|
หลังพักฟื้นในโรงพยาบาลอีกสองอาทิตย์ ธีรเดชก็พาวิชุลดากลับบ้าน
รถยนต์สีบรอนซ์จอดที่บาทวิถีหน้าบ้านเล็กๆ หลังหนึ่ง ตัวบ้านทาด้วยสีครีม ดูสว่างไสวภายใต้หลังคาสีแดงอิฐ โครงร่างของบ้านเป็นทรงยุโรป ร่มรื่นไปด้วยพืชพรรณหลากชนิด ลึกเข้าไปจากรั้วธรรมชาติที่ทำด้วยต้นโมกข์สีขาวบริสุทธิ์ จะพบกับสนามหญ้าสีเขียวอ่อนดูสดชื่นสบายตา ข้างตัวบ้านมีโต๊ะนั่งม้าหินเล็กๆ ตั้งใต้ร่มไม้ขนาดใหญ่
ภายในบ้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย พื้นบ้านถูกปูด้วยไม้อัดสีน้ำตาลเข้ม ผนังห้องถูกทาด้วยสีเหลืองครีมสีเข้มกว่าข้างนอกบ้านเล็กน้อย เมื่อลอดผ่านกำแพงทรงโค้ง จะพบห้องนั่งเล่นขนาดเล็ก พื้นห้องปูด้วยพรมขนสัตว์สีน้ำตาลอ่อน แม้ภายนอกตัวบ้านจะดูไม่ใหญ่มาก แต่การแบ่งสรรปันส่วนของพื้นที่ในบ้านทำให้บ้านดูกว้างขวางมากขึ้น ทุกอย่างแลดูเป็นระเบียบและสะอาดเรียบร้อย บ่งบอกว่าผู้อยู่อาศัยดูแลบ้านเป็นอย่างดีมากเพียงไร
ปลายนิ้วของวิชุลดาแตะลงบนผนังบ้านสีครีมอ่อนช้าๆ ฝ่ามือสัมผัสได้ถึงความเย็นชืดจากพื้นผิวขรุขระของกำแพง ผิวกายรู้สึกได้ถึงสายลมอ่อนๆ พัดโชยผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดกว้าง ริมจมูกได้กลิ่นหอมบริสุทธิ์ของต้นไม้ภายนอกบ้านลอยมากระทบโสต
หากหญิงสาวกลับยืนนิ่งอยู่กลางบ้าน ทอดสายตามองโดยรอบอย่างเหม่อลอย
บ้านหลังนี้...คือบ้านของเธอกับเขา
บ้าน...ที่ไม่รู้สึกคุ้นเคยเลยสักนิด
นัยน์ตาที่เมื่อครู่ส่องประกายด้วยความตื่นเต้น บัดนี้ขุ่นมัวลงอย่างน่าใจหาย วิชุลดาอยากจะกลับไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่มากกว่า ถึงแม้จะต้องอยู่คนเดียวก็ตามที แต่ในช่วงเวลาแบบนี้เธอไม่อยากจะอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยอย่างนี้เท่าไหร่นัก ไม่ใช่ว่าวิชุลดาจะไม่ชอบที่นี่ ตรงกันข้าม เธอประทับใจบ้านหลังนี้มากกว่าที่คิดด้วยซ้ำ เพียงแต่ยังไม่รู้สึกว่าที่นี่คือสถานที่ของเธอ และวิชุลดาก็ยังอยากจะเก็บความทรงจำของบิดามารดาผู้ล่วงลับ ณ สถานที่ที่เป็นของเธอให้มากกว่านี้...อีกเพียงสักนิดก็ยังดี
หากก็ได้แค่เพียงคิด...วิชุลดาทราบดีว่าเธอต้องทำใจเพื่ออยู่ที่นี่ให้ได้
