ความคิดเห็นที่ 1 ระหว่างเดินทาง ก็ถือโอกาส ถ่ายภาพ(ไว้เยอะค่ะ) แต่คัดมาลงพอหอมปากหอมคอนะ ข้างหน้าดูเหมือนจะเป็นป้ายบอกทางไปสุพรรณบุรี วัดที่ไปกันครั้งนี้ ต้องออกนอกเส้นทางสุพรรณ ไป ศรีประจันต์ แล้ว ขึ้นไปสามชุก เ้ส้น 340 นี้ ที่ไปออกนครสวรรค์ โน่นแน่ะค่ะ ถนนดี เสาไฟฟ้าถี่ อย่างที่ต้องขอชม ท่านอดีตสส.อดีตนายกรัฐมนตรี ชาวสุพรรณ ไว้สักหน่อย จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 08:20:59

ความคิดเห็นที่ 2 Cut- ตัดภาพว่าไปถึงวัด คลองขอม เลียบคลองชลประทาน ผ่าน ตลาด ๑๐๐ ปี สามชุกสุพรรณ ไป  ดูชาวบ้านร้านถิ่นร่วมใจมาร่วมพิธี วัดคลองขอม นี้ ถามคุณน้า ได้ความว่า คุณป้า จารุวรรณ (นวะมะรัตน) พลอยสังวาลย์ สมัยเป็นสาว ๆ ก่อนแต่งงาน ท่านทำงานเป็นครูสอนเด็กนักเรียนที่โรงเรียนนี้ ก่อนจะพบรักกับคุณลุง และ เดินทางไปทำงานสถานที่ต่างๆ ของกรมชลประทาน นานนับสิบ ยี่สิบ สามสิบ สี่สิบ ห้าสิบปี ท่านจึงจะได้มีโอกาสเยี่ยมวัดนี้สักที            เมื่อพูดถึงคุณป้า ท่านก็มี บุญ มีคุณ แก่น้องๆ คือคุณแม่ และ คุณน้าหลายคนอยู่เสมอ เพราะท่านมีอัธยาศัย ใจดี มีเมตตา มากรุงเทพฯทีไร ท่านก็มีของมาแจกน้อง แจกหลาน อยู่เสมอ    วันอาทิตย์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ดังกล่าว ท่านก็มีชื่อร่วมเป็น ประธานทอดกฐิน กองหนึ่ง(ซึ่งที่วัดมีหลายกอง) ในวันนั้น ร่วมกับคุณแม่ ข้าพเจ้า และ น้า-ลูก หลาน ญาติ มิตร ทั้งทางกรุงเทพฯ นนทบุรี ชัยภูมิ สุพรรณบุรี ฯลฯ           แต่ในวันดังกล่าว คุณป้าของข้าพเจ้าไม่ได้ไปร่วมงานด้วย มีแต่คุณแม่ของข้าพเจ้า ซึ่งท่านก็จำความใด ๆ ไม่ได้แล้ว ได้แต่พาท่านไปให้เห็นบรรยากาศบุญกุศล เพื่อความสุขเล็ก ๆ น้อยแก่ท่านเอง ข้าพเจ้าไปกับรถหลานชาย เลยไม่ได้ดูแลคุณแม่ มีแต่คนเลี้ยงคุณแม่ ดูแลท่านไปตลอดทาง ทั้งไป-กลับและที่ัวัดด้วย จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 08:32:50

ความคิดเห็นที่ 3 วัดนี้ ตั้งเลียบ คลองชลประทาน ที่ข้าพเจ้าถ่ายรูปยืนอยู่ ปลายระเบียง จึงพอเก็บภาพ ลำน้ำเส้นเดียวกับที่ไปตลาด ๑๐๐ ปี ไว้สักน้อย สัปดาห์ที่ผ่านมา ญาติบอกกันว่า ชลประทานปิดประตูน้ำสามชุกไว้ น้ำจึงไม่ไหลไปท่วม ตัวเมืองสุพรรณบุรี ให้หนักหนาสาหัส แต่รอบนอกพ้นประตูน้ำนั้นไป ก็อย่างที่เราเห็นๆ คือ 1-1.5-2.-3เมตร ดังที่เห็นๆ มาตลอดเส้นเดินทาง 340 ประมาณนั้นค่ะ จริงเท็จประการใด ไม่ทราบรายละเอียดนะคะ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 08:44:39

ความคิดเห็นที่ 4 กลับเข้ามาบรรยากาศ ชั้นบนศาลา อีกเล็กน้อย จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 08:56:43

