Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ด้วยรักและผูกพัน (2)ตอน...น้องรัก ติดต่อทีมงาน

ลงค์ด้วยรักและผูกพัน....(1)ตอน...ลมหายใจ....ของใครบางคน
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10186083/W10186083.html


""""""""""""""""""""""""""""""


เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้น ที่คนอ่านต้องใช้วิจารญาณในการอ่านเอาเองนะคะ เพราะว่าคนเขียน ได้เขียนจากคำบอกเล่า และประสบการณ์จริงที่ตนเองเคยประสบมา อ่านเอาบันเทิง อย่าคิดมากค่ะ



ด้วยรักและผูกพัน ตอน...น้องรัก



“เออ...ได้ แล้วไงเจอกันเสาร์นี้นะ”


จอยกรอกเสียงลงไปตามสาย คุยกับเพื่อนสนิทอย่างเมามัน แม้ว่ามันห้าทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว แต่คนที่ตั้งหน้าตั้งตาคุยมาตั้งแต่สองทุ่ม ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะวางสายสักที วัยรุ่นก็คงเป็นอย่างนี้กันทุกคนแหล่ะ เรารึก็เคยผ่านมาก่อนทำไมจะไม่รู้


“จอย ดึกแล้วยังไม่นอนอีก”

“ยังไม่ง่วงเจ้ กำลังเมาส์กับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมาสามปีแล้ว”

“พรุ่งนี้ทำงาน ไม่ใช่เหรอ”

“คร๊าบ  แม่...เอ้ย  เจ้”


ประตูที่เปิดแง้มออก พร้อมกับหน้าหมวยของเจ้ใหญ่ที่โผล่เข้าไปถาม เมื่อสองชั่วโมงก่อน ตั้งแต่ยังไม่มีใครเข้านอน จนกระทั่งเริ่มดับไปทีละดวง ยังไม่ทำให้เจ้าของโทรศัพท์สำเหนียกสักทีว่าควรจะวางหูได้แล้ว เธอยังคงเม้าส์ และก็เมาส์ต่อไป  จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาจนเกือบเที่ยงคืนกว่า


เสียงพัดลมตั้งโต๊ะสีแดงที่ใบพัดมันหมุนวิ้วๆราวกับว่าจะหลุดออกมา ก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่องเหมือนที่ผ่านมา สลับกับเสียงกรากแกรกของใบกล้วยที่ละอยู่ข้างหน้าต่างบานขวา ที่ถูกลมพัดกรูเข้ามาปะทะก็ยังคงเหมือนเดิม หรือแม้แต่นาฬิกาเรือนเก่าแก่ที่เข็มวินาทีมันเคลื่อนไปดัง ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก น่ารำคราญก็ยังเหมือนเดิมอีก


และถ้าเป็นเวลาธรรมดา ก็คงทำให้ใครบางคนตุ่มหนาวบานเต็มแขนไปนานแล้ว แต่พอดีคืนนี้ ไฟยังเปิดสว่างจ้า แม้จะมีลมพัดวูบเข้ามาชวนให้ขนหัวลุกบ้างก็ตาม แต่จอยก็ยังคงเมาส์ต่อไป ไม่ได้รู้สึกรู้สาหรือสะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด


จนกระทั่งในที่สุด เมื่อมีคล้ายเสียงคนเคาะประตูอยู่ข้างนอก ความจริงเหมือนคนมาทุบมากกว่า คนกำลังเมาส์จึงค่อยเดินออกไปบิดลูกบิดออกดู แต่เห็นว่าไม่มีใครอยู่หน้าประตู มีแต่หิ้งพระ และห้องตรงข้ามก็คือห้องนอนใหญ่ของแม่ ส่วนห้องติดกันก็เป็นห้องพี่สาวพี่เขยและหลานสาววัยรุ่น


“ใครวะ ยัยเนยหรือเปล่าเนี่ย... ไม่มีอะไร พอดีเหมือนมีคนมาเคาะประตูเรียก เออ...นั้นแค่นี้ก่อนก็ได้”



แต่ไม่ทันที่จะได้วางสาย จู่ๆ เสียงโครม เหมือนมีใครมาเตะใส่ประตูก็ดังขึ้น เล่นเอาคนที่กำลังคุยเพลินๆถึงกับสะดุ้ง ก่อนจะวางสายไป แต่แล้วเสียงโครม ก็ดังติดต่อกันอีกครั้ง ครั้งนี้เหมือนมีคน หรืออะไรสักอย่างหรือสองอย่างเป็นอย่างน้อยแน่ๆ มาช่วยกันรัวเตะที่ประตู เสียงดังสนั่น ก่อนจะได้ยินคล้ายเสียงคนวิ่งลงบันไดไป


เสียงที่ดังขึ้น ทำให้เธอถลาไปกระชากประตูให้เปิดออกในทันที และอีกครั้งที่.....

