเอ็งนี่สุดยอด” เด็กหนุ่มร่างบางยืดอกภูมิใจ อย่างน้อยวีรกรรมของพ่อจะช่วยปูทางให้เขาเข้าเรียนตำรวจได้ด้วยเส้นสาย ไม่เพียงเส้นทางอันรุ่งโรจน์ในอนาคต บรรดาครูน้อยใหญ่ในโรงเรียนมัธยมต่างเยินยอวีรกรรมของพ่อ จนแต่งตั้งให้เป็นประธานสมาคมผู้ปกครอง แล้วซองหลากสีจากชาวบ้านทั่วสารทิศก็โถมเข้ามาไม่ว่างเว้น เพื่อให้จ่าศรเป็นเกียรติในงานบุญ งานแต่ง ในนามตำรวจของประชาชน
    รอบเอวจ่าศรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากแรงศรัทธาของการชนแก้ว ห้องแถวที่ซุกหัวนอนในแฟลตตำรวจดูเล็กราวรูหนู ไม่สมกับฐานะหน้าตาในสังคมของตำรวจน้ำดี จึงใช้เงินที่เก็บออมดาวน์บ้านเดี่ยวราคาเหยียบล้าน ผ่อนแต่ละเดือนแทบไม่เหลือเศษเงินให้เก็บเหมือนเก่าก่อน
    จ่าศรยิ้มอย่างเป็นสุขทุก เมื่อเพ่งมองโฉนดที่ดินบ้านใหม่ แกบอกลูกเมียให้รออีกไม่กี่เดือนสารวัตรจะเลื่อนยศให้ตามสัญญาใจ ด้วยผลงานซึ่งเป็นที่โจษขาลของผู้คน

2
    ฤดูการเลื่อนยศตำรวจ...
    เป็นอีกวันที่จ่าศรใจดั่งถูกไฟสุม มันร้อนรุ่มเกินกว่าจะหาสิ่งใดมาดับ นับวันยิ่งก่อตัวเป็นไฟแค้น มันร้อนเสียจนอยากจะจุดไฟเผาโรงพักให้มอดไหม้เป็นเถ้าอารมณ์ ตั้งแต่รู้ตัวว่าหลุดโผการเลื่อนยศ ทั้งที่มีผลงาน และหน้าที่ซึ่งเป็นที่ยอมรับของประชาชน
    ชายร่างท้วมเดินโซเซคลุ้งกลิ่นเหล้าถลาเคาะประตูห้องในแฟลตโครมๆ “ไอ้เห้สิงห์รีบเปิดประตูเดี๋ยวนี้” เจ้าของเสียงตวาดแล้วสำรอกเต็มทางเข้า
    “รอเดี๋ยวพ่อ” เสียงงัวเงียตอบรับ
   “ไม่ต้องเปิดให้มัน” แม่ตวาดขึ้นท้ามกลางความมืด
    คืนนี้ไม่ต่างจากอีกหลายคืนที่จ่าศร ต้องนอนจมกองอ้วก ให้ยุงดูดเลือดที่สูบฉีดด้วยแอลกอฮอล์ ความล้มเหลวจากหน้าที่การงานที่ถูกดองในยศจ่ามากว่า 15 ปี ใช้ชีวิตเสี่ยงลูกปืนให้นายเห็นผลงานมาหลายหน สุดท้ายเหมือนมีมือมาบังตาให้นายเซ็นแต่งตั้งเลื่อนยศรุ่นน้องแซงหน้า เพียงเพราะเด็กเหล่านั้นมีเส้นสายในกรมตำรวจ หลังจากวันนั้นแกก็เอาชีวิตผูกติดกับน้ำอำพัน นับวันยิ่งเพิ่มดีกรี เกลียดชังในหน้าที่ จากนายตำรวจที่เสมือนผ้าขาวเริ่มแต่งแต้มด้วยสีเทาดำ
    6.00 น. นาฬิการ้องลั่น ปลุกให้สิงห์ตื่นจากที่นอน แสงเช้าลอดผ่านหน้าต่างหลังบ้าน แม่กำลังง่วนกับอาหารเช้าควันลอยเคว้งเหนือเตา เขายิ้มให้กับเช้าวันใหม่ รู้สึกสดชื่นกว่านอนในบ้านราคาเรือนล้าน ราวฝันที่พ่อพาไปอยู่บ้านใหญ่โตโอ่อ่า มีสนามหญ้าให้วิ่งเล่น ห้องนอนขนาดใหญ่เพิ่มความเป็นส่วนตัว ทุกอย่างให้ความสุขได้เพียงกาย ตรงข้ามกับจิตใจที่ต้องคอยพะวงเมื่อสิ้นเดือนมาถึง  