ความคิดเห็นที่ 5 นี่ก็ง่วนเรื่องเงินบริจาค ให้วัด คราวนี้ ก็พอสมควรอยู่  จำนวนกี่หมื่น กี่แสน ข้าพเจ้าก็ลืม ยอดเงินที่ทางวัดเขาประกาศ กันแล้ว    มีเรื่องอยู่ว่า ท่านที่บริจาคเงิน หลายท่าน เขียนหน้าซองไม่เท่าที่นำเงินใส่ซองมา อยู่พอสมควร ทางผู้นับ กับผู้จดจำนวน เลยต้องทำงานนับ กันหลายรอบ เพื่อไม่ให้ตกหล่น               งานกฐิน นอกจากจะมี เครื่องอัฎฐบริขารแล้ว ก็ต้องมีปัจจัยบำรุงวัด ด้วยเจตนาจะสร้าง เสนาสนะ และ อื่น ๆ ให้ทางวัด  เราก็ร่วมอนุโมทนาบุญแด่ท่านผู้ร่วมงานกฐินทุก สายด้วยเลย จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 09:02:03

ความคิดเห็นที่ 6 ลงไปดูด้านล่าง เขาแห่ องค์กฐิน รอบโบสถ์ กัน ข้าพเจ้า ตามลงไปทีหลัง เพราะมัวเสวนา กับญาติสนิทอยู่ชั้นบน เลยเก็บเอาบรรยากาศ ตอนแห่ใกล้จบ เสียงดนตรีสนั่นลั่นกลองเร้าใจ  ญาติโยมพากัน เต้นแห่กันเป็นที่สนุกสนาน แห่องค์กฐินรอบโบสถ์ ชาวบ้าน กับผู้ร่วมงาน เต้นกันมันในอารมณ์เพราะดนตรีสนั่นเร้าใ  ไผเป็นไผ ตรงนี้ ข้าพเจ้าไม่รู้ บรรยากาศสนุกสนาน งานกฐิน วัดคลองขอม (เลยตลาดสามชุก ๑๐๐ ปี ไปหน่อย ) อำเภอสามชุก จังหวัด สุพรรณบุรี อาทิตย์ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 09:11:33

ความคิดเห็นที่ 7 ดูวงดนตรีโมบายล์เขาแล้วกันค่ะ สร้างสีสันบรรยากาศครึกครื้นสุด  หลายคนจากกรุงเทพฯ นนทบรี ฯ เห็นแล้วอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่า งานกฐินชาวสามชุก เขาจะครื้นเครงถึงขนาดนี้ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 09:20:05

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นขบวนน้ำใจญาติโยมผู้ร่วมบริจาคอัฎฐบริขารเครื่องกรานกฐินทั้งหลาย พร้อมวงดนตรี โมบายล์ สนั่นลั่นวัด แบบชาวสามชุก ชาวกรุงทั้งหลายพากัน อมยิ้มอิ่มเอมใจ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 09:31:21

ความคิดเห็นที่ 9 คราวนี้ ก็ถึงขบวน ญาติทางคุณแม่ ข้าพเจ้า คุณน้า ๆ ทั้งหลาย รวม ลูกคุณป้า สนิทสนมกันเป็นที่ยิ่ง แห่องค์กฐินมาถึงหน้าตาเบิกบานอิ่มบุญ เพราะหลาน กำลังถ่ายรูปใ้ห้ ครั้งนี้ เป็น ครั้งแรกที่ข้าพเจ้ามาร่วมด้วย แต่ ปกติ ทางคุณน้าท่านมากันหลายครั้ง หลายปีอยู่แล้ว จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 09:44:21

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ น้า นักร้อง ธรรมรัตน์ นวะมะรัตน ถือ ตาลปัตร ซึ่งปักชื่อ คุณป้า คุณแม่ และ คุณน้าติ่ง มาให้ข้าพเจ้าชักภาพเป็นที่ระลึก อย่าง ชัด ชัด จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 09:46:07

ความคิดเห็นที่ 11 ภาพ ตาลปัตร ซึ่งคุณน้าติ่งไปสั่งปัก เป็นการเฉพาะมาให้ ๑ ด้าม คุณ น้า นักร้อง(อดีตวงสุนทราภรณ์ กรมประชาสัมพันธ์)   คุณ ธรรมรัตน์ นวะมะรัตน มาถือให้ชัด ๆ อีกรอบ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 09:57:53

