Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องสั้นเฉพาะกิจ...รักคือการให้ ติดต่อทีมงาน

เป็นเรื่องเล่าที่เคยลงเอาไว้ในบล็อคของมนต้นไม้นานแล้วค่ะ ถ้าใครเคยผ่านตาไปบ้างแล้ว ก็ขอนุญาตเอามาลงให้คนที่ยังไม่เคยอ่านได้อ่านกันอีกครั้งนะคะ


วันนี้มีเรื่องเล่ามาฝากค่ะ เป็นเรื่องของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าแม่ และผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่า ลูก มาเล่าสู่กันฟังฉลองครบหนึ่งเดือนในการเป็น สมช ที่นี่ค่ะ


พลังแห่งรัก  ( รักลูก หรือลูกรักของแม่)



อาจด้วยตัวมนต้นไม้เองเป็นคนต.ว.จ(คนอยูธยา กรุงเก่าของเราแต่ก่อน) มาตั้งแต่เกิด จึงมักประทับใจในวิถีชิวิตแบบดั้งเดิมเมื่อสมัยยังเด็ก พอโตขึ้นมาก็ถูกซึมซับด้วยเรื่องราวต่างๆมากมาย แล้วก็เลือก ที่จะถ่ายทอดสิ่งดีๆเหล่านี้ให้นี้ฟังกัน ลองมาอ่านดูนะคะ


เมื่อยังเด็ก บางครั้งเราเองอาจไม่เข้าใจในคำสอนของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพ่อแม่ และหลายๆต่อหลายครั้งก็ไม่ยอมที่จะพยายามเข้าใจท่าน แถมบางคนยังทำเหมือนกับเป็นคู่ทะเลาะเสียด้วยซ้ำ



ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าที่พวกเขาเหล่านั้นปล่อยเวลาที่ควรเป็นเวลาที่ดีที่สุดในช่วงชีวิตของคนๆนึงให้ผ่านเลยไป เวลาที่ได้อยู่กับครอบครัว เวลาที่ได้อยู่กับพ่อแม่ โดยเฉพาะเวลาที่ได้อยู่กับแม่


ข้างบ้านมนต้นไม้ที่อยุธยานั้นมีพี่ชายคนนึ่งที่มนต้นไม้คิดว่าน่ารักมาก  สมควรที่จะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง และนำมาพูดถึงได้อย่างเต็มปาก แม้ว่าทุกวันนี้มนต้นไม้จะไม่ได้เห็นภาพที่ผู้ชายตัวโตๆ ที่กำลังก้มลงมาไหว้แม่ที่มือ แล้วกอดซ้ำ ก่อนจะไปโรงเรียน หรือไปทำงานทุกครั้งไป แล้วก็ตาม แต่ภาพแห่งความทรงจำนั้นยังคงติดตาอยู่เสมอมา


ถึงแม้ว่าขณะนั้นตนเองจะยังเป็นเด็กอายุแค่แปดเก้าขวบก็เถอะ แต่ภาพที่เห็น ความรู้สึกดีๆ มันสามารถซึบซับและแผ่ซ่านไปได้ทั่วทุกตัวคน จริงมั๊ยค่ะ ( อะนะ ขอเล่าแบบเป็นงานเป็นการบ้างจิ หุ ๆ อย่าซึ้งจนร้องไห้กันล่ะ หุ ๆ)


ทุกๆ วันตอนเช้าๆหลังที่พี่ชายคนนั้นช่วยพยุง คุณแม่มาใส่บาตรแล้ว พี่เขาจะกุลีกุจอเก็บข้าวของพวกโต๊ะ ถาด แล้วก้รีบมาจูงคุณแม่เข้าบ้าน แววตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความรัก ที่ตัวเองเคยเห็นเวลาที่พี่เขามองมายังคุณแม่ ทำให้นึกถึงพี่ชายคนนี้ทุกครั้งที่ได้กลับบ้านที่ตจว.เลยอ่ะ


พี่ชายเขาเป็นคนไทยเชื้อสายจีน คุณพ่อพี่เขาเสียไปนานแล้ว เหลือแต่คุณแม่เท่านั้น และมนต้นไม้เอง ก็ไม่เคยซักครั้งที่จะเห็นว่าพี่ชายเขาขาดอะไรไป เคยถามตามประสาเด็กว่า พี่ชายคิดถึงคุณพ่อมั๊ย คุณพ่อพี่อยู่ที่ไหน พี่เขาไม่ตอบแต่เอานิ้วชี้ไปที่หัวใจ(ประมาณว่าตอนนั้น ดญ.มน ไม่เก็ท แบบว่าเป็นงง หุหุ )



อะนะแล้วจะรู้กันไหมล่ะชาติเนี่ย เราก็เลยไปถามมาม๊าแทน ที่นี้ก็เลยถึงบางอ้อ ตอนนั้นพี่เขาทำงานพิเศษ เป็นเด็กขนของอยู่แถวๆร้านค้าในตลาด ขยันมากๆ จนขึ้นชื่อไปทั่วอำเภอ เป็นที่หมายปองของพี่สาวๆแถวบ้าน (อันนี้พี่สาว เล่าให้ฟังอีกที)


