ความคิดเห็นที่ 1 กลบทดวงเดือนประดับดาว เป็นกลบทที่บังคับซ้ำเสียง ๓ ชุด เป็นกลอน๗ คำ เป็นกลอนทำนองคือ๒-๒-๓ และบังคับซ้ำเสียงสระที่๒-๓กับ๔-๕ทุกวรรค ตัวอย่างบรมครู(นายทัดมหาดเล็ก:ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ) เจ็บจิตรมิตรหมางค้างเขินขวย เวียนวงหลงลมงมงงงวย ฉาบฉวยรวยเร่อเธอทุกทาง โลมโลกโยกย้ายอายอกเอ๋ย ชวดเชยเลยลามความแขวนขวาง เคลื่อนคลายหมายใหม่ใจจืดจาง เหินห่างว่างเว้นเล่นเลยละเลิง ตัวอย่างอีกบรมครู (หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก) การกิจ ชิดเช่น เห็นเหตุโหด ทางโทษ โฉดเชื้อ เนื้อแหนงแหน เกลี่ยกลบ ลบเลื่อน เชือนชวนแช กลแก้ แททำ งำเงื่อนเงา ลวงเล่ห์ เททอด สอดเสแสร้ง เกลื่อนแกล้ง แต่งต่อ ข้อขำเขา ยกอย่าง อ้างอวด ลวดเลศเลา กล่าวเกลา เนาแนบ แยบยลยวน ปกปิด มิดเม้น เส้นเสี้ยนสิ้น ลมลิ้น ยินเย็น เห็นหกหวน ฟังเฝือ เหลือล้ำ คำคมควร เล่ห์ล้วน ป่วนปิด กิจกลการ จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 13:36:28

ความคิดเห็นที่ 2 .......ดวงเดือน ประดับดาว แพรวสว่าง เบิกบาน พาใจ ให้ใหลหลง ชะอุ่ม รักปัก ดูมั่นคง เป็นมงคล รักเรา นิจรันดร....... จากคุณ : ป.ปาแปง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 14:21:33

ความคิดเห็นที่ 3 ใคร่คิด ท่องทาง แลล้วนโลก เบิกโบก จิตจร ห่อนไห้โหย ธรธรรม โยงยาว ไร้ร่วงโรย ปลดโปรย ทุกข์เทวษ แดดับดิน... จากคุณ : comicclubs เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:08:06

ความคิดเห็นที่ 4 ดูแดดแสดส้มพรมพรายพลิ้ว ลมลิ่วปลิวปนวนวาดไหว นกน้อยพลอยเพลินเชิญชวนใช้ แมกไม้ไปปรับรับรวงรัง หมอกเหมือนเลื่อนลายกลายก่อก้อน ถัดถอนจรจากฝากฝ่ายฝั่ง ฟากฟ้าคราคลายบ่ายเบี่ยงบัง งามงังรั้งรู้ดูดุจดึง กาลกล่อมห้อมหวงล่วงลุลึก นัยนึกคึกคลี่ถี่ถามถึง จิตจ่อมล้อมล่วงตวงตราตรึง ก่อกึ่งครึ่งคอยร้อยรื่นรมย์ แสงสาดคาดครองล่องลอยลับ ใจจับกลับกลืนขื่นขับขม ฤ ฤทธิ์ปลิดปองจองจ่อมจม ให้ห่มซมซุกปลุกปล่อยปรอย แดดด่วนตรวนติดริดรอยร้อน เหลือหลอนนอนหนุนครุ่นเคลือบค่อย วรรคหวังยังเยือนเคลื่อนเคียงคอย กล่อมกร่อยคล้อยคัดจัดเจ็บจาง.. จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 15:49:56

ความคิดเห็นที่ 5 อิ่มเอยเผยผลปนปลื้มปลอบ ราวรอบขอบขมจมจรจ้า วันหวานผ่านผันหมั่นมองมา อุ่นอ้าลาหลอนตอนตื่นตาม ยะเยือกเลือกแล้วแนวนัยหนุน อบอุ่นหมุนมาพาเพลินพล่าม ถ้อยถอนร้อนราวคราวเคืองความ วอมวามท่ามทักจักจดจำ ลาแล้วแควคอยร้อยร่ำเรียก พับเพรียกเปียกเปื้อนเคลื่อนเคยคร่ำ ลาแลแผลเผาเงาเงียบงำ ท่ามทำอำเอื่อยเรื่อยเรื่อยรอ จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:15:20

ความคิดเห็นที่ 6 นกน้อยคอยคู่รู้รักร่ำ ใจจำย้ำยังหวังวับหวาน นัดนานพาลเพ้อเหม่อมนต์มาร ราวรานปานปลิดจิตเจ็บจัง คอยคบพบเพื่อนเหมือนไหม้หมอง ใจจองนองนับวับแววหวัง ขั้นขมจมจากอยากหยุดยั้ง พบพังนั่งหน้าคราคอยเคียง จรจากฝากฝันวันหวานหวั่น ตีบตันสั้นสุดหลุดแลเลี่ยง สองสมขมขับรับรางเรียง มองเมียงเพียงพบทบท้อทวง จากคุณ : สุดสาครท่องสมุทร เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:37:35

