Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เพลงรักในความฝัน The first love song บทที่ 5 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10189315/W10189315.html
บทที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10197753/W10197753.html
บทที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10205606/W10205606.html
บทที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10220481/W10220481.html


แหะๆ ลงบทที่ 4-5 ติดๆ กันเลย นักเขียนวัยรุ่นใจร้อน - -"


อ่านต่อบทที่ 5

redrosewhiteroseredrosewhiteroseredrosewhiteroseredrosewhiterose
v
v
v







“ไม่ทำงานที่เดิมแล้วจริงเหรอดาว” กันยาเข้ามาทักทั้งอยู่ในชุดร้านมินิมาร์ทเตรียมไปทำงาน พยายามหว่านล้อมให้ดาวกลับไปทำงานที่เดิม “คิดดีๆ ล่ะ จบ ปวช กระจอกๆ แบบเราหางานยากจะตาย”

ปรายยิ้มให้ดาวที่อยู่ในอ้อมแขนกันยา “มีปัญหากะนายน่ะ โดนนายปล้ำ ไม่ออกได้ไง”

“ว๊าย” กันยาสะดุ้งตกใจ แล้วรีบเล่าเรื่องตัวเอง “เออๆ เคยเจอเหมือนกัน พวกผู้ชายนี่เอาเปรียบทั้งนั้น !”

“นี่... ก็โดนปล้ำมาด้วยเรอะ !?” ปรายดูหน้าอกเรียบๆ หุ่นไร้ส่วนเว้าส่วนโค้งของกันยาแล้วถอนหายใจหนักๆ กับความเลวร้ายของผู้ชายเพศเดียวกับเขา “ผู้ชายนี่***กันทั้งนั้นเหรอวะ”

“โอ๊ยดาว... กระโชกโฮกฮากเหมือนผู้ชายเข้าไปทุกทีแล้วนะ หมู่นี้เป็นอะไรไปน่ะ แต่งตัวก็ไม่เหมือนเดิม แล้วไหนจะจู่ๆ มาใช้มือซ้ายซะคล่องเชียว”

“แหม ก็แค่ตกใจที่ได้ยินว่ากันยาโดนปล้ำ และก็ถนัดมือซ้ายมานานแล้วล่ะ” ปรายแก้ตัวไม่จริงจังนัก

“อื้อ หน้า***อย่างเรามันยังจะปล้ำ เลยยอมทำงานกับยายเจ๊ปากเสียไงล่ะ เอาเปรียบยังไงก็ปลอดภัยกว่า... แต่ปวดหลังมากเลย ทำงานหนักทั้งใช้แรงขนของ ใช้สมองคำนวณเงิน เฮ่อ ไปละ” กันยาตบท้ายโดยการบ่นเรื่องสุขภาพแล้วอวยพรให้เพื่อนหางานใหม่ได้

ปรายดูผู้หญิงเตี้ยตรงหน้าจากไป แล้วกระโดดขึ้นๆ ลงๆ เพื่อไล่ข่าวร้ายยามเช้า ดาวก็มองการแต่งตัวของปรายอย่างไม่รู้จะแนะนำอย่างไร “ถ้าคุณไม่นุ่งกระโปรง จะสมัครทำงานได้ยังไงล่ะ อย่าบอกนะว่าจะไปสมัครเป็นผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการ”

“ให้ทาลิปสีนี่ก็ยากเต็มทน มาทะเร่อทะร่าใส่กระโปรงโล่งๆ นั่น เข้าแล้วไม่โป๊ตายเหรอดาว”

“งั้นก็ต้องนุ่งกางเกงผ้า สวมสูททับ”

“ร้อนตาย ขอแบบนี้แหละ” ปรายยังยืนยันที่จะนุ่งกางเกงยีนส์สีดำ เสื้อเชิ้ตทับเสื้อยืดอีกตัว เพราะเขายังแก้นิสัยชอบถอดกระดุมไม่ได้ บางทีเขาเผลอเกานมต่อหน้าคนเอาเฉยๆ


“ใส่ชุดแบบนี้ก็ได้แค่ตำแหน่งพนักงานส่งเอกสาร”