คิดอะไรอยู่เหรอ แว่วเสียงกระซิบที่ริมหู ร่างอรชรพลันรู้สึกถึงความอบอุ่นจากเรือนกายแข็งแกร่งที่กำลังโอบกอดเธอจากทางด้านหลัง สัมผัสของธีรเดชช่วยผ่อนคลายความรู้สึกเหงาของเธอได้เล็กน้อย
เปล่า...วิไม่ได้คิดอะไร หญิงสาวเลี่ยงคำตอบเสีย ไม่กล้าที่จะให้เขารับรู้ความนึกคิดภายใน และไม่กล้าจะเอาแต่ใจไปมากกว่านี้ วิชุลดารู้ว่าเธอโตแล้ว แต่งงานแล้ว และจะต้องปฎิบัติหน้าที่ที่ดีของภรรยาแล้ว
อ้อมกอดของธีรเดชทวีความแนบแน่นมากขึ้น วิชุลดาหลับตาลงช้าๆ พิงศีรษะเข้ากับแผ่นอกกว้าง ปล่อยให้ความอบอุ่นของเขาซึมซาบเข้าสู่หัวใจ
-----------------------
หลังอาบน้ำแต่งตัวใหม่เรียบร้อย คุณสามีก็พาเธอซ้อนจักรยานพาไปดูรอบหมู่บ้าน บอกว่าจะพาไปรู้จักกับคุณป้าสมพร
ป้าพรเป็นแม่บ้านที่เคยดูแลธีมาตั้งแต่เด็กๆ ธีเลือกซื้อบ้านที่หมู่บ้านนี้ก็เพราะอยู่ใกล้บ้านป้าเขาด้วย เวลาที่ธีไม่อยู่ ป้าพรจะได้ดูแลวิได้
วิชุลดายิ้มหวานให้เขา อดดีใจไม่ได้ที่สามีช่างเป็นผู้ชายที่เอาใจใส่ผู้หญิงเสียจริงๆ
แต่ว่า ช่างแตกต่างกับนายก้างปลาทูชะมัด เธอไม่นึกว่านายก้างปลาทู:-)คนนั้นโตขึ้นมาแล้วจะดูดีขนาดนี้ ทำยังไงถึงเพิ่มเนื้อจากก้างปลาทูแห้งๆ ให้กลายเป็นกล้ามมัดๆ อย่างนี้ได้น้า...คุณภรรยาใช้นิ้วจิ้มแผ่นหลังหนากว้างของคุณสามีจึ๊กๆ แหม...อย่างนี้ค่อยน่ากอดหน่อย ถ้าเป็นแต่ก่อนกระดูกคงทิ่มตัวแย่
ธีรเดชหันหลังมาเพราะนึกว่าเธอเรียก มีอะไรเหรอ
มะ ไม่มีอะไรๆ วิชุลดารีบยิ้มแหยบอกปฎิเสธ ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย
...เรานี่ คิดอะไรอยู่น้อ
ป้าสมพรเป็นผู้หญิงอายุประมาณห้าสิบกว่า รูปร่างค่อนข้างท้วมนิดหนึ่งตามประสาคนสูงอายุ ท่าทางดูใจดี ป้าพรยิ้มต้อนรับอย่างอบอุ่นเมื่อเห็นหน้าเธอเป็นครั้งแรก วิชุลดาน้ำตาเกือบไหลเมื่อป้าพรสวมกอดเธออย่างอ่อนโยน อ้อมกอดของป้าคล้ายกับมารดาผู้ล่วงลับของเล็กน้อย ป้าสมพรมีลูกชายชื่อนาคิน อายุรุ่นราวคราวเดียวกับวิชุลดาและธีรเดช จากคำขอร้องของเธอ นาคินก็เลยเผานายปลาทูให้เธอฟัง
ไอ้คิน ช่วยเล่าอะไรดีๆ หน่อยนะ คุณสามีที่กำลังตักน้ำแกงรีบดักคอเพื่อนเสียก่อน
คุณวิ ไอ้หมอนี่มันเที่ยวไปลากคนนู้นคนนี้ไปเล่นเกม จนทั้งหมู่บ้านติดเกมเหมือนไปกับมัน แล้วไอ้นี่ก็หัวหมอ ขายเกมส์ให้พวกเพื่อนบ้านอีก แผ่นลิขสิทธิ์ แผ่นผี :-)เอาหมด หากินกับเพื่อนบ้าน มันเลวไหมครับคุณวิ?
