Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ผู้หญิงถนัดขวาชอบฟุบหน้าบนหัวเข่าก่อนทำตัวกลมๆ เพื่อหมุนหนีแรงโน้มถ่วงโลก :Bad romance finds you wings : ตอนจบ ติดต่อทีมงาน

ครึ่งแรกอยู่นี่
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10188071/W10188071.html

เพราะขี้เกียจลงหลายครั้ง ดังนั้นตอนนี้มันจะยาวมากๆ
กรุณาอดทนและทำใจก่อนอ่าน
pinkrose มาต่อกันที่ฉากเฮียทศเสร็จปริศนา - -"
.
.
.
.
.
.

“ปริศนานี่นอนทั้งเปียกเหรอ... ถอดดีกว่ามั้ง”

“ไม่” ปริศนาปฏิเสธคว้าผ้าขึ้นมาห่ม และขยับศีรษะหนีมือที่กำลังนวดขมับให้

ทศเลยเปิดไฟหัวเตียง
“เฮ้อ... เดี๋ยวก็ได้ปอดบวมหรอก อายเหรอ...งั้นเฮียไปนอนพื้น”

“ช่างเหอะๆ นอนได้น่า... เฮียนอนซะ” เธอหันหน้าไปซุกหมอน

ทศรีบจับใบหน้าปริศนาหันกลับมา เธอแข็งขืนจะหลบหน้าหนีนอนต่อ แต่เขารู้สึกไม่อยากให้เธอหันหน้าหนีไปไหนขึ้นมาทันควัน... หัวใจเขาเต้นถี่ขึ้นทุกทีเมื่อเห็นริมฝีปากอิ่มๆ ของเธอเม้มปิดสนิท... ริมฝีปากสีเรื่อๆ นั่นอิ่มกำลังดีก็จริง แต่มันดูแห้งผาก เขาอยากมีลิปมันหรือแตะน้ำให้มันดูชุ่มชื่นขึ้น... เขามองอยู่หลายนาที เสียงตึ่กๆ ที่เต้นขึ้นในหัวใจยามเมื่อเขาเผลอไผลคิดว่า นานแค่ไหนแล้วที่เขาห่างเหินจากการจุมพิตใครสักคน...

ทศไม่รู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ ...เขาก้มลงแตะริมฝีปากเธอทั้งหลับ...


ปริศนาไม่รู้สึกอะไรไปกว่ามีคนพยายามใกล้ชิดใบหน้าเกินไป จึงได้แต่ขยับหน้าหนีแต่ติดสองแขนเขาที่คร่อมอยู่เหนือร่างเธอ... แล้วความใกล้ชิดที่ให้ทั้งความรู้สึกอบอุ่นที่ริมฝีปากเย็นๆ และกลิ่นประหลาดๆ จากลมหายใจร้อนๆ ของเขาทำให้เธอเผลอใช้เวลาใคร่ครวญว่าจนแน่ใจว่ามันไม่ใช่กลิ่นเหล้า แต่... เป็นกลิ่นที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน... กลิ่นคล้ายดอกแก้วผสมกลิ่นแปลกใหม่... กลิ่นที่ทำให้ผลักไสเขาออกไปไม่ลง... เธอปล่อยให้เขาจูบหนักหน่วงขึ้นทุกที


บางครั้ง... เธอพยายามเรียกชื่อเขา แต่มันกลับเหมือนการเรียกร้องให้เขากระซิบอะไรบอกบางอย่างที่ริมกกหูเธอ  แล้วเขาก็แนบริมฝีปากแถวนั้นพักหนึ่งก่อนกลับมาแนบสนิทกับริมฝีปากเธอต่อ

เสียงเขากระซิบเบาเหมือนสายลม
“ถอดเสื้อออกนะคนดี เดี๋ยวป่วย”

ปริศนาขัดขืนไม่อยากถอดออก แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมแค่เขาสอดมือไปใต้ตัวเธอนิดเดียว เสื้อก็หลุดจากร่างง่ายดาย เขาถอดเสร็จก็กลับมาจูบเธอต่อ แล้วใบหน้าเขาเลื่อนต่ำลงไปที่ซอกคอ และจะต่ำไปกว่านั้น...