ความคิดเห็นที่ 7 คืนค่ำร่ำร้องจ้องจองจิต ครองคิดพิศเพลินเดินดื่มด่ำ เคยคอยพลอยพ้อท้อท่วงทำ เหงางำคร่ำครางร้างรอยรอ ใครเคลื่อนเลื่อนแล้วแวววาดหวาม ถึงถามตามติดสิทธิ์ส่งส่อ เราไร้ใครคล้ายพ่ายแพ้พอ นัยหนอรอร้าวก้าวก่อกวน เจ็บจริงสิงส่งคงคาดเค้น สายเส้นเต้นต่างห่างหันหวน คลอคล้องจองจากพากเพียรพรวน คร่ำครวญล้วนแลแพ้เพิ่มพัน จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมแก่น เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 16:52:04

ความคิดเห็นที่ 8 ฝันฝอยค่อยคล้ายหมายมุ่งมัด จองจัดคัดคุมมุมเหมือนหมาย หากหายกลายกลับลับแลลาย ปนปลายวายเวียนเพียรเพิ่มพ้อ ฝันใฝ่ใครคลายหายห่วงหา นำหน้าคร่าเคืองเปลืองปรับป้อ ไยยื่นหมื่นเมินเทินทาบทอ ไร้รอขอขัดปัดเปลี่ยนแปลง ไร้แรงแฝงฝ่อง้อเงียบเหงา ผ่าวเผาเรารู้กู้กลับแกร่ง ไม่มีที่ทักรักร่ำแรง กลับแกล้งแย้งย่ำช้ำชูเชิญ จากคุณ : พระรามหัดท่องเน็ท เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 17:07:47

ความคิดเห็นที่ 9 กระทู้ของคุณญามี่รวมผลนักแต่งกลอนยอดเยี่ยมกันทั้งนั้นเลย แบบนี้ข้าพเจ้าต้องฝึกอีกนานโข... จากคุณ : comicclubs เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 17:07:48

ความคิดเห็นที่ 10 ความคิดเห็นที่ 9     กระทู้ของคุณญามี่รวมผลนักแต่งกลอนยอดเยี่ยมกันทั้งนั้นเลย แบบนี้ข้าพเจ้าต้องฝึกอีกนานโข... จากคุณ : comicclubs   ............................ ถ้าหมายถึงข้าพเจ้ากับเพื่อนด้วย ขอรับแบบหน้าชื่นว่า..ไม่ใช่ครับ อิอิ หัดนานเลยกว่าจะต่อมาทีละบทได้ อาศัยขยันหัดต่อเอง แต่บางทีต่อแล้ว  เมล์ให้คุณมี่ดู เขาบอกผิดสิ แป๋ว..แห้วนานครับ เขาเลยสอนใหม่แบบเอากลบทคล้ายๆมาให้เขียน ทีละขั้น คุณหัดบ้างเดี๋ยวก็เป็นครับ อาจเก่งกว่าพวกเราก็ได้นะครับ จากคุณ : พระรามหัดท่องเน็ท เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 17:12:12

ความคิดเห็นที่ 11 ๐๐  กลบทดวงเดือนประดับดาว  ๐๐ ๏ เรียงร้อย ถ้อยเถาว์ เคล้าเคียงข้าง แอบอ้าง บางบท พจน์พร่ำเพ้อ จารจรด ชดช้อย ถ้อยถามเธอ สม่ำเสมอ เผลอไผล ไต่ตามตอม ๏ ละมุนละไม ไหวหวิว ลิ่วลอยล่อง คำคล้อง ผ่องแผ้ว แพรวพรายพร้อม มดแม้น แม่นหมาย ได้ดมดอม รุมล้อม ค้อมคลุก ขลุกข้างเคียง ๏ ขับขาน กานท์กลอน วอนเว้าแว่ว ผินแผ่ว แน่วนาน สานส่งเสียง เกลากล่อม ท่อมท้วม ร่วมร่ายเรียง เพ้อเพียง เอียงอาย กรายกลับกลืน   ๚ะ มาส่งการบ้านจ้ะ  น้องมี่  จากคุณ : เปลวอัคคี เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 17:51:03

ความคิดเห็นที่ 12 ดื่มด่ำร่ำร้อยถ้อยถักถาม ในนามตามต้อนอ้อนอบอุ่น ใจจ่อมพร้อมเพียงเคียงคลอคุณ เหมือนหมุนคุ้นเคลิ้มเติมติดตัว รักรอทอทาบอาบอุ่นเอื้อ กานท์เกื้อเหลือหลักทักทายทั่ว เดินโดยโชยชื่นรื่นรัวรัว หมองมัวทั่วทิศคิดคลายเคียง มุมมองครองความหวามไหวหวาน จดจารปานปรับกับไกลเกี่ยง วาดวางทางทอดออดอ้อนเอียง ฉ่ำเฉียงเบี่ยงแบ่งแรงรักรอย จากคุณ : วาดฝันมธุรพจน์ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 19:46:07

ความคิดเห็นที่ 13 เพลงพรมห่มหาลาหลอนแล้ว วางแววแคล่วคล่องมองหมื่นหมาย แลลึกนึกเหนี่ยวเดี่ยวเดียวดาย กลับกลายหายโหยโชยชักชวน บทแบบแอบอ้อนค่อนคอยเคลิ้ม ราวเริ่มเติมติดสิทธิ์ใส่สรวล เหมือนมีที่ท่วมร่วมรื่นรวน ก่อกวนครวญเคลิ้มเพิ่มพรั่งพราว เพลงพลิ้วปลิวปล่อยบ่อยบนบท ร้อยรสพจน์พรำนำหนีหนาว เพลงเพราะเกาะกล่อมค้อมเคียงคราว สุขสาวราวเรืองเยื้องแย้มเยือน จากคุณ : แก้วกลมกลม เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 20:34:25

