Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เซรีญา The Dragon's Gate (3) ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10109516/W10109516.html

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10161148/W10161148.html

###

เจรามี @ นั่นสิ  อาจจะไม่จำเป็นก็ได้...

แมวแป้ง @ ชีไม่นุ่งกระโจมอกหรอก  ชีเกลียดกระโปรง

ทินา @ ได้ยินเสียงโฮกดังมาแต่ไกลทีเดียวเชียว

คุณ scottie @ รู้สึกว่าจะเป็น v. to be ผันเป็นช่องอนาคต ของภาษาสเปนอะคับ  แต่จริง ๆ คือเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไร
กับสเปนหรอก   จะว่าคิดขึ้นเองก็ได้เหมือนกันเน้อ

เป้ @ หุหุ

คุณซาลาสซา @ ก็ยังไม่โลลิเสียทีเดียวอะค่ะ  มาตรฐานหญิงของแกประมาณ 16 - 22

คุณนริน @ มากาเตรียมลับเขี้ยวได้เลย

คุณไหมฝัน @ ไม่รู้ยาแก้เมาจะช่วยได้ไหมนะเนี่ย...

อมมี่ @ ตัวลีเมอส์สงสัยไม่โผล่ภาคนี้แฮะ   แกกะลังแฮปปี้กะสมบัติของแกอยู่ในภูเขา

น้องเฟย์ @ เอ่อ อ่านจบก็ต่อเลยเรอะ

คุณ chaiyanun @ นั่นแหละค่ะดีแล้ว  เคี๊ยก

คุณ LaGooNz @ ใช่ ๆ ไปโฮกมันเรยย

คุณวารี @ มีแต่คนอยากเห็นเนอะ...

แพร @ หันขวับไปทันที

น้องธาร @ ฟังดูเป็นไอเดียที่ดีนะ

คุณ Canossa @ อย่าให้เป็นกาพย์เลยคับ T-T

คุณ Draconia @ เอ่อ นกเขา...

พี่โร @ อันนี้ต้องอ่านต่อไปเถิด

หน่าจัง @ เหมือนเชียมวยปล้ำเลยตัวเอง  เถื่อนจิง ๆ

คุณ ice_ngungi @ มาแล้วค่า ^^

###

๓.

เมราลคัดเลือกชายหนุ่มหลายคน   เอาที่ลักษณะดีมีเสน่ห์  นิสัยซื่อสัตย์มั่นคง  เธอคิดว่าในโอกาสเช่นนี้ควรต้องเลือกคนที่ผู้หญิงจะต้องตาไว้ก่อน   ภายหน้าหากมีโอกาสได้พบคนลาตามากขึ้น  มีเวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน  รูปลักษณ์ภายนอกก็จะลดความสำคัญลง

ยามเลือกไปเช่นนั้น  เธอก็นึกถึงเกจ  เขาอายุยี่สิบปี  ย่อมอยู่ในกลุ่มด้วย   แต่เกจกลายเป็นคนไม่มีสีเช่นเดียวกับเธอแล้ว  แม้ลักษณะดีไม่ถึงกับขี้ริ้วขี้เหร่  แต่ผิวเผือดและผมสีเงินก็แปลกตาสำหรับคนไม่ชินมากเสียจนตัวเขาเองยังไม่แน่ใจว่าหญิงลาตาจะสนใจตนหรือไม่   ดังนั้นยามถูกเรียกมาพร้อมคนอื่น ๆ ชายหนุ่มจึงไม่ได้คาดหมายอะไร   เขาก็ยืนคุยกับเพื่อนตามสบาย   รอจนเมราลออกมาแล้วจึงคำนับเธอ  แต่สีหน้าสีตาไม่กระตือรือร้นอย่างคนอื่น   ที่จริงแม้จะมีสีผิวแปลกอย่างนี้   แต่เพราะฐานะในเผ่าค่อนข้างดี  ชายหนุ่มจึงยังพอมีหวังว่าอาจได้สมรสกับผู้หญิงโคแรนนิอิดด้วยกัน  ไม่ถึงกับต้องดิ้นรนคับแค้นอะไร