เมื่อไหร่ที่เธอพยายามฝืนตัวหนี เขาก็กลับไปเริ่มต้นที่ริมฝีปากเธอใหม่ เหมือนเขารู้ว่าสามารถขอโทษเธอได้ที่นั่น เพราะเธอก็กลับมา... ปวกเปียกเหมือนเดิม

แล้วแรงต้านครั้งสุดท้ายของเธอก็เกิดขึ้นเมื่อรู้สึกตัวว่ามือเขาไปสะเปะสะปะแถวขอบเอวกางเกงยีนส์ เธอพยายามตะคอกใส่ “เฮีย... ทำอะไร หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้”

สองมือเธอฟาดรัวลงบนไหล่เขา แต่เขาไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกเจ็บ และเมื่อเธอผลักหน้าเขา เขากลับไล่จูบปลายนิ้วเธอตอบแทน และเมื่อหมดทุกนิ้ว ปริศนาก็หมดแรง เขารวบสองมือเธอไว้เหนือศีรษะด้วยมือเดียว อีกมือหนึ่งของเขาปลดกางเกงยีนส์หลวมๆ เธอออกไป


“มันไม่ได้แย่มากหรอกปริศนา อย่ากลัว...”

เขากระซิบบอกก่อนไล่จูบเธอใหม่ เขาหยุดรวบแขนเธอ เปลี่ยนมาเป็นประสานนิ้วกันไว้หลวมๆ แต่มันทำให้คนถูกเกี่ยวไว้อบอุ่นเหมือนเดินเกี่ยวก้อยกันชมสวนดอกไม้ส่งกลิ่นหอมตลบ และเขาไม่ปล่อยมืออีกเลยจนกระทั่งมือเธอถูกย้ายไปวางไว้บนบ่าเขา


แล้วเขาพยายามทำบางสิ่งบางอย่างที่แม้แต่ดอกแก้วก็ไม่กล้าทำ เขาเลื่อนใบหน้าลงไปต่ำกว่าลำคอแล้วลูบไล้ทุกส่วนด้วยริมฝีปาก และต่ำลงไปเรื่อยๆ... เขากำลังทำกับเธอเหมือนที่เธอเคยทำกับดอกแก้ว ...


เสียงประหลาดๆ ชวนหลงไหลที่หลุดจากริมฝีปากเธอได้ยืนยันว่าเขาหลอมละลายกำแพงในหัวใจเธอลงได้แล้วจนแหลกเหลว จนกระทั่งเธอแทบไม่ขัดขืนอีกแล้ว เมื่อเขาพยายามแทรกกลายเป็นหนึ่งเดียวกับร่างเธอ แต่เขารู้ว่ามันเป็นเรื่องใหม่ของเธอ เขาจึงให้เวลาเธอคุ้นชินและอิ่มเอมไปกับรสสัมผัสยามขยับกายไปด้วยกัน เขาอดทนและพยายามควบคุม... แม้เขาจะหิวกระหายแค่ไหน


“ปริศนา...” เขากระซิบเรียกชื่อเธอ “เจ็บมั้ย หืม ?”

“เฮีย...” เสียงเธอครางตอบไม่เป็นภาษากลายเป็นการเติมเชื้อให้คนอยู่เหนือร่างเธอลุกเป็นไฟ และเริ่มเอาใจตัวเองโดยการเติมเต็มความต้องการที่ล้นปรี่เพราะความอดกลั้นมานาน

เมื่อเสียงครางหลุดออกจากปากด้วยความเผลอตัวเสร็จสิ้น เสียงหายใจถี่ๆ ติดกันก็ตามา เขาเช็ดเหงื่อเม็ดแตกซิกที่กระจายเต็มทั่วใบหน้าด้วยหลังมือ แล้วก้มลงจูบปลอบใจหญิงสาวบนหมอน ก่อนล้มตัวลงนอนแนบร่างข้างๆ เธอ

“ปริศนา...” เขาโอบกอดเธอไว้อย่างทนุถนอม

“...เจ็บ...” เสียงเธอกระซิบบอก

“เดี๋ยวหาย” ทศปลอบแล้วซุกหน้าลงแถวท้ายทอยเธอเพื่อดอมดมกลิ่นหอมชื่นใจ เขาลูบไล้ปลายนิ้วบนผิวเปลือยนวลเนียนกล่อมเธอจนหลับตาอยู่ในอ้อมแขนเขา

