ไม่น่าเลยกู ปริศนาร้องไห้โฮอีกครั้งเมื่อลงจากแท็กซี่ แล้วเปิดประตูเข้าบ้าน
โชคดีที่ไม่มีใครอยู่สักคน เธอเลยได้วิ่งเข้าห้องน้ำสำรวจตัวเองอย่างประหวั่นพรั่นพรึง ...เธอถูกข่มขืนมาจริงๆ ผู้ชายที่รู้จักดีข่มขืนเธอ
เสียงโทรศัพท์มือถือเธอดังขึ้น เธอรีบวิ่งจากห้องน้ำมารับ
ปริศนา... เฮียขอโทษ เดี๋ยวเฮียไปหา เราแต่งงานกันนะ เฮียรักปริศนา
อย่ามาให้เห็นอีกเด็ดขาด ไม่งั้นกูจะฆ่าตัวตาย
ปริศนาขู่เอาชีวิตตัวเองด้วยความโกรธ และไม่สนใจฟังน้ำเสียงที่รัวขอโทษขอโพยต่อ เธอปิดโทรศัพท์แล้วโยนทิ้งอย่างรังเกียจ ก่อนกรอกยาแก้ปวดพร้อมยานอนหลับแล้วปีนขึ้นเตียงนอนรีบหลับตาก่อนต้องเสียแรงเพราะร้องไห้อีก แต่พอศีรษะกระทบหมอนนุ่มๆ แสนคุ้นเคยเข้า เธอกลับพบว่ามันไม่อุ่นเท่าบางสิ่งบางอย่างที่เธอหนุนนอนมาเมื่อคืน...เลยแม้แต่น้อย
และในฝันตอนเที่ยงวันเธอยังฝันถึงเขา... ฝันถึงเสียงกระซิบเขา
เสียงกระซิบเบาๆ แต่มีอานุภาพมากพอจนเธอยอมตามใจเขาทุกอย่างเมื่อคืน กลิ่นตัวเขายังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ
ก๊อกๆ ...นีน่าๆ
เสียงเคาะประตูพร้อมเรียกชื่อเล่นที่ปริศนาเกลียดเข้ากระดูกดำแว่วเข้ามาในห้องปลุกให้เธอขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด
เมื่อไหร่จะเลิกเรียกชื่อนี่ซะที เกลี๊ยดเกลียด! ปริศนาลุกไปเปิดประตูแล้วกระโดดมานอนต่อ
อ้าว ไม่เรียกชื่อนี้แล้วเธอจะลุกเหรอยะ แม่แต่งตัวสวยเช้งวับมายืนข้างเตียงลูกสาว เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ เมื่อคืนไปนอนไหน ทำไมไม่โทรกลับ แล้วนี่ไม่ไปทำงานรึ พ่อรูปหล่อ !?
คำว่า พ่อรูปหล่อ ทำให้ปริศนาสะดุ้งตื่นและหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
เมื่อคืนทศก็เรียกเธอว่า พ่อรูปหล่อ แล้วความทรงจำหลังจากออกจากร้านเหล้าโผล่พรวดเข้ามาเป็นฉากๆ ภาพเดินตากฝนกลับไปที่รถ ...ทศขับหนีการตรวจแอลกอฮอล์ ...รถเขาชนกระถางต้นไม้... โรงแรมถูกทัวร์จองหมด ...เธอง่วงและปวดหัว ...นอนทั้งเสื้อผ้าเปียกชื้น... จนกระทั่ง...
