Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
โลกในครอบแก้ว ติดต่อทีมงาน

 

                เป็นเวลานานแสนนานมาแล้วที่โลกถูกแบ่งเป็นสองส่วนหลังสงครามนิวเคลียร์ ด้านยุโรปกับด้านเอเชียแปซิฟิก ไม่มีใครรู้ว่าโดมแก้วขนาดใหญ่เกิดขึ้นได้อย่างไร งานวิจัยของนักวิชาการสมัยศตวรรษที่ 25 กล่าวเอาไว้ว่า จีนและยุโรปสร้างเครื่องจักรขนาดใหญ่ป้องกันตนจากกัมมันตภาพรังสีทำให้ประเทศแถบนั้นพลอยได้รับการคุ้มครองไปด้วย ไม่มีใครรู้อีกเช่นกันว่าเหตุใดประเทศมหาอำนาจทั้งสองจึงเปลี่ยนไป จีนสร้างจักรวรรดิขึ้นกดประเทศแถบเอเชียเป็นทาส ส่วนด้านยุโรปกลับมุ่งทางสันติ ราชินีแห่งสหพันธรัฐออกคำสั่งให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างพอกินพออยู่เพื่อสงวนทรัพยากรเอาไว้ โลกยุคนี้กลับตาลปัตรกับโลกยุคเก่าโดยสิ้นเชิง

 

               พันโทเอกศักดิ์ กับดร.นิคุโรหลบหนีสายตาของจักรวรรดิจีนมายังทะเลทรายในตะวันออกกลาง พื้นดินที่นี่เท่านั้นที่มีรอยแตกของครอบแก้วที่มาบรรจบกัน นอกจากนั้นยังเป็นที่ซ่องสุมกำลังต่อต้านจักรวรรดิและราชินีอีกด้วย เหล่าผู้โกรธแค้นจักรวรรดิเอเชียหลีกหนีความโหดร้ายมาที่นี่เพื่อหาทางล้มล้างปลดแอกให้ทุกคน ทางฝ่ายยุโรปมีนายทหารหัวหอกเป็นแกนนำซ่องสุมกำลังรบเตรียมประจัญบานยึดอำนาจ

 

                “เมื่อคืนลูกผมถามผมว่า ทำไมมีแต่จักรพรรดิมิซางเท่านั้นที่มีอำนาจสูงสุด” ดร.นิคุโรพูดภาษาเอเชียซึ่งเป็นภาษากลางในภูมิภาคนี้ เอกศักดิ์ยิ้มให้เพื่อนชายวัยสามสิบกว่า ทางเบื้องสูงคงไม่คิดว่าทหารยศสูงอย่างเขาจะทำงานร่วมกับนักวิชาการผมดำมันเยิ้มใส่แว่นหนาเตอะแบบนี้ได้ นิคุโรเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของเขาดูเหมือนคนญี่ปุ่นดั้งเดิม ผมดำฟันจอบ แถมใส่แว่นสะพายกล้องถ่ายรูปอีก เหมือนกับหุ่นไฟเบอร์กลาสในพิพิธภัณฑ์ไม่มีผิด จะว่าไปเขาก็มีตาสองชั้น ผิวดำแดงอย่างลูกทะเลไทยเช่นกัน 

 

               “แล้วคุณตอบว่ายังไง” เอกศักดิ์ตบปุ่มให้รถสะเทินน้ำสะเทินบกวิ่งไปตามโปรแกรม วันนี้นอกจากจะเป็นวันลาพักร้อนแล้วยังเป็นวันตัดสินอีกด้วย เวลาล้มล้างจักรวรรดิมืดมาถึงแล้ว ดร.นิคุโรขยับแว่นส่งยิ้มให้

 

                “ทุกสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลง ผมตอบเขาไปอย่างนี้” แล้วตัวแทนประเทศญี่ปุ่นเก่าก็เหม่อมองท้องฟ้า เขาคงคิดถึงเรื่องลูกที่รอคอยการกลับไป เอกศักดิ์พยายามห้ามเพื่อนไม่ให้เข้าแนวร่วมปลดปล่อยแล้วแต่ไม่สำเร็จ พ่อกับแม่ของดร.นิคุโรตายเนื่องจากต่อต้านผู้นำเหมือนกับเขา และเขาทั้งคู่ก็เหมือนกับคนอื่นๆอีกนับสิบที่ต่อต้นจักรวรรดิชั่วร้าย

 

