บทนำ : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10181626/W10181626.html
1
เหตุผลที่เราต้องศึกษาประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับสัจธรรมของเวลาที่ว่า อดีตคือสิ่งที่ผ่านพ้นไป ปัจจุบันอยู่ในมือของเราและอนาคตคือความลับ
เจ้าของคำพูดคือชายหนุ่มวัยใกล้สามสิบ สวมเสื้อเชิ้ตสีครีมแขนยาวกับกางเกงสแล็คสีดำรีดเรียบ แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาประหนึ่งฝาแฝดของทาเคชิ คาเนชิโร่ ทำให้รองศาสตราจารย์ไศลา เมธานุวัฒน์แทนที่จะดูภูมิฐานเรียบร้อยตามแบบบุคลิกลักษณะของอาจารย์ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยกลับดูคล้ายกับซุปเปอร์สตาร์เดินออกมาจากนิตยสารดาราเพื่อมาสอนหนังหนังสือให้นักศึกษาเสียมากกว่า
ดวงตาหลังเลนส์ทอดมองเหล่าผู้ฟังทำหน้าฉงนฉงายก่อนจะกระแอมหนึ่งครั้งหลังจากสบแววตาหวานเยิ้มจากกลุ่มนักศึกษาสาวหน้าห้อง
เพราะเราไม่รู้อนาคต เราจึงต้องเรียนรู้อดีตเพื่อที่จะทำนายอนาคต แล้วใช้ปัจจุบันกำหนดอนาคตอีกที
นักศึกษาชายร่างท้วมผิวคล้ำยกมือ
อาจารย์หมายความว่าเราสามารถกำหนดอนาคตโดยการเรียนรู้อดีตหรือครับ
ในทางปฏิบัติอาจไม่เสมอไป แต่เพราะประวัติศาสตร์ไม่ได้มีเพียงเรื่องดี การเข้าใจประวัติศาสตร์อย่างน้อยก็จะช่วยให้เรารู้ว่าทำอย่างไรประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย
นักศึกษาหลายคนพยักหน้ารับ
พวกเธอเคยได้ยินคำพูดนี้ไหม แม้อดีตจะคือเงาของอนาคตแต่ปัจจุบันคือตัวกำหนดถึงแม้ว่าอนาคตจะเป็นความลับสำหรับพวกเราทุกคน คือสิ่งที่เราไม่อาจล่วงรู้และควบคุมได้ก็จริง แต่อนาคตที่เลวร้ายไม่ใช่สิ่งที่ใครปรารถนา นี่เป็นเหตุผลอย่างดีสำหรับข้อสงสัยที่ว่า..ทำไมเราต้องศึกษาประวัติศาสตร์
อรินเงยหน้าขึ้นมาจากสมุดจดเลคเชอร์ บนดวงหน้าขาวกระจ่างปรากฏรอยยิ้มอ่อนจาง รู้แก่ใจว่าตนเองนั้นแตกต่าง เธอไม่ได้กระโจนลงมาเป็นนักศึกษาในภาควิชาประวัติศาสตร์ด้วยเหตุผลนั้น
เอาล่ะ วันนี้เราเรียนประวัติศาสตร์ในยุคโบราณจบลงครึ่งหนึ่งแล้ว คาบหน้าอาจารย์จะวัดผลครั้งที่สอง เก็บสิบคะแนนสำหรับประวัติศาสตร์ในยุคโบราณครึ่งแรก เนื้อหาตั้งแต่อาณาจักรบนดินแดนเมโสโปเตเมีย โดยเฉพาะอาณาจักรบาบิโลเนียและอัสซีเรีย ไปอ่านมาให้ดี ตรงนี้จะลงสักห้าคะแนน อีกห้าคะแนนเป็นเรื่องราวของอาณาจักรอียิปต์โบราณตั้งแต่ยุคเริ่มก่อสร้างอาณาจักรกระทั่งสิ้นสุดจักรวรรดิ ข้อสอบมีสามข้อ เป็นการตอบคำถามแบบเรียงความ อธิบายอย่างละเอียด ความยาวหนึ่งถึงสองหน้ากระดาษต่อข้อ เวลาสอบทั้งหมดสามชั่วโมง
นักศึกษาหลายคนก้มหน้าก้มตาจดคำบอกใบ้ข้อสอบเก็บคะแนนลงในสมุดประจำตัว ในขณะที่นักศึกษาสาวกลุ่มเดิมยังคงชายสายตาหวานปานหยาดน้ำเชื่อมมายังอาจารย์ซึ่งคราวนี้..ชายหนุ่มยิ้มรับก่อนจะกล่าว