นีน่า !? แม่กรอกเสียงใส่หูลูกสาวที่กำลังเหม่ออีก
แม่ แม่เรียกนีน่าอีกที ปริศนาจะฆ่าตัวตาย ! วันนี้เธอขู่ฆ่าตัวตายไปแล้วถึงสองครั้ง
อิอิ ทำไมล่ะ น่ารักดีออก...ทะเลาะกับทรงกลดมาเหรอ หน้าตาไม่สะเบยเลย หรือพ่อแม่ดอกแก้วมาป่วนอีก แม่ลงนั่งกอดลูกสาว แล้วสำรวจแแผลที่หางคิ้วลูกด้วยความเจ็บใจ นางพร่ำด่าคนที่ทำให้ลูกสาวเจ็บตัว ไอ้เวรนั่นมันมาทำลูกกูได้ไงวะ ลูกสาวมันวิ่งมาหาลูกกูเอง...ไอ่สัดว์
แม่ หยุดเถอะ เธอไม่อยากได้ยินคำว่าไอ่สัดว์อีกครั้ง เพราะเมื่อเช้าเธอใช้คำนี้ไปเป็นสิบครั้งแล้ว
แม่ก็หยุดแล้วมีโทรศัพท์เข้าพอดี นางวิ่งออกไปรับ แต่เสียงแว่วมาให้ปริศนาได้ยิน
ทศเหรอ มีไร ? อยู่นี่... อือ... มันไม่ค่อยสบาย...จะคุยมั้ย แล้วนางก็ยื่นโทรศัพท์ให้ลูกสาว ปริศนาส่ายหน้าหนักๆ นางเลยคุยเรื่องทั่วกับเพื่อนรุ่นน้องอยู่พักหนึ่งก็หันมาถามลูกสาวด้วยความสงสัย ทำไมไม่คุยกับตาทศ มันโทรมาตามไปทำงานต่อเหรอ
ลาออกแล้ว ไม่ทำแล้ว ! ปริศนาไม่มีวันพบทศหรือน้องชายหรือญาติคนไหนของบ้านนั้นอีก
นีน่า... อุ๊บ ปริศนา เป็นอะไร ตาทศกับตาต่อมันปากเสียใส่เหรอลูก อย่าไปถือโกรธมันนัก ไอ้สองพี่น้องนั่นมันคงพากันล้อเราสองแม่ลูกมานานแล้ว แต่เราก็ยังพึ่งพาสองคนนี่ได้เหมือนญาตินะลูก
พวกเขาเป็นคนเลว !
เฮ่อ... นางนั่งลงอีกที ปริศนา... แม่เคยสอนแล้วไงลูก... เราต้องยอมรับความจริงว่าผู้หญิงรักหญิงแบบเราเป็นสิ่งน่าตลกขบขันในสายตาผู้ชายเขา ถ้ามันล้อเข้าก็ต้องทำใจ
ไม่มีใครล้อ ปริศนาพูดความจริง ทศไม่เคยล้อเธอ เขาออกจะดี... แต่เขาทำเหมือนเธอเป็นผู้หญิงเมื่อคืน เธออยากเล่าแม่ให้หมด แต่กลัวเหลือเกิน...
อ้าว ใครมาล่ะนั่น แม่ลุกไปดูที่หน้าต่าง แล้วเอ่ยเซ็งๆ โน่น คนที่ทำให้เธออารมณ์ดีได้มาแล้ว... ดอกแก้วมา... พ่อเค้าจะตามมาฆ่าเอามั้ยนั่น
ดอกแก้ว... ดอกแก้วมา ? ปริศนาน่าจะรีบดีใจ แต่ร่างกายที่ตึงๆ อยู่บางส่วนทำให้เธอไม่มีหน้าพบเจอดอกแก้วเข้าตอนนี้ แต่ช้าไปแล้ว ...แม่คงอยากให้เธออารมณ์ดี นางเลยไปเปิดประตูให้ดอกแก้วเข้ามาในบ้าน
และตอนนี้ ดอกแก้วก็ยืนอยู่ตรงหน้าเตียง เธอยังสวยเหมือนเดิม แม้หน้าตาบอกบุญไม่รับนัก เธอลงนั่งกอด แล้วจูบปริศนาอย่างออดอ้อน ปริศนาไม่สบายเหรอ ?
แต่ปริศนาเบี่ยงตัวหนี มายังไง
ปริศนายังโกรธดอกแก้วเหรอ
ไม่นี่ แต่... เรื่องของเราจบแล้ว พ่อของดอกแก้วรับไม่ได้ที่เราเป็นแบบนี้
นั่นสิ ทำไมพ่อแม่ดอกแก้วไม่ใจกว้างอย่างแม่ปริศนานะ !?