ความคิดเห็นที่ 12 ระหว่างนี้มีคนนำ กระรอกมาเล่น ข้าพเจ้าเลยจับใส่แขนน้องสาว ลูกคุณน้าตุ๊ ดูท่าคนเมือง กับกระรอกชาวสามชุกแล้วกันนะคะ           กระทู้นี้ ดูเพลิน คั่นบรรยากาศ ไปก่อน จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 10:01:48

ความคิดเห็นที่ 13 กระทู้เฉียดบุญของข้าพเจ้าครั้งนี้ หากไม่ได้ อนุโมทนาบุญตามหลัง มีหวังไม่ได้บุญเท่าไหร่เลยเที่ยวนี้  เพราะมัวแต่ไปยุ่งเรื่องโน้นเรื่องนี้ แถมจิตมีแต่ กิเลสเพียบเลยงานนี้ เลยเอาเป็นว่า สนุกสนานกันถ้วนหน้า จะได้บุญ ตอน อนุโมทนาบุญ รูปเงิน ๆ ทอง ๆ ตาลปัตร อะไรพวกนั้นแหละค่ะ              แล้ว ก๊วน น้องสะไภ้กับข้าพเจ้า ก็แอบไปเที่ยว ตลาด ๑๐๐ ปี สามชุก กันเลย จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 10:34:00

ความคิดเห็นที่ 14 แวะกินข้าวกลางตลาด ร้าน เป็ดย่างจ่าเฉิด เจ้าแรกเจ้าเก่า ตลาดสามชุก๑๐๐ ปี อร่อยดีค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 10:50:00

ความคิดเห็นที่ 15 เรือนไม้เก่า งาม ๆ  ในแวดล้อมตลาด ๑๐๐ ปีสามชุก สุพรรณบุรี ดูโบราณเก่า ๆ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 11:02:51

ความคิดเห็นที่ 16 ขากลับจาก ตลาดร้อยปี สามชุกวิ่งมาทางไปสุพรรณ น้ำท่วมนาชาวบ้าน เขยิบท่วมร้านค้าข้างทางอย่างที่เห็น จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 11:15:25

ความคิดเห็นที่ 17 ตอนที่แวะ ปั๊มน้ำมัน ระหว่างทาง มี สิ่งน่าสนใจ เลยถ่ายภาพเก็บไว้ ตัีดต่อมาให้เห็นสาระสำคัญ ว่ามิใช่ ศาลพระภูมิ มิใช่ศาลพระพรหม มิใช่ ศาลเจ้า แต่เป็น ศาล เทพ พระ เจ้า บรรยายว่า มีกี่ท่าน กี่องค์ ทั้งเงินเหรียญที่ผู้คน โยนหยอดไปในกลางสระน้ำ จะนำไป สร้างทานแก่ ผู้ด้อยโอกาส และ สาธารณกุศล โดยรอบสถานที่นั้น เห็นแล้วก็เป็นของแปลกตา จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 11:30:03

ความคิดเห็นที่ 18 ตามรอยบุญครับ จากคุณ : GTW เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 14:58:14

ความคิดเห็นที่ 19 ปีนี้ใส่ซองกฐินไป 20 บาทเอง ขอบคุณครับ จากคุณ : garnet19th เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 53 20:35:21