จดตามเพื่อนด้วยครับ แก้วตา หวันยิหวา ดาหลา อัจฉรา เบญจาภรณ์ ลำพังแค่ความสวยไม่ได้ช่วยเรื่องคะแนนสอบและคะแนนจิตพิสัยนะครับ
หลังจากเสียงหัวเราะคิกคักของนักศึกษาในห้องจางลง ก็ตามมาด้วยกำหนดการเรียน
หลังจากสอบเสร็จ เราจะเรียนอารยธรรมกรีก เริ่มตั้งแต่อารยธรรมของชาวมิโนอัน ไมซีเนียน เรื่อยไปถึงกรีกยุคนครรัฐ เรื่องราวของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์และจักรวรรดิของชาวมาซิโดเนียน และเราจะจบประวัติศาสตร์ในยุคโบราณเมื่อจักรวรรดิโรมันล่มสลาย
กำหนดการที่บอกนั้น คือหน้าที่ของนักศึกษาที่ต้องศึกษามาล่วงหน้า
โอเค ปิดหนังสือ ปิดสมุด ไหนๆก็ไหนๆ วันนี้เราจบเร็ว เวลายังเหลืออีกมาก อาจารย์จะเล่าอะไรให้ฟังเรื่องหนึ่ง คิดว่าคงเป็นประโยชน์ต่อพวกเธอ เพราะปีหน้ามหาวิทยาลัยของเราได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์อนาโตเลียโบราณของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ท่านจะมาสอนที่นี่เป็นเวลาหนึ่งภาคเรียน
เสียงพูดคุยดังขึ้นมาทันที เนื่องจากข่าวนี้ช่างคล้ายกับความฝันเลื่อนลอยที่กลายเป็นจริงเมื่อมหาวิทยาลัยชื่อดังอันเป็นคลังความรู้ทางประวัติศาสตร์และวรรณคดีของโลกอย่างอ็อกซ์ฟอร์ดจะส่งบุคคลระดับศาสตราจารย์มาสอนนักศึกษาที่ประเทศไทย
เพราะภาควิชาประวัติศาสตร์ของเรา ถึงแม้จะมีหลักสูตรที่สอนประวัติศาสตร์โลกในยุคโบราณอย่างอียิปต์ บาบิโลนและอัสซีเรีย แต่ยังไม่เคยเปิดสอนวิชาประวัติศาสตร์ของอนาโตเลีย แต่บุคลากรชาวไทยที่มหาวิทยาลัยได้สำรวจมาล้วนมีความรู้เพียงผิวเผิน เราไม่มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ ทางมหาวิทยาลัยจึงส่งคนไปทาบทามศาสตราจารย์บราวน์ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด โชคเข้าข้างเรา ท่านตกลงมา
ศาสตราจารย์บราวน์เป็นคนเขียนหนังสือ The Ancient Kingdom Of Anatolian ใช่ไหมคะอาจารย์
สีหน้าตื่นเต้นของคนถามบอกได้ว่าเจ้าตัวเป็นแฟนพันธุ์แท้ของคนที่ถามถึง
ใช่ครับ
หนูเคยอ่านหนังสือของท่านค่ะ ท่านจะมาจริงๆหรือคะนี่ เท่าที่หนูรู้ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์อนาโตเลียที่เก่งที่สุดในโลกในตอนนี้ ชื่อเสียงของท่านโด่งดังมาก
ไศลายิ้มพลางพยักหน้ารับ
โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาถึงเมืองไทยง่ายๆ ถ้าเธอสนใจ เตรียมตัวให้พร้อมและตามข่าวได้ทุกวินาทีว่าทางมหาวิทยาลัยจะประกาศให้ลงทะเบียนเรียนเมื่อไร อาจารย์เชื่อว่าคู่แข่งของเธอเยอะแน่ๆ ดีไม่ดีถ้าเกินจำนวนมากๆอาจต้องสอบคัดเลือก
นักศึกษาคนนั้นพยักหน้ารับอย่างกระตือรือร้น
โอเค ต่อไปเรื่องของอาจารย์ อาจารย์เพิ่งกลับมาจากตุรกีเมื่อวานนี้
ของฝากล่ะคะ!
