Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ตำนานสงครามบัลลังก์เหนือ 2 - 29 - ศึกกลางคืน และศึกกลางวัน ติดต่อทีมงาน

อ่านเนื้อหาภาค 1 ได้ที่นี่ครับ

เด็กดี
http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=471973

พันทิพ
บทนำ - บทที่ 5
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9892447/W9892447.html
บทที่ 6-10
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9906021/W9906021.html
บทที่ 11-15
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9924896/W9924896.html
บทที่ 16-20
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9958591/W9958591.html

เนื้อเรื่องต่อภาค 2

เด็กดี
http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=623553

พันทิพ
บทนำ - 1 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9280262/W9280262.html
1 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9290547/W9290547.html
2
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9301954/W9301954.html
3 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9315581/W9315581.html
3 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9326678/W9326678.html
4
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9355723/W9355723.html
5
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9380192/W9380192.html
6
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9404897/W9404897.html
7
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/07/W9435713/W9435713.html
8
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/07/W9500605/W9500605.html
9
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/08/W9571637/W9571637.html
10
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/08/W9623060/W9623060.html
11 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/09/W9647241/W9647241.html
11 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/09/W9678374/W9678374.html
12
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/10/W9812163/W9812163.html
13
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/10/W9846618/W9846618.html
14
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9875051/W9875051.html
15
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9892519/W9892519.html
16
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9907488/W9907488.html
17
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9916888/W9916888.html
18
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9927562/W9927562.html
19
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9939927/W9939927.html
20
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9980469/W9980469.html
21
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10002038/W10002038.html
22
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10021934/W10021934.html
23
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10051706/W10051706.html
24
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10085054/W10085054.html
25
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10107249/W10107249.html
26
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10121033/W10121033.html
27
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10132938/W10132938.html
28
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10149703/W10149703.html


* * * * *


ขอบคุณคุณ Mnemosyne สำหรับกิฟท์นะครับ ^^

น้องแตม (จากตอนที่ 25) - ขอโทษที่ไม่ได้ตอบมานานนะครับ ไม่ได้กลับไปเช็คตอนเก่าๆ หลังจากตอนล่าสุดเลย m[_ _]m

สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับ (ถึงตอนนี้จะช้าไปแล้วก็เถอะ ^^a) ขอให้น้องแตมมีความสุขมากๆ เช่นกัน ขอบคุณที่เป็นกำลังใจมาตลอดนะ

คุณ scottie - มีคนชอบตัวรองบ้างก็ดีใจครับ เพราะตัวเองก็เป็นคนชอบกระจายบทเหมือนกัน ^^

คุณน้ำตาล - แต่งเก็บไว้น่ะครับ แต่ตอนนี้บางเรื่องก็หมดสต็อคแล้วล่ะ ^^a

เห็นคุณน้ำตาลลงเรื่องใหม่แล้ว แต่ไม่สันทัดแนวรักดราม่า เลยไม่ได้เข้าไปอ่านเลย (แต่ดราม่าแฟนตาซีนี่ดันชอบเหลือเกิน แหะๆ) พยายามเข้าเหมือนกันนะครับ จะรออ่านสายลับสาวกับผู้บ่าววัว (???) เน่อ


* * * * *

บทที่ ๒๙
ศึกกลางคืน และศึกกลางวัน


“ทำไมหน้าตาดูไม่ได้ทั้งคู่เลยนั่น”

เป็นคำทักทายอย่างไร้พิธีรีตอง จากพระมหาเถระผู้นั่งไขว่ห้างรออยู่ที่เดิมบนเขา ด้วยสีหน้าท่าทางเป็นปรกติ ไม่มีอิดโรยเลยสักนิด

กระทั่งอาเมียร์อดสงสัยไม่ได้ ว่านักบวชขาวพักผ่อนเพียงพอได้อย่างไร ทั้งๆ ที่นอนผิดเวลาเหมือนกัน

“ก็จิตอีกด้านของเจ้าชายน่ะสิ” เป็นมาลิอาที่ตอบก่อนเหมือนจะฟ้อง “ตอนเขาหลับอยู่ยังจะออกมาแผลงฤทธิ์ ข้าเลยต้องเสี่ยงเข้าไปช่วยอีกรอบ เกือบหอบขึ้นตายกันเลยทีเดียว”

ลูเธียนเพียงแต่เลิกคิ้ว

“เจ้าลืมลงอาคมสะกดมันไว้อีกรอบล่ะสิท่า”

