Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
We're The Kids From Yesterday -เรื่องที่2 วันวุ่นวาย แอนด์ วาเลนไทน์ เดย์ ติดต่อทีมงาน

อันนี้ลิ้งค์เรื่องที่1ครับ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10216362/W10216362.html

ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่าน ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ
ผมพูดไม่ค่อยเก่ง แต่รักหมดใจ ฮ่าๆ  ไม่พร่ำให้เสียพื้นที่แล้วครับ

เชิญพบกับเรื่องสั้นชุด"We're The Kids From Yesterday"ได้นะบัดนี้


...............................................................

วันวาเลนไทน์เป็นที่รู้จักกันดีไปทั่วโลกในฐานะวันแห่งความรัก ถือกำเนิดเกิดประเพณีนี้ขึ้นมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมันครองอำนาจทั่วยุโรป แต่ผมไม่ทราบว่าไอ้วันๆนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อไหร่ ในสมัยใด  จนอดสงสัยไม่ได้ว่า เอ๊ย นี่มันวันอะไร ใครๆดูแล้วเค้าก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน และก็ไม่รู้ใครเอามันเข้ามา (ฮิ๊กๆ) บางคนเค้าก็เรียกวาเลนไทน์ เดย์ บางคนก็เรียกวันนักบุญวาเลนไทน์(ฮิ๊กๆ) กระโดดบอกรักซึ่งหน้า ตกลงเค้าเรียกสกา(ฮิ๊กๆ) หรือว่า เร้กเก้(บางคนอ่านไปแล้วคล้อยตาม กระโดดลุกขึ้นเต้นสกาอยู่หน้าคอมพ์ก็อยากจะบอกว่า เอ่อ  ไม่เกี่ยวนะ ขอโทษที  นอกเรื่องไปหน่อย เพลงมันพาไป แถมเพลงเก่าอีกต่างหาก) แต่ที่รู้ๆพอผมเกิดและเติบโต  ก็เห็นใครต่อใครส่งมอบดอกกุหลาบให้กันทุกๆวันที่สิบสี่กุมภาของทุกปี ทั้งที่วันอื่นก็มี แต่ไม่ยักเคยให้

แล้ววันวาเลนไทน์มีที่มาจากไหน อะไร ยังไง  มีใครสงสัยบ้างไหม? เผื่อใครยังไม่เคยรู้ ผมก็จะขออธิบายพอสังเขปเป็นข้อมูลให้ทุกคนได้อ่านประกอบเรื่องเพิ่มอรรถรสยิ่งขึ้น ส่วนผู้ใดที่เคยอ่านและล่วงรู้อยู่แล้ว ก็ทำตาหยีๆแล้วข้ามสามบรรทัดถัดไปเลื่อนลงอ่านบรรทัดโน้นเลยก็แล้วกัน

วันวาเลนไทน์นี้ จริงๆถูกเรียกว่าวันนักบุญวาเลนไทน์  นักบุญวาเลนไทน์ผู้นี้มีตัวตนอยู่จริงในหน้าประวัติศาสตร์ ท่านเป็นพระอยู่ในยุคที่จักรวรรดิโรมันตกอยู่ใต้อำนาจการครองบัลลังก์ของจักรพรรดิคลอดิอุส ที่สองซึ่งขึ้นชื่อว่าโหดทะลุโลก มีสงครามเกิดขึ้นไม่เว้นวัน แถมทัพของโรมันก็ขยันถูกตีแตกเสียเหลือเกิน จักรพรรดิคลอดิอุสที่สองจึงทรงคิดแผลงๆขึ้นมาว่า “ไอ้การที่ทัพของเมืองเราถูกตีแตกแสนง่ายดายเช่นนี้ มันต้องมีเหตุที่พวกนายทหารหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในทัพ ห่วงหน้าพะวงหลัง คิดถึงลูกคิดถึงเมียแน่ๆ  อย่ากระนั้นเลย เพื่อตัดไฟเสียแต่ต้นลม ประกาศยกเลิกการแต่งงานและการหมั้นทั้งหมดในอาณาจักรนี้ดีกว่า!”

แต่เป็นไปไม่ได้หรอกครับที่มนุษย์เราจะดำรงเผ่าพันธุ์โดยไร้ซึ่งความรัก ยังมีนักบุญคนหนึ่งแอบจัดพิธีแต่งงานอย่างลับๆให้กับหนุ่มสาวที่มีความประสงค์ร่วมหอลงโลงด้วยกัน นักบุญท่านนั้นมีชื่อว่านักบุญวาเลนไทน์และการกระทำเช่นนี้ย่อมเป็นการกระทำที่ละเมิดคำสั่งของจักรพรรดิคลอดิอุส ที่สองอย่างร้ายกาจ  เมื่อเรื่องนี้รั่วไหลไปถึงหูของคนในวัง  ท่านนักบุญวาเลนไทน์ก็ถูกจับไปขังคุกมืดและเผชิญการลงทันต์ทรมานต่างๆนาๆเท่าที่ความโหดในยุคนั้นจะอำนวย ผลสุดท้าย ท่านนักบุญผู้ใจดีก็ถูกจับประหารชีวิตด้วยวิธีตัดศีรษะในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.270