ไอ้คิน! กูบอกให้พูดดีๆ หน่อย!
นาคินยังไม่ยอมเลิก นอกจากจะขายเกมส์แล้ว ยังขายแผ่นโป๊อีก เอวงเอวี ประเทศไหนๆ มีหมด ขอให้บอกเหอะ :-)หามาได้ทั่วทุกสารทิศ ไอ้หมอนี่เป็นเจ้าพ่อแผ่นผีอยู่ในตลาดมืดเลยนะครับ!
คุณสามีแทบสะอึกที่ความลับถูกเปิดเผย วิชุลดาหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นธีรเดชทำหน้ากระอักกระอ่วนอย่างที่สุด อันที่จริงเธอไม่รู้หรอกว่าไอ้เอวงเอวีเนี่ยมันคืออะไร แต่ก็พอเดาได้ว่าคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่
จากนั้น มหกรรมการเผาก็เริ่มโหมกระหน่ำขึ้นทุกที ต่างคนต่างก็ขุดเอาสุดยอดของความลับมาเผากับจนหมดเปลือกอย่างไม่มีใครยอมแพ้ให้กัน เมาท์กระจายจนฟ้ามืดก็ยังไม่หมดเรื่องเม้าท์ โดยเฉพาะสองหนุ่มที่ดูเฮฮากว่าปกติ สงสัยเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์ที่ป้าสมพรเอามาเสริมให้เป็นพิเศษละมั้ง
เทศกาลเม้าท์แตกคงไม่ยอมหยุดง่ายๆ หากวิชุลดาไม่พูดขึ้นมาว่า...
คืนนี้วิขอค้างกับป้าพรนะ
แล้วเทศกาล เม้าท์แตก ก็กลายเป็นเทศกาล วงแตก แทน
นายปลาทูของเธอวางแก้วน้ำลงกับพื้นโต๊ะโครม พื้นโต๊ะถึงกับสะเทือนนิดๆ วิชุลดาเหลือบตาไปมองสามีวูบหนึ่ง แล้วก็ต้องวกสายตากลับมาที่เดิมอย่างรวดเร็ว
อื้อหือ...แค่มองหน้าก็เห็นไปถึงม้ามแล้ว อันที่จริงวิชุลดาก็สยองมาตั้งแต่ตอนที่ธีรเดชรีบร้อนพาเธอกลับบ้านแล้วล่ะ แถมบางทีแววตาของเขาก็บอกกับเธอชัดซะยิ่งกว่าชัด เสร็จแน่เลย วิเอ๊ย...คืนนี้ไม่รอดแน่ๆ
ธีลาเลยนะครับป้า ธีรเดชลุกขึ้นยืนพรวด บอกลาทุกคนในวง ก่อนที่จะดึงข้อมือเล็กๆ ของเธอให้เดินตามเขาไป หนูน้อยหมวกแดงแทบจะปลิวไปกับแรงดึงของคุณหมาป่า เธอพยายามส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ทุกคน หากฝ่ายที่ได้รับสายตานั้นก็ได้แต่ยิ้มแหย โบกมือลา และอวยพรขอให้เธอโชคดี
ขากลับ วิชุดลาต้องรีบเกาะหลังธีรเดชแน่นเหมือนแพนด้าเกาะต้นไผ่ เพราะคุณสามีปั่นจักรยานเร็วหวือ
ธีโกรธเหรอ? หญิงสาวกระตุกเสื้อชายหนุ่มเป็นเชิงถามไถ่ หากฝ่ายตรงข้ามก็เงียบ...นิ่ง...ไม่ยอมตอบคำ และพอถึงบ้าน ร่างสูงก็ตวัดร่างเล็กขึ้นไปอุ้มทันที
ซี้แน่...คราวนี้ไม่รอดแหงๆ
วิชุลดารีบโอบรอบคอเขาไว้เพราะกลัวตก เพราะคุณสามีสาวเท้าเร็วเหลือเกิน ธีรเดชดูจะโมโหขึ้นมาจริงๆ เขาเดินดุ่มๆ เข้าไปในบ้าน ใช้เท้าเขี่ยประตูให้เปิดอย่างเสียไม่ได้ แล้วเดินตรงดิ่งไปยังห้องนอน
หญิงสาวเบิกตาโพลง ตาลีตาเหลือกหันซ้ายหันขวาพยายามเอาตัวรอด
เอ้อ คะ คือว่า อย่างน้อยขออาบน้ำอีกสักห้ารอบ แล้วก็แปรงฟังอีกสักสิบรอบได้ไหมนี่?