"เกจผมเงิน ไปไหม" เมราลถามยามคัดเลือกชายหนุ่มได้หลายคน

"เกรงว่าผู้หญิงลาตาจะกลัวข้า  เห็นเข้าก็ร้องกรี๊ดหนีเสียก่อน" คนถูกถามอมยิ้ม

"แต่ข้าคิดว่าเจ้าควรไป" หญิงสาวว่า "ข้าจะให้เจ้าเป็นองครักษ์ของท่านผู้เฒ่าที่จะถือหนังสือไปแจ้งเจ้าเกาะสิปา  ไปก่อนล่วงหน้าสักหน่อย  อาจมีสิทธิ์มากกว่าเดิม"

ชายหนุ่มแปลกใจนิดหนึ่ง  แต่ก็รับคำคำนับ  แม้เขาจะไม่มีสีเหมือนเมราล  แต่ร่างกายกลับแข็งแรง  ปัญหาประการเดียวที่ปรากฏให้เห็นคือผิวเป็นผื่นไหม้ได้ง่าย   แต่แพทย์ในเผ่าดูแลเมราลเรื่องนี้มานานแล้ว  จึงปรุงยาพอกที่ให้ผลดีไว้ตั้งแต่หลายปีก่อน   หากเกจดูแลทายาให้ดีก็จะไม่มีปัญหาอะไร   เขาจึงสามารถทำงานในไร่นา  ฝึกอาวุธจนชำนาญหลายอย่าง   เขาเป็นคนเก่งคนหนึ่ง   หัวหน้านายทหารเคลเองก็ยอมรับเช่นกัน

"หากท่านเมราลต้องการให้ข้าไป   ข้าจะเตรียมตัว" เขาว่า "แม้ใช้การอย่างอื่นไม่ได้   แต่จะคุ้มครองท่านผู้เฒ่าให้ดี"

เมราลไม่ได้พูดอะไร   เธอยังไม่อยากให้เกจตกใจนัก   แต่ที่จริงแล้ว หญิงสาวคิดว่าแม้หัวหน้าโรงปลูกพืชจะมีฐานะดีมาก  ทั้งมีความสามารถ   นิสัยนั้นแม้ผู้เฒ่าบางคนจะติเตียนว่าเย่อหยิ่งอวดดี   แต่โดยพื้นฐานแล้วก็ไม่ใช่คนเลวร้าย   คงมีหญิงสาวโคแรนนิอิดยินดีแต่งงานกับเขาหลายคน   แต่เมราลคิดว่าเกจแต่งงานกับคนเผ่าเดียวกันไม่ได้แล้ว   ...เช่นเดียวกับเธอ   ทั้งสองต่างมีความพิกลพิการในสายเลือดมากเกินไป   หากแต่งงานกับคนเผ่าเดียวกันอีก  เลือดจะยิ่งอ่อนแอไปมาก  ลูกหลานที่ออกมาจะมีความไม่สมประกอบในตัว

พิธีจันทร์เพ็ญจัดในวันเพ็ญเดือนหน้า   แต่เมราลถือโอกาสนี้แต่งหนังสือไปหาผู้ปกครองเกาะสิปา   เธอตั้งให้ผู้เฒ่าที่มีความสามารถในการเจรจาเป็นทูต   และในขบวนนั้น  หญิงสาวก็ให้ชายหนุ่มหลายคนที่เธอเลือกไว้รวมทั้งเกจไปด้วยกัน  เธอบอกทุกคนว่าให้พยายามเป็นมิตรกับคนสิปาเข้าไว้   หากพบหญิงที่ต้องใจก็เจรจาด้วยได้   แต่อย่าเพิ่งถึงขั้นเกี้ยวพาราสี   พวกหนุ่ม ๆ ย่อมกระตือรือร้นที่จะได้พบหญิงสาวต่างเผ่า   คนในหมู่เกาะลาตาผิวสีน้ำผึ้ง  ผมดำ  ตาคม  แต่คนละแบบกับพวกอันเซลมา   ผู้หญิงลาตาชอบแต่งกายฉูดฉาด   ให้ความรู้สึกเหมือนดอกไม้งดงาม