ที่....ไม่มีใคร หรืออะไร อยู่ที่หน้าประตูนั้น และเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่ใช่ยัยเนย หลานสุดที่รักที่นอนตีพุงอยู่ข้างๆห้องมาแกล้งกัน  ต่อมจิ้นของเธอก็เริ่มทำงาน และสัมผัสถึงความเย็นยะเยือกได้ในทันทีเมื่อรู้สึกว่าอะไรเป็นอะไร.....


เรียกว่าไม่ต้องอธิบาย หรือเดาอะไรกันให้มากนัก รู้แต่ว่าพรวดเดียวเท่านั้นจริงๆ ที่ทะยานออกไป ส่วนไอ้ที่เข้าไปนั่งแทบเกยตักแม่ได้อย่างไรนั้น ไม่มีคำอธิบาย


“แม่...แม่ ได้ยินอะไรมั๊ย”

“อะไร ได้ยินอะไร”


แม่ถามเมื่อลดมือลงจากการสวดมนต์จบบทแรก แสดงว่าแม่ต้องไม่ได้ยินแน่ๆเลย


“ใครไม่รู้มาเคาะประตูห้อง สองสามครั้งติดๆกันเลยนะแม่ จอยนึกว่าเป็นยัยเนย แต่ไม่ใช่ ไม่เห็นมีใครเลยด้วย”


คนเล่าๆเสียงสั่น นั่งใจเต้นระทึก เพราะหาเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ข้อไหนมาสนับสนุนไม่ได้เลยว่า อะไร จะสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานกล กระแทกประตูห้องของเธอได้ถึงขนาดนี้


แม่ไม่ได้ตอบ แต่กลับปิดตาลงพนมมือนิ่ง ไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆก็เลยต้องยกมือพนมตาม พลางกลอกตามองไปรอบๆห้อง เสียวสันหลังวาบ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าในมือยังถือโทรศัพท์คาอยู่จึงลุกขึ้นไปเปิดประตู กะว่าจะเอาเข้าไปเก็บในห้อง โดยที่ลืมไปเสียสนิทใจเลยว่า เมื่อกี้สยองอะไรอยู่


และทันทีที่เธอเปิดประตูพรวดออกมา สิ่งที่เธอเห็นคือ....


คือ.... หลังไวๆของเด็กหัวจุกสองคน ที่แข่งกันวิ่งลงบันไดไป มันคาตา มันชัดเจนจนทำให้ตัวชา อ้าปากค้าง รู้สึกว่าอยากจะกรี๊ด แต่ก็ร้องไม่ออก ได้แต่ว่ายืนขาสั่นพรั๊บๆ ฉอ...แทบเล็ด มือกำโทรศัพท์แน่น เหงื่อกาฬแตกพลั๊กๆ


ขณะที่ตุ่มหนาวสามัคคีกันลุกขึ้นมาประชุมโดยมิได้นัดหมาย พร้อมๆกับผมบนหัวที่มันค่อยๆฟูขึ้นๆ ................กรี๊ดดดดด  ผะ.....น้อง....ไปดีกว่า
อะหังสัมมา สัมพุธโธ.....



เธอกระชากประตูถลากลับเข้ามานั่งสวดมนต์ผิดๆถูกๆอยู่ชั่วอึดใจ จนแม่รำคาญเลิกสวดมนต์แล้วลืมตาขึ้น เห็นลูกสาวนั่งหน้าซีดปากสั่น ก็เลยสงสารต้องเล่าให้ฟังว่า


ไอ้ที่เห็น ที่ได้ยินอยู่นะ มันน่าจะเป็นน้องรัก กับน้องยม เพราะว่าเมื่อก่อนค้าขายแล้วได้เลี้ยงเอาไว้ แต่พอเลิกขายแล้วไม่ได้ดูแลเขาเท่าไหร่ เขาคงเหงาเลยอาจจะอยากมาเล่นด้วย(พอดีน้องสาวเป็นคนตัวเล็กมาก สูงแค่ร้อยสี่สิบกว่า น้อง...เลยคิดว่าเป็นเพื่อนมั้ง เหอๆ)


