|
ทว่าในปลายสัปดาห์ วันวิสาข์ก็ไปยืนตกตะลึงอยู่ต่อหน้ากองหนังสือแพ็คหนึ่งในร้าน เธอไล่ปลายนิ้วสั่นระริกไปตามสันหนังสือ ชื่อนักเขียนคนโปรดของเธอไม่ผิดแน่...
"สตีเฟน คิง..." เด็กสาวพึมพำ สายตาทอดไปไกลราวหญิงสาวที่อยู่ในห้วงภวังค์รัก
เธอเป็นแฟนหนังสือ...ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกคือเป็นแฟนหนังที่แปลงมาจากหนังสือ ของเขาหลายต่อหลายเล่มแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนังดังอย่างชอว์แชงค์, กรีนไมล์, เดอะมิสต์ หรือหนังรุ่นเก่าแบบแอพต์พิวพิล, อิท, ดรีมแคทเชอร์ หรือเพ็ท เซเมทารี่ ก็ไม่รอดสายตาเธอไปได้ แม้จะเป็นแฟนหนังเหนียวแน่น แต่จนบัดนี้เธอก็ยังไม่เคยได้อ่านหนังสือของเขาจนจบซักเล่มเลย ทำไมน่ะเหรอ...
"ก็เพราะหาฉบับแปลไม่ได้น่ะสิ" เด็กสาวกรีดร้องในใจ
ใช่แล้ว สำหรับเด็กม.ปลาย เรียนโรงเรียนรัฐบาล บ้านไม่ได้ติดยูบีซีแบบเธอ ต่อให้เรียนภาษาอังกฤษได้เกรดสี่หมด การอ่านหนังสือนิยายฝรั่งที่ไม่ใช่ฉบับ Simplified เต็มไปด้วยแสลงเข้มช้น ต่อให้หนังสือสนุกขนาดไหน ก็ยังเป็นการอ่านที่ช้ำเลือดช้ำหนอง อยู่นั่นเอง
ไม่ใช่ว่าวันวิสาข์ไม่พยายามหรอกนะ ทุกวันนี้ IT เล่มเบ่อเริ่มก็ยังวางกองอยู่บนหัวเตียงของเธอ พร้อม Oxford Dictionary เล่มหนาปึ้กไม่แพ้กัน และเนื่องจากการเปิดดิคใช้เวลาพอๆ กับการอ่าน มันก็เลยยังไม่คืบหน้าไปไหนเสียที...
แต่นี่สิ นี่...
"เกมกระตุกฝัน, สู่ฝันสนธยา, รถบ้า, สุสานคืนวิญญาณ, คูโจ, เดอะแสตนด์, โรงแรมผีนรก, ท้าสู้ผีนรก, คืนนรก..." เด็กสาวพึมพำเสียงเบาขณะไล่นิ้วไปตามสันหนังสือ เธอรู้สึกว่าภาษาไทยช่างเป็นภาษาที่ไพเราะที่สุดในโลก
"อ้าว ตาดีนี่เรา" เสียงใสที่คุ้นเคยทักจากด้านหลัง ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นพี่สาวคนสวยประจำร้านนี่เอง เธอเดินเข้ามาทักลูกค้าประจำอย่างแม่ค้าอัธยาศัยดี
"นี่ของเพิ่งตกมาเลยนะ หนังสือเก่าครบเซ็ทขนาดนี้หายากจะตาย หนังสือแนวนี้คนไม่ค่อยพิมพ์ใหม่กันด้วย" พี่สาวบอกข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่เธอรู้หมดอยู่แล้ว มันก็ไปตอกย้ำสิ่งเดียวกันคือ
รีบ-รีบ-ซื้อ-ซะ
วันวิสาข์พลิกดูราคาด้านหลังแพ็คแล้วก็กลืนน้ำลายเอื๊อก มันไม่ใช่เงินจำนวนน้อย แต่ก็นั่นแหละ เมื่อหนังสือมาอยู่ต่อหน้าหนอน เรื่องเงินย่อมไม่ใช่ปัญหา เธอควักกระเป๋าสตางค์ออกมาเช็คจำนวนเงินแล้วก็อยากจะร้องกรี๊ดออกมาดังๆ
...มันไม่พอ...