เสียงใสๆที่โพล่งออกมาทำเอานักศึกษาคนอื่นฮาครืน เนื่องจากรองศาสตราจารย์ท่านนี้เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้มีวัยห่างจากนักศึกษาปีหนึ่งเกินสิบปี ความสนิทชิดเชื้อกับลูกศิษย์ของตนจึงมีมากกว่าอาจารย์รุ่นอาวุโสท่านอื่น
ทิฆัมพรครับ ที่จะเล่านี่ไงของฝากอาจารย์กำลังจะบอกว่าที่อาจารย์หายไปสามวันเพราะอาจารย์ไปร่วมฟังการประชุมวิชาการในวาระครบรอบการขึ้นทะเบียนนครฮัตตูซาเป็นมรดกโลก
นักศึกษาหลายคนยังทำหน้างุนงง ในขณะคนที่เคยอ่านหนังสือของศาสตราจารย์บราวน์มาแล้วกลับเข้าใจได้ทันที
ฮัตตูซาคือเมืองหลวงของอาณาจักรฮิตไทต์ ศัตรูตัวฉกาจของอียิปต์โบราณ!
คนเป็นอาจารย์พยักหน้ารับแทนคำตอบว่าถูกต้อง
ใช่ กษัตริย์แห่งฮิตไทต์เคยรบกับฟาโรห์แห่งอียิปต์
อรินเอียงคอสงสัยเพียงลำพัง
เธอรู้จักคำว่าฮัตตูซา..รู้จักดีทีเดียว แต่คล้ายไม่คุ้น กับคำว่า ฮิตไทต์
จริงสิ ในหนังสือที่เคยอ่านผ่านตา เคยมีคนให้คำนิยามความหมายของคำว่าฮิตไทต์ (Hittite) ไว้ว่า คำเรียกในภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกผู้คนที่ใช้ภาษาในตระกูลอินโด-ยูโรเปียนซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่บนพื้นที่ตอนกลางของคาบสมุทรอนาโตเลีย ในวงโค้งของแม่น้ำฮาลิสหรือแม่น้ำแดงหรือKızılırmak ในภาษาตุรกี ซึ่งคำนี้ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิล Genesis 10 ใน The Table of Nation อันว่าด้วยบรรพบุรุษและความสัมพันธ์ฉันท์เครือญาติของเชื้อชาติต่างๆ
แต่ไม่มีผู้รู้แน่ชัดว่า..ในยุคนั้น ชาวฮิตไทต์เรียกตนเองว่าอย่างไร
ถึงกระนั้น หลักฐานทางประวัติศาสตร์พบเอกสารที่เขียนด้วยอักษรเฮียโรกลิฟจากเมืองอาเลปโป(Aleppo)และฮามาท(Hamath) ซึ่งรายงานถวายฟาโรห์อเมนโฮเทปที่สาม ได้กล่าวถึงอาณาจักรของชาวฮิตไทต์โดยใช้คำเรียกว่าอาณาจักรแห่งคีตะ (Kingdomof Kheta) และดินแดนแห่งฮัตติ (The land of Hatti)
และต่อมาก็ปรากฏหลักฐานในสมัยฟาโรห์ราเมเซสที่สองว่าชาวอียิปต์โบราณเรียกกลุ่มชนดังกล่าวในภาษาของตนว่าชาวฮัตติ
อาณาจักรแห่งคีตะกับดินแดนแห่งฮัตติอย่างนั้นหรือ
ไม่หรอก ชาวฮิตไทต์ กับชาวฮัตตินั้น จริงๆไม่ใช่คนกลุ่มเดียวกัน
ฮิตไทต์เป็นชนเผ่านักรบ แต่ฮัตติเป็นชนเผ่าที่มีความสามารถในก่อสร้างและทำวัตถุโลหะ