ความคิดเห็นที่ 14 จันทร์แจ้งแซงซึ้งหนึ่งในหนาว วอมวาวพราวพร้อมห้อมห่วงหา อุ่นเอยเกยกอดทอดเที่ยวทา นำหน้าพาเพื่อนเหมือนมามอง ใครคลอหนอนั่นฉันฉ่ำฉาย ห่วงหายกรายเก้อเผลอผ่านผอง ก่อแก้แลลานปานปกปอง ร่ำร้องฟ้องฟ้าคราคิดคอย ใจจับรับรอพอเพลินเพียบ เท่าเทียบเปรียบเปรยเผยเผลอผล็อย หลับลงคงเคลิ้มเริ่มเรืองรอย ถ้าถอยปล่อยไปใครคงเคือง จากคุณ : ขวดแก้วสีฟ้า เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 20:59:33

ความคิดเห็นที่ 15 20.16 น. ๏ คร่ำครวญ ผวนผัน ดั้นเดือนดาว เหินหาว เหงาหงอย นกน้อยหนาว หมดมุข ลูกเล่น เย็นเยือกยาว เรื่องราว พราวแพรว แก้วกลอนกล   ๏ ดาวเดือน เคลื่อนคล้อย ลอยละล่อง จับจ้อง มองมี่ ผลิผ่องผล รำร่าย คลายคลี่ เหมือนมีมนต์   ฝึกฝน ค้นคว้า พาเพื่อนเพลิน ๚ะ๛ 21.01 น. ---------------------------------------------------------------- กลบทดวงเดือนประดับดาว ... เค้าคำบังคับซ้ำเสียง ๓ ชุด คราวนี้นกผีสุดที่จะหาคู่คำผวนมาลงกลอนกลบทแล้วแน้ ... งิงิ ---------------------------------------------------------------- จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 21:18:10

ความคิดเห็นที่ 16 จันทร์แจ่ม แช่มชื่น รื่นระเริง ไป่เปิง เถิงเถาะ เคราะห์คราครั้น ดาวเด่น เล่นลาย วายวิบวัน ฝั่งฝัน พลันเพริศ เกิดกลกานท์ แต่งแต้ม แซมซับ ศัพท์ศิลป์ศาสตร์ ดารดาษ มาตรแม้น แสนสืบสาน ร้อยเรียง เคียงคำ พร่ำพจน์พาน เปรียบปาน จารจินต์ ยินยลยาว... จากคุณ : comicclubs เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 21:22:19

ความคิดเห็นที่ 17 ลมลัดพัดพลิ้วหวิวหวิวไหว โปรยไปใจจับนับไหนหนา หม่นเมฆเสกส่องฟ่่องฟากฟ้า ฝนฝ่าพาพรั่งคลังคลาดคอย ฝนฝอยพร้อยพรำนำหนาวเน้น วรรคเว้นเช่นเช่าเฝ้าฝากฝอย หาวห่มลมล้ำน้ำนองน้อย โปรยปล่อยคอยคว้างอย่างย้ายยล จากใจใครคอยร้อยร่ายร่าง บทบางว้างไหวใฝ่ฝ่าฝน เขียนขุมซุ่มซึ้งกึ่งกลอนกล บ่ายบนวนหวังยั้งเยื่อใย จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 22:07:16

ความคิดเห็นที่ 18 ๐๐๐คนพันธุ์ R หย่าต่อยตี๐๐๐ จี้จีบ  รีบรับ  ยับยู่ยี่ ต่อยตี  มีมาก  กากเก๋ากว่า น้ำนิ่ง   ปลิงปู  คู่ค้างคา ท่วงท่า  ล่าล้อม  ซ้อมซุกซน รีรอ  พอพ่วง  ห่วงหาญหัก ศรีศักดิ์   กักกู้   สู้สับสน เรียนเรียง   เพียงพ่าย  ไม่มืดมน เตือนตน   ปนเปื้อน  เพื่อนพุพอง ปุบปับ   นับนัด   อัดเอ่ยเอื้อน ถ่อยเถื่อน   เกลื่อนกรุง  มุงเมื่อมอง สะสาง   หางหด  ปดปัดป้อง จับจ้อง   สองสื่อ  ลือลุล่วง....... แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 54 23:17:19 จากคุณ : ลุงชิกง เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 23:04:29

ความคิดเห็นที่ 19 เจื้อยแจ้ว แว่วหวิว พลิ้วเพลงพาทย์ แม้นมาตร นาฏนุช สุดสงสาร คับแค้น แน่นหนัก รักร้าวราน บนบาน ผ่านภพ ซบซึมเซา จำจาก พรากเพื่อน เลือนลาลับ รอรับ ทัพไทย ใหญ่เยือนเหย้า เสร็จศึก นึกน้อง ร้องรอเรา ข้าเขลา เว้าวอน หล่อนละลืม ท ทหารอกหัก ฮ่าๆๆๆๆ จากคุณ : paina เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 23:21:53