ความคิดเห็นที่ 20 ู^ ^ ^ คห 18 คุณ : GTW  ขอบคุณ ที่ตามนะคะ           ประดาชีวิตบนโลกนี้ ล้วนแต่ต้องเกี่ยวข้องด้วยญาติ ด้วยสกุล ด้วย ชื่อ ด้วยเกียรติ  จน ยุค 14 ตุลารุ่นเราวัยนักศึกษา ออกมาประท้วง หนัก กันเรื่อง กิน กาม เกียรติ เกือก           พอถึงอายุ ปานนี้ เราก็ได้เรียนรู้ว่า ที่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย เขาคอยสั่งสอนอบรม กระทุ้งให้ได้คิด เรื่อง อายุอะไร ทำหน้าที่อะไร  พอถึงบั้นปลายอายุ เกียรติ และ เกือก นี้ นำหน้า กิน กาม กันไปหมดแล้ว             ก็มาถึงเรื่อง การสะสม ซึ่งทรัพย์และ เงิน ทอง อันได้เวลา สละออกกัน               แ่ต่กระนั้น  คนที่จะ สละ ซึ่งทรัพย์ เงินทอง ได้ดียิ่ง คือเหล่าบรรดาผู้มี เกือก หนา  เกียรติ สูง มากกว่า ชนธรรมดาสามัญ ซึ่ง เกือกบาง หรือ ไม่มีเกือก หรือ เกียรติ ต่ำ เกียรติ ปานกลาง กันมากนัก                เวลาที่จะต้องคิดเรื่องงานบุญ งานกุศล  เราในฐานะ ปัจเจกชน คนมีชีวิต พอเพียง จึง ต้อง ขออาศัยไหว้วาน ติดเกือก เขาไป  ถือเป็น ภาวะปัจจัยที่ไม่เหมาะสม ที่จะต้องไป กระเสือกกระสนดิ้นรนไป สละ บริจาค ยุ่งยากแก่ชีวิต              ดังนั้น ตัวเรา จึง ถือคติ สันโดษ พอเพียง แก่ การอยู่ การกิน การอาศัย การทำงานการ การพักผ่อน นอนพอเท่า่ที่ร่างกายต้องการ             ยังมีเพื่อนฝูงอีกหลายท่าน ที่บางท่านก็จะไปบำรุงปัจจัย ต่างประเทศ ยังประเทศอังกฤษบ้าง  ยัง ต่างจังหวัดไกล ๆ บ้าง   บางท่านหากไปด้วย ไปอาศัยเกือกเขาไป เราก็หมดกระเป๋า ไม่ีมีจะกินกันไปนานหลายเดือน              การจะร่วมทำกุศลทานกับใคร  จึงต้องพิจารณาให้ดี แม้นกระทั่งญาติก็อาจ กระทบกระทั่งกระเทือนใจกันไปได้เหมือนกัน เพราะแต่ละครอบครัว แต่ละบุคคล เขามี วิถีชีวิตการเป็นอยู่ต่างกัน   วิถีธรรมก็ต่างกัน              แต่ก่อนนั้น นึกจะบอกบุญญาติอันใด ก็บอกไป  แต่ญาติ(ผู้ใหญ่) บางท่าน มักตอบ ตอกหน้า มาว่า              " จะร่วมสร้าง โบสถ์วิหารสิ่งก่อสร้างก็จะช่วย แต่จะให้พิมพ์หนังสือธรรมะ จะทำไปทำไม คนได้รับเขาก็เอาไปโยนทิ้ง ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่อ่านกันหรอก "             สมัยก่อนหน้านั้นเมื่อลูกเล็ก ๆ ตนเองก็บอกบุญไปครั้งหนึ่ง เป็นงานกฐิน ญาติผู้ใหญ่บางท่าน ค่อนขอดว่า สงสัยเรี่ยไรไปเข้ากระเป๋าตัวเอง แบบนี้              ดังนั้น หากตนเองทำ จะ ทำ ใบอนุโมทนาบุญจากวัดเตรียมไว้เรียบร้อย ใครบริจาคเท่าไหร่ ระบุลงไป ส่งให้วัด ประทับตราเซ็นรับมา ท่านพระอาจารย์ทั้งหลายก็รำคาญใจอีกว่า เราเรื่องมากทำบุญทำทาน อะไร ให้มัน แค่ใจ ง่าย ๆ ก็ได้บุญ          ทั้งนี้ เดี๋ยวนี้ เราจึงไม่ค่อยนิยม ไปร่วมทำบุญ(เอาหน้า) กับใครเขาเท่าไหร่ ถ้างานนี้ เขาไม่ส่ง ใบสั่งมาแต่ต้นปี ระบุ ชื่อ คุณแม่ เป็น ประธานร่วมทอดกฐินด้วย ก็คงไม่ไปร่วมให้เสียทรัพย์ เสียเวลา เสียอารมณ์  เพราะ บุญ มันเกิดที่ใจ ใจมันเป็นบุญ อยู่ที่ใดก็เป็นบุญ           แต่หากคนทำทานไป ถือ เป็นกุศลบุญกรรม ชนิด ๑ ใน ๑๐ ชนิด ของบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ แล้ว เอาบุญเราไปเทเป็น อกุศลกรรม  คำว่าอกุศลกรรมนี้ คือ สร้างวจีกรรมกลับมาใส่เราผู้มีปกติ  เคารพในบุญในทานของผู้อื่น เราก็ไม่ค่อยอยากจะร่วมบุญ ร่วมกุศลด้วย สักเท่าไหร่           ดังนั้น คนเรา แม้นเป็นญาิติ ก็ยังมี ร้อยแปดชนิด  ญาติธรรม นั้น สำคัญกว่าญาติทางสายเลือด กันยิ่งนัก  เพราะ ญาติด้วยสายเลือด ซึ่งถือยศ ถือศักดิ์ ถือเกียรติ ถือทรัพย์  ยศฐา บรรดาศักดิ์ ตำแหน่ง แห่งที่ (ตามประสาคนไทย)  ก็ยากที่จะเป็น ญาติธรรม กันไป          แต่บางคน แม้นมาจากคนละสายเลือด แต่เมื่อได้ผูกพันกันเป็น ญาติธรรม กันนั้น กลับผูกพันด้วย ความเห็นถูก คือ กุศลบุญ ชนิดหนึ่งใน กุศลกรรมบถ ๑๐ นับเป็นยอด ยิ่งกว่า ญาติชนิดอื่น               ขอขอบพระคุณในน้ำใจของท่านเป็นยิ่งค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 12:31:26