               เวลาร่วมสองร้อยปีมันนานจนสร้างบาดแผลความแค้นให้ประชาชน ความรู้สึกเคียดแค้นประเทศที่ใช้ระเบิดปรมาณูนั้นยังไม่เท่ากับความชิงชังที่มีต่อจักรวรรดิ ผู้คนหลายพันอดอยาก หลายร้อยขาดบ้าน หลายสิบต้องสังเวยชีวิตจากความอมหิตของผู้นำ นายทหารทางฝ่ายสหภาพยุโรปเองก็กระสันอยากทำสงครามเสียเต็มแก่ ไม่มีใครรู้ว่ารอยโหว่ในทะเลทรายสามารถสัญจรผ่านได้ ถึงรู้คงไม่อยากจากบ้านเกิดเมืองนอน หากทางจักรวรรดิรู้คงจัดกองกำลังเข้าต่อกรเอาสหภาพยุโรปมาเป็นเมืองขึ้น หากทางสหภาพรู้คงหาทางอุดช่องโหว่ไม่ให้ความเลวทรามทางเอเชียเล็ดลอดเข้ามา หารู้ไม่ว่าประชาชนบนผืนแผ่นดินยูเรเชียถูกแบ่งเป็นสองฝ่ายเช่นกัน ฝ่ายบ้าสงครามกับฝ่ายบ้าความสงบ ช่างเป็นการประชดประชันอย่างเหลือร้าย

 

               รถจิ๊ปสะเทินน้ำสะเทินบกแล่นไปเทียบท่าข้างโอเอซิสแห่งหนึ่ง ใต้ดินที่นี่คือศูนย์บัญชาการฝ่ายปลอดปล่อย “รหัสผ่าน” รั้วเหล็กพุ่งจากพื้นขึ้นมาล้อมรถเอาไว้ นี่เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับมาจากฝ่ายการทหารของสหภาพยุโรป

 

               “ขวานมังกรรายงานตัว” ทั้งคู่พูดกับเครื่องแสกนม่านตา พื้นทรายค่อยๆลดระดับลงพร้อมกับรั้วและรถฝุ่นเขรอะ เอกศักดิ์โล่งใจที่หนีความร้อนจากทะเลทรายได้สักที

 

               “ทางเชื่อมรถไฟใต้ดินที่เนปาลเรียบร้อย ใช้รถไฟฟ้าพลังงานใต้พิภพวิ่งไปถึงจีนได้ในสิบสองชั่วโมง” เอกศักดิ์รับผ้าเช็ดเหงื่อ ข่าวเรื่องนี้ทำให้กลุ่มต่อต้านดีใจไม่น้อย

 

               ฐานลับใต้ดินดูแคบลงถนัดเมื่อมีรถถังและอาวุธยุทโธปกรณ์วางอยู่แนวกลาง พวกเขาจะใช้เส้นทางรถไฟใต้ดินเก่าขนกองกำลังบุกโจมตีในครั้งเดียว กองกำลังครึ่งหนึ่งถูกแบ่งไปช่วยการยึดอำนาจทางสหภาพยุโรปแลกเปลี่ยนกับอาวุธต่างๆ ไม่ถึงชั่วโมงรถไฟสองขบวนก็อัดแน่นด้วยยานพาหนะ และผู้คนพร้อมรบ ด้านหนึ่งวิ่งไปยังจีนทะลุออกไปโจมตีจักรวรรดิทางข้างหลัง อีกด้านหนึ่งใช้ทางรถไฟเก่าวิ่งไปใจกลางสหพันธรัฐเช่นกัน อีกสิบสองชั่วโมงจะถึงเวลาปะทะกันระหว่างแนวร่วมกับทหารของจักรวรรดิ เอกศักดิ์ตรวจปืนโพซิตรอนขนาดกลางให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ ความจริงนานมาแล้วมนุษย์เคยใช้พลังงานนิวเคลียร์ทดแทนน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ด้วยความเกลียดชังพลังงานนิวเคลียร์นักวิทยาศาสตร์จึงต้องหาพลังงานทางเลือกใหม่

 

                “ทุกคนต้องนอนพักให้เต็มอิ่ม” อดีตพันตรีจตุกาลหัวหอกแนวร่วมต่อต้านโยนห่อยานอนหลับให้แจกจ่ายทุกคน “ขึ้นโบกี้ตรวจสอบอาวุธและที่นอนให้พร้อม เราจะหลับกันตลอดสิบสองชั่วโมง” เอกศักดิ์ได้ยินเรื่องยานอนหลับที่ระบุเวลาหลับได้แต่เพิ่งเคยเห็นคราวนี้เอง แคปซูลสีแสดดำจะทำให้ทุกคนได้พักผ่อนจนรถไฟจะถึงที่หมายในอีกสิบสองชั่วโมง แค่เห็นสภาพสกปรกคร่ำคร่าเอกศักดิ์ก็ยิ่งอยากได้ยานอนหลับเพื่อจะได้ไม่ต้องทนมองพาหนะสุดโทรมขบวนนี้นานสิบสองชั่วโมง...