ผู้ฟังนิ่งอึ้งไปแค่ชั่วอึดใจ ครั้นแล้วก็ค้อนขวับ

“ในสภาพอย่างเมื่อคืน ใครจะไปจำได้เล่า” แม่มดดำเอ่ยเสียงขุ่น “หรือท่านนักบวชขาวบางคนจำได้ แต่ขี้เกียจบอก แบบนี้ถือเป็นความผิดใครฮึ”

“เอ่อ...” อาเมียร์เกาศีรษะ “เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว มาจัดการธุระของเราให้เสร็จไปโดยเร็วไม่ดีกว่าหรือ”

“ฮึ” เด็กสาวในชุดนางรำสะบัดหน้ามาทางเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะตรงไปประจำที่ “คราวนี้ก็จับมันให้อยู่หมัด แล้วกินมันเข้าไปเสียเลยล่ะ ไอ้จิตอีกด้านของท่านนั่น นี่มันแบ่งตัวออกมาแค่กระผีกเดียว ก็ยังเอาชนะมันไม่ได้เสียที”

“แล้วข้าควรจะเอาชนะมันยังไงล่ะ สร้างดาบมาแทงมันให้ตายหรือ” ชายหนุ่มอดถามไม่ได้

“นั่นก็แล้วแต่ท่าน” มาลิอากลับยักไหล่ ราวกับนั่นไม่ใช่ความสนใจ หรือกระทั่งความรับผิดชอบของเธอ “ถ้าไม่ฆ่ามันเหมือนในฝันนั่น แต่ ‘เปลี่ยน’ มันเป็นกระถางดอกไม้แทนได้ก็ตามใจ กระบองเพชรก็ดี ไม่รดน้ำสักเดือนจะได้ไม่ตาย”

“เอ่อ...” อาเมียร์ขมวดคิ้วกับคำตอบ

“ข้าคิดว่าตกลงกับมันให้ได้ เห็นจะดีกว่าทำลายกระมัง” พระมหาเถระลูเธียนเอ่ยขึ้นบ้าง “ก็เหมือนมิเรียมกับมาลิอา ขอแค่ท่านอย่าใจอ่อน ปล่อยให้มันออกมาดื่มเหล้า แทะโลมเพศตรงข้าม อย่างยายแม่มดหอบนี่ก็พอ”

“‘แทะโลม’? เรื่องเด็กๆ พรรค์นั้นข้าไม่ทำหรอกนะ” เด็กสาวกลับยืดอกอย่างภูมิใจเต็มประดา “ต้อง ‘กลืนกิน’ เข้าไปทั้งตัว ไม่เหลือไว้ให้ใครอีกต่างหาก”

เจ้าชายแห่งความมืดได้แต่โคลงศีรษะ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่เดิม จัดท่าของตนให้สบาย และเริ่มเข้าสมาธิโดยไม่พูดอะไรอีก

บางที ความเงียบอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการรับมือกับแม่มดดำ และนักบวชขาวก็เป็นได้


* * * * *


ท้องฟ้าสีแดงรอรับสายตาอีกครา

พร้อมกับพื้นสีดำปนแดง ปุพรุนเป็นหลุมบ่อเล็กใหญ่ ดูแล้วราวกับกำลังเดินบนก้อนเนยแข็งขนาดยักษ์ เวิ้งว้างไร้สิ่งใด มีเพียงอาคารอันเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายตั้งอยู่ไกลลิบ

“มันชิงพื้นที่คืน...อย่างนั้นสินะ” อาเมียร์เปรย ขณะบังคับตนเองให้มองรอบด้านอย่างสงบที่สุด

“ใช่” มาลิอา ซึ่งปรากฏในรูปลักษณ์ของหญิงสาวผิวขาว ผมดำยาวตรงเอ่ยรับจากข้างกาย “ท่านรู้สินะ ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง”

ชายหนุ่มพยักหน้า

เขาเปลี่ยนท้องฟ้าให้กลับเป็นสีฟ้า และพื้นประหลาดให้กลายเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวสุดลูกหูลูกตา ทั้งหมดทำได้ในเวลาไม่นาน เว้นเพียงบริเวณโดยรอบโกดังที่อยู่ไกลออกไป ด้วยเหตุนี้จึงต้องเข้าไปใกล้ และต้องคอยระวังหลุมพรางต่างๆ อีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ดี ครั้งนี้การรุกคืบเข้าไปไม่ได้พบอุปสรรคแต่ประการใด ไม่มีเงาร่างสีดำบนพื้น และกระทั่งในอาคารที่มีเลือดนองบนพื้นและเปรอะเปื้อน ก็ยังไม่มีซากศพใดๆ เข้ารุมล้อมเขาอีก

ทุกสิ่งเงียบสงบ เว้นเพียงเสียงสะอื้น และคำถามซ้ำๆ เท่านั้นเอง ที่ทวีความดังและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

...ไยจึงลืม...ไยจึงลืม...

