Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บันไดขั้นที่ศูนย์ ติดต่อทีมงาน

บันไดขั้นที่ศูนย์

ผมยืนอยู่บนชั้นสูงสุดของอาคารสูงเสียดฟ้า สายตาจับจ้องผู้คนตัวกระจ้อยที่กำลังขวักไขว่อยู่เบื้องล่าง สายลมเย็นที่ไม่อาจทำให้ชื่นใจพัดผ่านใบหน้า แต่กระนั้นก็ไม่อาจทำให้เหงื่อที่ผุดพรายอยู่ตามใบหน้าแห้งลงได้

กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก สีหน้าครุ่นคิดราวกับกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง แต่สายตาที่ทอดมองลงไปกลับเหม่อลอยไร้จุดสนใจ

................................................

เมื่อนานมาแล้วมีเด็กชายตัวกระจ้อยถือกำเนิดขึ้นมาจากจุดนี้ ด้วยฐานะอันขัดสนทำให้ตั้งแต่จำความได้เขาก็เที่ยวเฝ้ามองใครต่อใครที่แตกต่างไปจากเขา

ทำไมเด็กบางคนถึงเกิดมามีพร้อมทุกอย่างอยู่ก่อนแล้ว ทำไมบางคนอยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่าง ในขณะที่เขาเองกลับไม่ใช่

เด็กชายมองดูตัวเองและผู้คนขวักไขว่ไปมา มันช่างว่างเปล่าและไร้แก่นสารเสียจนไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของตัวเอง

ช่างเป็นที่ยืนที่ไร้แม้แต่คนจะอยากเหลียวแล

แต่นั่นเองกลับเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยผลักดันให้เด็กชายเติบโตขึ้นพร้อมๆ กับความมุมานะเกินปกติ

...สักวันทุกอย่างจะดีขึ้น เขาจะต้องมีทุกอย่างที่อยากมี ได้ทุกอย่างที่อยากได้...

เด็กชายเฝ้าเพียรพยายาม อดทน ขวนขวายสิ่งต่างๆ เท่าที่กำลังทางบ้านและกำลังตัวเองจะหาให้ได้

...สิ่งจำเป็นสำหรับก้าวถัดไป...

เด็กชายเติบโตขึ้นในฐานะนักเรียนและนักศึกษาดีเด่นของสถาบัน และนั่นเองจึงทำให้เขาไม่ขัดสนเรื่องทุนเล่าเรียนอีกต่อไป

ครูบาอาจารย์ชื่นชม เพื่อนๆ รุมล้อม หนุ่มน้อยยิ้มอย่างมีความสุข

................................................

ชายหนุ่มพยายามหางานทำหลังจากเรียนจบด้วยคะแนนสูงลิบ แต่ภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นทำให้แม้แต่เด็กเรียนดีก็ยังเป็นไปได้ยากสำหรับการเข้าทำงานที่ไหนสักแห่ง

ภาพจินตนาการถึงรายได้มหาศาลเริ่มถอยห่างออกไป มันเล็กลง จางลง จนในที่สุดชายหนุ่มก็ยอมรับค่าแรงอันน้อยนิดเพื่อกันตัวเองอดตาย

...อย่างน้อยมันก็ประกันได้ว่าจะมีรายได้ทุกเดือน ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ...

ชายหนุ่มทำงานอย่างขยันขันแข็งไม่สนใจว่าจะมีคนเห็นสิ่งที่ทำหรือไม่ เขาศึกษาทุกอย่างที่ทำได้เมื่อมีเวลาว่าง ไม่เกี่ยงงานที่เขาพอจำทำได้

................................................

วันเวลาผ่านไป ในขณะที่ชายหนุ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากขึ้น มากขึ้น เขากลายเป็นที่หมายปองของหลายองค์กร ซึ่งแน่นอนว่าชายหนุ่มเองต้องเลือกอะไรที่ดีที่สุดให้กับตนเอง

รายได้ไม่ขาดมือ สวัสดิการที่ดี เป็นสิ่งที่ควรเลือก คนบางคนมีพร้อมทุกอย่างตั้งแต่เกิด คนๆ นั้นยืนอยู่บนจุดสูงสุดตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว คนบางคนมีโอกาสที่ดีในการก้าวเดิน ไม่จำเป็นต้องเริ่มนับตั้งแต่ศูนย์

...แต่เขาไม่ใช่ เขาทำทุกอย่างด้วยตัวของตัวเอง...

นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขาได้ในสิ่งที่พึงได้ ความรู้สึกที่ทำให้เขาเริ่มรู้สึกแตกต่างจากที่ผ่านมา

แต่เพียงแค่นี้มันยังไม่ใช่ เพียงแค่นี้ยังไม่พอ ชายหนุ่มพยายามมากขึ้น มากขึ้น ไขว่คว้าทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

หน้าที่การงานเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มกลายเป็นที่รักใคร่ของผู้บริหาร ในขณะเดียวกันระยะห่างระหว่างเพื่อนฝูงและครอบครัวก็มากขึ้น

...การสูญเสียเป็นเรื่องธรรมดา การที่จะได้อะไรมาก็อาจจะจำเป็นต้องแลกอะไรไปบ้าง...