คำถามที่อยู่ในดวงตาของพวกเธอคือ ชาวฮิตไทต์เป็นใคร เอาล่ะ เรารู้กันอยู่แล้วว่าจักรวรรดิที่ทรงอำนาจก่อนยุคพระคัมภีร์ไบเบิลมีบาบิโลเนีย อัสซีเรียและอียิปต์โบราณ แต่ด้วยข้อสังเกตบางประการในหมู่ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์พบว่าทั้งสามจักรวรรดิดังกล่าวต่างเล่าขานเรื่องราวของจักรวรรดิที่สี่ซึ่งหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ แต่หลังจากตั้งสมมุติฐานและผู้เชี่ยวชาญทุ่มเทความพยายามค้นหา ในที่สุด เหมือนพระเจ้าเข้าข้าง เราได้ค้นพบบันทึกดินเหนียวแผ่นหนึ่งซึ่งพวกเขาสันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นราวหนึ่งพันห้าสิบเจ็ดถึงห้าร้อยห้าสิบเจ็ดปีก่อนคริสตกาล
บันทึกดินเหนียวแผ่นนั้นเขียนด้วยอักษรลิ่ม ด้วยไวยากรณ์มาตรฐานตามแบบภาษาของชาวอัคคาเดียน แต่ผู้ที่สามารถอ่านภาษาอัคคาเดียนได้กลับไม่เข้าใจความหมายและไม่รู้ว่ามันคือภาษาอะไร
เหมือนกับที่เราอ่านภาษาที่ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ อ่านได้แต่ไม่เข้าใจเพราะว่าภาษานั้นไม่ใช่ภาษาอังกฤษใช่ไหมครับ
อาจารย์หนุ่มปรบมืออย่างถูกใจ เป็นเหตุให้นักศึกษาทั้งห้องปรบมือชื่นชมตาม
ถูกต้อง วัลลภ เธอเปรียบเทียบได้ดีมาก คะแนนจิตพิสัยที่หักไปเมื่อคาบที่แล้ว อาจารย์คืนให้
ขอบคุณครับ!
หลังจากสืบค้นถึงที่มาของมัน บันทึกแผ่นนั้นก็นำเราไปพบซากของนครฮัตตูซา เมืองหลวงของจักรวรรดิฮิตไทต์ จักรวรรดิที่สี่ที่ทรงอำนาจไม่แพ้สามจักรวรรดิที่เรารู้จัก
คนพูดย้ายร่างไปอยู่หน้ากระดานไวท์บอร์ดและลากปากกาวาดแผนที่อยู่ชั่วอึดใจ คาบสมุทรอนาโตเลีย ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและพื้นที่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกาก็ปรากฏขึ้นมา
ตรงนี้แม่น้ำฮาลิส และตรงนี้คือฮัตตูซาแล้วกวาดปากกาวาดวงกลมล้อมคาบสมุทรอนาโตเลียทั้งหมด รวมทั้งวงกลมอีกวงคลุมพื้นที่ว่างทางตะวันออกเรื่อยมาถึงดินแดนบางส่วนทางใต้
ทั้งหมดนี่คือจักรวรรดิฮิตไทต์
นักศึกษาหลายคนตาโตกับข้อมูลที่เพิ่งได้รับ ในขณะที่รอยยิ้มจางๆเผลอปรากฏบนริมฝีปากของอริน ในหู คล้ายได้ยินใครสักคนกล่าวคำอธิบายอยู่ข้างๆ
กษัตริย์แห่งวิลูซาเสด็จมาเยือนเพื่อแสดงพระองค์อย่างซื่อสัตย์ว่าสวามิภักดิ์ อาร์ซาว่าทางตะวันตกยอมศิโรราบหลังจากพ่ายสงคราม มิทันนีทางตะวันออกสิ้นชาติไปหนึ่งครั้งก่อนจะก่อร่างสร้างอาณาจักรขึ้นใหม่ในฐานะเมืองประเทศราช แม้แต่บาบิโลเนียและอัสซีเรียที่เป็นอิสระยังน้อมส่งเครื่องราชบรรณาการถวายกษัตริย์แห่งฮัตตูซา