“น่า... อย่าจริงจังเรื่องงานเลย ผมไม่ยอมอดหรอกน่า วันนี้แค่ดูๆ บ้านเมืองพอ” ปรายแอบดูเอกสารประวัติการศึกษาของดาวแล้วก็ทำใจว่าต่อให้เขาแต่งตัวเหมือนหญิงก็คงได้งานดีๆ ยาก ท่ามกลางเศรษฐกิจแบบนี้


“เฮ่อ แล้วนี่คุณจะพาแมวอย่างฉันไปสมัครงานจริงเหรอ”


“จริงสิ อย่าขี้ใส่หลังผมแล้วกัน” ปรายพบส่วนดีของการมีชีวิตแบบนี้ตรงที่เขามีสัตว์เลี้ยงตัวโปรดพูดจาสื่อสารกันได้ “แล้วคุณอยากให้ผมทำงานอะไร”


“ไม่รู้...ที่จริงฉันชอบเลี้ยงเด็กนะ แต่ฉันจบแค่ ปวช. ไม่ได้จบครู เลยเป็นครูอนุบาลไม่ได้ ให้ไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กจริงๆ ก็เงินเดือนนิดเดียว”


“เอ๊ะ” ปรายได้ความคิดใหม่ขึ้นมาทันควัน “หรือว่า... คุณเรียนหนังสือต่อดีกว่า เอามั้ยๆ ผมเรียนเก่งนะ อ่านทีเดียวทำข้อสอบได้สบายบรื๋อ”


“จะดีเหรอ แล้วจะเอาเงินที่ไหนเรียนล่ะคุณ”

“ไป... ออกไปหาเงิน”

ทั้งคู่ออกจากหอพัก แต่ดาวบอกปรายแค่ว่าแต่งกายไม่สุภาพ มันเลยทำให้ปรายไม่รู้ตัวว่าเขาเหมือนผู้หญิงสติไม่ดีแค่ไหน เขาแต่งตัวเหมือนผู้ชาย และเดินเหมือนผู้ชาย เซ็งๆ ขึ้นมาก็อุ้มแมวจากย่ามขึ้นมาดีดขนเล่น แมวก็สายตาพร่ามัวและทำใจกับโลกจนไม่อยากทักท้วงอะไรให้ปรายลำบากใจไปกว่านี้

พวกเขาไปสำรวจเงินในบัญชีของดาวเป็นสิ่งแรก


“เออ ไอ***มันโอนให้ตั้งสองแสน ! ก็ยังดีโว้ย นึกว่าจะให้ห้าพัน !”

ดาวมองจำนวนเงินตาโตอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพึมพำอย่างหดหู่ “นั่นคือ... ค่าตัวฉัน ?”


“คิดแบบนั้นแล้วสบายใจก็คิดได้ แต่ถ้าคิดแล้วไม่สบายใจก็จงคิดใหม่” ปรายกดเงินสดออกมาใส่กระเป๋าอย่างไม่แยแส “เงินนี่คือเงินที่ไอ้เลวนั่นมันใช้ไถ่บาปให้ตัวเอง... ส่วนเรื่องคุณ คุณรู้ตัวดีว่าคุณเป็นคนแบบไหน และถ้าคุณไม่เชื่อตัวเองก็จงเชื่อผม ผมเป็นคนหนึ่งที่มองเห็นศักดิ์ศรีของคุณ และไม่ใช่พวกคร่ำครึขนาดตัดสินผู้หญิงด้วยพรมจรรย์”


“ขอบใจ...” ดาวยิ้มให้คำพูดที่แสนน่าฟังของเขา แม้รู้ดีว่าไม่มีใครเห็นแมวยิ้มได้ “แม้ฉันจะไม่มีวันรู้ว่าคุณพูดความจริงแค่ไหน แต่คำพูดคุณน่าฟังมาก มิน่า... ผู้หญิงถึงมีใจให้คุณง่ายๆ อย่างงี้ละมั้งที่เขาว่าคนเจ้าชู้มีเสน่ห์”


“แต่ตอนนี้ผมพูดความจริงกับคุณทุกอย่าง และผมก็ไม่อยากมีเสน่ห์แล้ว มันเป็นดาบสองคมที่ฟาดฟันได้ทั้งตัวเองและคนที่หลงเข้ามา”

“เฮ่อ...” ดาวก็พอเห็นด้วย “แล้วนี่เราจะไปไหนกันคะ ?”