................................................

ด้วยความมุมานะเกินปกติของชายหนุ่มทำให้เขากลายเป็นผู้บริหารระดับสูงในเวลาไม่นาน กับสังคมในเวลานี้ที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จากที่เขาต้องคอยทักทายใครต่อใครทุกเช้า

...บัดนี้กลับกลายเป็นคนรอบกายที่ต้องคอยทักชายหนุ่มก่อน...

รอบกายเต็มไปด้วยสิ่งของฟุ่มเฟือยที่บางชิ้นชายหนุ่มซื้อมาด้วยความอยากเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวที่มีมาไม่เคยขาด

ชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้บุหนังอย่างดี เอนกายด้วยท่าทีที่สบายที่สุด สายตาเหม่อมองเพดาน

...ต้องสูงขึ้นไปอีก สูงขึ้นไปอีก...

มือเอื้อมขึ้นไปไขว่คว้าสิ่งที่มองไม่เห็นในอากาศ หากแต่มันกลับเด่นชัดตรงหน้าชายหนุ่มนั่นเอง

................................................

เป็นระยะเวลาหลายปีแล้วกว่าที่บริษัทแห่งนี้จะกลายเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ ริ้วรอยยับย่นบนใบหน้าบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าชายชราต้องใช้ความพยายามขนาดไหนหลังจากที่เขาลาออกมาเพื่อทำธุรกิจของตนเอง

ชายชรากลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัว บริษัทของเขากลายเป็นบริษัทที่เป็นที่จับตามองของเหล่านักธุรกิจและผู้หวังเก็งกำไร

บรรดาลูกน้องต่างนอบน้อม เพื่อนร่วมธุรกิจนับหน้าถือตาและให้ความยำเกรง สิ่งที่พยายามมาทั้งหมดตั้งแต่ต้นบัดนี้กลายเป็นจริงแล้ว

................................................

ผมยืนอยู่บนชั้นสูงสุดของอาคารสูงเสียดฟ้า สายตาจับจ้องผู้คนตัวกระจ้อยที่กำลังขวักไขว่อยู่เบื้องล่าง สายลมเย็นที่ไม่อาจทำให้ชื่นใจพัดผ่านใบหน้า แต่กระนั้นก็ไม่อาจทำให้เหงื่อที่ผุดพรายอยู่ตามใบหน้าแห้งลงได้

กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก สีหน้าครุ่นคิดราวกับกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง แต่สายตาที่ทอดมองลงไปกลับเหม่อลอยไร้จุดสนใจ

บนชั้นดาดฟ้านั้นว่างเปล่าไร้เงาใครอื่นนอกจากผม ช่างแตกต่างจากภาพเบื้องล่างอย่างสิ้นเชิงที่ถึงแม้จะสับสนวุ่นวายแต่ก็ไม่เคยเหงา

ในวันที่ผมคิดว่าผมมีพร้อมทุกอย่างแล้ว เมื่อมองกลับไปบนเส้นทางอันยาวไกลที่เดินผ่านมา ถึงจะเป็นเพียงบันไดห้าขั้น แต่ผมกลับต้องใช้ระยะเวลาทั้งชีวิตเพื่อแลกมันมา

ผมสูญเสียช่วงเวลาต่างๆ ไปจนหมดสิ้น

ผมตั้งใจเรียนเพื่อให้พ่อแม่ดีใจ เพื่อที่ครอบครัวเราจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่สุดท้ายผมก็ไม่เคยกลับไปพบท่านทั้งสองอีกเลยจวบจนวันสุดท้าย

ผมอยากมีเพื่อนที่พร้อมจะเฮไหนเฮนั่น คุยกันปรึกษากันได้ทุกเรื่อง เป็นเพื่อนแบบที่เรียกกันว่าเพื่อนตาย

ผมอยากมีคนรักที่พร้อมจะเดินเคียงข้างไปที่ไหนก็ได้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผมจนวันสุดท้ายของชีวิต

ผมเคยคิดว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดทั้งมวลจะช่วยให้มีความสุข จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นและเป็นอย่างที่หวัง

แต่สุดท้ายแล้วในตอนนี้มันกลับว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย ผมเฉยเมยต่อคนสำคัญเหล่านั้นและทำให้เขาเจ็บช้ำมานับครั้งไม่ถ้วน

...สิ่งที่ต้องแลกมันมากมายเหลือเกิน...

ช่างเป็นบันไดขั้นสุดท้ายที่ทอดยาวไปสู่ความว่างเปล่า มันเป็นความเคว้งคว้างที่ไม่อาจบรรยาย ความหนาวที่ไม่อาจคลายได้ด้วยผ้าผืนหนา

น้ำตารินไหลกับภาพต่างๆ ที่พรั่งพรูออกมาราวสายน้ำ

...และบัดนี้ สิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าคือบันไดขั้นที่ศูนย์...

จากคุณ : KTHc
เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 54 00:10:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com