Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องสั้นสยองขวัญของผม ติดต่อทีมงาน

             
อ่านแล้วช่วยเม้นหน่อยนะครับได้มีกำลังใจ เคยเอามาแล้วไม่มีคนเม้นเลยเศร้า
อยากฟังคอมเม้นครับ
----------------------

                                                                       นิสิตปอโท
         (The Graduate)
ฮอฟแมนดีใจมากที่เขาได้มาเรียนปริญญาโทเอกต่อที่แคลเทค เขาเป็นเด็กบ้านนอกจากรัฐเทกซัส เขาไม่ค่อยมีตัง
มากนักจึงต้องไปเช่าบ้านอยู่ ความจริงมันไม่เชิงเป็นบ้านทีเดียวหรอก  มันแบ่งเป็นห้องๆให้คนเช่าอยู่โดยฮอฟแมนอยู่ชั้นสอง
จากทั้งหมดสามชั้น ตอนไปเรียนต้องเดินไปเป็นระยะทางสองไมล์ผ่านสุสาน และบ้านของเจ้าของอู่ซ่อมรถ  บ้านที่เขาเช่าอยู่
นั้นช่างโดดเดี่ยวและมืดครึ้ม  ตอนกลางคืนมันเงียบมากและก็มืดมากด้วย มันเหมือนบ้านหลังนี้มีมนตร์สะกดอยู่ ใจหนึ่งเขาก็
อยากย้ายออกแต่ด้วยราคาที่แสนถูกฮอฟแมนต้องทนอยู่ต่อไป

เมื่อวานตำรวจมาที่บ้านหลังนี้ คนเยอะแยะไปหมด ลุงสตีฟอายุแปดสิบ ล้มหัวฟาดพื้นขณะที่อาบน้ำแต่ไม่มีใครพบ
ศพเขาจนกระทั่งมันส่งกลิ่นออกมาทำให้ คุณยายนอริสเจ้าของบ้านได้กลิ่นและเปิดไปเห็น   ผมก็ได้กลิ่นฮอฟแมนบอกคุณยาย
นอริสแต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นกลิ่นของลุงสตีฟ ตำรวจเรียกผมไปสอบปากคำแล้วก็ปล่อยตัวกลับมา และผมก็มานั่งทำงานต่อ
จนถึงตีสอง ไฟก็ดับ โน๊ตบุคก็ดับ สักพักไฟก็มา  หลังจากนั้นฮอฟแมนก็นั่งทำงานต่อไป ได้ยินเสียงตุ๊บๆจากข้างบนเหมือนเสียง
อะไรตก ฮอฟแมนไม่สนใจ นั่งทำงานต่อ สักพักก็มีเสียงอีกทีเป็นเสียงดังเหมือนอะไรกระแทกกับพื้น ฮอฟแมนตัดสินใจหยุด
งานทั้งหมดไว้แล้วตัดสินใจว่าเขาต้องไปดูว่าห้องข้างบนมันเกิดอะไรขึ้น เขาเปิดประตูห้องขึ้นบันไดไปและก็เคาะประตูห้อง
ข้างบน “ก๊อกๆๆ” ไม่มีเสียงตอบกลับ “ก็อกๆๆ”เขาเคาะแรงขึ้นแต่ก็ไม่มีคนมาเปิด เขากำลังจะเดินกลับห้องแล้ว แต่ก็ชายคน
หนึ่งเปิดประตูมา “มีอะไร” ชายตัวใหญ่พูดตะคอกใส่เขาอย่างดัง  “เอ่อ ผมได้ยิน... ได้ยินเสียงเหมือนอะไรกระแทกพื้นครับ ผม
เลยมาดูเผื่อมีอะไรเกิดขึ้น”  “มิงไม่ต้องมายุ่งเรื่องของคนอื่นหรอก กุเอากับเมียกุอยู่ มิงอย่ามายุ่ง” แล้วชายตัวใหญ่คนนั้นก็ปิด
ประตูใส่หน้าเขา เขายืนตะลึงอยู่สักพักแล้วก็เดินกลับไปห้อง  ตอนแปดโมงเช้าเขาออกไปเรียนหนังสือเห็นหญิงคนนึงตาบวม
หน้าเป็นสีคล้ำเหมือนไปกระแทกกับอะไรมา เขาจำได้หญิงคนนนี้คือคนที่อยู่ห้องข้างบนนั่นเอง !

