Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
PSYCHO FEAR : ดาดฟ้า ติดต่อทีมงาน

ผมยืนเหม่อมองดูเส้นขอบฟ้าที่แสนขรุขระของกรุงเทพมหานคร มันถูกทิ่มแทงจากยอดของหมู่ตึกสูงที่เบียดเสียดยัดเยียดกันไต่ขึ้นไปสู่ท้องฟ้าสีขมุกขมัว แสงไฟฟ้าที่ได้จากการเผาผลาญธรรมชาติเรืองรองจนกลบแสงจากดาวที่ผมชื่นชอบไปจนหมดสิ้น

“ขอโทษนะครับ”

เสียงของลุงที่ทำหน้าที่ดูแลตึกแห่งนี้ดังขึ้นทางด้านหลัง ได้เวลาที่แกต้องปิดประตูแล้วสินะ ผมยังจำครั้งแรกที่เราพบกันได้เป็นอย่างดี

“คุณอย่าคิดสั้นนะ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันก่อน”

ผมกำลังยืนกางแขนสองข้างเลียนแบบท่าทางของพระเอกนางเอกจากภาพยนตร์ที่ผมชื่นชอบอยู่ใกล้ๆ ขอบดาดฟ้า เสียงของแกทำให้ผมตกใจจนเกือบจะพุ่งตัวออกไปข้างหน้าจริงๆ เสียแล้ว ผมใจหายวาบ หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งพร้อมหัวใจที่เต้นรัวเป็นกลองวันตรุษจีน

“ผมไม่ได้คิดจะโดดตึกหรอกลุง แค่ขึ้นมาดูวิวเท่านั้นเอง”

ลุงแกรีบขอโทษขอโพยผมเป็นการใหญ่ แต่แกก็ยังบ่นอุบอิบให้ได้ยินว่า ‘เล่นอะไรแผลงๆ’ ผมได้แต่ยิ้มพร้อมกับบอกลุงอีกว่า

“ถ้าผมจะฆ่าตัวตายนะลุง ผมไม่โดดตึกหรอก เพราะผมกลัวความสูงจะตายไป”

ลุงทำหน้างง

“อ้าว คุณกลัวความสูงแล้วขึ้นมาทำไมล่ะ”

ผมอึ้งกับคำถามของลุงแกเหมือนกัน นั่นสิผมเป็นคนกลัวความสูง แต่ผมกลับชอบวิวที่มองเห็นได้จากยอดตึกแบบนี้ โดยเฉพาะมุมทางด้านนี้ที่ไม่มีตึกอื่นๆ มาบดบัง ‘แต่ก็คงอีกไม่นานแล้ว’ พื้นที่ใกล้ๆ กันนั้นกำลังมีการก่อสร้างอยู่แล้วในเวลาไม่นาน มันก็จะกลายเป็นกำแพงยักษ์ขังตึกหลังนี้เอาไว้

“นั่นสิ ผมกลัวความสูง แต่ผมกลับชอบวิวบนนี้...ขอแค่ไม่มองลงไปข้างล่างผมก็ยังพอไหวแหละครับ”

ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆ ผมเป็นยิ่งกว่านี้อีก ผมไม่กล้าแม้แต่จะเดินชิดริมระเบียง แม้แต่บันไดเลื่อนของห้างดังบางแห่งที่มีลักษณะแขวนตัวเองอยู่ท่ามกลางช่องโล่งขนาดใหญ่กลางตึกสูง แรกๆ ผมถึงกับไม่กล้าขึ้นเลยทีเดียว

“ลุงจะปิดประตูแล้วใช่ไหมครับ”

ผมเดินเข้ามาหาลุง วันนี้ดูแกมีท่าทางเซื่องซึมอย่างไรชอบกล ปกติเราจะทักทายพูดคุยกัน แต่วันนี้แกกลับยืนเงียบเฉยรอให้ผมเดินกลับลงไป ผมเข้าห้อง ปิดประตู และพบว่าตัวเองเหมือนกับถูกขังอยู่ภายในกล่องคอนกรีต ต้องรอจนถึงพรุ่งนี้เช้า ผมถึงจะได้รับอิสรภาพอีกครั้ง

แต่เพียงไม่นานข้างนอกห้องก็มีเสียงเอะอะดังนั้น ผมเปิดประตู แล้วถามเรื่องราวกับชายคนหนึ่งที่เดินผ่านมาพอดี