“ไปหาเงินไงล่ะ ! จะให้ผมใช้เงินคุณคงไม่พอหรอก ฮ่าๆ”

“หาที่ไหน ?”

“แฟนผม ก้อยไง !”


“จะดีเหรอ ก็...”


ดาวอยากจะท้วง แต่รู้ตัวว่าฉลาดน้อยกว่าเขาจึงแค่เดินตามเขาไปทุกที่ ปรายกลายเป็นคนกลัวแท็กซี่ไปโดยปริยาย ยอมขึ้นรถเมล์ตามคำแนะนำของดาวอย่างเชื่อฟัง และกว่าจะถึงคอนโดหรูที่พักของแฟนเขา ก็เล่นเอาเหงื่อตก

“ยามจะให้เราเข้าเหรอ” ดาวดูคอนโดเศรษฐีอย่างไม่แน่ใจ แต่ปรายไม่เดือดเนื้อร้อนใจ
“หนูเอาแมวคุณปรายมาส่งให้คุณก้อยเลี้ยงค่ะ คุณก้อยอยู่ห้องมั้ยคะ”

ยามสำรวจดูในสมุดบัญชีรถเข้าออกก็พยักหน้า ยินยอมให้พวกเขาเข้าไปโดยดี แต่พอลิฟต์พาไปถึงหน้าห้อง ปรายเคาะประตูตั้งนานก็ไม่มีใครมาเปิด

“อ้าว รถอยู่ คนไม่อยู่ได้ไง หรือไปห้องเพื่อน” ปรายวิ่งไปอีกปีกของคอนโด เขาสังหรณ์ใจร่วมกับข่าวหนังสือพิมพ์ว่าก้อยไปคุยกับกริช... เพื่อนเขา แต่เขาไม่คิดไปตาม เขาเดินไปยังระเบียงที่มีกระถางดอกไม้ตั้งประดับอยู่ พลิกอันที่ไกลมือสุดก็ได้ซองกระดาษข้างในมีการ์ดเปิดประตูห้อง

“นี่ห้องแฟนคุณหรือห้องคุณ ?” ดาวนึกกลัวกล้องวงจรปิดแต่ปรายกลับไม่สนใจ

“ห้องนี้เป็นของขวัญจากผมสำหรับวันที่ก้อยอายุครบ 25”

“โอ้โห้ รวยกันจริงๆ”

“ก็บอกแล้วไง ผมไม่เอาเปรียบผู้หญิง” ปรายบอกอย่างภาคภูมิพลางสอดการ์ดแล้วกดรหัสเลขเข้าห้อง “ใครนิสัยดีได้ของทุกคน ฮ่าๆ”

“โอ๊ย...แล้วตกลงคุณก้อยเป็นแฟนหรือเมียเก็บคุณกันแน่เนี่ย ?”

“ฮ่าๆ อย่าถามอย่างนั้น เรื่องโรแมนติคกลายเป็นเรื่องน่ารังเกียจทันที ฮ่าๆ”

ปรายหัวเราะขำตัวเองแล้วเมื่อประตูห้องเปิดเขาก็ปล่อยให้ดาวกระโดดไปมาทั่วห้องอย่างตื่นเต้น “สวยน่าอยู่ ยังกะโรงแรมแน่ะ ”

“ชอบเหรอ เดี๋ยวผมกลับไปเป็นเหมือนเดิมเมื่อไหร่ ผมหาให้คุณห้องหนึ่ง !”

“แหม ไม่ได้ต้องการแบบนั้น”

“ผมก็ไม่ได้คิดแบบนั้น แค่อยากตอบแทนที่คุณยกตัวเองให้ผมอยู่ ฮ่าๆ” ปรายเปิดตู้เย็นกะจะหยิบน้ำ แต่เห็นขวดเครื่องดื่มยี่ห้อโปรดปรานของตัวเองแล้วอดใจไม่ไหว “ขอไอ้นี่สักจิบนะดาว”

จิบเดียวของเขาหมดไปครึ่งขวดต่อหน้าต่อตาดาว

“คุณปราย ฉันคออ่อนมาก หยุดเถอะ !”