"ท่านคิดว่าคนลาตาจะเลือกเราไหม" คนของเธอคนหนึ่งเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ "ข้าได้ยินว่าที่เมืองลาตา  ผู้ชายเป็นใหญ่   ผู้หญิงจะไม่ออกหน้า   หากบิดาและพี่ชายของพวกนางบอกไม่ให้เลือกคนโคแรนนิอิด  ก็อาจไม่มีใครเลือกเราเลยก็ได้   อีกอย่างหนึ่ง เราก็เป็นคนแปลกหน้า  ไม่มีทรัพย์สินเงินทองจะให้   ทั้งรูปร่างหน้ายังประหลาดมากสำหรับเขา"

"คนโคแรนนิอิดก็มีความดีอย่างที่คนโคแรนนิอิดมี" เมราลตอบ "แต่ข้าก็คิดเรื่องนี้เช่นนั้น   จึงต้องส่งขบวนทูตล่วงหน้าไป"

...

คนเกาะสิปาเองย่อมได้รับสาสน์จากเจ้าเกาะลาตาล่วงหน้า   ที่จริงแล้ว คนส่วนใหญ่ไม่พอใจมาก  พิธีจันทร์เพ็ญเป็นพิธีสำคัญ   แต่ละปีจัดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น   ถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ที่แม่แห่งแผ่นดินจะอวยพรให้คนหนุ่มสาว  เจ้าเกาะลาตายอมให้คนต่างเผ่ามาแปดเปื้อนเช่นนี้   ควรถือว่าลบหลู่ดูหมิ่นศักดิ์ศรีกันมาก

อย่างไรก็ตาม เพราะเกาะสิปาถูกลาตาปราบเป็นเมืองขึ้นมาหลายสิบปีแล้ว   จึงไม่มีใครกล้าคัดค้านโต้แย้งอะไร  กระนั้นเมื่อข่าวแพร่ออกจากเรือนเจ้าเกาะสิปาสู่ชาวบ้านร้านถิ่น   คนทั้งหลายก็พากันวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้  ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าคนโคแรนนิอิดประหลาดจากเกาะมังกรขาวไม่ควรได้หญิงสิปาดี ๆ ไป   ผู้คนจึงพากันห้ามปรามไม่ให้บุตรหรือพี่สาวน้องสาวตนคิดเลือกคนเหล่านั้น   แต่งเรื่องราวมาขู่เสียมากมาย  เช่น ได้ยินว่าคนโคแรนนิอิดเป็นเผ่าชั่วร้าย   เคยจะยึดครองดินแดนอื่น   อาจคิดไม่ดีกับเกาะสิปาก็ได้    หรือว่าคนโคแรนนิอิดหน้าตาประหลาดอย่างยิ่ง   รูปร่างก็เล็ก   ผมหรือตาล้วนสีประหลาดพิลึก   หากแต่งงานด้วยคงมีเด็กประหลาด ๆ ออกมา   ชั่วไม่นานข่าวร่ำลือดังกล่าวก็ถูกใส่สีตีไข่   คนโคแรนนิอิดในเรื่องเล่าจึงเริ่มเหมือนยักษ์มารหนักข้อขึ้นทุกที

"พวกประหลาดอย่างนั้นหากอยากได้ผู้หญิงของเรา   ก็เอาที่ขี้ริ้วขี้เหร่ดูไม่ได้   หรือที่เป็นสาวเทื้อไม่มีใครต้องการไปแล้วกัน" คนเกาะสิปาพากันหัวเราะเช่นนั้น   เพียงสัปดาห์เดียวคำว่าโคแรนนิอิดก็กลายเป็นคำล้อเลียนกระทบกระเทียบขึ้นมา  เช่นว่าแต่งตัวดูไม่ได้ กิริยามารยาทไม่ดีเช่นนี้  จะแต่งงานกับคนโคแรนนิอิดหรืออย่างไร   หรือนางทำตัวไม่อยู่กับร่องกับรอยมาก  คงไม่มีใครรับไปเป็นภรรยา   แต่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ  ถึงอย่างไรพวกโคแรนนิอิดก็คงจะเอา