 

 

               สิบสองชั่วโมงให้หลังรถไฟหยุดกึกทุกคนตื่นแทบพร้อมกัน ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกองทหารพร้อมอาวุธร่วมพันนายจะลักลอบขึ้นไปทางรถไฟใต้ดินในจุดที่ใกล้ปราสาทที่สุด แผนที่และแผนการถูกนำมาพูดซ้ำเพราะพวกเขาจะพลาดไม่ได้ กองทหารใต้ดินยกขบวนไปยังชานชาลาเก่าทิ้งร้างกว่าร้อยปีรอสัญญาณจากกำลังหนุน นอกจากกลุ่มอาวุธหนักแล้วยังมีกลุ่มกองโจรย่อยคอยบุกสดมภ์เสบียงโจมตีกองทหารของจักรวรรดิอยู่เนือยๆ ตามที่นัดเหล่ากองโจรจะสับเปลี่ยนตัวกับทหารยามปล่อยให้พวกเขาขึ้นไปยังเขตปราสาทอย่างง่ายดาย

 

               ปราสาทของจักรวรรดิทำให้นึกถึงภาพวาดปราสาทโบราณของยุโรป แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมาปรากฏที่เอเชียได้ หอคอยสูงตระหง่านมืดทะมึนกลางแสงดาวระยิบระยับ กองกำลังค่อยๆเคลื่อนพลผ่านสวนหน้าไปถึงประตูใหญ่ ต่อจากนี้จะเป็นสงครามนองเลือดอีกครั้งในประวัติศาสตร์ เหล่าผู้กล้านับพันบุกเข้าปราสาทในทันใด เอกศักดิ์กับเพื่อนพ้องเร่งรุดไปยังห้องขององค์จักรพรรดิเป็นอันดับแรก หากกำจัดลูกพี่ใหญ่ได้อิสระก็จะกลับมาอีกครั้ง

 

               ห้องของจักรพรรดิเป็นห้องโถงกว้างใหญ่อยู่ตรงส่วนยอดปราสาท เอกศักดิ์คาดว่าจะพบบัลลังก์กลับกลายเป็นเครื่องจักรกลหนัก องค์จักรพรรดิถูกล่ามติดกับแท่นนั่งราวกับทาส ร่างกายซูบเซียวผ่ายผอม หรือนี่จะเป็นตัวปลอม เอกศักดิ์ออกคำสั่งให้พรรคพวกค้นหาตัวจริงแต่ถูกขัดเสียก่อน

 

               “ไม่ต้องหา ข้าคือจักรพรรดิแห่งดินแดนนี้” ชายวัยกลางคนผู้อ้างตนเป็นจักรพรรดิพูดเสียงแหบแห้ง “นี่คือเครื่องสร้างสนามพลัง มันทำงานด้วยจิตอาฆาตและเลือดของมนุษย์เป็นเชื้อเพลิง เป็นหน้าที่ของจักรพรรดิที่ต้องมอบเลือดของตนเพื่อปกป้องสิ่งสำคัญ”

 

               “ทำงานด้วย จิตอาฆาต” เอกศักดิ์ขมวดคิ้ว การเปลี่ยนความคิดที่รุนแรงเป็นพลังงานยังเป็นแค่ทฤษฎีเท่านั้น “หมายความว่า”

 

               “ใช่แล้ว เราจำต้องทำการสังหารหมู่อย่างเหี้ยมโหดเพื่อให้เครื่องนี่สูบกินจิตอาฆาตและเลือดมนุษย์อย่างเพียงพอ ไม่ใช่แค่เลือดของผู้คนแต่เป็นเลือดของข้าแลบรรพชนของข้าด้วย เพื่อไถ่ความผิดบาปแก่ลูกหลานที่สิ้นชีพ ผู้สร้างเครื่องนี้ยังสร้างเครื่องแบบเดียวกันนี้ที่ยุโรป หากแต่เครื่องนั้นดูดกลืนธรรมชาติและสันติเป็นพลังงาน”