พอเปิดประตูผลัวะเข้าไปให้ห้องนอนได้ คุณสามีก็กดร่างบอบบางของเธอให้นอนราบลงกับเตียงโดยไม่รีรอ แล้วเคลื่อนร่างกำยำมาคร่อมเธออย่างรวดเร็ว
กรี๊ด! แม่เจ้า ช่วยวิชุลดาด้วยย!
แขนสองข้างถูกฝ่ามือแข็งแกร่งกดแน่นให้วางราบลงกับเตียง แม้จะพยายามยกขึ้นหากก็ยิ่งถูกกดลงไปหนักกว่าเดิม ธีรเดชโน้มใบหน้าคมคายราวรูปสลักเข้ามาประชิด ใกล้เสียจนปลายจมูกสัมผัสกัน ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาทำให้หญิงสาวหายใจติดขัด หัวใจของเต้นแรงราวกับกลองเพล
ธี...วิยังไม่ เธอพึมพำได้เพียงเท่านั้น เขาก็ชิงเอ่ยขึ้นมาก่อน
รู้ไหม ทำไมธีถึงโกรธ?
นิ้วเรียวยาวของเขายื่นมาแตะเบาๆ ที่เรียวปากหยักสวยของตัวเอง ทาบเบาๆ ที่เรียวปากสีสดของเธอ คลอเคลียไปตามขอบเรียวปากของหญิงสาว ปิดท้ายด้วยการสัมผัสเปลือกด้านในของริมฝีปากอย่างยั่วเย้า
ไม่อยากนอนกับธีขนาดนั้นเลยเหรอ? ธีรเดชกระซิบถามอีกครั้ง ประโยคที่ชัดเจนอย่างยิ่งของเขาทำให้วิชุลดาต้องหน้าร้อนวาบ หัวใจเต้นระทึกจนแทบจะหลุดออกมา
ไม่ใช่อย่างนั้น....วิ...วิ วิชุลดาอึกอัก ไม่รู้จะปฎิเสธคนตรงหน้าอย่างไร
วิรู้ไหมว่าธีเหนื่อยมาก ธีไม่ได้นอนมาสามคืนเต็มๆ เพื่อให้วันนี้ธีว่างพอที่จะอยู่กับวิทั้งวัน
ธี... วิชุลดาเสียงอ่อนลงทุกที เธอพอจะทราบดีว่าช่วงนี้งานเขาหนักมาก แต่เขาก็ยังสละเวลางานมาอยู่กับเธอ มือเล็กนุ่มนิ่มเอื้อมไปสัมผัสใบหน้าร้อนๆ ของเขาอย่างแผ่วเบา
แล้ววันนี้วิก็หนีธี ธีรเดชยกมือของเธอมาจุมพิตที่ใจกลางฝ่ามือเบาๆ วิใจร้าย คิดถึงธีบ้างได้ไหม...คิดถึงหัวใจธีบ้างได้ไหม
โอย...นายปลาทูบ้า! วิชุลดาโอดครวญในใจ อย่ามาอ้อนด้วยนัยน์ตาพราวระยับอย่างนั้นได้ไหม เธอกำลังจะละลายแล้ววว...