“ข้าไม่ได้ลืม” อาเมียร์พยายามตอบหนักแน่น “เพียงแต่ปล่อยวางเสียเถิด ความแค้นนั้น ข้า...ไม่สิ เราคือเจ้าชายทัมมุซ นั่นคือความจริงที่ไม่มีวันแปรเปลี่ยนได้ชั่วชีวิต แต่ข้าไม่ต้องการบัลลังก์ หรือฐานอำนาจใดๆ เพื่อชำระแค้น หรือกอบกู้อาณาจักรของเราขึ้นมาอีกเลย”

ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย น้ำเสียงและถ้อยถามยังคงเดิม แม้ในเวลาที่ชายหนุ่มก้าวเข้ามาประชิดถัง และวางทั้งสองมือลงบนฝาของมัน

แล้วจึงค่อยๆ เปิดมันขึ้นมา...

เงาสีดำตวัดวาบ

รวดเร็ว...อาเมียร์ไม่ทันตั้งตัวจนความเจ็บแปลบขึ้นที่กลางอก เป็นครั้งแรกในโลกของใจที่รู้สึกเช่นนั้น

“เจ้าชาย!” มาลิอากรีดร้องขึ้น น้ำเสียงเร่งร้อนและตื่นตระหนก

...ไม่เจ็บ... เขาบอกตนเองเช่นนั้น ขณะกลั้นใจมองคมสีดำไร้กรอบร่างชัดเจนที่ยื่นออกมาจากอกของตน ครั้นแล้วก็วางสองมือลงไป

ไม่ได้กำหรือดึงออกมา เพียงแต่กุมเอาไว้ ประหนึ่งกุมมือของเด็กหลงทางคนหนึ่ง

“ไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องเคียดแค้นอีกหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยพลางมองเข้าไปในถังใบนั้น สบกับแววตาสีทองตื่นตระหนกตะลึงงัน...ของเด็กชายซึ่งมีใบหน้าที่เขาเคยมี

เด็กนั้นนิ่งงันอยู่อีกครู่ ก่อนจะแค่นเสียง และวาดมืออีกข้างเข้ามา รวดเร็วจนเห็นเพียงภาพวูบวาบสีดำ

ทว่ามันเป็นเพียงกำปั้น ซึ่งชายหนุ่มรับไว้ได้เพียงตั้งใจนึก

เป็นอย่างที่ลูเธียนบอก เด็กคนนี้คือส่วนหนึ่งของตัวเขา เขาจะไม่ห้ำหั่นทำลายอีกฝ่าย แต่จะสร้างความเข้าใจ ปลอบโยนเช่นเดียวกับที่เขาเคยได้รับการปลอบโยนมา

‘ทัมมุซ’ ที่อยู่ในถังพยายามดิ้นรนสุดชีวิต ประหนึ่งอาเมียร์เป็นข้าศึกที่จะจับตัวเขาไปฆ่า มือเล็กๆ ทั้งสองป่ายปัดขีดข่วน ปากแผดเสียงและเขี้ยวฝังลง...ณ ที่ใดก็ตามแต่จะมีโอกาส

ทว่าอาเมียร์ไม่ตอบโต้แต่ประการใด เมื่อใดที่เจ็บแปลบขึ้นมา เขาก็บอกตนเองว่าไม่เจ็บ บอกตนเองว่าเด็กนี้เจ็บปวดกว่าเขามากมายนัก นี่เป็นความเจ็บปวดของเด็กที่ไม่เข้าใจ เด็กที่แค้นเคืองโลก แค้นเคืองผู้ที่ตนไม่อาจคิดว่าเป็นมนุษย์...