กระนั้น ยิ่งคำเช่นนี้กระพือพัดไปทั่วเกาะสิปามากเท่าไร   ผู้คนก็อยากเห็นหนักขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันว่าที่แท้คนโคแรนนิอิดรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่   จะเหมือนปีศาจน่าเกลียดพิกลพิการจริงดังคำชาวบ้านร้านตลาดลือกันหรือไม่   ด้วยเหตุนี้  ยามมีข่าวแจ้งว่ามีทูตโคแรนนิอิดมา   ชาวเกาะสิปาจึงพากันแห่แหนไปมุงดูที่ท่าเรือแทบมืดฟ้ามัวดิน

ขณะที่พวกชาวสิปาตื่นเต้นอยากเห็นคนประหลาดเช่นนี้   หนุ่ม ๆ จากโคแรนนิอิดซึ่งแล่นเรือมาใกล้เกาะแล้วก็ตื่นเต้นเช่นกัน   ผู้เฒ่าซีเกที่มาเป็นทูตจึงปล่อยให้คนของตนไปชุมนุมตรงดาดฟ้าเรือตามชอบใจ  คราวนี้พวกเขาเดินทางด้วยเรือขนาดเล็กเสาเดียว  ซึ่งต่อขึ้นภายหลังเรือมังกรขาว   แต่ก็ทำหัวเรือเป็นรูปมังกรเช่นกัน

พวกชายหนุ่มโคแรนนิอิดส่วนใหญ่ค่อนข้างกังวลไม่น้อย   ความกังวลก็ทำให้บางคนเงียบขรึม   บางคนคุยโม้โอ้อวดมากเป็นพิเศษ   มีบางคนที่ตึงเครียดกดดันเช่นกัน   ส่วนหนึ่งก็เพราะรู้สึกว่าเป็นหน้าที่สำคัญ และส่วนหนึ่งเพราะไม่เคยมีใครติดต่อกับคนต่างเผ่าจริงจังมาก่อนเลย

"เกจ  คนเผ่าอื่นเป็นอย่างไร" วิเทนจากครอบครัวช่างต่อเรือถามขึ้น  เขามาจากตระกูลต่อเรือก็จริง  แต่เพราะหลายปีนี้ไม่มีการใช้เรืออย่างจริงจัง   พวกช่างต่อเรือจึงแยกย้ายกันไปทำงานอื่น ๆ หลากหลาย  ส่วนใหญ่เป็นช่างก่อสร้าง  วิเทนเองนอกจากก่อสร้างแล้วก็ช่วยเกจวางแผนเพาะปลูกพืชพรรณ   เขายังมีความรู้เรื่องหนังสือดีมากเพราะชอบอ่านแต่เยาว์วัย  อาลักษณ์ใหญ่ของเผ่าก็ชอบใช้ให้ช่วยทำบันทึกต่าง ๆ

"เหตุใดมาถามข้า" เกจเลิกคิ้ว

"ก็มีแต่เจ้าที่เคยพบคนเผ่าอื่นนาน ๆ ...เจ้าหญิงปักษาเพลิงแห่งอันเซลมานั่น"

คนอื่น ๆ ได้ยินเขาพูดจากัน   ก็สนใจเร่เข้ามามุงฟัง   เกจมองไปรอบ ๆ ออกจะมึนขึ้นมาเหมือนกัน...สรุปแล้วเขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเผ่าอื่นแต่เมื่อไร

"เจ้าหญิงเซรี...ก็เป็นคนพอใช้ได้  ตอนนั้นนางเด็กเกินไป  ตัดสินใจผิดพลาดบ้าง  แต่..."