ก็แม่ปริศนา เป็นหญิงรักหญิงนี่ ! ปริศนาตอบเซ็งๆ อาจเพราะปวดหัวอยู่ เธอถึงมึนๆ กับกลิ่นน้ำหอมประจำตัวของดอกแก้วอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เรา... คงไปกันไม่ได้อีกแล้ว
คงเป็นอย่างนั้น ดอกแก้วน้ำตาซึม ดอกแก้วจะแต่งงานแล้วล่ะ
เหรอ !? ปริศนาขยับผ้าห่มมาคลุมถึงคอเมื่อได้ยืนคำว่าแต่งงาน ทศก็พูดคำนี้เมื่อเช้า... มันดูไกลตัวเหลือเกินแต่ไม่น่าเชื่อว่าเธอได้ยินมันถึงสองครั้งในวันนี้ จากผู้ชายที่ข่มขืนเธอ และผู้หญิงที่เคยเป็นเมียเธอ
ทำไมปริศนาซึมจัง นึกว่าจะโกรธ
จะแต่งกับใคร ทำไมเร็วจัง ?
ก็น้านนท์... น้องชายน้าสะใภ้นั่นแหละ ! ดอกแก้วยักไหล่ คนที่เราจะไปขอสเปิร์มไง ดอกแก้วแค้นใจพ่อ เมื่อวานเลยโทรไปชวนน้านนท์ไปเที่ยว แล้วดอกแก้วก็ชวนเข้าโรงแรม... อยู่ด้วยกันทั้งคืน !
เข้าโรงแรม ? ปริศนาเขย่าไหล่ถามดอกแก้วจนเจ็บหน้ายุ่ง
ใช่ !? ดอกแก้วตอบอย่างสะใจ เห็นอยากให้มีผัวเป็นผู้ชายกันนักก็เลยหาให้ซะเลย อิอิ... ยังขำน้านนท์แกเลย ตกใจน่าดู บอกว่าไม่ควรๆ เชอะ พอแก้ผ้าให้ดู น้าแกก็ลืมคำว่าไม่ควรไปทั้งคืน ฮ่าๆ
...
ปริศนาคอแห้งผากจนต้องยกขวดน้ำมาดื่ม สงสัยเหลือเกินว่าทำไมเธอกับดอกแก้วถึงมีโชคชะตาเสียตัวตรงกันได้แบบนี้ แต่ดูดอกแก้วไม่ได้สับสนว้าวุ่นอย่างเธอ เพราะดอกแก้ว...ยังมีความเป็นผู้หญิงมากกว่าเธอ ?
แล้ว... เป็นไง... ปริศนาถามตะกุกตะกัก
ก็ดี... น้านนท์แกใจดีน่ะ ท่าทางไม่ใช่พวกหลงตัวเอง ดอกแก้วเล่าเรื่องเราสองคนหมดเลย แกว่าไม่เป็นไร แกเข้าใจ ...แกรักดอกแก้ว แกอยากแต่งงาน
เอ่อ... แล้ว ปริศนาอยากรู้เรื่องบนเตียง ท่าทีแปลกๆ ของเธอทำให้ดอกแก้วเข้าใจ
อ๋อ เรื่องนั้นเหรอ อิอิ... ดอกแก้วตาลอยๆ แล้วกลอกตาวิจารณ์ผู้ชายที่พรากพรมจรรย์ไปเมื่อคืน ก็ไม่น่าเกลียดมากมาย เงอะงะหน่อย แต่แกสะอาดดี และไม่มีขนขึ้นยุบยับ ดอกแก้วเกลียดนักหนาไอ้พวกผู้ชายมีขนหน้าอกเหมือนลิง บรึ๋ย ...
