บทที่ 5 : ตำนานโรงเรียน ภาคจบ
พวกนายรู้ไหมว่าที่โรงเรียนเรามีข่าวลือว่าเคยมีคนผูกคอตาย ! สิ้นเสียงประโยคของนายวิวัฒน์ หัวหน้าห้องผู้ซึ่งแทนที่จะตักเตือนลูกน้องกลับกลายมาเป็นร่วมเล่นแผลงๆด้วยเสียเอง
แคร้ง ! เสียงบางอย่างตกกระแทกลงกับพื้นดังลั่น ทุกคนมองหน้ากัน ไม่มีใครพูดอะไรแต่ต่างคนต่างเขยิบชิดตัวเข้ามาใกล้กันโดยอัตโนมัติ แมวล่ะมั้ง ? พยนต์พูดเบาๆ น้ำเสียงทั้งค่อยทั้งสั่นไหว
นั่นสิ ว่าแต่จะฟังหรือเปล่า เลิกก็ได้นะเพื่อนๆ ขอบอกว่าน่ากลัวมาก วัฒน์บอกกับเพื่อน รีบออกตัวไว้ก่อนเผื่อจะมีใครเปลี่ยนใจไม่ฟัง ประกายแก้วเห็นดีเห็นงามที่จะให้ทุกคนเลิกเล่าเรื่องผีในเวลาค่ำคืนเช่นนี้ อีกทั้งเด็กสาวยังรู้สัมผัสแปลกๆอย่างไม่สามารถอธิบายสาเหตุได้ ใจมันสั่นๆเช่นไรชอบกล
เล่าต่อเลยวัฒน์ อยากฟังจากปากนายจะแย่อยู่แล้ว แต่ไม่ทัน ส้มเช้งโพล่งขึ้นมาเสียก่อน พยนต์ก็พยักหน้าหงึกๆเป็นความหมายสนับสนุนความเห็นของส้มเช้ง เป็นอันว่างานนี้แก้วยังต้องทนนั่งฟังเรื่องผีอีกหนึ่งเรื่อง ได้เลย งั้นลองฟังนะเพื่อนๆ วิวัฒน์เริ่ม
...
เย็นย่ำวันนั้น เป็นเวลาหลังเลิกเรียน ครูหนุ่มจบใหม่ไฟแรงได้อยู่ทำงานล่วงเวลา ซึ่งกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจก็เข้าสู่เวลาที่ย่างสู่สนธยาราตรี ชายหนุ่มล็อกประตูห้องพักครูเสร็จแล้วจึงเดินตามทางเดินภายในตัวตึก เวลาและบรรยากาศในตอนนั้นยังไม่มืดสนิท หากแต่เป็นสนธยาที่เริ่มสลัวด้วยเพราะความมืดแห่งรัตติกาลกำลังแผ่ขยายเข้าเจือปนกับแสงอาทิตย์ที่อ่อนแรงลงทุกขณะ ชายหนุ่มรีบตรงไปยังบันไดทางลงด้วยกระเพาะกำลังร่ำร้องหาอาหารเพื่อเติมเต็มแก่ความต้องการ
แค่ก ... แค่ก ... เสียงกระแอมดังจากที่ใดที่หนึ่ง ครูหนุ่มหยุดฝีเท้า โสตสัมผัสเปิดกว้างเพื่อสดับสำเนียงรอบกาย แค่ก ... แค่ก ... แว่วเสียงไออีกครั้ง คราวนี้เขาแน่ใจว่ามันดังมาจากห้องเรียนที่พึ่งก้าวผ่านพ้น
ในความเป็นจริงเขาจะทำเป็นไม่สนใจก็ได้ แต่ชายหนุ่มกลับเลือกที่จะย้อนกลับไปดู บางทีอาจยังมีนักเรียนอยู่ในห้อง และนักเรียนคนนั้นอาจกำลังไม่สบายจนไม่สามารถลุกเดินหรือช่วยเหลือตนเอง หรือไม่งั้นก็ ... ขโมย !?