ความคิดเห็นที่ 21 คนเรา แม้นเป็นญาิติ ก็ยังมี ร้อยแปดชนิด  ญาติธรรม นั้น สำคัญกว่าญาติทางสายเลือด กันยิ่งนัก  พราะ ญาติด้วยสายเลือด ซึ่งถือยศ ถือศักดิ์ ถือเกียรติถือทรัพย์  ยศฐา บรรดาศักดิ์ ตำแหน่ง แห่งที่ (ตามประสาคนไทย)  ก็ยากที่จะเป็นญาติธรรม กันไป         แต่บางคน แม้นมาจากคนละสายเลือด แต่เมื่อได้ผูกพันกันเป็น ญาติธรรม กันนั้นกลับผูกพันด้วย ความเห็นถูก คือ กุศลบุญ ชนิดหนึ่งใน กุศลกรรมบถ ๑๐ นับเป็นยอดยิ่งกว่า ญาติชนิดอื่น จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 13:51:20

ความคิดเห็นที่ 22 คห 19   ปีนี้ใส่ซองกฐินไป 20 บาทเอง ขอบคุณครับ คุณ : garnet19th              ก็ไม่ได้มากไปกว่าคุณสักเท่าไหร่หรอกค่ะ   บุญในทานนั้น เต็มเปี่ยมเมื่อเราหยิบ (บุญเกิดกำลังทำ) ด้วยใจที่ตั้งไว้(บุญเกิดก่อนหน้า) ไว้ว่าจะบริจาค จะมากหรือน้อยอยู่ที่ความตั้งใจค่ะ          แต่เมื่อนึกย้อนไปถึงการร่วมใจบริจาคของเราแล้ว มีความยินดี (บุญก็เกิดภายหลัง) บุญแห่งการบริจาค จึงมี ถึง ๓ ขั้นตอนกระทำ และ เมื่อขณะ ใด ที่นึกถึงการบริจาคทานของตนไว้ แผ่เมตตาให้ผู้อื่นทันที ก็เป็นบุญอีกชนิดหนึ่งขึ้นมา และ เมื่อใด  เปรียบเทียบการบริจาคของผู้อื่น อันมากกว่าของตน แล้วตัดความริษยา หมั่นไส้ ไม่ชอบหน้า หุบเจรจาที่จะว่ากล่าวกระแนะกระแหนใส่ร้าย ฯลฯ อันเป็นทางบาป แล้ว นึกยินดี ไปกับเขา เกิดมุทิตาบุญ ร่วม อนุโมทนาบุญไปกับเขาผู้นั้นที่ ได้มีโอกาส สละทรัพย์ทำบุญ ก็เกิดบุญ มหาบุญ         เพราะทางพระท่านว่า  เห็นใครทำบุญ แล้ว จิตอนุโมทนามีกุศลสูง  ได้บุญ เท่ากับ ผู้่ที่เขากำลังกระทำ   แปลกไหมคะ แต่นี่้แหละค่ะ พุทธศาสนา คำสอนนี้ เหมือนเส้นผมบังภูเขา ให้เราทั้งหลายมัวแต่นึกน้อยใจ หรือ (อาจรำคาญใจ) ที่มีคนมาขอบุญ แล้วเราให้บุญไปน้อย ๆ แต่ภายหลังคนอื่นเขาให้มากกว่า เขาสรรเสริญกัน (จนรู้สึกรำคาญใจ)  เราก็ปรับใจ เปลี่ยนใจไปทันที บุญเกิดขึ้นมหาศาล อย่างน่าแปลก ไปทันทีเลยค่ะ อนุโมทนาบุญ ในกุศลที่คุณได้ทำไปนะคะ          วันก่อนก็โดนเพื่อน(สวด) เอาเหมือนกัน ที่เขาบอกบุญว่ากำลังจะไปทำพระรูป ไม้สลัก ของพระสงฆ์เกจิอาจารย์ทางเชียงใหม่ที่จะไปทำที่ปาย  ราคาเท่านั้นหมื่น เท่านี้หมื่น แล้วเรา เกิด อกุศลกรรมน้อยเนื้อต่ำใจว่า มาบอกอะไรกันตอนที่เรามีเงินเท่าไหร่ ก็ต้อง(โยน) ให้แบงค์หมด  เขาก็ตัดกรรมเรากระทันหันเลยว่า  ที่บอกนี้เพื่อให้เราร่วมอนุโมทนานะ  แม้นสัก 1 บาท ที่เรา ร่วมบริจาค เราก็จะได้บุญ อนันต์ แล้ว  ก็ชะงักในบาป เกิดสติได้เหมือนกันค่ะ เชื่อเถิดค่ะว่า บุญที่เราได้กระทำไปแม้นน้อยนิด แต่คิดแล้่วเป็นสุข ย่อมดีแก่ตัวเราเป็น แม่นมั่นค่ะ ( เดี๋ยวจะไปยาวอีก เท่านี้ก่อนนะคะ ต้องออกไปข้างนอกทำธุระ แล้วค่ะ ) จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 14:04:27