ปริศนายกมืออุดปากตัวเอง เมื่อจำสัมผัสปลายนิ้วมือของตัวเองได้ ทศมีขนขึ้นที่หน้าอก รวมทั้งเลยไปถึงใต้สะดือด้วย และ...มันดูไม่น่าเกลียด... แต่เธอก็ไม่กล้าเถียงดอกแก้ว จึงยังแสร้งทำหน้าเฉยๆ ฟังดอกแก้วต่อ
แต่ขำน้านนท์ที่แกจูบไม่เป็น ดอกแก้วเลยสอนให้... จนแกปวกเปียกเลยล่ะปริศนา อิอิ
เรื่องเล่าของดอกแก้วทำให้ปริศนาพาลคิดถึงทศอีกจนได้ รอยจูบทศน่าหลงไหลเหมือนเขาแบ่งอาหารส่วนที่ดีและหอมหวานที่สุดให้คนรักกินอิ่มก่อนตัวเอง...โดยไม่เห็นแก่ตัว ...แต่ปริศนา...ก็... รีบลบความคิดทิ้ง
น้านนท์เค้าคงหลงดอกแก้ว เหมือนที่ปริศนาหลงนั่นแหละ
แต่น้านนท์ไม่เก่งอย่างปริศนานี่ ดอกแก้วมาออดอ้อนที่ริมใบหู...
ไม่รู้เพราะดอกแก้วเพิ่งเล่าเรื่องผู้ชายไป หรือปริศนาก็เพิ่งผ่านผู้ชายมา ปริศนาทำใจให้สดชื่นกับท่าทีฉอเลาะของดอกแก้วไม่ลงอีก แม้จะพยายามแค่ไหน ผิวนวลเนียนหอมกรุ่นของดอกแก้วมันดูไม่เย้ายวนใจเหมือนเดิม
แต่ปริศนายังกลบเกลื่อนท่าทีให้เหมือนหึงหวง แล้ว... ปริศนาต้องสาดน้ำกรดใส่น้านนท์มั้ย !?
ดอกแก้วขอโทษ... แต่ดอกแก้วยังรักปริศนานะ คืนนี้จะค้างกับปริศนาก็ได้ ท่าทางปริศนาไม่สบายนี่นา
แล้วน้านนท์เค้าไม่ว่า ? ปริศนานึกหมั่นไส้ที่ดอกแก้วทำเหมือนประกาศตัวเป็นเสือไบสาวหน้าตาเฉย
ไม่ว่าหรอก ดอกแก้วตอบอย่างมั่นใจ นั่งรออยู่ในรถโน่น
เฮ้ย... น่าเกลียดมาก...! ดอกแก้วให้ผัวใหม่รอในรถ แล้วขึ้นมาคุยกับผัวเก่า ?
ฮ่าๆ แกไม่หวงถ้าดอกแก้วอยู่กับผู้หญิง อิอิ มานอนกับปริศนาก็ดี ไม่งั้นคืนนี้ต้องเสร็จน้านนท์อีกแน่ น้าแก...กำลังเห่อน่ะ บทจะเห่ยก็เห่ย แต่พอแกได้ที่ แกไม่ควบคุมตัวเองหรอก แกก็เล่นซะ... ดูนี่สิ... ดอกแก้วหัวเราะระรื่นแล้วเปิดเสื้อชั้นในให้ปริศนาดู
ปริศนาดูร่องรอยบนตัวดอกแก้วแว่บเดียวแล้วรีบหลับตา ตอนนี้ถ้าแพทย์มาตรวจร่างกายว่าใครถูกข่มขืนมา ตำรวจต้องส่งน้านนท์เข้าซังเตก่อนทศอีก เธอจึงได้แต่แสร้งบ่น เอ่อ...น้านนท์นี่ร้ายไม่เบานะ
ฮึ นี่... ดอกแก้วนึกว่าปริศนาจะโกรธจะงอน แต่ทำไมรู้สึกว่าสนใจเรื่องน้านนท์เอาเฉย
ก็เราไปต่อกันไม่ได้แล้วนี่ ดอกแก้วลงไปหาน้านนท์เถอะ อย่าปล่อยให้เขารอในรถนานเลย สงสารเค้า
ปริศนาประชดเหรอ ดอกแก้วขอโทษนะ แต่ดอกแก้วสัญญาว่าเราเหมือนเดิมได้ น้านนท์จะช่วยปิดพ่อเอง
ดอกแก้ว...!? ปริศนาเอามือกุมปากดอกแก้วให้หยุดพูด อย่าทำเรื่องน่าอายและผิดศีลธรรมเลย รักของเราไม่ใช่ของเล่น ถ้าดอกแก้วมีคนรักใหม่แล้วก็ต้องลืมปริศนา เราวิปริต... แต่เราไม่เสื่อมขนาดลดตัวมาเป็นชู้กัน
ปริศนา... ดอกแก้วเริ่มน้ำตาเอ่อ...
