Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เมืองร้าง..................(พาเธอไปแต่งงาน) ติดต่อทีมงาน

เรื่องสั้นชุดเมืองร้าง

ตอน

พาเธอไปแต่งงาน
: Psycho man


************


เรามาถึงเมืองแห่งนี้ตอนบ่าย อีกไม่นานก็จะถึงจุดหมาย แต่เธอดูอ่อนล้าลงทุกทีจากการขาดอาหารมาเป็นเวลาหลายวัน เมืองแห่งนี้คงไม่ต่างจากเมืองอื่นๆที่ผ่านมา แต่ผมก็ยังมีความหวังและแผนสำรองเสมอ

“รอผมอยู่นี่....ที่รัก”


ผมก้มกระซิบข้างหูขก่อนบรรจงจูบหน้าผากเธอแผ่วเบาอย่างปลอบประโลมใจ เธอมองหน้าผมแล้วยิ้มให้กำลังใจผมเช่นกัน ทั้งที่เธอเองก็หิวและเหนื่อยเต็มทีแล้ว

เรากำลังเดินทางไปงานแต่งงาน

ยังเมืองที่ไกลออกไป

การเดินทางเป็นไปเชื่องช้าและลำบาก เพราะถนนหลวงหลายสายเต็มไปด้วยรถราระเกะระกะขวางทางจราจรเต็มไปหมด ทุกค้นจอดนิ่งอยู่กับที่ปราศจากคนขับ ไม่มีซากศพของผู้คนกระจัดกระจายตามรายทางเหมือนอย่างควรจะเป็น

ในเวลานี้ การแต่งงานอย่างถูกต้องตามขนบธรรมเนียมเป็นเรื่องลำบากเหลือเกิน หลังจากสงครามครั้งใหญ่ผ่านไป โลกทั้งใบเต็มไปด้วยร่องรอยเสียหายจากผลของระเบิดร้ายแรงยิ่งกว่าฝันร้าย กลิ่นไอของความตายและความทุกข์ทรมานปกคลุมไปทั่วโลก บางทีอาจทะลุผ่านขึ้นไปถึงสรวงสวรรค์และแทรกซึมลงไปถึงในขุมนรกอเวจี

หลังการขับรถคู่ชีพรอนแรมมานาน ผ่านเมืองรกร้างว่าเปล่ามาหลายเมือง ผ่านกาลเวลาอันหิวโหย ผ่านความร้อนแรงของแสงแดดยามกลางวันและความเย็นยะเยือกยามราตรี ผมพาเธอใกล้จุดหมายเข้าไปทุกที

ตัวเมืองดูเงียบสงบราวกับผู้คนกำลังพากันหลับใหลอยู่ในอาคารบ้านเรือนทั้งที่เป็นเวลาเที่ยง ผมรู้ว่าไม่ใช่เช่นนั้น เมืองนี้ก็คงเหมือนหลายๆเมืองที่ผ่านมา

ไม่มีผู้คน

ไม่มีอาหาร

มันเป็นผลมาจากระเบิดซึ่งพวกทหารพากันเรียกว่าระเบิดควอนตัมหรืออะไรสักอย่าง ผมเองก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ใจคือผลของมันทำให้สิ่งมีชีวิตกลับกลายเป็นอนุภาคขั้นพื้นฐานสลายตัวออกจากรูปทรงปกติ เมื่อเปิดอาหารกระป๋องออกมาเราจะรู้สึกถึงอนุภาคพุ่งกระจายสลายออกมาเ หลือแต่ความว่างเปล่า มันเป็นเรื่องน่าสยดสยองเหลือเกินเมื่อคิดว่าดวงจิตวิญญาณของผู้คนและสิ่งมีชีวิตอื่นๆจะล่องลอยอยู่แห่งหนตำบลใด

แต่มนุษย์ไม่มีวันหายไปจากโลกจนหมดสิ้น

พวกที่หลงเหลือพากันรวมตัวและสร้างสังคมตามแบบฉบับของพวกเขาขึ้นมาเพื่อความอยู่รอด ท่ามกลางกลิ่นไอของความหิวโหยและความตายรายรอบ