ก็แล้วไม่จริงหรือ...ไอ้พวกที่ฆ่าฟันผู้บริสุทธิ์ต่อหน้าต่อตาเด็กชาย...ยังคู่ควรจะเรียกตนเองเป็นมนุษย์อยู่อีกหรือ

เจ้าชายแห่งความมืดที่เติบโตขึ้นไม่มีคำตอบ แต่ถึงอย่างไร ผู้ที่ฆ่าฟันเองก็ถูกฆ่าฟันไปแล้ว ทั้งจากการโต้ตอบของเหยื่อของพวกเขา และท่านอาที่มาช่วยเขา...พร้อมกับท่านยาย

อาเมียร์แปรร่างของตนเป็นหญิงคนนั้น แม่บุญธรรมของเสด็จแม่...ซึ่งทัมมุซมีโอกาสอยู่ด้วยและทำความรู้จักแสนสั้นเหลือเกิน แต่ท่านยายเป็นผู้พาเขาขึ้นมาจากถังมืด โอบอุ้มข้ามพื้นนองเลือดและซากศพก่ายกอง...ก่อนจะต้องสละชีวิตเพื่อปกป้องเด็กชายไปอีกคน

“โกหก!” เด็กชายกลับกรีดเสียง แม้เมื่อชายหนุ่มโอบกอดเขาไว้ในร่างของท่านยาย “ท่านยายตายไปแล้ว! เหมือนทุกคนที่นี่! ตายไปเพราะไอ้ชั่วช้าพวกนั้น! อย่าหลอกข้าเลย!”

“แต่นางยังมีชีวิตอยู่” ชายหนุ่มตอบอย่างใจเย็น “นางยังมีชีวิตอยู่...ทั้งในตัวของเจ้าและข้า ในความทรงจำของเราทั้งสอง จำความเมตตาและความอ่อนโยนของนางไม่ได้แล้วหรือ นางต้องการให้เจ้าเคียดแค้นและฆ่าฟันผู้อื่น...ทั้งๆ ที่คนซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนั้นสิ้นชีพไปเนิ่นนานแล้วหรือ”

แต่ซาเกรดา โซลยังอยู่!” ทัมมุซแผดร้อง แม้จะไม่อาจสลัดตนเองจากอ้อมแขนของเขา “ลูกหลานของไอ้พวกคดโกง! พวกมือถือสากปากถือศีลนั่น! สาวกของเทพจอมปลอม! เห็นอย่างนี้แล้ว...เจ้ายังจะปล่อยให้มันผยองอยู่อีกหรือ! ไยไม่ทำให้อาณาจักรนี้เป็นของเจ้า! ทำให้เจ้าหญิงแอชลีนน์เป็นผู้หญิงของเจ้า! เจ้าไม่ต้องการทั้งฐานอำนาจ และหญิงที่เจ้ารักคนนั้นหรือ!

“รักไม่ใช่การครอบครอง” อาเมียร์วางร่างของเด็กชายลงบนพื้น ครั้นแล้วจึงคุกเข่าลงตรงหน้า นึกถึงท่าทางของแม่ยามทำเช่นนี้เบื้องหน้าเขา...ตลอดจนถึงสีหน้า และน้ำเสียงของท่านยามเอ่ยต่อเขาอย่างจริงจัง ทว่าขณะเดียวกันยังอ่อนโยนนัก “เจ้ารู้...ใช่ไหม ในเมื่อเจ้ากับข้าเป็นคนคนเดียวกัน ก็ย่อมรู้เรื่องนั้นไม่ใช่หรือ เสด็จแม่ของพวกเราต้องเจ็บปวดอย่างไรเพราะเสด็จพ่อ ข้าไม่ต้องการผูกมัดแอชในแบบนั้น และก็ไม่ต้องการดึงอาณาจักรนี้ กับประชาชนที่ไม่รู้เรื่องอะไร มาชำระความแค้นที่จบลงไปแล้วนับพันๆ ปีด้วย ...แอชเองก็ไม่ต้องการให้ภัยใดๆ เกิดขึ้นกับอาณาจักรของนาง เหมือนที่เกิดขึ้นกับอาณาจักรของเราไม่ใช่หรือ”

เจ้าชายแห่งความมืดนึกถึงเจ้าหญิงพระองค์นั้น เจ้าหญิงซึ่งเป็นเหมือนแสงตะวันสว่างเรืองรอง เจ้าหญิงที่รักและยอมรับเขาซึ่งมีอำนาจอย่างปีศาจร้ายได้ แต่ขณะเดียวกันก็ยังรักธีร์ดีเร รักอาณาจักรของเธอมากเหลือเกิน