นัยน์ตาของธีรเดชขุ่นมัวด้วยอารมณ์พิศวาส ร่างหนาพลันทิ้งตัวลงมาทาบทับกับเรือนร่างของเธอทั่วทุกสัดส่วน ตั้งแต่อกกว้างกำยำ หน้าท้องแข็งแกร่ง ลงเรื่อยไปถึงท่อนขาแข็งแรงที่กำลังเกาะเกี่ยวท่อนขาเรียวของเธอ สัมผัสร้อนผ่าวจากเรือนร่างสามีจุดเพลิงปราถนาให้วิชุลดาทันที
ธี... วิชุลดาเรียกธีรเดชราวละเมอ ระหว่างที่ใบหน้าสากระคายซุกไซร้ลงบนลำคอหอมกรุ่นของเธอ
ให้ธีเถอะ...
ริมฝีปากหนากระซิบแนบริมฝีปากบาง จุมพิตร้อนแรงของเขาเผาไหม้เธอให้ลุกเป็นไฟในพริบตา วิชุลดาหมดสิ้นเรี่ยวแรงขัดขืน แอ่นกายขึ้นรับสัมผัสของเขา รับรู้เพียงสัมผัสจากมือสากระคายที่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่าง ความร้อนแล่นปราดไปทั่วร่าง มือคว้าผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อลดความรัญจวนที่กำลังเกิดขึ้น ความปรารถนาถูกจุดให้เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
กริ๊งง...
สองร่างสะดุ้งเฮือก ธีรเดชที่สติกลับมาก่อนต้องขมวดคิ้วมุ่น ยันร่างให้ห่างจากร่างของวิชุลดาเล็กน้อย สองตาพยายามมองหาที่มาของเสียงอย่างเอาเป็นเอาตาย วิชุลดาที่สติกลับมาทีหลังต้องหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศ กระถดตัวออกจากร่างสูงโดยไม่รีรอ ธีรเดชที่เห็นภรรยาหนีรอดไปได้แล้วก็ยิ่งหัวเสีย รีบคว้าโทรศัพท์ที่เพิ่งหาเจอมารับอย่างเสียมิได้
แต่ถึงแม้จะหงุดหงิดเพียงไหน เขาก็ยังรับโทรศัพท์ด้วยความสุภาพ สวัสดีครับ ครับ ใช่ครับ เดี๋ยวนี้เลยเหรอครับ อีกสักสิบห้านาที ไม่สิ สักครึ่งชั่วโมงได้ไหมครับ ไม่ได้เลยเหรอครับ ครับ เข้าใจครับ จะจัดการให้ครับ ระหว่างที่กำลังกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ คุณสามีก็ต้องมองคุณภรรยาที่รีบกระโดดลงจากเตียงตาละห้อย
มะ มีงานเข้ามาเหรอ? หลังเห็นสามีวางสายเรียบร้อยแล้ว วิชุลดาก็เอ่ยถามตะกุกตะกัก พวงแก้มขาวนวลยังปรากฎสีแดงระเรื่อ
อื้อ ธีรเดชยกมือมาขยี้หัวตัวเองอย่างเซ็งๆ สะบัดศีรษะสองสามทีเป็นการปลุกสติที่หลุดไปเมื่อครู่ให้กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์
แล้ว...แล้ว...ธีต้องออกไปข้างนอกเหรอ?