ความคิดเห็นที่ 23 อนุฒทนาบุญด้วยค่ะ อยากกินขนมไข่ปลาที่ตลาดสามชุก จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 15:40:33

ความคิดเห็นที่ 24 ยังคงเกาะติดกระทุ้ ด้วยความชื่นชมครับ จากคุณ : Psycho man เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 20:11:26

ความคิดเห็นที่ 25 คห 26 คุณ : scottie        ขนมไข่ปลา หน้าตาเป็นอย่างไรคะ  เสียดายวันนั้น เขาเร่งกลับกันเหลือเกิน หากเรา ใส่เกือก เอ๊ยขับรถเราไปเองได้ คงจะ แช่ที่โน่นที่นี่นาน ๆ คงได้สำรวจของกิน มากมายมหาศาล ที่ตามถ่ายรูปมาได้บ้างแน่ ๆ ค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 23:15:41

ความคิดเห็นที่ 26 ปฏิทินพระบรมฉายาลักษณ์ฯในร้าน ข้าวหน้าเป็ดจ่าเฉิด  เป็นที่ประทับใจของข้าพเจ้าอย่างยิ่ง.......(รูปแถมให้ท่านดูอีกหน่อยค่ะ) จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 53 23:41:22

ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อวันหยุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พาน้องสะไภ้ไปเยี่ยมอภิธรรมมูลนิธิ พุทธมณฑลสายสี่ จึงได้พบ กัลยาณมิตร มากมายผู้เข้ามาให้คำแนะนำเป็นแสงสว่างธรรมแก่น้อง ทั้งยังได้ไปกราบเยี่ยม พระทอง ฯ ที่วัดศรีประวัติ ตำบลปลายบาง อำเภอบางกรวย กลับมา จึงได้ข้อธรรมที่สารภาพกับน้องเมื่อวานนี้ว่า " พี่เป็นคนที่มี บุญอยู่ตรงหน้า แต่ไม่กระตือรือล้นร่วมบุญร่วมทาน  ชาตินี้ก็ลำบากวัยกลางคน ชาติหน้าก็จะลำบากอยู่อย่างนี้ เพราะติดนิสัย เห็นเขาโดดเข้าถวายบุญถวายทาน มักจะ ดีดตัวถอยห่าง ..."    จึงมาเขียนโน้ตไว้อีกรอบในวันนี้ ซึ่งเข้ามาเขียนกลอนว่า    ข้อธรรมที่น้องถามมา ว่าความตั้งใจทำบุญมีสามระดับ ก่อน กำลังทำ และ หลังทำ         แต่ เรามัุกพลาด ตอน ก่อน และ กำลังทำ  ภายหลังมาระลึกได้ ก็ แทบไม่เห็น บุญของตัวเอง เพราะมัวแต่ สั่งสนทนา กับญาติ เป็นที่ตั้งค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 53 09:44:28