“ลุงยามแกโดดตึก เมื่อกี้นี้เอง ตายคาที่ เลือดเต็มไปหมดเลย”

ชายคนนั้นทำท่าเหมือนภาพที่ได้เห็นนั้นช่างน่าสยดสยองจนไม่อยากจะจดจำ

“ขอโทษนะ ผมกำลังรีบ จะกลับไปเอาโทรศัพท์มาถ่ายวีดีโอเก็บเอาไว้”

ผมไม่ทันได้คิดถึงการกระทำกับคำพูดที่ไปคนละทางของเขา สิ่งแรกที่ผมคิดในตอนนั้นคือใบหน้าของลุงเมื่อผมเดินสวนลงมา ‘ทำไมผมถึงไม่ชวนแกคุยสักคำสองคำนะ’ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรือไม่ และผมคงไม่มีวันได้รู้คำตอบนั้นแล้ว

ตำรวจมาสอบถามผม เพราะผมเป็นคนที่พบกับลุงเป็นคนสุดท้าย ผมตอบไปตามจริง และตำรวจเองก็ดูจะไม่ค่อยสนใจรายละเอียดอะไรมากนัก ผมจึงถือโอกาสสอบถามเรื่องราวจากตำรวจคนนั้นดู

“ฆ่าตัวตายแหละครับ เห็นคนแถวห้องเช่าที่แกอยู่บอกว่า แกอยู่กับหลานชายคนหนึ่ง และไม่เคยบอกว่ามีญาติที่ไหนอีก หลานแกติดยา เมื่อวานนี้ก็พาพวกมาขโมยของในห้องไปจนหมดแล้วหนีหายไป แกคงหมดอาลัยตายอยาก ก็เลยคิดสั้น”

หลังจากนั้นประตูชั้นดาดฟ้าก็ถูกใส่กุญแจปิดตาย ซึ่งทำให้ผมอดดูวิวที่ชอบไปด้วย แล้วเรื่องราวก็ค่อยๆ เงียบหายไปในที่สุด เย็นวันหนึ่งขณะที่ผมกำลังยืนเหม่อมองดูตึกที่เหมือนกับกำแพงยักษ์ซึ่งกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น เด็กวัยรุ่นสองคนที่หน้าตาไม่คุ้นก็เดินเลี้ยวหายเข้าไปในตึกที่ผมอาศัยอยู่

“เห็นเด็กวัยรุ่นที่เดินเข้ามาก่อนผมไหม”

ผมถามยามที่ทำหน้าที่แทนลุงมาตั้งแต่วันนั้น

“พึ่งมาเช่าอยู่ใหม่ครับ”

เขาตอบพร้อมกับลดเสียงให้เบาลง

“อย่าไปยุ่งกับพวกมันเชียวครับ สงสัยจะเป็นพวกขี้ยา”

หลังจากวันนั้นก็มีกรณีงัดห้องขโมยของเกิดขึ้นหลายครั้ง ยามถูกเปลี่ยนใหม่อีกหน และเด็กวัยรุ่นทั้งสองตกเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ก็ยังไม่อาจจับมือใครดมได้ ผู้เช่าหลายคนเริ่มไม่พอใจ จนในที่สุดก็เกิดการรวบตัวกันขับไล่ทั้งสอง หลังจากโต้เถียงมีปากเสียงกันอยู่นาน เด็กวัยรุ่นทั้งสองก็ยอมตกลงที่ย้ายออกเมื่อถึงสิ้นเดือน

ในคืนก่อนวันสิ้นเดือนก็เกิดเรื่องซ้ำรอยเดิมขึ้นอีกครั้ง มีเสียงเอะอะดังโวยวายไปทั่วทั้งตึก ผมออกมาถามเรื่องราวและพบกับชายคนเดิมอีกครั้ง คราวนี้เขามีกล้องดิจิตอลอันจิ๋วเตรียมพร้อมอยู่ในมือด้วย

“ไอ้เวรสองตัวนั่นน่ะ โดดตึกลงไปตายทั้งคู่ ที่เดียวกับลุงยามเมื่อคราวที่แล้วเลย ลุงแกท่าจะเฮี้ยนน่าดู”

คราวนี้ไม่มีตำรวจมาสอบถามผม ผมจึงต้องไปรวบรวมข้อมูลเอาเอง เด็กวัยรุ่นทั้งสองคนช่วยกันงัดประตูออกไปที่ดาดฟ้าแล้วแอบพี้ยากัน ตำรวจสงสัยว่าจะเมายากันเกินขนาด จนสุดท้ายพากันกระโดดลงไปตายอย่างที่เห็น นอกจากนี้ทั้งสองก็ยังได้งัดเข้าไปในห้องของตัวตั้งตัวตีที่รวมคนไปขับไล่พวกตนด้วย ก่อนที่จะลงมือพี้ยากัน