ความคิดเห็นที่ 20 ลมลิ่วปลิวปรายหน่ายในหนาว เพียงพราวดาวเดือนเคลื่อนคืนค่ำ มากมายลายหลากจากจันทร์จำ ย้อนย้ำนำเนิ่นเกินไกลกานท์ เพลงพานสานสุขทุกข์ทอดทิ้ง พรายพริ้งยิ่งแย้มแซมซึ้งซ่าน หอมเหินเกินกอบปลอบปลื้มปาน เบิกบานนานในไวหวานวาง สวนสวยรวยรินถิ่นถากถาง หอมห่างข้างเขียนเพียรพลิ้วพร่าง ใจจมลมไล้ไพล่เพลินพลาง ลืมล้างคว้างความตามติดเตือน จากคุณ : ขอฝากแค่ฝัน เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 23:28:35

ความคิดเห็นที่ 21 คืนค่ำนำหนาวผ่าวเผาผล็อย คลี่คอยพลอยพรมลมหลงใหล กาลก่อพอเพลินเดินดลใด จิตใจไหวเวิ้งเพลิงพาดพลัน ลมล่องครองคู่หวูหวีดหวาด เคืองคลาดอาจอ้างสร้างสื่อสรร ใครคงหลงเลือนเดือนดวงดัน หนาวนั่นหยันหยัดจัดใจจม ยืนยาวหนาวหน่วงล่วงลุหลอน แอบอ้อนตอนตื่นขื่นขานขม ห่วงห้วงช่วงชอกตอกติดตรม สิ้นสมอมแอบแปลบปองปัน จากคุณ : โลกของหนึ่งคน เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 54 23:54:58

ความคิดเห็นที่ 22 นกผีลองแต่งโคลง กลบทดวงเดือนประดับดาว   พอจะเข้าแก๊ปมั้ยเนี่ยน้องญามี่ 09.38 น. ๏ ผวนผันตันตื้นดั่ง ............ ดวงเดือน ไกลกระต่ายเต้นเยือน ........ หยอกเย้า เฝ้าฝันปั่นป่วนเหมือน ......... เมฆหมอก หมองหม่นจนใจเฝ้า ........... ไขว่่คว้าฟูมฟาย ๏ หมายมั่นดั้นด้นหก .......... หันหวน ติดแต่คู่คำผวน.................. ผ่องแผ้ว ปราชญ์ประดับดาวครวญ ..... คอยคู่ จันทร์แจ่มแสงใสแก้ว ......... กลับแกล้งไกลเกิน     ๏ เหินหาวดาวเด่นสิ้น .......... แสงสี รายรอบเดือนเด่นที ............ เที่ยงแท้ แจ่มจรัสรัศมี .................... มอบแม่ เพ็ญพระจันทร์เจ้าแล้ .......... รับรู้แลฤๅ ๚ะ๛ (งิงิ) 10.34 น. จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 10:46:50

ความคิดเห็นที่ 23 โห เขียนกันเก่งขึ้นเยอะเลย รวมทั้งเพื่อนใหม่ที่เข้ามาเล่นด้วย ทั้งคุณ comicclubs คุณลุงชิกง คุณ paina และพี่เปลว และพี่นก แม้ว่า บางจุดยังไม่ถูกต้อง แต่ก็ขอแสดงความยินดีด้วย ที่เขียนกัน ออกมาได้ดีพอใช้ ทั้งกลอนและโคลงบางจุดพี่ตกสัมผัสนะคะ คงไม่เคืองนะที่มี่พูดความจริงเช่น วรรคนี้ เหินหาว เหงาหงอย นกน้อยหนาว หาวกับเหงา มี่เดาว่าพี่ใช้ แนวสัมผัส   เลือน ทว่าหงอยตกสัมผัสน้อย ..ติดกันนะคะ ไม่ไม่สัมผัสข้ามค่ะ วรรคนี้ก็ใช่ อิอิ พี่เขียนสัมผัสข้าม รำร่าย คลายคลี่ เหมือนมีมนต์   ระหว่าง คลี่กับมี ต้องติดกันพี่คงลืม โคลงก็ตกสัมผัสระหว่าง ๔-๕ ไปนะคะ ลองใหม่ได้ค่ะ เดี๋ยวก็ชำนาญค่ะ จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 15:15:46

ความคิดเห็นที่ 24 *โคลงกลบทดวงเดือนประดับดาว* หลืบลึกนึกเหนี่ยวเสี้ยว..............สุขสม หมองหมื่นขืนข่มจม...................จ่อมแจ้ง หวนหัดพัดพรมขม.....................ขัดขุ่น กาลก่อต่อแต่งแล้ง.....................หลอกล้อหลั่งเหลือ บทเบื่อเกื้อกรุ่นคุ้น.......................เคยคลาย ขุมข่าวราวร้ายหมาย.....................หมกไหม้ ยากหยุดสุดสายหาย....................หันห่วง ลมลิ่วปลิวไปไร้............................รื่นรู้รสรวย สวยสู่ดูด้านซ่าน...........................ซึ้งซอย ดอมดกปกปรอยคอย......................คึกครื้น งามเงียบเรียบรอยผล็อย.................ผลัดผ่าว จิตแจ่มแช่มชื่นฟื้น.........................ฟากฟ้าฟาดไฟ ไหวหวานมานมุ่งรุ้ง.........................รายเรือง เปรมป่าบ่าเบื้องเนือง......................นึกน้าว แสงสายร่ายเรืองเหลือง...................แลหล่อ ลับแล กาลก่อหนอแนวแก้ว........................กริ่มกล้ำกล่อมเกลียว เหนี่ยวนัดคัดใคร่ใกล้.......................กรองกานท์ ร้อยรสพจน์พานชาญ.......................ชื่นช้อย โศกศัพท์จับจารผลาญ.....................แผลเผื่อ เหลือแหล่งแฝงฝอยร้อย...................รื่นเร้ารองเริง จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 15:21:01