เรากำลังจะไปแต่งงาน  แต่อาหารซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดหมดลงนานแล้ว

ผมทิ้งเธอไว้ในรถยนต์ ติดเครื่องทิ้งเอาไว้ โดยไม่ลืมล๊อคประตูเพื่อความไม่ประมาท ผมกลัวพวกผู้คนหิวโหยที่ยังเหลือรอดอยู่แถวนี้จะมาจับเธอไปกินอาหาร  ผู้คนซึ่งรอดตายมาเป็นเวลานานบางกลุ่มพากันไปสุสานและขุดหลุมฝังศพเพื่อหาอาหาร  โลกของเราเหลืออาหารพวกโปรตีนไม่มากนัก วัฒนธรรมการกินของผู้คนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ห้างสรรพสินค้าที่ผมเข้าไปค้นดูไม่เหลืออาหารเลยสักนิด แผนกอาหารสดอาหารแห้งเหลือไม่มีเหลือ พวกมันพลอยสลายตัวไปด้วยทั้งที่ไม่มีชีวิต  อาหารกระป๋องหลายใบซึ่งลองเปิดฝาออกมาดูมีแต่ความว่างเปล่าอย่างที่คาดเอาไว้ แต่ผมไม่ละความพยายาม อย่างน้อยก็มีน้ำหลงเหลือมากมาย แต่สิ่งที่ผมต้องการไม่ใช่น้ำ

บนเคาน์เตอร์ของร้านและตามทางเดินมีเสื้อผ้าสิ่งของเครื่องใช้กองกระจัดกระจายรวมทั้งมีเงินทองซึ่งเคยมีค่ามหาศาล แต่ตอนนี้เป็นเพียงเศษกระดาษ ใช้งานอะไรไม่ได้ สู้เนื้อแห้งสักชิ้นก็ยังไม่ได้

ผมพอนึกภาพออก  ผู้คนกำลังจับจ่ายซื้อข้าวของอย่างสบายใจ ไม่มีใครคาดคิด  ระเบิดตูม....ร่างกายหายวับ เสื้อผ้าอาภรณ์หลุดร่วงลงกับพื้น เป็นภาพน่าขนลุก..พวกเขาไม่มีโอกาสตั้งตัวรู้ตัวด้วยซ้ำ แต่นั่นก็เป็นความโชคดีของพวกเขา ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานเหมือนผมซึ่งรอดมาได้เพราะอยู่ห้องใต้ดิน พวกเรา..หมายถึงเธอกับผมกำลังพากันลงไปเลือกเหล้าไวน์เพื่อใช้ในงานแต่งงาน

ลองเปิดทีวีซึ่งวางโชว์อยู่แถวนั้นดู แม้จะรู้ว่าไม่มีมีสถานีไหนส่งคลื่นโทรทัศน์ออกมาแล้วก็ตาม ระบบไฟฟ้าของเมืองยังคงใช้งานได้ มันเป็นเรื่องตลกร้ายเหลือเกินทว่าไม่มีใครมาใช้ให้คุ้มค่า ถ้ามีเวลาผมเคยคิดอยากมาเปิดไฟฟ้าให้สว่างทั้งเมืองในยามราตรี พาเธอมานั่งดูไฟแสงสีทั้งคืน คงมีความสุขเหลือเกิน แต่ผมไม่มีเวลาทำแบบนั้น

ผมตรวจดูแผนกยา ยังมียาจำนวนมากไม่ถูกทำลายไปด้วย ทั้งยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ปวด ยาสารพัดตามแต่จะเลือกใช้

บรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้ายังคงใช้งานได้ แต่ใครจะใช้งานมันล่ะ.....

+++++

แต่ผมก็ไม่เคยทำให้เธอผิดหวัง ผมหาอาหารให้เธอได้เสมอ แม้ว่าตัวผมจะหิวจนตาลายและเหนื่อยอ่อนขนาดไหนก็ตาม ผมจะอดทน..เหมือนหลายๆวันที่ผ่านมา เราจะต้องไปงานแต่งงานให้ได้

“ผมได้อาหารมาแล้ว...”