“ไม่เห็นเป็นไรนี่...!” ปรายยังยิ้มสบายใจ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองหน้าแดงแจ๋แค่ไหน





แล้วเสียงคนกลับเข้าห้องทำให้ปรายคว้าแมวไปนอนหลังโซฟาทันที เขาปรากฏตัวต่อก้อยก็ไม่มีอะไรดีแน่ๆ เขาอาจถูกจับส่งตำรวจหรือก้อยขวัญเสียจนโดดคอนโดไปก็ได้
แต่เสียงก้อยหัวเราะเข้ามาพร้อมกริช ทำให้ปรายมั่นใจทันทีว่าต่อให้มีผีมาหลอก เธอก็ไม่กระโดดไปไหน แม้ทำใจไว้กับข่าวคาวๆ บ้างแล้วแต่เขาเริ่มกำขวดเครื่องดื่มแน่นเอี๊ยดเมื่อได้ยินเสียงคนทั้งคู่คุยกันด้วยน้ำเสียงสนิทสนม


“จะไม่ไปเยี่ยมเจ้าปรายมันจริงเหรอก้อย”

“ไปให้พ่อแม่พี่น้องเขาได้ฉีกอกเอาน่ะสิ ใครๆ ก็หาว่าก้อยทิ้งพี่ปรายให้ขับรถเอง ทำไมไม่คิดมั่งว่าทำไมพี่ปรายถึงยอมให้ก้อยกลับดึกๆ ดื่นๆ กับคนอื่น”

“ไอ้ปรายมันถือว่าตัวเองเก่งเสมอแหละ ก็อยากจะสมน้ำหน้า แต่ก็เห็นใจพ่อแม่มัน”

“แล้วพี่กริชไม่เห็นใจก้อยเหรอคะ” ก้อยบ่นกระเง้ากระงอด

“เห็นใจสิก้อยจ๋า แต่จะให้ประกาศตัวโจ๋งครึ่มว่าเราคบกันทั้งที่ไอ้ปรายนอนแบ็บอยู่นั่นเหรอ” แล้วเสียงกริชออดอ้อนก็ตามมา “ก้อยเองนั่นแหละ ที่น่าจะเลิกกะไอ้ปรายก่อนหน้านี่”

“หันมาโทษก้อยอีกคนละ งั้นออกไปเลย โน่น... ประตู”



“ขอโทษจ้า ใครจะทิ้งให้คนสวยอยู่คนเดียวได้ลงคอเล่า”


“ฮึ ไม่ต้องทำพูดดี ก้อยจะหางานทำ ต้องหาเงินใช้เอง คงพึ่งเงินผัวที่เดี้ยงอยู่ได้อีกไม่นาน”

“ก้อยจะไปเป็นพริตตี้อีกเหรอ พี่ไม่ยอมนะ”


“ทำยังกะตัวเองเลี้ยงไหวแน่ะ พี่ปรายน่ะ ถึงจะเป็นเพลย์บอยทิ้งๆ ขว้างๆ ก้อยยังไง แต่ก็ทำงานทำการ เงินทองก็ไม่เคยขาดมือก้อย แต่พี่กริชนี่... ค่าเหล้ายังเคยยืมก้อยเลยนะคะ”

“น่า... แต่เรื่องอื่นพี่ทำได้ดีกว่าไอ้ปรายนี่นา พิสูจน์อีกทีก็ได้ ฮ่าๆ”

“ตาบ้า วันๆ คิดแต่เรื่องนี้”

“อ้าว... ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เหรอ ที่ทำเอาก้อยลืมไอ้ปราย ฮ่าๆ”




แล้วเสียงเถียงของทั้งคู่เงียบไป เปลี่ยนเป็นหัวเราะคิกคักก่อนตามด้วยเสียงกิจกรรมแสนหฤหรรษ์อย่างอื่น จนเสื้อสวยๆ ของก้อยถูกโยนมาด้านหลังโซฟาแหมะลงบนหน้าปราย ดาวรีบตะปบขวดเครื่องดื่มทันก่อนที่ปรายจะยกขึ้นมาจ่อปากอีก และชื่นชมเขาไม่น้อยที่เขายังสามารถควบคุมอารมณ์ไม่ลุกขึ้นไปเอะอะคู่รักหน้าไม่อายคู่นั้น ปรายก็ปิดตาปี๋ ขบกรามกรอดๆ กำมือแน่นเขม็ง