ความคิดเห็นที่ 25 บนบอกออกอ้างอย่างยิ่งย้ำ ชอกช้ำจำเจ็บเหน็บเหนื่อยหนาว พานพจน์หดหู่รู้เรื่องราว แผลผ่าวยาวเยือนเคลื่อนครองคุม บนบอกออกอ้างอย่าง...............แย้งเยือน เกลียดเกี่ยงเพียงเพื่อนเดือน.......ด่าวด้วย นัยนึกตรึกเตือนเหมือน...............หมองหม่น อวลอวดปวดป่วยม้วย.................เมื่อไหม้มองมุง โห กระผมต่อๆดู เริ่มยอมรับ ว่า....ยากสสสส์คร๊าบ อิอิ เลยเอาบทเดียวก่อนนะครับ จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:12:42

ความคิดเห็นที่ 26 นึกหนาวราวเร้าเท่า....................ทุกข์ทอ มองหม่นค้นคลอพอ...................พร่ำเพ้อ ใจเจ็บเก็บก่อรอ........................เรียงรัก ครางเคลื่อนเหมือนเหม่อเก้อ........กลั่นแกล้งกายกลัว มัวหมองตรองตื่นชื้น....................ช้ำชัด เคืองคร่าหาหัดปัด.......................ปวดเปื้อน ใจแจงแต่งตัดจัด.........................จำเจ็บ กรรมก่อคลอเคลื่อนเอื้อน..............อาจอ้างเอนเอียง จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมแก่น เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:26:22

ความคิดเห็นที่ 27 เถาะถึงกึ่งก่อพ้อ...................พบพลัน ใจจ่อมซ่อมสันต์ฝัน................ฝากเฝ้า ร้อนเร้นเช่นชั้นวัน...................หวาดหวั่น เกินกล่าวราวเร้าเศร้า................โศกสร้างสาสม จากคุณ : สุดสาครท่องสมุทร เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:35:48

ความคิดเห็นที่ 28 รักร่ายกลายกล่อมห้อม................โหยหา ร้อนฤทธิ์ติดตาพา........................เพิ่มพ้อ พานพรั่นหวั่นวาจา........................จริงเจ็บ กลุ้มกลุ่มสุมส่อล้อ.......................หลับแล้วเหลือลน พรพิศคิดคว้างย่าง........................อย่างยอม โศกศึกนึกน้อมออม......................เอ่ยอ้าง วาดหวังดั่งดอมหอม.......................หวนหัด หมองเมื่อเรื้อร่างร้าง.......................ร่วงล้วนร้าวแล จากคุณ : ขวดแก้วสีฟ้า เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 16:48:42

ความคิดเห็นที่ 29 เขียนขัดตัดต้องล่อง.................ลอยแล เหมือนมั่วกลัวแก้แปร................เปลี่ยนเป้า คำคิดผิดแผ่แง.........................เงียบง่าย ขาดคล่องลองเล่าเข้า.................ขื่นขื้นขูดขม อะโห ยังไม่ไปจริงๆ จะเอาแบบคุณมี่บอก เขียนไม่ดี เพราะอารมณ์รีบ ผมก็ยังว่าดีกว่าผมมากครับ อิอิ เดี๋ยวมาใหม่ดีกว่า จากคุณ : พระรามหัดท่องเน็ท เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 17:03:58

ความคิดเห็นที่ 30 ใจจักถักถ้วนล้วน...............หล้าลาน เปิดปล่อยคอยค้านสาน........สุขสร้าง ไร้รอก่อแกรนแสน..............สุมโศก บนบทกฏกางร้าง.................เร่ารู้รอนแรง ไม่ไหว ยังปรับสมองไม่ถูกสิมี่ มันจะไปในแนวกลอนทุกที อิอิ ขอเวลานอกด้วยคน จากคุณ : วาดฝันมธุรพจน์ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 18:05:07

ความคิดเห็นที่ 31 18.17 น. ๏ พากเพียร เรียนเล่า เฝ้าฝึกฝน บทบ่อน กลอนกล จนจิตจ้าว ใจจริง ยิ่งยล กลกลอนกล่าว กฎกรอบ นอบน้าว ท้าวเทพไท้-เทิดทูน บารนี ๚ะ๛ ๏  พากเพียรเรียนเล่าเฝ้า ...... ฝึกฝน บทบ่อนกลอนกลจน ........... จิตจ้าว ใจจริงยิ่งยลกล ................. กลอนกล่าว กฎกรอบนอบน้าวเท้าว ........ เทพไท้เทิดทูน บารนี ๚ะ๛     18.46 น. -------------------------------------------------------------------------------------------- ขอบคุณน้องญามี่ นกผีอ่านกลบทไม่ละเอียดแน้   กลบทมีกฎกรอบบังคับมากมาย เลยทำให้ไม่ชอบเล่น ขอแก้ตัวใหม่ด้วย กลอนโคลงกลบทดวงเดือนประดับดาว บทเดียวที่แสนเข็ญ เล่นทางกลอนกลบท โคลงกลบท อย่าให้ผิดเพี้ยนทางครู แง่มแง่ม ... นกผีเป็นคนที่เบื่อกฏข้อบังคับมาก ๆ เลย นกผีจึงชอบเล่นทางคำผวน มันผวนผันเพี้ยนเสียงได้คร้าบ -------------------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 19:13:13