พอนึกถึงเรื่องมิจฉาชีพ ชายหนุ่มเริ่มมีใจหวั่นไหว นึกกลัวก็กลัวแต่ด้วยเหตุผลที่ว่าอาจเป็นนักเรียนที่หมดสติช่วยเหลือตนเองไม่ได้นั้นทำให้ครูหนุ่มจำต้องก้าวเดินเพื่อกลับไปดูยังห้องเรียนที่เขาได้ยินเสียง
ห้องเรียนธรรมดาที่เวลากลางวันคลาคล่ำไปด้วยเด็กนักเรียนที่ซุกซนตามประสา ทว่าในยามย่ำสนธยาเวลานี้ ความมืดสลัวทำให้แสงเงาในห้องดูน่าสะพรึงยิ่งนัก อาจารย์หนุ่มไฟแรงค่อยๆสืบเท้าเข้าไปใกล้ เขาเอาใบหน้าเข้าแนบกับหน้าต่างกระจกใส ขณะที่โสตสัมผัสเปิดรับฟังเผื่อจะได้ยินเสนาะสำเนียงใดๆอีกครั้ง
ดวงตาของชายหนุ่มแนบชิดกับกระจกใส หัวใจเต้นตึกตัก สมองไพล่คิดไปถึงภาพยนตร์สยองขวัญที่มักจะมีใบหน้าภูตผีปรากฏขึ้นที่ฝั่งตรงข้ามของกระจกอย่างกะทันหัน ... โชคดีที่ไม่มีอย่างที่คิด
ครูหนุ่มกวาดตาไปรอบๆ มองลงด้านล่างชิดกับกำแพงที่เขายืนด้วยเกรงว่าอาจมีเด็กนักเรียนนอนรอความช่วยเหลือซึ่งเมื่อมอแล้วก็พบเพียงพื้นไม้โล่งๆเท่านั้น ครูหนุ่มจึงกวาดสายตาไปทั่วห้อง และในความมืดสลัวนั้นจักษุประสาทของเขาจึงสังเกตเห็นเงาอะไรบางอย่างที่หน้าห้อง
บางอย่างแขวนห้อยอยู่กับเชือก ! มันคือร่างคน !?
คุณครูลืมสิ้นความหวาดกลัวเมื่อครู่ เขารีบวิ่งไปที่ประตูห้อง ใช่แน่นอน ! แม้เขาจะไม่เคยเห็นของจริง แต่ไม่อาจมีทางเป็นอย่างอื่นไปได้ นอกจากคนแขวนคอตาย !
ชายหนุ่มก้าวพรวดเดียวถึงในห้อง โชคดีที่ประตูห้องเรียนไม่ได้ปิดล็อกลงกลอน มิเช่นนั้นคงยุ่งยากยิ่งไปกว่านี้ เมื่อวิ่งไปถึงหน้าห้อง ครูหนุ่มกราดสายตาไปทั่วเพื่อหาร่างที่แขวนห้อยด้วยเชือกที่เขาเห็นเมื่อครู่
ไม่มี !?
ร่างใครสักคนที่ห้อยกับขื่อคาของห้องเรียนอันตรธานหายไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ในเมื่อช่วงเวลาที่เขาละสายตาจากร่างนั้นเพื่อวิ่งตรงมายังที่นี่ไม่นาจะใช้เวลามากไปกว่าสิบห้าวินาที ... เช่นนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครเอาร่างนั้นลงจากเชือก
เชือก ? เมื่อคิดถึงเชือกเขาจึงเงยหน้าขึ้นมองตรงเพดาน และก็ได้เห็นเชือกที่ห้อยอยู่กับขื่อคาจริงๆ ชายหนุ่มสืบเท้าเข้าไปใกล้ สายตาเพ่งพินิจในความมืด ปลายเชือกในเงาสลัวนั้นหาได้มีร่างห้อยต่องแต่งอย่างที่เห็น แต่แม้จะไม่มีร่าง แต่ปลายเชือกนั้นมีอะไรดำๆแขวนห้อยอยู่ ?
ครูหนุ่มสืบเท้าเข้าไปยืนแทบจะอยู่ใต้เชือก เขาจึงได้เห็นสิ่งกลมๆดำๆที่แขวนอยู่กลับเชือกที่ทำเป็นบ่วงรัดรูปวงกลม มันคือศีรษะของเด็กผู้หญิง !
ใบหน้าที่เห็นนั้นซีดเซียว ดวงตาทั้งสองเบิ่งค้างและจ้องตรงมาทางเขา ริมฝีปากที่มีหยดเลือดสีน้ำตาลแดงเหมือนกำลังแสยะยิ้ม ... ยิ้มราวกับเห็นเหยื่ออันโอชะ !
ครูหนุ่มถอยกรูด สะดุ้งเฮือกเป็นคำรบซ้อนด้วยเพราะเท้าไปสัมผัสอะไรบางอย่างที่ดิ้นดุกดิกอยู่กับพื้น ชายหนุ่มมองลงไปที่เท้าด้วยสัญชาตญาณ สิ่งที่เห็นคือร่างในชุดนักเรียนที่กำลังคลานอยู่กับพื้น ... ร่างนั้นไร้หัว !
อ๊ากกกกกกกกก ! คุณครูร้องลั่นฟังไม่ได้ศัพท์ เขาวิ่งออกมาจากห้องเรียนและหายหน้าไปจากโรงเรียนตั้งแต่วันนั้น จะมีก็แต่เพียงจดหมายลาออกที่แนบกระดาษเล่าเหตุการณ์สยองขวัญที่ได้พบเจอ ...
จากคุณ |
:
Luckard
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ก.พ. 54 10:31:58
|
|
|
|