แต่พักไปใกล้ชั่วโมงปริศนาก็ขยุกขยิกบ่นหิวน้ำและขอเข้าห้องน้ำ เขาควานหาผ้าเช็ดตัวมาห่มร่างเธอแล้วกระซิบเตือนเรื่องการดูแลบางส่วนของร่างกาย แต่เธอก็เดินไปเหมือนละเมอ

และมันนานเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์สำหรับทศ...เขาเลยไปยืนรอหน้าห้องน้ำ พอเธอออกมาเขาก็อุ้มกลับเตียง เขาอยากปล่อยให้เธอหลับ แต่ท่าทีผู้หญิงไร้เดียงสาไม่ประสามือชายทำให้เขาไฟลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง


คราวนี้เธอตามใจเขาทุกอย่าง มันจึงง่ายขึ้น และรวดเร็วกว่าเดิม...

และเมื่อจบเกม...ทศอยากจับจองเธอไว้เป็นของตัวเองไปตลอดชีวิต



.
.
.
.
.
ทศทอดสายตามองแสงรำไรที่ลอดผ่านชายผ้าม่าน สลับยกนาฬิกาข้อมือบนหัวเตียงขึ้นมาดู แล้วคิดถึงฟาร์ม เขาควรออกจากกรุงเทพตอนตีห้า แต่ตอนนี้ใกล้แปดโมงไปแล้วเขายังลุกออกจากเตียงไม่ได้ เพราะมีสาวร่างบางนอนหนุนหัวไหล่เขามาตั้งแต่เมื่อคืน


แต่เขาก็เต็มใจปล่อยให้ปริศนาหลับต่อ ด้วยความเอ็นดู เธอกำลังใช้เขาต่างหมอนข้างโดยการพาดแขนไว้บนหน้าอกเขา ส่วนขาเรียวๆ เธอพาดอยู่บนขา บางทีที่เธอสะดุ้งตื่นเขากลับลูบผิวเปลือยๆ เธอเบาๆ ให้เธอหลับต่อ เขาเกือบห้ามใจอีกไม่ไหวเมื่อเห็นริมฝีปากเธอ แต่เขาคงเห็นแก่ตัวเกินไปถ้าทำแบบนั้น

และตอนนี้เขาก็ไม่แน่ใจว่าเมื่อเธอตื่นขึ้น... เธอจะ...

“ปริศนา...” เขาจูบผมยุ่งๆ ปลุกเธอ “เก้าโมงกว่าแล้ว ตื่นได้แล้ว ไม่หิวข้าวเหรอ”

ปริศนาหยีตาตื่นนิดหนึ่งแล้วฟุบหลับต่อ

และสักอึดใจได้ เธอก็รู้สึกตัวว่าอยู่ที่ไหน

เสียงตะโกนจึงดังสนั่น “เฮ้ย ตายห่*แล้ว”

เธอดึงผ้าห่มปิดไปถึงคอ ถดหนีคนที่เธอหนุนไหล่มาทั้งคืนด้วยความหวาดกลัว

“เราทำอะไรกัน ?”

“ปริศนาอย่าตกใจสิ” ทศเอื้อมมือไปกุมมือเธอไว้ เขาพยายามยิ้ม...

แต่ปริศนาด่ากราด “ไอ้บ้า ไอ่สัดว์ ไอ้ฉวยโอกาส”

ทศถึงรู้ว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนเธอได้ เขาลุกไปคว้าผ้าเช็ดตัวมานุ่ง แล้วหยิบอีกผืนยื่นให้เธอ

“ไปอาบน้ำ... เดี๋ยวไปกินข้าวกันนะคนดี”

“ไอ่สัดว์ มรึงออกไปเดี๋ยวนี้ !!” ปริศนาไล่


ทศจึงจำต้องต้องออกไปยืนที่ระเบียงด้วยความกลุ้มใจ ส่วนปริศนาหอบเสื้อผ้าวิ่งหนีเข้าห้องน้ำ และแช่อยู่ในห้องน้ำเกือบชั่วโมง จนเขาต้องไปเคาะด้วยความเป็นห่วง