ความคิดเห็นที่ 32 เรียนรสหดหู่สู้................เสกสรร ท่วงท่าหล้าหลั่นครัน........คร่าเค้น หมายมีที่ทันหัน...............หาห่วง ชนชอกออกเอนเส้น..........สุขสร้างสุดสอย บ่อยบังพังเพ้อเหม่อ............เหมือนหมอง ใครครอบลอบลองตรอง.......ตรึกตั้ง ใครครวญส่วนส่องผอง..........เผลอผิด ยอกยื่นขื่นขังรั้ง...................เริ่มรู้รานแรง จากคุณ : ขอฝากแค่ฝัน เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 21:43:36

ความคิดเห็นที่ 33 หมกมุ่นครุ่นค้างย่าง.........ย้ำยล ใจจับปรับปนทน..............ทุกข์ท้วง ครวญคร่ำย่ำยลผล...........ผ่านผิด กลางกึ่งตึงตวงล้วง..........หลากแล้หลุดไหล ใครคิดชิดช่วงท้วง.............ทักทาย ใจเจ็บเก็บกลายสาย...........สุขแสร้ง มาหมองคล่องคล้ายพราย...พริบเพิ่ม หลอนหลอกบอกแบ่งแย้ง.....ยากย้อนหยุดเยือน ดุจเดือนเลื่อนแล้วแว่ว..........หวั่นไหว ตรมแตะแปะไปไกล...............กดกล้า ผ่านผ่าวด่าวใดใน.................นึกหน่าย บทโบกโชกช้าล้า..................แหล่งหล้าหลอนลวง จากคุณ : แก้วกลมกลม เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 54 22:19:29

ความคิดเห็นที่ 34 เลาะลัดพลัดพฤกษ์ลึก..........ลับแล หวาดหวั่นนั่นแน่แท้..............ทนท่อง มนตร์ม่านผ่านแผ่แก้............กรรมเก่า กรเกี่ยวเหลียวลองจ้อง.........เจอะจ้าวจรจล มือใหม่ค่ะ แต่เห็นแล้วอยากเล่นด้วยมากมาย ยิ่งเป็นโคลงยิ่งยากจังค่ะ หงิงๆ จากคุณ : paina เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 01:40:14

ความคิดเห็นที่ 35 #34 คุณpaina ขอบคุณที่มาแจมด้วยอีกนะคะ จริงค่ะโคลงยาก สำหรับคนถนัดกลอนมาก่อนจริงๆค่ะ มี่ขอบอก ตรงๆนะคะ บทนี้ยังไม่ถูกต้องค่ะ ตามกฏโคลงสี่ เราจะลงคำที่๕ ทุกบาทด้วยคำสามัญ หรือ คำไร้วรรณยุกต์ค่ะ เช่น แล,แถ,แข, แปร,แผล นะคะ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 01:13:11 แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 54 13:29:19 จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 13:26:46

ความคิดเห็นที่ 36 ฟูมฟักรักรื่นชื้น..............ชุ่มเชิญ ใจจัดนัดเนิ่นเดิน............ด่ำด้น อวลอุ่นกรุ่นเกินเมิน.........หมางมิด หอมหัดลัดลนท้น............ท่วมท้วงทักทาย ฟูมฟักรักรวยด้วยดื่มด่ำ คืนค่ำจำจิตพิศเพลินเพิ่ม คอยคัดนัดหนึ่งตรึงตราเติม เหินเหิมเริ่มรักมักมองเมียง จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 16:59:29

ความคิดเห็นที่ 37 เอื้อนเอยเผยผ่าวก้าว...........กอดกุม เลือนลับกับกลุ่มรุม..............ร่นรั้น ใจจริงสิ่งสุมคุม....................ความคิด เหนื่อยนักหักหั่นชั้น..............เช่นช้ำชวนชู รู้เรียนเพียรพ้อหล่อ................ลึกหลอน แลหลั่งหวังวอนตอน..............ตรึกต้อง ต่อเติมเริ่มรอนจร...................จากจิต ส่งสิทธิ์จิตจองคล้อง..............คล่องคล้ายความคอย จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 17:19:15

ความคิดเห็นที่ 38 ยังอยู่ดูด้านซ่าน................ซึ้งทรวง เขียนข่มบ่มบวงสรวง...........สุขสร้าง สาปสิ้นถิ่นถ่วงดวง...............ดุจดับ กลายกลับวับวางร้าง.............ร่นรู้รอยรอ ขอเขียนเปลี่ยนป้องคล่อง.......เคลิ้มคำ สอนใส่ใจจำนำ.....................นอบน้อม จัดแจงแข่งขำพรำ.................เพลินเพิ่ม ร้อยรื่นยืนย้อมล้อม................เล่นแล้วลืมหลอน พรพิศคิดเคลื่อนเอื้อน.............อุ่นไอ ชื่นช่องนองในใจ....................แจกแจ้ง ชั้นชัดคัดใครไป......................ปลื้มปรี่ กานท์ก่อส่อแสร้งแย้ง...............หยัดยั้งยังยาว จากคุณ : วาดฝันมธุรพจน์ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 54 17:48:39