น่าแปลกนะครับ คนที่อุทิศตนเพื่อความรักมักมีจุดจบที่เลวร้ายเสมอ  แต่เอาเถอะ  นั่นไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ผมจะเล่า มาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่า

ด้วยเหตุข้างต้นที่กล่าวมานี้ วันวาเลนไทน์จึงเป็นวันที่พิเศษ  ความพิเศษของมันแผ่ขยายอำนาจอิทธิพลผ่านระยะเวลาเป็นพันๆปีเข้าปกคลุมทุกซอกหลืบของสังคมไม่เว้นแม้กระทั่งหลังรั้วโรงเรียนระดับประถมแห่งนั้น

มันเป็นวันที่สิบสี่ กุมภาในปีที่ล่วงผ่านนานมาแล้ว  

ผมกระโดดลงจากรถตู้ในยามเช้าเช่นทุกวันเมื่อมาถึงโรงเรียน  นาฬิกาบอกเวลาว่าเจ็ดโมงครึ่ง   มีเด็กนักเรียนระดับชั้นต่างๆเริ่มเดินพลุกพล่านขวักไขว่รอเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธงตามปกติ แต่ที่ผิดปกติก็คือ ในมือของเด็กรุ่นป.สามขึ้นไป ถ้าไม่ถือกล่องช็อคโกแล็ตหรือสติ๊กเกอร์รูปหัวใจไว้ในมือ ก็ต้องถือดอกกุหลาบปลอมอย่างใดอย่างหนึ่งทุกคน

ผมเดินแบกเป้เข้าห้องปอหกทับสามของครูเอ๋  ตึกเก่าชั้นสองอย่างตื่นเต้น นึกในใจว่าวันนี้มีเรื่องสนุกๆให้แกล้งพวกเด็กผู้หญิงอีกแล้ว แต่ทันทีที่ผมพบความสลัวและเงียบสงัดของห้องเรียน(ถ้าไม่ใช่เวลาเรียน ร้อยละเก้าสิบเด็กส่วนใหญ่มักจะไม่อยู่ในห้อง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ผมเองก็เป็นเช่นนั้น)   เงาๆหนึ่งก็พุ่งตรงจากมุมห้องเข้ามาเกาะแขนของผม  ด้วยอารามตกใจ ผมเกือบสะบัดเป้ฟาดมันแล้วหากไม่ได้ยินเสียงเงานั้นพูดเสียก่อนว่า

“เฮียๆ ช่วยอั๊วล่วย ช่วยล่วยๆๆๆ”สำเนียงจีนกลางปนไทยแบบนี้ แถมเรียกผมว่าเฮียทั้งที่มันแก่กว่าผมตั้งหลายเดือนมีคนเดียวในห้อง  ไอ้สองนั่นเอง

“มีอะไร  ใครทำอะไรเมิง?-รึว่าโดนไอ้พวกห้องห้ามันไล่ต่อยอีกแล้วเรอะ?”ผมพูดขณะเดินเอาเป้มาวางใต้โต๊ะของตัวเองแล้วหันกลับไปจ้องเพื่อนเชื้อจีนอย่างต้องการคำตอบ “เมิงโดนพวกมันไถตังค์อีกแล้วใช่มั้ย กูสั่งให้สู้ทำไมไม่สู้  นี่พวกไอ้บอยไปไหนวะ ขืนนั่นรู้ล่ะ เรื่องไปกันใหญ่แหงๆ”

“ปละ...เปล่าน่อ  อั๊วไม่ล่ายโลงครายไถตังค์ เลี้ยวก็ม่ายล่ายโลงพวกห้องห้ามันไล่ต่อยล้วย  แต่อั๊ว...อั๊ว...อั๊ว...”ไอ้สองทำปากขมุบขมิบเหมือนสิ่งที่จะพูดนี้มันยากลำบากเสียเหลือเกิน “...อั๊ว...มี...ง่า...มี...ไอ่หย๊า...จาซี๋แป้บ่อ...จะพูกเยียงไงดีนิ...คือ...อั๊ว..”

“ถ้าเมิงไม่พูด  กุถีบเมิงจริงๆล่ะนะ”ผมโพล่งออกไปอย่างรำคาญเพราะธรรมดาสำเนียงพูดของสองก็ฟังยากอยู่แล้ว นี่เกิดอาการติดอ่างฉับพลันขึ้นมาอีกก็ยิ่งจับใจความยากเข้าไปใหญ่  มันยืนเกาะแขนผมอยู่อย่างนั้น เหลียวซ้ายแลขวาลอกแล่กเหมือนเพิ่งไปขโมยของในซูเปอร์มาเก็ต สุดท้ายก็มองหน้าผมแล้วพูดพร้อมส่งสายตาวิงวอนร้องขอสุดชีวิต

“อั๊วมีเลื่องให้เฮียช่วย“

จากคุณ : ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค
เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 22:33:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com