 

               “โกหก” ทหารคนหนึ่งร้อง เอกศักดิ์คิดแบบเดียวกัน นี่ต้องเป็นเรื่องล้อเล่นแน่

 

               “พวกเจ้าไม่เคยได้ยินคำพูดนี้บ้างหรือ ที่ว่าโดยเนื้อแท้มนุษย์เป็นคนดี ไม่มีใครอยากให้แผ่นดินถิ่นฐานเกิดกลียุคแบบนี้หรอก หากรังสีและหมอกพิษจากกัมมันตรังสีด้านนอกหมดสิ้นข้าเองก็อยากทำลายเครื่องมือนรกนี่เช่นกัน”

 

               “เราจะรู้ได้ยังไงว่าแกคือจักรพรรดิตัวจริง และสิ่งที่แกพูดเป็นความจริง” เอกศักดิ์ลังเล เครื่องมือนั่นคือสิ่งป้องกันพวกเขาจากโลกเบื้องนอกจริงๆ

 

                “ชีพข้าใกล้จบสิ้นแล้ว หากเชื่อก็ใส่ตรวนนี่แทนข้าเพื่อให้เครื่องทำงานต่อไป หากไม่เชื่อก็ปล่อยข้าตายเสียตรงนี้ เมื่อครอบแก้วสนามพลังหายไปพวกเจ้าก็ถึงคราวดับสูญเช่นกัน” ร่างอ่อนระโหยค่อยๆปลดพันธนาการมือและเท้าออกอย่างช้าๆด้วยลมหายใจสุดท้าย

 

               ไม่ทันยื่นที่ครอบโลหะที่เต็มไปด้วยเข็มให้ร่างนั้นก็ทรุดตัวนอน จักรพรรดิแห่งเอเชียสิ้นชีพเพื่อปกป้องบ้านเมืองเอาไว้ เอกศักดิ์ลังเลเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง พวกทหารภายนอกเอ็ดตะโรวิ่งมาหาชี้นิ้วไปยังท้องฟ้า แผ่นใสคล้ายแก้วขนาดยักษ์ค่อยๆจางลงเห็นดาวชัดขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะผู้นำกลุ่มเขาควรทำอย่างไรดี สวมปลอกแขนโลหะเพื่อเป็นทรราชเลือดเย็น หรือปล่อยให้ครอบแก้วที่ครอบทวีปใหญ่สูญสลาย พอคิดได้แค่นั้นก็คิดถึงสถานการณ์ที่สหภาพยุโรป ที่นั่นคงประสบปัญหาแบบเดียวกัน แล้วเขาควรทำอย่างไรดี เชื่อสิ่งที่ตาแก่เมื่อครู่นี้พูดหรือไม่ เวลาของเขาและคนทั้งทวีปตกอยู่ภายใต้การสั่งการของเขาเพียงผู้เดียว...

 

**************************

สวัสดีทุกท่านที่เพิ่งเคยเจอกันครับ เรื่องสั้นนี้สั้นมากจึงต้องการคอมเมนท์เพื่อปรับปรุง ที่ใช้ตัวอักษรใหญ่เพราะผมตาสั้น และคิดว่าอ่านง่ายกว่าตัวเล็กๆ เชิญติติงตามสะดวกครับ

 

ถึงผู้ที่จำเรื่อง"โรงเรียนอสูรโคลโบลท์"ได้ ขอกราบขออภัยหนึ่งครั้ง _(- -)_ เพราะตอนนั้นยังเด็กอยู่ พอไม่มีคอมเมนท์ก็หมดกำลังใจขึ้นมาดื้อๆเลยเลิกเสียอย่างนั้น ถ้าจะให้โอกาสอีกครั้งผมก็จะมาโพสใหม่ตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนที่ 16(ตอนจบ) เลยครับให้หักมุมคากระทู้ไปเลย เพราะตอนนี้ผมเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าตอนนั้นแล้ว พยายามละทิ้งความเชื่อที่ว่า มีคนอ่าน = มีคอมเมนท์ ครับ

 edit แก้ตัวหนังสือให้ใหญ่ขึ้นแล้วครับ

 

แก้ไขเมื่อ 05 ก.พ. 54 12:20:26

แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 54 16:40:10

จากคุณ : Lazy return
เขียนเมื่อ : 4 ก.พ. 54 16:37:03




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com