แต่ปริศนายิ้มให้ แค่เห็นดอกแก้วมีความสุข ปริศนาก็มีความสุขแล้ว กลับเถอะ... อย่าให้น้าเค้ารอนาน
ดอกแก้วเห็นท่าทียิ้มฝืนๆ ว่าเป็นการกลบความมึนตึงปนเสียใจของปริศนาแล้วได้แต่ครางเสียงอยู่ในลำคอ งั้นเราค่อยคุยกันทางโทรศัพท์นะ แล้วดอกแก้วก็เช็ดน้ำตาป้อยๆ ลุกจากเตียง คว้ากระเป๋าถือเดินจากไป
ไหล่บางๆ เอวคอดกิ่วกับสะโพกงามงอนของดอกแก้วที่ลับหายไปจากรั้วบ้าน ทำให้ปริศนารู้สึกหลากหลายปะปนกัน เสียดาย... อิจฉา... และอีกล้านพันที่ถาโถมใส่ ให้เธอยิ่งหงอยเหงาลง
และยิ่งซึมเศร้าหนักเมื่อการพูดคุยเปิดอกของดอกแก้วทำให้เธอเองเริ่มจำทุกอย่างได้เมื่อคืน
...
...เมื่อเช้าเธอตกใจเกินไป จนไม่ได้คิดอะไร...เธอโทษเขาฝ่ายเดียว
แต่ที่จริง... ปริศนารู้ตัวดีตอนเขาตัดสินใจพาเธอนอนโรงแรม ...และตอนที่เขาพยายามจูบเธอ เธอยังมีสติพอขัดขืนได้ถ้าต้องการ แต่เธอใจอ่อนกับจูบและสัมผัสอ่อนโยนของเขา ...เธอวางมือบนบ่าเขา และตอนมันผ่านไปครั้งแรก... คงยังพอปลอบประโลมตัวเองได้ว่าเขาอาศัยทีเผลอแล้วรุกล้ำร่างกายผู้อ่อนแอกว่า
แต่ตอนครั้งที่สอง... เธอยินยอมพร้อมใจเขาสุดขีด พอเขาอุ้มเธอวางลงบนเตียงนอน... เขาจะขยับกายนอน แล้ว... แต่เธอเป็นคนขยับหาเนื้อตัวอุ่นๆ เขาเอง และยังออดอ้อนให้เขาจูบอีก
และหลังจากนั้น... เธอก็อาศัยไออุ่นหนุนไหล่เขาทั้งคืน ตอนเขาขยับตัวเพราะความเมื่อย เธอยังไม่ยอมห่าง จนเขาต้องโอบพาตัวเธอไปหนุนไหล่อีกฟาก...
เขาไม่ได้ขืนใจ เธอยินยอมพร้อมใจให้เขาเชยชม...
ถ้าเธอวิ่งโร่ไปโรงพักเมื่อเช้า ตำรวจคงได้ฮาใส่...ที่ผู้หญิงถูกข่มขืนไม่ยอมให้ผู้ต้องหาลุกจากเตียงตอนตีห้า... เพราะเธอยังอยากหนุนไหล่อบอุ่นเขา และกว่าเธอจะยอมให้ผู้ต้องหาลุกจากเตียงก็ปาไปเก้าโมงเศษ...
เมื่อสำเหนียกแล้วทุกอย่าง... ทั้งบ่าย... ปริศนาจึงหมดเวลาไปกับการร้องไห้อีกรอบ ด้วยเรื่องเดิมแต่สาเหตุใหม่ เธอเพิ่งแน่ใจตอนนี้นี่เองว่าการคิดว่าถูกข่มขืนนั้นดีดีกว่าเพิ่งรู้ตัวว่ามีใจยกพรมจรรย์ให้ผู้ชายไปด้วยความหลงไหล หลายเท่านัก
โธ่ โว๊ย !!!
ปริศนาเอาหน้าซุกหมอนกรี๊ดอยู่คนเดียวด้วยความอัดอั้นตันใจ
(ต่อ)
จากคุณ |
:
rainfull
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ก.พ. 54 18:28:13
|
|
|
|