งั้นก็ต้องออกไปกดเอทีเอ็ม เด็กสาวขยับจะปิดกระเป๋าตังค์ แต่สายตาก็ไปสะดุดกับตัวอักษรสีชมพูบานเย็น ที่โผล่แว้บออกมาจากช่องในกระเป๋าเข้าเสียก่อน
`เออ จริงด้วย มีบัตรลด 20% อยู่นี่นา` วันวิสาข์ยิ้มแก้มแทบปริ ตัวอักษร "สำหรับท่านชาย" ดูเหมือนจะไม่ได้ ทำให้เธอหนักใจเช่นวันก่อนๆ `เดี๋ยวออกไปลากอาตี๋ร้านน้ำให้มาซื้อด้วยกันก็ได้ เอ ป่านนี้อาตี๋กลับมาหรือยังหว่า... ถ้ายังไม่กลับก็ลากอาแปะมาเลยก็แล้วกัน`
อา..วันวิสาข์นะวันวิสาข์ เมื่อหนังสือเข้าตา เธอก็เห็นช้างเท่าหมูไปในทันใด
แต่ก่อนที่สองตาหลานจะตกเป็นเหยื่อในความหื่นกระหายหนังสือของวันวิสาข์ เธอก็เหลือบไปเห็น ชายหนุ่มในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยกำลังยืนเลือกหนังสือการ์ตูนในชั้นติดผนังเข้าเสียก่อน
เขาคนนั้นเป็นชายหนุ่มหน้าตี๋ สวมแว่น รูปร่างสันทัด ผิวไม่ดำไม่ขาว ดูผาดๆ ก็เหมือนนักศึกษาทั่วไป มองอีกรอบก็รู้สึกไม่ต่างจากเดิม มองอีกสองรอบก็ไม่มีความประทับใจใดๆ เพิ่มเติมขึ้นมา ...โดยสรุปก็คือ เขาเป็นคนหน้าจืดที่ไม่มีอะไรเด่นนั่นเอง...
`เอาคนนี้ก็แล้วกัน` วันวิสาข์ดีดนิ้วเปาะ ในใจไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าจะได้ประหยัดเวลาเดินถัดไป อีกสองห้องแถว เธอไม่รอช้า รีบปรี่เข้าไปหาชายหนุ่มทันที
-------------------------------
หญิงสาวเจ้าของร้านเงยหน้าขึ้น ลอบมองเด็กสาวและชายหนุ่มส่งเสียงเจรจากันค่อยๆ ในมุมร้าน เรื่องราวนั้นเดาได้ไม่ยากนักเมื่อเด็กสาววางแผ่นอะไรบางอย่างลงในมือชายหนุ่ม ก่อนตัวเองจะ อุ้มแพ็คหนังสือเดินลิ่วมายังเครื่องคิดเงินที่เธอนั่งอยู่เบื้องหลัง มีชายหนุ่มเดินตามมาติดๆ
"ขอ... เขาขอแพ็คนี้ค่ะพี่" ลูกค้าสาวเจ้าประจำของเธอว่า พลางส่งสายตาไปยังชายหนุ่ม ผู้กำลังส่งยิ้มแห้งๆ ให้เธอ ลูกค้าสาวจัดแจงคว้าแบงค์ม่วงและแดงสองสามใบออกจากกระเป๋าส่งให้หนุ่มหน้าตี๋ ผู้รีบวางมันลงบนถาดรับเงิน พร้อมด้วยคูปอง "สำหรับท่านชาย" วางหราทับอยู่ด้านบน
"ค่า ขอบคุณที่อุดหนุนเสมอนะคะ" เธอหยิบธนบัตรมาแล้วกดเครื่องคิดเงินอย่างว่องไว ดึงแบงค์เขียว 2-3 ใบ และเหรียญอีกจำนวนหนึ่งยื่นให้กับลูกค้า ก่อนจะหยิบกองแพ็คหนังสือใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาลซ้อนสองชั้นอย่าง ทมัดทะแมง ทว่าเมื่อเธอยื่นถุงหนังสือให้กับลูกค้าหนุ่ม ก็พบว่าลูกค้าสาวกำลังมองหน้าเธอสลับกับธนบัตรในมือ ด้วยสีหน้าแปลกๆ
"มีอะไรหรือเปล่าคะ" เธอส่งยิ้มสดใสอันเปรียบเสมือนเครื่องหมายการค้าประจำตัวให้ "พี่คะ" ลูกค้าสาวยื่นเงินคืนให้เธออย่างเกรงๆ "หนูว่าสงสัยพี่จะทอนเงินเกินนะคะ" "ไม่หรอกค่ะ นั่นแหละถูกแล้ว" เธอหลิ่วตาให้ทั้งคู่ "วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ค่ะ ใช้คูปองนี่ พี่ลดเพิ่มให้อีก 5% สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะคะ"
ถ้าตาเธอไม่ฝาด รู้สึกใบหน้าทั้งคู่จะแดงขึ้นนิดหนึ่ง นิดเดียวเท่านั้นแหละ แต่ก็พอแล้วล่ะ
ขณะทั้งคู่ก้าวออกจากร้าน หญิงสาวเจ้าของร้านยังได้ยินเสียงแว่วๆ ของชายหนุ่ม
"ผมก็ชอบสตีเฟน คิงเหมือนกัน ไม่ทราบว่า..."
เธออดหัวเราะกิ๊กไม่ได้ ก็แหม หนุ่มคนนั้นแวะมาร้านเธอทีไรไม่เข้ามุมการ์ตูนก็เดินไปชั้นนิยายจีนตลอด แล้วสตีเฟนคิงของเธอนี่มันมาจากไหนกันจ้ะ หืมม์
"เอาเถอะนะ ถือว่าเป็นวาเลนไทน์" หญิงสาวพูดออกมาดังๆ กับตัวเองในร้านที่ว่างวาย "ทำหน้าที่เป็นกามเทพจำเป็นซักวันก็แล้วกัน"
จากคุณ |
:
Draconia
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ก.พ. 54 19:33:34
|
|
|
|
|