    สุดท้ายบ้านเรือนล้านกลายเป็นเพียงฝัน เมื่อธนาคารยึดบ้านเพราะขาดส่ง จ่าศรจำต้องหอบลูกจูงเมียกลับมาอยู่แฟลตดังเดิม ขณะที่ทุกอย่างต่างจากเดิมดั่งหน้ามือเป็นหลังมือ
   “สิงห์กลับมาแล้วเหรอ” เด็กสาวผิวผุดผ่อง สูงโปร่งทัก
   “โบว์เป็นไงบ้าง”
    บนชั้นดาดฟ้าแฟลตตำรวจ....เด็กสาวกุมมือสิงห์ไว้แน่น ลมหนาวพัดวูบวาบ ดวงตากลมโตจ้องเขม็งในดวงตาของเด็กหนุ่ม แล้วเธอกระซิบข้างหูว่า “เรามาลองรักกันไม๊” สิงห์ขวยเขินจนหน้าแดง ฝ่ายหญิงเห็นได้ทีรีบกระซิบเสริม “เราพูดจริงน่ะ”
    ฝ่ายชายได้แต่พยักหน้า หันซ้ายหันขวา พอเห็นปลอดคน จึงดึงร่างของเธอกระชับไว้ในวงแขน พร้อมหอมหนึ่งฟอดแบบรวบๆ เด็กสาวแม้แก่นแก้วแต่หน้าเริ่มแดงกล่ำ ไม่กล้าบอกความนัยที่ค้างเติ่งอยู่ภายในต่อ
    สิงห์ชาไปทั้งตัว ครั้งตั้งสติได้รีบลุกขึ้นจากภวังค์ วิ่งปร๋อลงบันได้ไปชั้นล่าง เขินอายที่จะพูดต่อ ทิ้งไว้เพียงรอยหอมที่ฝากไว้ โบว์ยิ้มอย่างโล่งอกที่ถ้อยคำซึ่งเก็บงำไว้ได้ระบายออก เธอสูดลมหายใจลึกลูบผิวแก้มที่ช้ำพร้อมพูดอย่างเป็นสุข “ตาบ้าเอ๊ย !!!”
    เด็กหนุ่มไม่เคยรู้สึกดีเท่าวันนี้มานาน ตั้งแต่พ่อเริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คน ทำให้ไม่มีเวลาเติมเต็มความสุขให้ครอบครัว ครั้นหลังจากเจอโบว์เสมือนเป็นส่วนเติมเต็มหัวใจที่แหว่งวิ่นกลับคืนมาดังเดิม ทั้งที่เรียนชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกัน แต่สิงห์ไม่กล้าทัก ด้วยพ่อของฝ่ายหญิงมียศอยู่ในระดับผู้บังคับบัญชาของจ่าศร เขาเองมิอาจเอื้อมมือคว้าแม้อยู่ในแฟลตเดียวกัน  
แล้ววันนั้นก็มาถึง... เสียงร้องไห้กระซิกๆ ในความมืด ฉุดให้โบว์เดินตามเสียงไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าแฟลต แล้วพบเด็กหนุ่มนั่งคุดคู้ พอกราดไฟฉายไปบนดวงหน้าน้ำตาที่เอ่อท้นต้องแสงเป็นประกาย ช่วงเวลานั้นเธอไม่คิดตำหนิความอ่อนแอของเขา กลับนั่งเป็นเพื่อนให้เขาเล่าถึงความทุกข์ที่พันธนาการความรู้สึกให้คลายลง หนนั้นเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสเรียวมืออันอ่อนนุ่มของเธอ

จากคุณ : ทรงคนอง1
เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 53 10:43:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com