ตำรวจพบชายคนนั้นถูกมัดอยู่ภายในห้อง พร้อมกับโดนทำร้ายร่างกาย แต่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายนัก นอกจากนี้ของมีค่าจากห้องของเขาหลายชิ้นก็ถูกพบเจอในห้องของวัยรุ่นทั้งสองคนด้วย พวกเขาคงคิดจะสั่งลาก่อนที่จะเปิดหายเข้ากลีบเมฆไป

ยิ่งไปกว่านั้นวัยรุ่นหนึ่งในสองคนดังกล่าวกลับกลายเป็นหลานของลุงยาม คนที่เป็นต้นเหตุให้แกต้องมากระโดดตึกตายเสียด้วย จึงยิ่งทำให้คำร่ำลือที่ว่า ‘ลุงยามเฮี้ยน’ ขจรขจายออกไปอีก มีผู้เช่าหลายคนย้ายออกไป จนเจ้าของตึกต้องนิมนต์พระมาทำพิธี

หลังจากนั้นประตูดาดฟ้าก็ไม่เคยถูกปิดอีก เพราะพอปิดไปสักพัก ก็จะมีคนแอบงัดขึ้นไปทุกที มีเศษซากของพวงมาลัย ธูป เทียน และผ้าสีที่ถูกนำมาผูกกับลูกกรงรั้วตรงจุดที่เกิดเรื่อง และแน่นอน รอยแป้งที่เกิดจากนักเสี่ยงโชคทั้งหลาย ที่หวังพึ่งความเฮี้ยนของผีลุงยามเพื่อรวยทางลัด

ผมเองก็ถือโอกาสนี้แอบขึ้นไปชมวิวด้วยเหมือนกัน แต่ตอนนี้ตึกสูงดังกล่าวก็เติบโตจนบดบังวิวไปเสียแล้ว แม้แต่ในยามค่ำคืนแสงไฟอันเกิดจากการกัดกินทรัพยากรต่างๆ เพื่อการเติบโตของมันก็ยังคงสว่างไสว คนงานต่างเร่งป้อนมันทั้งวันทั้งคืน เพื่อให้มันเติบโตเป็นตึกใหญ่มูลค่ามหาศาลสวยงาม

เมื่อไม่มีวิวของท้องฟ้าตึกหลังนี้ก็ไม่น่าสนใจอีกต่อไป จะว่าไปแล้วมันเองก็ไม่ต่างจากตึกหลังอื่นๆ นั่นเอง พวกมันช่วยกันกัดกินโลกใบนี้เพื่อขึ้นไปให้ถึงท้องฟ้า แต่ดูเหมือนพวกมันจะลืมไปว่า เมื่อไหร่ที่ผืนดินหมดสิ้นลง พวกมันเองนั่นแหละที่จะต้องร่วงหล่นลงมา

ผมเจอตึกหลังใหม่แล้ว ตึกที่ยังคงมีวิวของขอบฟ้า แม้จะเป็นขอบฟ้าที่ถูกกัดกินจนเว้าแหว่ง แต่มันก็ยังคงสวยงามอยู่นั่นเอง และผมคงจะย้ายตัวเองไปในไม่ช้านี้

@@@@@

ผมขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า เพื่อบอกลากับลุงยามเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะค่อยๆ ราดน้ำมันไปรอบๆ ตัวตึกอย่างใจเย็น และยังมีถังใส่น้ำมันอีกหลายใบถูกวางเอาไว้อย่างกระจัดกระจายภายในตึก

จากวันนี้ไป เจ้าตึกที่น่าเกลียดเหล่านี้ก็จะลดจำนวนลงไปอีกหนึ่ง แน่ล่ะแค่นี้คงไม่ทำให้พวกมันสะดุ้งสะเทือนอะไรมากมายนัก แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลย

ผมจุดไม้ขีดไฟพร้อมกับโยนลงไป เปลวไฟร้อนแรงก็ลุกพรึบขึ้นทันที

แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 07:57:23

แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 54 07:08:10

แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 13:51:13

แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 54 10:29:06

จากคุณ : zoi
เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 54 10:27:30




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com