ชายหนุ่มนิ่งไปชั่วขณะ  แม้จนบัดนี้เขาก็ยังบอกไม่ถูกว่ารู้สึกกับเจ้าหญิงแห่งอันเซลมาอย่างไร   ในใจเขายังคงมีความโกรธแค้นและผิดหวังหลงเหลืออยู่   แม้จะไม่มากนัก  ทว่าก็เจือให้มีรสขมขื่นจาง ๆ  เซรีทรยศเขา  ที่จริง...คิดฆ่าเขาด้วยซ้ำกระมัง   สิ่งที่เธอทำส่งผลให้เขากลายเป็นคนไม่มีสีมาจนบัดนี้   ไม่มีทางแก้ไขได้   แต่อีกใจหนึ่ง  ชายหนุ่มก็เข้าใจเจ้าหญิง   เขาเองเคยคิดทรยศเธอเช่นกัน   การเป็นสหายระหว่างศึกเป็นเรื่องยากลำบาก  จะว่าเธอผิดเต็มปากก็ไม่ได้   ตอนนั้นเธออายุสิบเจ็ดปี   แม้เมื่อยามเกจอายุสิบสาม   เธอจะดูเป็นผู้ใหญ่   แต่เมื่ออายุยี่สิบปีและมองกลับไปเช่นนี้   เขาก็เห็นความทุกข์ใจของเซรีที่ต้องแบกสิ่งซึ่งแทบเกินกำลังตน

"แต่นางเป็นคนดี" ชายหนุ่มตัดสินใจบอกในที่สุด "ข้าคิดว่าคนต่างเผ่าส่วนใหญ่ก็เหมือนเรา   แม้ต้องใช้เวลาพูดคุยเจรจาให้เข้าใจกันบ้าง   แต่เรื่องอื่น ๆ ก็คล้าย ๆ กัน   พวกเจ้าอย่าเป็นห่วงเลย"

พวกเพื่อน ๆ พากันโห่ว่าพูดอะไรไม่เห็นมีประโยชน์สักอย่าง   เกจก็โบกมือไปมา   บอกเรื่องอะไรพวกเจ้ามาถามข้าเล่า   คนลาตาเหมือนคนอันเซลมาเมื่อไรกัน   อยากจะเกี้ยวหญิงก็ไปพยายามกันเอง   พึ่งพาคนอื่นได้อย่างไร

"เจ้าไม่คิดเกี้ยวใครหรือ" วิเทนถาม "ผู้หญิงลาตาสวยดี   เขาว่าพวกนางทำอาหารอร่อยด้วย   อาหารลาตามีรสดีมาก"

"ข้าไม่ได้เห็นแก่กินอย่างเจ้า" เกจหัวเราะ   ที่จริงเขาก็ยังไม่คิดแต่งงาน   ยังมีเรื่องต้องทำมากเกินกว่าจะตั้งครอบครัวมีบุตรธิดา   เกจมาจากบ้านที่บิดามารดาแยกกัน   ครอบครัวแตกสลาย  เขาไปทางหนึ่ง  น้องสาวก็ไปอีกทาง  ดังนั้นลึก ๆ จึงค่อนข้างกังวล   ชายหนุ่มหวังว่าจะมีครอบครัวที่ดีให้ได้   เขาต้องการความสมบูรณ์แบบมากเกินกว่าจะคิดลองผิดลองถูกอะไร

"พวกเขาคงเห็นเราเป็นตัวประหลาดจริง ๆ" วิเทนบอก  ป้องตามองฝั่งที่เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ "มาชุมนุมกันมากมายราวกับจะมีพิธี"

เกจยิ้ม  ไม่พูดอะไร   สายตาเขามองฝั่ง   แต่ในใจนึกถึงเจ้าหญิงเซรี   ป่านนี้เจ้าหญิงก็คงเติบโตแล้วไม่ใช่หรือ  คงเปลี่ยนไปมาก   แม้มีความขมขื่นอยู่   แต่เขาก็อยากทราบว่าเธอจะเป็นอย่างไร   ท่านเมราลไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย

................................................................................................

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 15:23:43




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com