ผมพยายามยิ้มกว้างและทำหน้าตาให้สดชื่นขณะบอกกับเธอ แม้จะรู้ว่าสภาพของพวกเราตอนนี้ย่ำแย่เต็มที ตอนผมผ่านกระจกหน้าร้านมองเห็นสภาพตัวเองไม่ต่างจากขอทานอดโซผมเผ้าหนวดเครารุงรังยิ่งกว่ามหาโจร เปรียบเทียบกับเธอแล้วราวเป็นอสุรกายกับนางฟ้า ผมไม่สนใจภาพลักษณ์ภายนอก สนใจแต่หาอาหาร..มาให้เธอ

เธอจะต้องดูดี ขณะเธอกินอาหารผมบรรจงหวีผมให้เธออย่างแผ่วเบา เส้นผมยาวสลวยจรดกลางหลังของเธอดูอ่อนนุ่มละมุนมือชวนให้สัมผัสจับต้องไม่เคยเบื่อหน่าย

แต่ผมก็ทำได้ไม่มากกว่านี้ แม้หลายครั้งเมื่อเราจำเป็นต้องนอนเตียงเดียวกัน ผมไม่เคยล่วงเกินเธอไปมากกว่านี้ ผมรู้ว่ามีระดับความรักอีกระดับหนึ่งรอคอยจิตใจของมนุษย์ให้โบยบินไปสัมผัสถึง ความรักอันงดงามตลอดกาลไม่จืดจางร้างหายไปกับคราบสังขารและกาลเวลา

เธอยื่นอาหารให้ผม

“ผมทานอะไรรองท้องบ้างแล้วครับ..ไม่ต้องห่วง”

อะไรของผมหมายถึงน้ำ....น้ำที่ไม่ให้พลังงานเลยสักแคลอรี แต่ผมพยายามใช้คำพูดให้ฟังแล้วดูดี ไม่อยากให้เธอกังวลใจ เมื่อเห็นดวงตาของเธอสดใสขึ้นบ้างผมก็สบายใจ

“ท่าทางคุณไม่สบายนะตะ”

เธอตั้งข้อสังเกตขณะผมเริ่มขับรถออกจากเมืองร้างแห่งนี้ แม้จะเป็นเวลากลางวันแต่เมืองซึ่งเต็มไปด้วยวิญญาณของผู้คนหลงทางมากมายก็ทำให้ผมรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  คนพวกนั้นตายโดยไม่ทันรู้ตัว ป่านนี้คงวนเวียนอยู่ในโลกแห่งความตายอย่างไม่รู้จุดหมายปลายทาง ผมรู้สึกว่าหลายครั้งพวกเขาพยายามติดต่อกับผม

“ผมไม่เป็นไร..”

ฝืนยิ้มให้เธอ ฝืนยิ้มเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา ผมทำอะไรก็ได้เพื่อให้เธอสบายใจ ชุดแต่งงานยังวางอยู่เบาะหลัง เมื่อนึกถึงภาพเธออยู่ในชุดเจ้าสาว ผมก็อดยิ้มไม่ได้ทุกครั้ง แม้ในใจจะรู้สึกปวดร้าวลึกๆอยู่ก็ตาม



ในที่สุดพวกเราก็มาถึงเมืองแห่งความฝัน ในเวลาที่กำหนด ผมมีเวลาพอจะแวะเมืองเล็กๆก่อนหน้าจะถึงจุดหมายเล็กน้อย พาเธอไปแต่งชุดเจ้าสาวในร้านขายเครื่องสำอางอันปราศจากผู้คน ช่วยเธอแต่งหน้าให้เธอตามมีตามเกิดแต่ก็บรรจงตั้งใจสุดชีวิต

เธอจะต้องดูสวยที่สุดในวันนี้

“คุณสวยมาก..”