ผ่านไปสองสัปดาห์ นาตาลีมาเยี่ยมเขาที่หอพัก ทั้งสองออกไปกินข้าวมาตอนเย็น ตอนนี้ห้าทุ่มนาตาลีหลับอยู่ที่เตียง
แต่เขานอนอยู่ สักพักนาตาลีก็พูดอะไรฟังไม่รู้เรื่อง นาตาลีตื่นมาร้องไห้ ฮอฟแมนเข้าไปปลอบเธอ  เธฮร้องไห้พร้อมกับพูดให้ฟัง
ว่าฝันเห็นชายแก่คนนึงบุกเข้ามาในห้อง ชายแก่เดินเข้ามาบีบคอเธอ เธอเรียกฮอฟแมนแต่เขานั่งทำงานอยู่ เรียกอย่างไรก็ไม่ได้
ยิน ชายแก่คนนั้นตาสีแดง ผิวคล้ำ บีบคอจนเธอหายใจไม่ออกแล้วเธอก็ตื่นขึ้นมา ลักษณะของชายแก่คนนั้นช่างคล้ายกับลุง
สตีฟเหลือเกิน แต่เขาเงียบไว้ไม่ได้เล่าให้นาตาลีฟัง ฮอฟแมนแอบเอายานอนหลับผสมลงในน้ำแล้วให้เธอดื่ม สักพักเธอก็หลับ
ไป ฮอฟแมนกลับไปนั่งทำงานต่อที่โต๊ะ เขามองออกไปที่หน้าต่าง ข้างล่างมันมืดมากมีแสงไฟจากเสาไฟฟ้าที่พอสาดส่องมาให้
เห็น ฝนอยู่ดีๆก็ตกมาอย่างหนักแบบไม่ลืมหูลืมตา ข้างล่างยิ่งมืดยิ่งกว่าเดิม ฮอฟแมนนั่งทำงานจนเวลาล่วงมาถึงตีสอง สักพัก
เขาสังเกตเห็นคนเดินดุ่มๆข้างล่างๆ เขาเห็นชายตัวใหญ่ห้องข้างบนใส่ชุดกันฝนเดินตากฝนไปที่โรงรถแล้วก็ขับรถมาจอดที่หน้า
บ้าน สักพักก็มีเสียงคนขึ้นบันได พร้อมเสียงลากของหนักลงมา “ครืด ครืด” เสียงดังสักพักก็เงียบหายไป ฮอฟแมนมองลงไป
เห็นชายคนนั้นแบกถุงขยะสีดำใหญ่เหมือนถุงศพ ใส่เข้าไปหลังรถแล้วเขาก็ขับรถไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฮอฟแมน
ก็ไม่เคยเห็นหญิงสาวห้องข้างบนอีกเลย

ความคิดรบกวนจิตใจของฮอฟแมนมาก การเรียนก็ยิ่งหนักขึ้น เขาเริ่มทะเลาะกับนาตาลีบ่อยมากขึ้น เขารู้ดีว่านาตา
ลีไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เขาเครียดเรื่องเรียนเลยเอาไปลงที่นาตาลี นาตาลีก็หน้าเศร้าหมองมากขึ้น เธอบอกว่าฝันเห็นชายแก่มา
บีบคอเธอทุกทีเลย หลังจากเรียนเสร็จเขาเดินกลับมาที่บ้านผ่านห้องของลุงสตีฟเขาเปิดประตูเข้าไปมันไม่ได้ล๊อค คราบเลือด
ยังอยู่สงสัยเจ้าของบ้านไม่กล้าทำความสะอาด เขาเดินไปตรงกองเลือดนั้นตะโกนใส่กองเลืด “ลุงสตีฟ ขอร้องอย่ามายุ่งกับเมีย
ผมเลย  ผีก็อยู่ส่วนผี คนก็อยู่ส่วนคน อย่ามายุ่งเลยนะ” แล้วสักพักเขาก็สัมผัสได้ถึงลมพัดผ่านตัวเขาไป มันเป็นห้องปิดแต่ลม
มาจากไหน คิดได้แค่นั้นเขาก็รีบวิ่งไปที่ประตู แต่มันไม่เปิด เขาบิดอย่างสุดแรงและก็รีบวิ่งออกไปจากห้องลุงสตีฟ ด้วยความ
ตกใจ เขาวิ่งไปชนกับชายตัวโตห้องข้างบน มันบอกฮอฟแมนว่า “เดินระวังหน่อยสิวะ” ด้วยความโกรธและตกใจ เขาพูดเสียงดัง
ออกมาว่า “กุรู้นะว่ามิงทำอะไรผู้หญิงคนนั้น มิงฆ่าเธอ กุจะไปแจ้งตำรวจ” แล้วเขาก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบปิดประตูทันที

หลังจากสอบเสร็จเขาทำข้อสอบไม่ได้เลย นาตาลีก็อยากออกไปเดินห้าง “อยากไปก็ไปคนเดียวสิ ผมไม่ว่าง ไม่เห็น
หรอคนทำงานอยู่” เดี๋ยวนี้ทั้งสองคนทะเลาะกันหนักมากขึ้นทุกวัน ดูท่าแล้วคงยากที่จะกลับไปเป็นดังเก่า ด้วยความที่เหนื่อย
จากการสอบเขาจึงสลบไป ตื่นขึ้นมาอีกทีเขาปวดหัว เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมดเหมือนคนทำงานหนัก เขาตื่นมาก็ไม่เห็นนาตาลี
แล้ว “ไปเถอะ จะไปไหนก็ไป” ตอนนี้เขาหายเครียดเรื่องการสอบแล้ว ภาพของอดีตคืนที่เขาเห็นชายตัวโตนำถุงศพใส่ในท้ายรถ
ตามมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง เขาโทรไปที่ 911 “สวัสดีครับคุณตำรวจ ผมมาแจ้งเบาะแสการฆาตกรรมครับ” “ฉันกำลังเรียน
สายกับใครคะ” “ฮอฟแมนครับ” “คุณฮอฟแมนช่วยเล่ารายละเอียดที่เกิดขึ้นให้ดิฉันฟังหน่อยได้ไหมคะ” ฮอฟแมนก็เล่าเรื่องราว
ทั้งหมดที่เขาเห็นให้ตำรวจฟัง “แล้วคุณมั่นใจได้ไงว่าในนั้นมีศพอยู่คะ” “เพราะผมรู้ก็แล้วกัน ทำไมคุณถามอะไรมากมาย
นักหนา แค่ส่งตำรวจมาดูไม่ได้หรืออย่างไร” ฮอฟแมนพูดเสียงดัง “ใจเย็นๆสิคะคุณ ตำรวจมีภารกิจมากมาย ดังนั้นเราต้อง
แน่ใจว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องจริง” “คุณว่าผมโกหกหรอ” “เปล่าค่ะ นั้นถ้ามีสายตรวจแถวนั้นคนไหนว่างฉันจะให้เขาไปตรวจดูนะ
คะ” สามวันผ่านไปกลิ่นของลุงสตีฟโชยมา “ทำไมไม่ให้คนใช้ไปทำความสะอาดนะ” ฮอฟแมนคิด ขณะที่เขานั่งทำงานอยู่ก็มี
คนมาเคาะ นาตาลีคงหายงอนเขาแล้วแน่ๆ เขาดีใจรีบไปเปิดประตู แต่กลายเป็นว่ามีตำรวจสองคนอยู่หน้าประตู “คุณคือคุณ
ฮอฟแมนใช่ไหมครับ” “ใช่ ทำไมตำรวจพึ่งมาผมแจ้งความไปตั้งสามวันแล้ว” “เอ่อ คือ” ตำรวจนายนึงจะพูด “ไม่ต้องพูดอะไร

