ดวงดาวพราวฟ้าเมื่อแหงนมอง ผืนดินจ้องไขว่คว้าดาวเอาไว้ พยายามไขว่คว้านานเพียงไร ดาวก็ไม่ได้มาเป็นของดิน จะไขว่คว้าต้นหญ้ามันง่ายนัก จะหยิบจับก้อนกรวดช่างง่ายสิ้น ไยดาราไม่อาจเป็นของดิน พยายามจะปีนก็ยากเกิน จะคืนค่ำเท่าไรได้แต่มอง ดาราจ้องยิ้มส่งลงมาให้ ดินก็แค่ยิ้มตอบส่งกลับไป ดาวเจ้าเอยอยู่ไกลเกินหยิบมา ดินต่ำต้อยด้อยค่าจะเคียงดาว ดาราเจ้าเหมาะจะเคียงจันทร์หนักหนา มองดูสวยอยู่บนท้องนภา ดินจะขว้าลงมาได้อย่างไร ตอนที่ดินถูกแดดนั้นแผดเผา ดวงดาวเจ้าตอนนั้นเธออยู่ไหน แดดร้อนแรงเผาดินแห้งแล้งไป ตกค่ำคืนดาวไซร้ควงจันทร์มา ยามจันทราหายไปจากดาวน้อย ผืนดินค่อยมองดาวได้นานหนักหนา ไม่มีจันทร์คอยเฝ้าดวงดารา ดินจึงเฝ้าสนทนาด้วยดีใจ ดาวโต้ตอบลงมามีความสุข ดินคลายทุกข์คุยด้วยยิ้มสดใส หัวเราะบ้างไร้สาระบ้างนานๆคุยกันไป เหมือนว่าดาวดีใจได้คุยกัน แต่พอดาวเคียงข้างด้วยจันทรา ก็เหมือนว่าที่คุยกันเป็นแค่ฝัน ดินร้องไห้เศร้าใจเมื่อเห็นจันทร์ เคียงคู่ดาวนานวันแสนทุกข์ทน ฉันเป็นดินเธอเป็นดาวบนท้องฟ้า ส่วนจันทราคือตัวเขาคนนั้นหนอ ดาวของดินที่ฉันได้แต่รอ วันใดหนอดาวจะตกลงหากัน
จากคุณ |
:
lame-angel
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.พ. 54 23:18:30
|
|
|
|