เขานึกถึงน้ำเสียงอ่อนโยน และสัมผัสอันนุ่มนวลของเธอ

“ไม่มีใครอยากให้คนที่รักต้องกลายเป็นปีศาจหรอก ไม่จริงหรือ ทัมมุซ” ชายหนุ่มโอบกอดเด็กชายผู้เปราะบางไว้ หมายให้ความอบอุ่นและความรู้สึกของเขาส่งผ่านไป “เสด็จพ่อไม่ต้องการให้เจ้ากลายเป็นปีศาจ เสด็จแม่ ท่านอา ท่านตาท่านยา...และแอชเองก็ไม่ต้องการเช่นนั้น เหล่าพี่หญิงที่อารามฮอว์ธอร์นก็เช่นกัน ...วางมันลงเสีย ปล่อยมันไปเสียเถอะนะ”

อาเมียร์ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด...จึงได้รู้สึกถึงสัมผัสรุนแรงบนแผ่นหลัง

เปล่าดอก หาใช่คมมีดอันใด ไม่ได้เจ็บปวดทิ่มแทงแต่อย่างใด กระนั้นยังรุนแรงเหลือเกิน...จากสองแขนผอมบางที่โอบรัดเข้ามา ปลายนิ้วที่จิกลงมา พร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ และความเปียกชื้นที่แผ่นอก

มันจบไปแล้ว...แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้จบลงไป

ความแค้นควรสิ้นสุดลง แต่การระลึกถึงผู้ตายนั้นไม่จบสิ้น อย่างน้อยก็ไม่จนกว่าตัวเขาเองจะหมดลมหายใจ ทุกคนไม่ใช่ตัวเลขไร้ความหมาย แต่ก็ไม่ใช่ความฝันสีแดง ทุกคนคือผู้มีพระคุณ คือคนที่ทำให้เขารอดชีวิตมาเพื่อมาถึงธีร์ดีเร พบกับแอช และช่วยเหลือเธอ เช่นเดียวกับพยายามช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่

ทัมมุซยังมีชีวิตอยู่ อาเมียร์ยังมีชีวิตอยู่

ทัมมุซคืออาเมียร์ และอาเมียร์ก็คือทัมมุซ

“ข้าไม่ลืม จะไม่ลืมอีกต่อไปแล้ว” เจ้าชายแห่งความมืดลั่นวาจา “สิ่งที่ทำให้เราเป็นเรา”

ร่างของเด็กชายในอ้อมแขนค่อยๆ เบาบางลง

อาเมียร์รู้...จิตอีกด้านนั้นจะไม่ใช่จิตอีกด้านอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นส่วนหนึ่งของตัวเขา ความเจ็บแค้นโศกเศร้าเสียใจที่เขาเคยละทิ้งไป

อย่างไรก็ดี ชายหนุ่มไม่ได้คาดคิดสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อมา...ที่อกของเขาบังเกิดความร้อนบางอย่าง...ร้อนรุ่มอย่างไฟ แต่ก็ไม่ได้แผดเผาให้เจ็บปวดทรมานแต่ประการใด

เจ้าชายแห่งความมืดลุกขึ้นยืน ก่อนจะมองตรงไปเบื้องหน้าอย่างประหลาดใจ สิ่งหนึ่งผุดขึ้นจากอกของเขา ทอแสงสว่างสีดำ...หากว่าสีดำยังจะนับเป็นแสงสว่างได้

นั่นเป็นหนังสือปกหนังสีดำเล่มใหญ่หนา ขอบกระดาษเป็นสีเหลืองเก่าคร่ำคร่า

“นี่คือ...” อาเมียร์หันไปถามมาลิอา ซึ่งไม่รอกระทั่งให้เขาพูดจบ

“คัมภีร์อนธการ”

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว

“หากว่าท่านควบคุมจิตอีกด้านที่อยู่ในตัวเองได้ ข้าก็ว่าไม่มีอันตรายหรอก” หญิงสาวยักไหล่ “คัมภีร์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต ไม่มีก้อนอำนาจมืดที่จะมาครอบงำหรือทรยศนาย หากมันจะทำอะไรลงไปโดยพลการ ก็เพื่อปกป้องท่านซึ่งเป็น ‘นาย’ ของมันเท่านั้น”

“แต่ทำไมมันถึงปรากฏขึ้นตอนนี้ล่ะ” เขายังไม่หายแคลงใจ

“ท่านมีคัมภีร์ แต่ท่านไม่รู้วิธีเปิดมัน ส่วนจิตอีกด้านของท่านรู้ แต่มันต้องหนีไปจากร่างที่มีคัมภีร์ของท่าน ก่อนถูกเราผนึกไว้เมื่อสี่ปีก่อน” แม่มดดำอธิบาย “ในเมื่อท่านกลืนกินจิตอีกด้านเข้ากับท่านได้แล้ว...ต่อให้เป็นแค่บางส่วนก็เถอะ ก็เท่ากับท่านได้รับความสามารถในการเข้าถึงคัมภีร์มาด้วย”