“ปริศนา ออกมาได้แล้ว... ทำอะไรอยู่น่ะ”

แล้วประตูห้องน้ำก็เปิดออกปริศนายืนน้ำตานองด้วยความคับแค้นใจ

“เฮียฉวยโอกาส”


“...” ทศเถียงไม่ออก และไม่รู้ตัวว่าถามโง่ๆ ออกไป “ปริศนายังเจ็บมั้ย”


ปริศนาตบเพียะลงบนใบหน้าเขาสุดแรง
“ไปตายซะไป อย่ามาพบเจอกันอีก ไอ่สัดว์!!”


เธอจะออกจากห้องพักไป แต่ทศวิ่งไปกันไว้ “
รอเฮียแป๊บ เดี๋ยวเฮียไปส่ง ให้เฮียอาบน้ำก่อน”

“กูกลับเองได้ !!”

“เดินออกไปคนเดียวได้ไง”

เขาเลยไม่อาบน้ำ และหยิบเสื้อผ้าแต่งตัวตัวที่หน้าประตูกันไม่ให้เธอเปิดหนีออกไป เขาจับมือเธอไว้แน่น ไม่สนว่าเธอจะหยิกจะข่วนยังไง เขาโทรไปบอกเช็คเอาท์แล้วพาเธอไปที่โรงรถ


ปริศนามองรอบๆ ตัวอย่างจำอะไรไม่ได้สักอย่าง
“มรึงหลอกพากูเข้าโรงแรมนี่ ไอ้ตอแ*ล ฉวยโอกาส ไอ้เล่นทีเผลอ !!!”


“ไม่... ไม่จริง” ทศปฏิเสธเสียงอ่อย


พอขึ้นรถ ทศก็เลยปล่อยให้ปริศนาฟาดกำปั้นลงบนใบหน้าและไหล่โดยไม่หลบแม้แต่น้อย จนปริศนาเหนื่อยเอง และร้องไห้โฮด้วยความเสียใจ


เขาพยายามอ้อนเมื่อขับรถออกจากโรงแรม
“ไปเที่ยวบ้านเฮียนะ เดี๋ยวเฮียโทรบอกแม่เราเอง”


“จอดรถเดี๋ยวนี้ !!”


“งั้นเดี๋ยวเฮียไปส่งบ้าน”


“จะจอดมั้ย ไอ้ชาติหม? !!” ปริศนาเปิดประตูรถทั้งที่วิ่งอยู่ “ไม่งั้นกูโดดลง”


ทศต้องรีบจอดอย่างทุลักทุเล
“โอเคๆ งั้นเดี๋ยวเฮียโทรไปหา”


“ถ้ามรึงตายไปเลยกูจะรู้สึกดีที่สุด ไปตายซะ”
ปริศนาลงจากรถแล้วเรียกแท็กซี่คันหนึ่งไป



ทศนั่งกุมดั้งจมูกด้วยความเสียใจ ถ้าเขาเปลี่ยนแปลงอะไรปริศนาไม่ได้ เธอคงเจ็บปวดและเกลียดเขาเข้ากระดูกดำจริงๆ เขาครุ่นคิดตลอดทางว่าทำไมเมื่อคืนเขาไม่ทำเรื่องง่ายๆ อย่างการโทรให้น้องชายเขาหรือแม่ของปริศนาขับรถมารับเธอ... ทำไมเขาต้องพาปริศนาเข้าโรงแรมนอน...


“นี่กูข่มขืนทอมไปจริงเหรอ... ไม่นะ กูไม่ได้ข่มขืน กูนึกว่า...”

ทศบ่นกับพวงมาลัยด้วยความขื่นขมต่อความสุขที่เพิ่งฉุดให้เขาเห็นแสงอาทิตย์รำไร แต่แค่ความจริงวูบหนึ่งตื่นขึ้น สายลมก็พัดพาเขาไปอยู่ในหุบเหวเหมือนเดิม...



ด่านตำรวจเมื่อคืนไร้ร่างตำรวจยืนอยู่ แต่เขานึกอยากลงไปให้ตำรวจจับตัวเข้าตะราง...




(ต่อ)

จากคุณ : rainfull
เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 18:21:20




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com