อ๊ากซ์... เป็นโชคดีเหลือหลายของผู้เขียน ที่ตอนนั้นแยกบ้านออกมาแล้วเพราะแต่งงาน ส่วนห้องๆนั้นเดิมก็เป็นของผู้เขียนมาก่อน พัดลมก็ใช่ เตียงก็ใช่ และที่สำคัญผู้เขียนเอง เคยเป็นคนให้ข้าวให้น้ำเลี้ยงน้องรัก กับน้องยมของแม่มาก่อน


แต่บังเอิญว่าเป็นคนไม่มีดวงทางด้านนี้เลยรอดตัวไป หรือไม่ก็เพราะไม่ได้อยู่บ้านนั้นแล้วก็เป็นได้ ส่วนน้องสาวคนนี้ ท่าทางดวงจะสมพงษ์กัน จึงต้องเจอตลอด เลยมีเรื่องมาเล่าให้ฟังตลอดเหมือนกัน บรื๊ออออ


ถามว่ากลัวมั๊ย อืม...ไม่ถึงกับกลัว แต่ไม่รู้เท่าไม เวลากลับบ้านและต้องเข้าไปเอาของ หรือหาของในห้องนอนเดิมของตัวเอง จะต้องพูดดังๆทุกทีว่า


“ขอยืมหน่อยนะ เดี๋ยวเอามาคืน บอกจอยแล้ว”


จอยเป็นชื่อน้องสาว เจ้าของห้องคนใหม่แทนผู้เขียนเอง และที่ทำให้หนาวใจกว่านั้นคือ ภายในห้องนอนเก่านั้น โดยเฉพาะบนหลังตู้เสื้อผ้า จะมีแต่ของเล่นดีๆ ทั้งชิ้นเล็กและใหญ่เต็มไปหมดวางเอาไว้ เหมือนกับว่าห้องนี้เป็นห้องของเด็กเลยอ่ะ


นอกจากนี้ยังมีขวดน้ำแดงแฟนต้า ใส่หลอดสีขาวลายทาง ที่หาซื้อได้เฉพาที่เซเว่นเท่านั้นด้วยนะ  เล่นเอาเป็นงง...


พอถามได้ความว่า น้องรีเควส (น้องไหน คนไม่ต้องบอกนะคะ) ส่วนเรื่องหลอดก็ใช่ ฟังแล้วอยากจะฮา...แต่ฮาไม่ออกเลยเรา ไม่กล้าวิพากษ์ กลัวโดน ไม่อยากโดน เลยแอบๆถามอีกทีด้วยความสงสัย ว่ารู้ได้ไงว่าน้องชอบ ได้คำตอบว่า มีรอยว่าดูดขึ้นมาครึ่งหลอด


อ๊ากซ์...ขอร้องอีกสักที เราก็แอบคิดเอาเองตามประสาคนเรียนวิทย์มาว่า ของเหลวจะไหลจากที่ๆมีความดันต่ำไปหาสูง อะไรประมาณนี้ แต่พอฟังเเล่าต่อไปว่า แต่ถ้าใช้หลอดยี่ห้ออื่น น้องจะไม่ชอบ ไม่มาดูดอีกเลย ก็จะไม่เห็นรอยแดงๆของน้ำแดงที่คาที่หลอดด้วย


เอ้า...ว่ากันไป ไม่เชื่อก็ไม่กล้าหลบลู่ค่ะ
สรุป...ได้ว่าของทุกเล่นชิ้นในห้อง มันเป็นของน้องนั่นเอง


เวลากลับไปบ้าน ต้องคอยบอกลูกชายทั้งสองคนว่า ห้ามไปหยิบของในห้องน้าจอยมาโดยพลการเด็ดขาด


............และที่บอกว่า...ไม่ได้เชื่อ เพียงแต่ไม่อยากลบลู่เท่านั้นเอง เป็นเพราะอะไร เดี๋ยวตอนหน้ามีคำตอบให้ค่ะ.............

แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 22:39:00

แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 22:31:30

แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 22:29:20

 
 

จากคุณ : Setakan
เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 54 22:17:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com