จักรวรรดิของพวกเขารุ่งเรืองมาพร้อมกับอาณาจักรอียิปต์โบราณ หลังจากความรุ่งโรจน์ของจักรวรรดิบาบิโลเนียและก่อนจักรวรรดิอัสซีเรียจะเกิดขึ้น แต่เรื่องราวของพวกเขากลายเป็นตำนานที่หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์หลังจากที่..นครฮัตตูซาถูกเผาจนสิ้นซาก
ถึงแม้จะแน่ใจว่าเรื่องราวที่กำลังได้ยินไม่ใช่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเธอเลย แต่ความรู้สึกนี้ มันก็เหมือนกับวันนั้นในวัยเจ็ดขวบ วันที่เธอวิ่งไปเกาะขอบทีวีด้วยความตื่นตกใจในขณะที่กำลังดูสารคดีของดิสคัฟเวอร์รี่ แชนแนล
ฮัตตูซาถูกเผาจนสิ้นซาก
จากก้นบึ้งของหัวใจ เธอเชื่อตลอดมาว่าฮัตตูซาจะไม่มีวันถูกทำลาย ศิลานครแห่งนี้จะเป็นอมตะ เนื่องจากทั้งเมืองถูกสร้างจากหินอัคนีสีน้ำตาลแดง กำแพงเมืองหนากว่าแปดเมตรสร้างจากหินแกรนิตที่คัดเลือกแล้วว่าแกร่งที่สุดก่อนจะฉาบทับด้วยปูนโบราณที่นักประวัติศาสตร์ในปัจจุบันต่างลงความเห็นว่าความแข็งแรงนั้นแกร่งยิ่งกว่าคอนกรีต
แผนผังเมืองถูกวางดุจเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ ทุกสิบสองเมตรคือหอสังเกตการณ์ที่สูงถึงสามสิบเมตร ตามไฟตลอดเวลามิว่าจะกลางวันหรือกลางคืน อุโมงค์ลับอีกแปดแห่งสำหรับซ่อนกำลังทหาร ทั้งหมดล้วนเป็นกับดักประหารของผู้ที่กล้าบุกรุกเข้ามา
เมืองนี้สร้างด้วยมือและมันสมองของชาวฮัตติซึ่งโจษจันกันว่าเป็นนักก่อสร้าง ช่างหินและช่างโลหะที่เก่งที่สุดในอนาโตเลียยุคนั้น
ในก่อนกาล..มิว่าจะเคยรู้สึกเช่นใด ทว่าเมื่อถึงวันนี้ หญิงสาวยอมรับ ในโลกนี้ไม่มีฮัตตูซาอีกแล้ว นครที่ชาวฮิตไทต์เชื่อมั่นว่าจะคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์ เหลือแค่ ซากกำแพงและเศษหินกองเกะกะเกลื่อนกลาดบนพื้นหญ้าสีเขียว
เหลือเพียงแค่ตำนานให้สายลมแห่งอนาโตเลียเล่าขาน..
การค้นพบซากเมืองฮัตตูซาเป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่เพราะเราได้ค้นพบห้องสมุดของชาวฮิตไทต์ถึงห้าแห่งที่นั่น พบเอกสารที่เป็นบันทึกแผ่นดินเหนียวทั้งที่เป็นภาษาของชาวฮิตไทต์และภาษาบาบิโลเนียน พบอักษรภาพที่จารึกไว้บนผนังหิน ถึงแม้ว่าพวกเราจะได้ข้อมูลของอาณาจักรนี้มากพอสมควร แต่เรายังไม่มีข้อมูลของอาณาจักรนี้ในภาษาไทยมากนักเพราะฉะนั้นใครที่อ่านภาษาอังกฤษได้คล่องจะได้เปรียบแล้วล่ะ
เสียงโอดครวญกระหึ่มไปทั่วห้อง
โอย ภาษาอังกฤษเหรอ!
คนเป็นอาจารย์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
พวกเธอต้องเรียนวิชาประวัติศาสตร์โลกแท้ๆ ทำไมไม่หัดอ่านภาษาอังกฤษกันบ้าง!