ความคิดเห็นที่ 39 ได้แต่อ่านอย่างเดียวเลยดี. อ่านไปชอบไปค่ะคุณมี่ :) จากคุณ : d__d (มัชชาร) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 15:09:32

ความคิดเห็นที่ 40 มองไม้ใบเบนเช่นชุ่มชื้น ยามยืนรื่นร่ายหายห่างโหย อวลอมลมลัดบัดโบกโบย ชื่นโชยโดยด่ำพรำเพียบพอ กลิ่นกล่อมหอมหวนอวลอาบอุ่น เคยคุ้นหนุนนำจำจดจ่อ ลมเลื่อนเปื้อนป้อนกลอนกาลกรอ นัยหนอคลอเคียงเยี่ยงเยือนยัง จากคุณ : ขอฝากแค่ฝัน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 16:04:34

ความคิดเห็นที่ 41 คุ้นคืนยืนยามห้ามห่วงหา ตื่นตาคราคอยถ้อยถักถาม ดูดาวพราวพร่างล้างล้าลาม คำความข้ามขมพรมผ่านเพียร ถึงเธอเหม่อเหมือนเคลื่อนเคียงครุ่น หมายหมุนหุ้นห้นปันแปรเปลี่ยน เป็นปลื้มลืมร้างหว่างวางเวียน จวนเจียนเสี้ยนสิ้นกลิ่นก่อกวน จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมแก่น เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 16:37:18

ความคิดเห็นที่ 42 ไหวหวั่นสั่นใส่ในนัยนึก เล่าลึกดึกดื่นหมื่นมนต์หมาย ร้อยร่ำคำเคียงเกี่ยงกำกลาย ห่างหายพรายพราวดาวดื่นดล ดาวเดินเชิญชมห่มห้วงหาว คลาดคราวด่าวดักผลักผ่าวผล จิตจับกับกล่อมล้อมลุกลน แปรปนจนจองครองคบคลอ จากคุณ : โลกของหนึ่งคน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 16:58:29

ความคิดเห็นที่ 43 ม่านหมอกออกอาบทาบทาทัก หนาวหนักพักเพียบเงียบหงอยเหงา น้ำนัดคัดค้างอย่างเยือนเย้า ใจเจ้าเท่าทุกข์รุกไร้แรง แสงใสไกลกาลนานนับเนื่อง ร้อยเรื่องเชื่องชิดติดตรมแต่ง น้ำหนาวร้าวรอคลอเคลือบแคลง หนแห่งแข่งขมล้มลานแล จากคุณ : แก้วกลมกลม เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 17:26:03

ความคิดเห็นที่ 44 อิอิกิ๊ฟมี่จะหมดแล้วใครจะขึ้นแทนบ้าง เล่นกันแค่กลุ่มเราเป็นส่วนใหญ่ ใครสมัครขึ้นบอกมี่ทางเมล์ หรือหลังไมค์ได้ทั้งนั้นนะคะ เอาแบบง่ายด้านกลบทก็มีรักร้อย กับคุลาซ่อนลูกค่ะ คล้ายกลอนแปด กลอนเจ็ดทั่วไป แค่มีซ้ำอีกตัวเอง ง่ายๆนะคะ555 จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:14:55

ความคิดเห็นที่ 45 *กลบทดวงเดือนประดับดาว แนวโคลงดั้นวิวิธมาลี* ดาวดวงล่วงล้ำพร่ำ.......................เพลินพาน ลอยเล่นเช่นชวนมวล...................มื่นแม้น เรืองโรจน์โปรดปรานนาน..........ในนึก เทียวท่องครองแคว้นแจ้น............จ่อมจม พร่างพราวคราวเคลิ้มเริ่ม............ เรียงราย จิตจัดพัดพรมชม..........................ชื่นช้อย หาหอมกล่อมกรายหมาย............. เมียงมอบ ฟ้าฟากพากย์พร้อยร้อย................. รับเริง แมกไม้ได้ดื่มปลื้ม......................... ปานปลอบ ดูดอกบอกเบิ่งเชิง........................... ชุ่มชื้น ป่าแปลงแต่งตอบกอบ.................... กลิ่นกรุ่น ดาวดื่นตื่นตื้นครื้น...........................ค่ำคอย หนาวนำคำคล้อยบ่อย.......................เบนบท เพรงพจน์รสร้อยปรอย.....................ปิดป้อง สอนเสริมเพิ่มพจน์ชด-....................ช้อยชื่น มัดหม่นขนข้องต้อง.........................ตัดตรม แม้หนาวยังบุกมาลูบผิวทุกคืน..แต่ความคิดถึงไม่เคยถอยหนี ยังตามมาห่มผ้าและบอกฝันดีเสมอ..เช่นคืนนี้ก็ให้หลับฝันดีนะคะทุกท่าน จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:20:22

