................................
บนหน้าจอของเครื่องมอนิเตอร์เวลานี้ ตัวเลขแสดงพระชีพจรและความดันพระโลหิตเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเส้นกราฟแสดงคลื่นพระหทัยตีขึ้นลงจนยุ่งเหยิง เสียงร้องเตือนเบาๆจากเครื่องเริ่มดังขึ้น พร้อมกับไฟสีเหลืองกระพริบแจ้งบอกสัญญาณอันตรายระดับที่หนึ่ง
นี่แม้เป็นสัญญาณที่แค่เตือนว่าผู้ใช้พลังกำลังเดินเฉียดเข้าไปใกล้อันตราย หาได้ถึงแก่บาดเจ็บอย่างใดไม่ แต่ก็ยังทำให้สีหน้าของคนทั้งที่เฝ้าสังเกตการณ์หน้าจอทอแววเคร่งเครียดกังวลอย่างเห็นได้ชัด
เป็นอย่างไรหรือ ?
มากัสชมวดคิ้วส่งเสียงถาม ถึงแม้เขาจะใช้เจ้าเครื่องมือไฮเทคพวกนี้ไม่ใคร่เป็นนัก แต่อย่างน้อยก็พอจะอ่านและเข้าใจสัญญาณเตือนภัยของมันออก รับรู้ได้ว่า ฝ่าบาทของตนเวลานี้ทรงอยู่ในอันตรายแล้ว
ถ้าดูแล้วท่าจะไม่ไหว ต้องรีบปิดเครื่องเดินพลังงานนั่น แล้วเชิญเสด็จออกมาทันทีเลยนะ
ฉันรู้น่า...แกอยู่เฉยๆเถอะ
นายแพทย์หนุ่มหันไปปรามเพื่อนอย่างรำคาญ ทั้งที่ยามปกติคงไม่แสดงกิริยาเช่นนี้ใส่อีกฝ่าย หากแต่เป็นเพราะเวลานี้ในใจของเขาก็รู้สึกกระวนกระวายจนหงุดหงิดไม่รู้จะระบายไปทางไหน ก็พอดีหมอนั่นแส่เข้ามาอย่างประจวบเหมาะ
คงเผลอทรงว้าวุ่นจนสะเทือนพระทัย พระสมาธิก็เลยแตกระส่ำระสายควบคุมไม่อยู่ การใช้กระแสจิตเข้าควบคุมคอธต้องมีจิตใจที่หนักแน่นและมั่นคง สมาธิจะฟุ้งกระจาย เอาอารมณ์มาใช้แทนกระแสจิตไม่ได้ มิฉะนั้นพลังแห่งคอธที่เปล่งออกไปอาจจะสะท้อนกลับเข้ามากระแทกใส่ร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสได้
จีฮานอธิบายเสียงเนิบนาบ ใบหน้าเคร่งขรึมฉายแววสง่าน่าเลื่อมใส ถึงแม้ผมและคิ้วของนักบวชหนุ่มจะกลับกลายเป็นสีเงินดูแต่ไกลเหมือนอยู่ในวัยชราภาพ หากแต่เมื่อมองตรงๆในระยะใกล้เช่นนี้ กลับยังคงเค้าความคมคายมีเสน่ห์ของวัยฉกรรจ์ที่ไม่ได้แตกต่างจากนายทหารหนุ่มอีกสามคนแม้แต่น้อย
เพียงแต่ด้วยบุคลิกภาพที่สุขุมสำรวมสมกับเป็นนักบวชชั้นผู้ใหญ่ผู้รับใช้เทพ ดังนั้นถึงแม้จะอยู่ในวัยเดียวกัน หากทุกคนในที่นั้นก็ยังคงให้ความเกรงใจและรับฟังเขาอยู่ระดับหนึ่ง
ท่านอาจารย์.. แล้วนี่สมควรทำอย่างไรดี ?
มากัสโน้มใบหน้าเข้ามากระซิบถามเบาๆ เพราะเกรงจะไปรบกวนสมาธิเจ้าเพื่อนอีกสองคนซึ่งกำลังวุ่นอยู่หน้าแผงควบคุม ปรับปุ่มโน่นปุ่มนี่จนมือระวิง
แต่ครั้นเห็นสีหน้าที่ชะงักนิ่งไปของอีกฝ่าย ก็อดหันมองตามสายตาคู่นั้นไปไม่ได้ แลเห็นร่างของชายหนุ่มในตู้แคปซูลเริ่มเรืองแสงสีเหลืองจางๆออกมา ส่วนในตู้ของเด็กสาวก็เป็นเช่นกัน หากแตกต่างกันตรงที่เป็นแสงสีแดงเท่านั้น
ปรากฏการณ์นี้ทำให้หัวใจของทุกคนที่ชมดูอยู่ข้างนอกถึงกับเต้นแรง ลมหายใจแทบชะงักค้างไปชั่วขณะอย่างตื่นเต้น
อา.. พลังคอสมิคคิวปัสตีสีเหลืองและแดง
พลังสูงสุดที่หายไปจากกาแลกซี่ที่พวกเขาทั้งหมดจากมา แล้วสาบสูญไปท่ามกลางจักรวาลอันกว้างใหญ่ หลังการสิ้นพระชนม์ชีพของเจ้าชายราโอมินและเจ้าหญิงอาเซนธาเรียทั้งสอง
พวกเขาเดินมาถูกทางแล้ว
ในที่สุดเจ้าชายก็ทรงค้นหาร่างพลังของทั้งสองพระองค์จนเจอ !
.
จากคุณ |
:
ธีตภากร
|
เขียนเมื่อ |
:
13 ก.พ. 54 11:37:42
|
|
|
|