ดาวมองหาทางหนีทีไล่เพื่อออกจากสภาพอึดอัดตรงนี้ แต่ทั้งเจ็บปวดแทนปรายและโล่งใจเมื่อกริชอุ้มผู้หญิงที่มีแต่ชุดชั้นในเข้าห้องนอนไปแล้วปิดประตูดังโครม

“เราไปกันเถอะค่ะ คุณปราย”

ปรายลุกขึ้นยืนดูสภาพโซฟาตรงหน้า ที่มีเสื้อผ้าของคนรักกับเพื่อนเขากระจายอยู่

“นี่ห้องกู และ... นั่นคนรักกู... กับเพื่อนกู !” ปรายขบกรามจนดาวนึกห่วงฟันตัวเอง


“เอ่อ คุณก้อยคงเหงา... จน...”


ปรายไม่สนใจว่าดาวจะปลอบใจยังไง เขาฉลาดพอที่จะจับการสนทนาได้ว่ากริชกับก้อยคบกันแบบนี้มาตั้งแต่เขายังอยู่ในสภาพปกติ คนอื่นก็อาจรู้กันทั้งเมืองแล้วก็ได้ เขามองรอบห้องอันคุ้นเคยอีกครั้งก่อนถามตัวเองว่ามายืนทำไมตรงนี้ เขาแค่มาหาที่พึ่งบางอย่าง...


กระเป๋าถือใบหรูของอดีตพริตตี้ดังวางอยู่ตรงหน้า ปรายเปิดมันออกแล้วหยิบบัตรเอทีเอ็มที่กดเอาเงินสดง่ายที่สุดออกมาใส่กระเป๋า แต่เขาไม่คิดใช้บัตรเครดิต เขาจะทิ้งไว้ให้เธอ เพราะรู้ดีว่าในอีกไม่กี่นาทีบัตรพวกนั้นก็ใช้ไม่ได้อีก เขาจึงหยิบบัตรมาดูหมายเลข

“อย่าขโมยของเค้าเลยค่ะ เราพอมีเงินใช้นะคุณปราย !”

“ทุกอย่างในห้องนี้เป็นของผม วิญญาณอย่างผมยังมีสิทธิ์เอาของตัวเองคืนบ้างใช่มั้ยดาว !?”


ปรายมองประตูห้องนอนคนรักอย่างใจเย็นแล้วยกหูโทรศัพท์ ระบุหมายเลขบัตรเครดิตให้ปลายสาย และ...ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็ระงับการใช้บัตรเครดิตทั้งหมดเสร็จสิ้น เขาเอาขวดเครื่องดื่มเหลือครึ่งขวดกลับตู้เย็น

“ไอ้กริชมันคงจัดการของที่เหลือในตู้เย็น กับดูแลก้อยได้เองสบายๆ”

ปรายพูดใส่ห้องครั้งสุดท้าย แล้วก็เปิดประตูให้ดาวเดินออกไป เขาไม่มีกะจิตกะใจจะอุ้มแมวกลับใส่ย่าม และเมื่อผ่านประตูยามเขาไม่แยแสจะตอบข้อความใดๆ เขานั่งรถเมล์เงียบเชียบกลับ แต่ก่อนขึ้นหอพักเขาแวะกวาดซื้อเครื่องดื่มบางประเภทใส่ถุงปิดมิดชิดแล้วพาเข้าหอพัก


เขานั่งบนโซฟาราคาถูกของดาว แล้วเปิดเครื่องดื่มที่ซื้อมาทีละขวดๆ

เขากำลังฝันว่าบินได้เหมือนนกอยู่ดีๆ แต่มันดันเป็นนกบาดเจ็บ...เจ็บจนบินไม่ได้

แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 54 00:10:58

จากคุณ : rainfull
เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 54 23:01:38




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com