ทำที่บ้าน ส่งทางเนตได้น่ะ
สีหน้าของธีรเดชบูดเหมือนโดนบังคับให้กินปลากระป๋องหมดอายุ เขาคว้าโน้ตบุ้คมาเปิดเครื่อง วางโต๊ะพับเล็กๆ ลงบนเตียง แล้ววางโน้ตบุ๊คลงบนนั้น
มานี่เร็ว ธีรเดชเปลี่ยนมายิ้มให้เธอแล้ว เขาตบมือลงบนเตียงเป็นสัญญาณว่าให้เธอมานอนข้างๆ
แม้จะยังไม่ค่อยไว้ใจสามีเท่าใดนัก แต่วิชุลดาก็คลานกระดึ๊บๆ เข้าหาเขาอย่างว่าง่าย หญิงสาวเอียงศีรษะมองหน้าเคร่งเครียดของเขา ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังระรัวนิ้วลงบนคีย์บอร์ด
ธีรเดชชะงักมือ เมื่อวิชุลดานอนลงบนตักเขาอย่างออดอ้อน
วิขอโทษ.... ใบหน้าของวิชุลดาแดงซ่านอย่างเก้อเขิน เธอไม่รู้ว่าธีรเดชจะหายโกรธเหรือเปล่าถ้าเธออ้อนเขาแบบนี้ แต่วิธีนี้ได้ผลเป็นประจำเมื่อเธอใช้กับบิดา คือ...วิไม่ได้รังเกียจธีนะ วิแค่รู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อม ธีเข้าใจวิหรือเปล่า ความรู้สึกของวิตอนนี้ยังเป็นเด็กมัธยมคนเดิม คนที่ยังทะเลาะกับนายก้างปลาทูอยู่ จู่ๆ ก็มารู้ว่าเราแต่งงานกันแบบนี้ มันก็อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้น่ะ
แม้รูปร่างหน้าตารวมไปถึงนิสัยของธีรเดชจะเปลี่ยนแปลงไปจากมัธยมราวหน้ามือเป็นหลังมือ หากบางแง่มุม...บางสีหน้าและท่าทาง เธอยังจับตัวตนความเป็นธีรเดชได้จากเขา ผู้ชายคนนี้มีกลิ่นอายของนายก้างปลาทูคนนั้น...คนที่เธอรู้จัก หากจะให้แปรเปลี่ยนความรู้สึกจากเพื่อนไปเป็นภรรยาโดยทันที คงทำได้ไม่ง่ายนัก
แต่งงาน สามี ภรรยา ช่างเป็นเรื่องที่ห่างไกลสำหรับเด็กมัธยมที่กำลังเตรียมเอนทรานซ์เช่นเธอ ไม่แปลกไม่ใช่เหรอถ้าเธออยากจะหนีทุกครั้งที่เขาเข้าหา?
ในเวลานั้น วิชุลดาเพียงเข้าใจว่าเธอแค่ปรับตัวไม่ทัน
หากเธอไม่รู้ตัวเลยว่า สัญญานเตือนภัย...ที่ดังก้องในโสตประสาททุกครั้งที่เขาเรียกร้องความเป็นภรรยาจากเธอ...คืออะไร
นัยน์ตาของธีรเดชอ่อนแสงลง เขาเอื้อมมือมาลูบศีรษะของวิชุลดาอย่างทนุถนอม
ธีไม่โกรธหรอก ขอโทษที่เร่งรัดนะ
รอยยิ้มอ่อนหวานปรากฎขึ้นบนใบหน้าของวิชุลดา เธอจับมือเขาไว้ แล้วซุกหน้าของตัวเองลงบนนั้น
ความอ่อนนุ่มของพวงแก้มนั่น...ทำให้หัวใจของธีรเดชเต้นแรงขึ้นอีกหนึ่งจังหวะ
ความน่ารักของวิชุลดาแทรกซึมเข้าสู่หัวใจของธีรเดชทีละน้อย ความอบอุ่นที่ไม่รู้ที่มาก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ บนฝ่ามือของเขารับรู้ได้ถึงความบอบบางของหญิงสาว นิ้วของเขาคลอเคลียลงบนเรียวปากของเธออย่างใจลอย...
อย่าเพิ่งนะ ธีรเดชพึมพำเบาๆ โดยที่เขาไม่รู้ตัว วิอย่าเพิ่งจำอะไรได้เลย...อย่าเพิ่งเลย
| จากคุณ |
:
yaimooyoyo
|
| เขียนเมื่อ |
:
3 ม.ค. 54 11:03:46
|
|
|
|