แล้วคุณตำรวจไปจับไอ้ฆาตกรนั่นกันเถอะ มันอยู่ข้างบนนั่นเอง วันนั้นผมเห็นทั้งสองคนทะเลาะกันอย่างรุนแรง ผมไปเคาะ
ประตูมันก็บอกว่าอย่ามายุ่ง แล้ววันนึงตอนกลางคืนผมเห็นมันแบกถุงศพสีดำใส่ในรถแล้วก็รีบขับรถออกไปตอนกลางคืน มัน
ฆ่าเมียมันครับคุณตำรวจ ไปๆผมจะบอกให้ว่าห้องมันอยู่ตรงไหน ตามผมมาครับ” แล้วฮอฟแมนก็รีบเดินขึ้นบรรไดไปข้างบน
เขาเคาะประตูห้องนั้น สักพักก็มีคนมาเปิดเป็นชายตัวโตคนนั้นนั่นเอง “มีอะไร” “ตำรวจจะมาจับมิงไง ไอ้ฆาตกร” ฮอฟแมนพูด
ชายคนนั้นทำหน้าหงุดหงิดมาก “เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ แกต้องไปนอนในคุกแน่” “ผมขอให้คุณเปิดประตูด้วยครับ” นายตำรวจ
คนหนึ่งพูด ชายคนนั้นเปิดประตู ทั้งหมดเข้ามาอยู่ในห้อง มันเหม็นและมืดมาก ชายตัวโตเดินนำไปที่ห้องหนึ่ง มันคือห้องนอน
ที่เตียงมีคนนอนอยู่ เธอคือเมียของเขานั่นเอง “คุณตำรวจครับ ผมไม่รู้ว่าไอ้ฮอฟแมนมันเป็นบ้าอะไร ผมเจอมันคราวนั้นมันก็
บอกว่าผมฆ่าเมียผม แต่เมียผมอยู่ที่นี่ นอนอยู่นี่ เธอเป็นวัณโรค ผมเฝ้าเธอ เธอไม่สบายมากออกไปไหนได้ ผมคอยซื้อข้าวมา
ให้เธอกินทุกมื้อไม่ได้ขาด ใช่ผมทะเลาะกับเธอ แต่เราดีกันแล้ว” ฮอฟแมนงงไปชั่วครู่ คนที่นอนอยู่คือหญิงสาวคนนั้นจริงๆด้วย
เธอไม่ได้ตายแต่ยังมีชีวิตอยู่ “ผมไม่รู้นะว่าไอ้ฮอฟแมนมันเป็นบ้าอะไรของมัน ทีมันทะเลาะกับเมียของมันผมยังไม่เคยไปยุ่งเลย
ว่าแต่เดี๋ยวนี้เลิกกันแล้วหรอ ไม่เห็นได้ยินเสียงทะเลาะกันอีกเลย” ชายคนนั้นพูด “นาตาลีเธอหนีผมไปแล้ว เธอกับบ้านไปแล้ว”
ฮอฟแมนพูดเบาๆ สักพักตำรวจทั้งสองคนก็มองหน้าเขาเป็นสายตาเดียวกัน “เออ ความจริงแล้วเราสองคนจะมาหาคุณฮอฟ

แมนนั่นแหละครับ ไม่ได้จะมาหาชายคนนี้หรอก ผมจะบอกคุณตั้งแต่แรกแล้วแต่คุณไม่ฟังผมเลย ทางบ้านของนาตาลีเขาแจ้ง
ความว่าเธอหายตัวไม่กลับบ้านมาหลายวันแล้ว เรามาตามหานาตาลีครับ” “เป็นไปไม่ได้ เธอหนีผมไปเมื่อสามวันที่แล้ว” “เธอ
เขียนจดหมายบอกคุณไว้หรือเปล่าครับ” “เปล่า” “นั้นผมต้องขอเข้าไปตรวจสอบในห้องคุณแล้วครับ ฮอฟแมน” ตำรวจพูดขึ้น
ฮอฟแมนเดินกลับมาที่ห้องแล้วตำรวจก็เข้าไปในห้อง ตำรวจค้นหาไปทั่วห้อง แต่ไม่เจออะไร “ผมบอกแล้วว่านาตาลีหนีไปแล้ว
ครับ” ฮอฟแมนพูด ตำรวจค้นหมดทุกที่เหลือแต่ตู้เสื้อผ้าติดกับโต๊ะทำงานที่มันมีกุญแจล็อกอยู่ “ในตู้นั้นมีอะไร”ตำรวจถาม  
“เอ่อก็เสื้อผ้าเก่าๆที่ไม่ใช้อ่ะครับ” “คุณมีกุญแจไหม ไขเปิดให้เราดูหน่อย” “ได้สิครับ” ฮอฟแมนพูดแล้วเขาก็เดินไปหยิบกุญแจ
มาไขตู้เสื้อผ้า เมื่อเปิดออกมา ภาพที่เห็นทำให้ทุกคนตะลึง ศพของนาตาลีเบียดแน่นอยู่ในตู้เสื้อผ้า หน้าของเธอเป็นสีม่วง
ผิวหนังเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็นออกมา ก่อนที่ฮอฟแมนจะรู้ตัวก็มีตำรวจทุ่มเขาลงกับพื้น ใส่กุญแจมือ ฮอฟแมนร้องไห้ “นาตาลี