ความจริงฐานะทางบ้านพี่เขาก็ไม่ได้ลำบากอะไร แต่ด้วยความที่เป็นคนกตัญญูและขยันมากๆ เลยไม่ยอมอยู่บ้านเฉยๆ เพื่อรับทานสมบัติเก่า ส่วนคุณแม่พี่ชายเขาอายุมากแล้ว และไม่ค่อยจะแข็งแรง บ่อยครั้งที่เห็นพี่ชายคอยบีบนวดให้คุณแม่


ที่เห็นเป็นประจำก็คือพี่เขาจะเอาผ้าขนหนูผืนเขื่องไปนึ่งในซึ้งสองชั้นๆ ละผืน แล้วสลับเอามาวางบนน่องของคุณแม่พี่เขา ซึ่งตอนแรกเราไม่เข้าใจ ต่อมาจึงรู้ว่าใช้เพื่อนวดให้กล้ามเนื้อให้มีกำลัง อะไรประมาณเนี่ย ภาพแบบนี้เห็นจนชินตา ไม่รวมที่พี่เขาต้องทำทุกอย่างให้คุณแม่เขาด้วย(ที่นี้รู้แล้วซิว่า ทำไม สาวๆติดตรึม)



อยู่ๆมาวันหนึ่งมนต้นไม้กลับจากโรงเรียนก็เห็นคนเต็มบ้านพี่เขาเลย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เลย แทรกๆตัวเอาหัวมุดเข้าไปดูผู้ใหญ่เขาคุยกัน ได้ความว่า คุณแม่พี่ชายเขาล้ม และพี่ชายพาไปโรงพยาบาลแล้ว


อืม...ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรไม่ดีนะ ด้วยความที่เป็นเด็ก กินอิ่มปุ๊บก็หลับปั๊บ มาตื่นอีกทีก็เช้า เราก็ไปโรงเรียนตามปกติ ผ่านไปหลายวัน ไม่เห็นพี่ชายมาหลายวันแล้ว มนต้นไม้ก็เลยถามมาม้าตัวเอง แม่บอกว่าพี่ชายเขาบวชแล้วเมื่อเช้าที่วัดสามกอ วัดใกล้ๆบ้านแหละ แม่พูดไปปาดน้ำตาไป ดญ.มน งง เต็ก


แม่เล่าว่า พอพี่ชายพาคุณแม่ของพี่เขาเไปโรงพยาบาลเมื่อวันก่อน แล้วก็ไปเฝ้า แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นเพราะคุณแม่พี่เขาอายุมากแล้ว คงฟื้นตัวลำบากประกอบกับร่างกายไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ก็เลยมีแต่ทรุด แต่ว่ากำลังใจยังดี เพราะมีลูกชายมาคอยดูแล


แต่อยู่ๆๆ คุณแม่ของพี่ก็สิ้นใจ เพราะขาดอากาศ (อันนี้โตขึ้นมาแล้ว แม่มนต้นไม้ถึงได้เล่าความจริงให้ฟัง ฟังแล้วเศร้ามากๆเลย) พี่ชายก็เลยบวชให้ แบบไม่มีกำหนด



แต่ในความเป็นจริงก็คือ คุณแม่พี่ชายเขียนจม.สั้นๆใส่ใต้หมอนมีใจความว่า แม่รู้ว่าลูกรักแม่มาก แม่ก็เช่นกัน แม่จึงขอให้ลูกรู้ว่าไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน แม่จะขอรักลูกของแม่ตลอดไป


พอเข้าใจกันมั๊ยคะ ...แบบว่ามันคงไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่มัน คือความตั้งใจที่คนที่ขึ้นชื่อว่าแม่ ต้องการให้ลูกอยู่อย่างมีความสุข ไม่อยากให้ลูกต้องมาเป็นทุกข์ และลำบากกับการที่ต้องมาดูแลแม่ที่พิการ ไงคะ


ส่วนพี่ชายก็เศร้ามาก จนต้องใช้ร่มกาเสาวพัฒน์เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และถือเป็นการบำเพ็ญบุญกุศลให้คุณแม่ที่ล่วงลับไปด้วย ทุกวันนี้ แม้จะผ่านมา 30 ปีได้แล้ว เมื่อใดก็ตามที่มนต้นไม้กลับบ้าน ไปเชงเม้ง ถ้ามีโอกาสก็จะแวะพามาม๊าและ ปะป๋าไปกราบหลวงพี่ชายเสมอ  


แม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้าแต่เป็นการทำความดี มีกตัญญู ที่น่าประทับใจมากๆ  เป็นความรักที่บริสุทธฺ์ มีแต่การให้ไม่จบไม่สิ้น จวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ กับความรักความกตัญญูของคนที่ขึ้นชื่อว่าลูก(ชาย)


รักคุณพ่อแม่ กันมากๆนะคะ


ปล. อ่านแล้วอาจจะงงๆไปบ้าง เพราะเขียนเรื่องนี้เมื่อสองปีก่อน ตอนที่เพิ่งเข้ามาบล็อคแก็งใหม่ๆนะคะ

แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 13:10:16

แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 13:03:45

 
 

จากคุณ : Setakan
เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 12:59:38




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com