นี่ อริน ถ้าปีหน้าศาสตราจารย์บราวน์จะมาสอนที่นี่จริงๆ เธอต้องติวภาษาอังกฤษให้ฉันบ้างแล้วล่ะ ได้ข่าวว่าการสอบการฟังครั้งแรกเธอได้คะแนนเต็มนี่ น่าอิจฉาจังเลยน้า..คนเก่งภาษาอังกฤษนี่ดูเท่ดีจัง
อรินยิ้มรับคำพูดเพื่อน
ไม่หรอก ฉันก็ต้องพยายามมากเหมือนกัน
เหรอ แต่เท่าที่ฉันเห็น มันง่ายสำหรับเธอเหลือเกิน นี่เธอเคยไปอยู่ต่างประเทศมาหรือเปล่า
เปล่าจ้ะ
นี่ไงที่น่าอิจฉา ไม่เคยไปอยู่ต่างประเทศแต่ฟังพูดได้เจ๋งไม่ผิดเจ้าของภาษา
หญิงสาวยิ้มเจื่อนๆเพราะไม่รู้ว่าคู่สนทนารู้สึกเช่นไรกันแน่ถึงได้พูดอย่างนั้น ถึงกระนั้นมันก็เป็นความจริงที่เธอได้ชื่อว่าเป็นคนที่ฟัง พูด อ่านและเขียนภาษาอังกฤษได้เก่งกาจอย่างหาตัวจับยากคนหนึ่ง แต่อรินไม่เคยภาคภูมิใจกับความสามารถนี้ของตนเอง คำพูดของอาจารย์เพื่อนนักศึกษากลับกระตุ้นเตือนเธอให้นึกขึ้นได้ว่า..มากกว่าครึ่งหนึ่งของความสามารถนี้นั้น เธอได้มาอย่างไม่ชอบธรรม
ถ้ามันไม่ใช่ พรสวรรค์ มันก็คงเป็น ความสามารถพิเศษที่พระเจ้ามอบให้เธออย่างลำเอียงต่อมนุษย์คนอื่น เพราะอย่าว่าแต่ภาษาอังกฤษ ทักษะทั้งสามของการใช้ภาษาได้แก่ การฟัง การพูดและการอ่าน ตั้งแต่จำความได้ เธอไม่เคยเจออุปสรรคเกี่ยวกับภาษาใดๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษาฝรั่งเศส ภาษาสเปน ภาษาเยอรมัน ภาษาฮินดี ฯลฯ
เธอไม่เคยได้ยิน ไม่เคยเรียน ไม่เคยรู้จักภาษาเหล่านั้น แต่เธอเข้าใจ ราวกับว่าเธอสามารถเข้าใจได้ทุกภาษาหากที่มีคนต้องการติดต่อสื่อสารกับเธอ หากเป็นการพูด เธอจะสามารถโต้ตอบกับคนคนนั้นด้วยภาษาเดียวกัน หากเป็นการอ่าน เธอจะสามารถเข้าใจความหมายของตัวอักษรในทุกภาษาไม่ว่าเธอจะเคยเรียนภาษานั้นมาก่อนหรือไม่ก็ตาม
มันไม่ใช่ความสามารถของคนปกติ เธอรู้ดี แม้ในยามไร้เดียงสาอาจพลั้งเผลอจนทำให้คนแตกตื่นกันไปทั้งบ้าน แต่เมื่อโตขึ้นมา ได้เห็นใบหน้าพิศวงปนหวาดกลัวของชายหญิงที่เป็นทั้งพ่อและแม่ เธอก็เริ่มเก็บงำความสามารถนั้นไว้และทำไม่รู้เรื่องรู้ราวเอาเสียบ้าง ดีที่เธอไม่สามารถ เขียนภาษาที่เธอไม่เคยเรียนได้ เธอจึงไม่ได้ดูเก่งกาจผิดปกติไปจากมนุษย์ธรรมดามากไปนัก
เอาล่ะ กลับมาต่อ ถึงแม้ว่าเรื่องราวของชาวฮิตไทต์จะหายไปและแทบไม่เหลือหลักฐานหรืออนุสาวรีย์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมเหมือนอียิปต์ บาบิโลนและอัสซีเรีย แต่มรดกชิ้นสำคัญที่พวกเขาให้ไว้กับโลกคือเหล็ก เพราะชาวฮิตไทต์เป็นผู้ค้นพบเหล็ก และไม่นานจากนั้นโลกก็ได้เปลี่ยนจากยุคสัมฤทธิ์ไปสู่ยุคเหล็ก
..เหล็ก..คำนั้นกระทบใจและทำให้คนที่เงียบขรึมที่สุดในห้องอย่างอรินลุกพรวดขึ้นมาประกาศก้องอย่างแข็งกร้าว
เหล็กเป็นของชาวฮัตติ ไม่ใช่ชาวฮิตไทต์!
แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 21:08:32
แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 54 21:00:07