ใครทำกับเธออย่างนี้ นาตาลี” ฮอฟแมนควบคุมสติอารมณ์ไม่อยู่เขาร้องไห้ ตะโกนโหวกเหวกโวยวายเสียงดัง สภาพศพของนา
ตาลีคอหมุนได้รอบ มีรอยจ้ำสีเข้มที่คอแสดงถึงว่าน่าจะโดนบีบคอตาย “คุณฮอฟแมนคุณเรียนที่ไหน” “แคลเทค” “เปล่าคุณ
ไม่ได้เรียนแคลเทค คุณไม่ได้เรียนต่อปอโทเอกด้วยซ้ำ  คุณเป็นโรคบุคลิกแตกแยก ทุกๆเช้าคุณไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยหรอกแต่
คุณไปศุนย์บำบัดจิต”  “ไม่ ไม่จริงการบ้านฟิสิกส์ผมยังอยู่บนโต๊ะอยู่เลย ตำรวจเดินไปที่โต๊ะทำงานมีแต่หนังสือพิมพ์มากมาย
ถูกตัดตัวอักษร ตัดข้อความแปะลงในสมุดมั่วไปหมด “มันก็แค่หนังสือพิมพ์ครับคุณฮอฟแมน ไม่มีการบ้านอยู่เลย” ใช่จริงๆ
ด้วยมีแต่หนังสือพิมพ์ถูกแปะเต็มไปหมด “ผมไม่ได้ฆ่าเธอ ไอ้ผีบ้าลุงสตีฟต่างหากหล่ะที่บีบคอเธอจนตาย” “ผมเช็คแล้วไม่มีคน
ชื่อสตีฟพักอยู่ในบ้านหลังนี้ครับ ห้องข้างๆนี้เป็นห้องเปล่า วันนั้นเฮนรี่ ชายตัวโตห้องข้างบนเห็นคุณเข้าไปในห้องนั้นเขาจึงตาม
ไปดูเห็นคุณพูดอะไรอยู่คนเดียวก็ไม่รู้ แล้วก็วิ่งมาชนเฮนรี่ที่หน้าประตูพอดี มันไม่มีหรอกครับ ลุงสตีฟ ไม่มีหรอกครับนักเรียน
ปริญญาโท คุณไปบำบัดต่างหาก ผีไม่ได้บีบคอนาตาลีหรอกครับแต่คือคุณ คุณนั่นแหละฆ่าเธอ” แล้วตำรวจก็จับให้ฮอฟแมน
ยืนขึ้นแล้วก็เอามือของเขาไปทาบที่รอยจ้ำตรงคอนาตาลี มันตรงกันเป๊ะ มีรอยนิ้วมือของฮอฟแมนเต็มศพไปหมด ฮอฟแมนก็
กลายเป็นคนบ้ารีบวิ่งหนี แต่ตำรวจสองคนช่วยกันจับเขาไว้ และพาไปที่รถตำรวจที่จอดอยู่ข้างล่าง ฮอฟแมนนั่งอยู่ที่เบาะหลัง
มีลูกกรงกั้นแน่นหนา ตำรวจขับรถออกไปสู่สถานี ระหว่างนั้นเองฮอฟแมนหันกลับมาที่บ้านหลังนั้น เขาเห็นนาตาลีและลุงสตีฟ
เกาะหน้าต่างที่ห้องของเขาบนชั้นสอง และก็ยิ้มร่าโบกมือบ้ายบายเขา จนรถเคลื่อนออกมา ฮอฟแมนยิ้มให้พวกเขาทั้งสอง

                                                                --------------------------------------------


แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 54 02:07:22

จากคุณ : Mr.Feynman
เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 02:05:08




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com