ความคิดเห็นที่ 46 อิอิ อย่าเป็นแบบ.. ยัด ข้าพเจ้าขึ้นกระทู้เลยคุณมี่ ใช้วิธีจับฉลากก่อนหลังดีกว่านะ ฮ่าฮ่าฮ่า สุขสมชมชื่นคืนค่ำคล้ำ ลอยลำนำหนาวราวร้อยรื่น จิตจับกับกล่อมยอมยามยืน ดอมดื่นชื่นชอบกอบกาลกาง จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 21:51:29

ความคิดเห็นที่ 47 อึ่มแบบท่านกวีฝัน บอกแหละน้องมี่ แม้นน้องมี่ยุ่งบ้างไม่ว่างบ้าง แต่น้องมี่ ขึ้นไว้พวกเราก็เล่นต่อ แม้ไม่มีแต้มแจกก็ตาม อิอิ คนที่ถนัดกลบทมากที่สุดคือน้องมี่นา ให้พวกเราขึ้นผิดๆถูกๆ มั่วๆแบบเดิมอีกนา คริ คริ หนาวแนบแอบอ้อนซ่อน................ซึ้งทรวง แผ่วผ่อนหลอนล่วงทวง...................ที่ท้วง เย็นเยียบเงียบง่วงควง....................เคลิ้มเคลื่อน ใจจัดชัดช่วงห้วง.............................ห่อหุ้มหอมหวน คริ คริ ดูภาพนี้แล้วคิดแล้วอาการออก เดินออกมาดมดอกไม้ท่ามลมแรง และดูดาวทั้งหนาวๆ อึ่มซึ้งๆเนอะ เสียแต่ที่นี่ใส่ได้แค่ภาพธรรมดา ไม่ใช่ภาพFlashแบบที่บล็อกสิน้องมี่ จากคุณ : โลกของหนึ่งคน เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 22:11:15

ความคิดเห็นที่ 48 หนาวเหนือเหลือลอยปล่อยปวดปร่า หนาวหน้าพาเพ้อเหม่อมองหมาย ใครเคยเกยกอดออดอวลอาย ห่างหายปรายเปรียบเทียบทุกข์เทียว จากคุณ : สุดสาครท่องสมุทร เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 22:52:59

ความคิดเห็นที่ 49 แผ่วพลิ้วลิ่วลมห่มห้วงหาว ไกลก้าวน้าวนึกศึกสงสัย เรื่องรื้อสื่อเสร็จเหน็ดเหนื่อยนัย ปล่อยไปให้ห้วงล่วงรู้แล จากคุณ : พระรามหัดท่องเน็ท เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 00:12:31

ความคิดเห็นที่ 50 อากาศนั้นหนาวเย็นหลายเพลา ก่อนนอนต้องห่มผ้ากันหนาว เดี๋ยวจะเป็นไข้หวัดกันระนาว เดี๋ยวได้นอนยาวยาวในโรงพยาบาล จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 00:28:39

ความคิดเห็นที่ 51 เมื่อหมอกออกไอไปปล่อยเปลี่ยว ดาวเดี่ยวเหลียวหลอกบอกเบื่อบ่ม ทั้งทักจักจ่อรอรื่นรมย์ คล้ายคมล้มแลแพร่แผลพาล ในหนาวก้าวก่อจ่อจับเจ็บ น้าวเหน็บเก็บกลอนตอนตรมต้าน พัดพลันวันวับปรับปะปาน จะจารวานไหวไปปล่อยเปรม จากคุณ : เกรียงไกรกวีฝัน เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 22:44:17

ความคิดเห็นที่ 52 ยืนยันฝันฝากมากมวลหมาย เยี่ยมย้ายฝ่่ายเฝ้าเข้าขับขาน ร้อยรักถักถิ่นจินต์จับจาร เบิกบานสานเสริมเพิ่มเพียงพร้อม หาหอมกล่อมใกล้ใส่ซึ้งสุด ยามหยุดรุดลัดหัดแห่ห้อม อ้อนเอื้อเพื่อพร่างอย่างยินยอม จองจ่อมดอมดักรักร่ายรอ จากคุณ : วาดฝันมธุรพจน์ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 23:06:58

ความคิดเห็นที่ 53 ลมลิ่วพลิ้วผ่าวหนาวในเนื้อ ไอเอื้อเกื้อกลวงดวงดุจด่าว จากจิตคิดใคร่ไว้แวววาว ผ่านผ่าวคราวคุ้นหมุนเมินมอง ฝันฝากมากเหม่อเพ้อพล่ามเพียบ เหงาเงียบเลียบล้างห่างหวนห้อง ลมเลยเผยผลักกักเกลื่อนกอง ล้วนล่องจองเจ็บเหน็บนับนัย จากคุณ : ขวดแก้วสีฟ้า เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 00:08:32

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดีค่ะหนูมี่และผองเพื่อน พี่นาถมาให้กำลังใจค่ะ ให้คนที่เคยไปบ้านพี่นาถนะคะ เพราะมีอยู่กระทู้นึง เขาบอกว่า คุณไม่มีสิทธิ์ให้คะแนนค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ จากคุณ : พี่นาถค่ะ (sirivinit) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 12:25:43

ความคิดเห็นที่ 55 อิอิ ไปเล่นกันที่อันใหม่ที่นี่นะคะ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10149549/W10149549.html จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 54 21:53:09