“อา...” อาเมียร์พยักหน้ารับ “แล้ว...ข้าควรทำอย่างไรกับมันดี”

เท่าที่เคยฟังมาลิอากับลูเธียน คัมภีร์อนธการเป็นแหล่งรวมอำนาจความมืดอันมหาศาล และจารึกมนตราทุกบทซึ่งอมตเทพเคยถ่ายทอดให้แก่แม่ของเขา บางชั่วขณะ ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าหากมีอำนาจเหล่านี้ เขาอาจจะสามารถช่วยเหลือแอชได้ง่ายดายขึ้น และลดการเสียเลือดเนื้อของผู้อื่นลงไปได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ต่อให้เขาไม่คิดว่าอำนาจแห่งความมืดเป็นสิ่งชั่วร้าย มันก็ยังคงเป็นสิ่งที่น่ากลัว และอาจเป็นอันตรายอยู่ดีไม่ใช่หรือ

“สิ่งใดมีโทษมหันต์ สิ่งนั้นก็มีคุณอนันต์ได้เหมือนกัน” มาลิอากลับแย้ง “ส่วนตัว ข้าคิดว่าท่านมีอำนาจมหาศาลขนาดนี้ เก็บมันไว้เฉยๆ ก็เสียของเปล่าๆ ...ถึงอย่างไร ตอนนี้เราก็มีทางเลือกอยู่สองทาง หนึ่งคือสะกดอำนาจของคัมภีร์ไว้อีกครั้งเหมือนคราวนั้น และสอง...ท่านต้องหัดควบคุมมันให้ได้ด้วยตนเอง เพื่อที่จิตอีกด้านซึ่งยังอยู่กับมาดายจะได้ไม่อาจชิงคัมภีร์ไป นอกเสียจากครอบงำท่านโดยสมบูรณ์ นอกเหนือจากนั้น ท่านจะใช้มันอย่างไร ก็ถือเป็นเรื่องของท่านแล้ว”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับช้าๆ

“ถ้าข้าหัดควบคุมมัน จะใช้เวลานานไหม”

“ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง แต่ด้วยอัตราการเรียนรู้ในสองวันที่ผ่านมา ข้าว่าไม่นานหรอก ยิ่งไม่นับว่าหลังจากนี้ ท่านจะทำสมาธิเข้ามาในโลกของใจ แล้วก็เปิดดูคัมภีร์ ศึกษาเมื่อไรที่ต้องการก็ได้ จะทำในตอนเข้านอนยังได้เลย...หากไม่มีจิตอีกด้านมาคอยขัดขวางด้วยแล้ว”

อาเมียร์พยักหน้าอีกครั้ง

ทางเลือกของเขาเป็นอันชัดเจน


* * * * *


ชายหนุ่มลืมตาขึ้น พบกับลมหนาวของยามราตรี และท่าทางสงบนิ่งของเพื่อนร่วมทางทั้งสอง

มาลิอากับลูเธียนไม่ได้เอ่ยชม แต่ทั้งสองก็ดูเหมือนจะยินดีที่ปัญหาร่วมของพวกตนจบลงไป

อาเมียร์ขอบคุณพวกเขา ค้อมศีรษะให้อย่างยกย่องและนบนอบ ในฐานะอาจารย์และผู้ช่วยเหลือ โดยไม่ถือว่าที่แท้ตนมีอายุมากกว่ามากมายนัก

เขายังต้องเรียนรู้อีกมาก แต่นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับการนี้ การประลองกับท่านอาจะมีในวันมะรืน ในเวลาอีกหนึ่งวันกับหนึ่งคืนครึ่งที่เหลืออยู่ ร่างกายของชายหนุ่มต้องพร้อมรับการต่อสู้ครั้งสำคัญนั้น

ด้วยเหตุนี้ เจ้าชายแห่งความมืดจึงได้แยกจากนักบวชขาวกับแม่มดดำ ซึ่งคนหนึ่งกลับไปยังอารามที่ตนพักอยู่ในละแวกใกล้เคียง ส่วนอีกคนคงจะเข้าเมือง ไปหาเครื่องดื่มเพิ่มพลัง (ตามคำอ้างของเจ้าตัว) หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับงานมานั่นเอง


* * * * *

จากคุณ : Anithin
เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 23:01:10




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com