ผมตะลึงมองสาวสวยในชุดเจ้าสาวขาวบริสุทธิ์ ถึงโลกจะปลี่ยนไปก้ยังมีหลายอย่างไม่เปลี่ยนไป อย่างน้อยรูปแบบของความรักและความผูกพันธ์ไม่เคยเปลี่ยนไป ผู้คนต่างหากที่เปลี่ยนไป

เธอยิ้ม และทำไมต้องยิ้มเศร้าแบบนั้น



ผมรู้ว่าเมืองนี้ได้รับผลกระทบจากระเบิดน้อยที่สุด สัญญาณการติดต่อขาดหายไปนานแล้ว เราติดต่อใครไม่ได้ แต่กำหนดงานแต่งงานต้องเป็นไปตามกำเนิดเดิม เธอจะมีความสุขอยู่ในเมืองนี้ อย่างน้อยที่นี่ก็มีระบบสังคมของมันเอง และว่าที่สามีของเธอก็คงดูแลเธอได้เป็นอย่างดี

ผมหมายถึงผู้ชายหน้าตาดีคนนั้น เขามากับคนของเขาหลายคนแสดงถึงกำลังอำนาจของเขาในเมืองนี้  ผมรู้ว่าเขารักเธอไม่น้อยกว่าที่ผมรัก ผมทำหน้าที่ของผมเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว นำเจ้าสาวมาส่งเจ้าบ่าวอย่างปลอดภัย


เราได้แค่มองตากันเท่านั้นเป็นการอำลา


แค่นั้นก็พอแล้ว


***********

ทะเลยามเย็นสวยงานดวงอาทิตย์สีแดงกลมโตแตะโค้งขอบฟ้ากลางทะเล
จิตใจของผมเยือกเย็นลงอย่างประหลาด เมื่อนึกถึงเธอ จะมากจะน้อยเธอก็อยู่กับคนที่รักเธอและเธอก็รักเขา หน้าที่ของผมจบลงแล้วและสิ่งคงเหลืออยู่ในใจคือความรักซึ่งจะอยู่กับผมจนวินาทีสุดท้ายของลมหายใจ  เธออยู่ในใจของผมก็พอแล้ว

รถที่ขับเป็นรถโบราณไม่มีเกียร์อัตโนมัติ  ผมเหยียบคลัชไม่ถนัดนักเพราะถึงจะใช้ยาระงับปวด ยาชา ยาห้ามเลือด และสารพัดยามากมายปานใดก็ยังทำให้เจ็บทุกครั้งเมื่อเหยียบกดเท้าแรงๆลงไป ขาของผมข้างซ้ายในผ้าพันแผลและกางเกงขายาวที่เธอไม่เคยเห็นแทบไม่เหลือเนื้ออยู่อีกแล้ว เพราะผมเฉือนมันออกมาทำเป็นอาหารให้เธอกินประทังชีวิตในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ยาชาและยาระงับปวดต่างๆจากร้านยาทำให้ผมอดทนมาได้จนบัดนี้ ผมจำเป็นต้องทำแบบนั้น  เพื่อให้เธอไม่อดตายก่อนวันแต่งงาน ความจริงผมยังเตรียมแขนซ้ายสำรองเอาไว้แล้วในกรณีขาทั้งสองข้างไม่พอเพียง


ผมรวบรวมพลังหลงเหลือน้อยนิดในคราบสังขาร เหยียบตันเร่งเป็นครั้งสุดท้าย ขณะรถพุ่งลงจากหน้าผาสูงลงสู่อ้อมแขนของสายน้ำระยิบเบื้องล่างท่ามกลางแสงแดดยามพลบค่ำและเกลียวคลื่น หลับตาไม่ได้นึกหวาดกลัวอะไร อย่างน้อยหัวใจอันอ่อนล้าเต็มทีของผมก็ยังมีเธออยู่ในหัวใจตราบวินาทีที่เหลือ



เป็นการพักใจพักกายชั่วกัลป์



THE END....

แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 54 09:16:02

แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 54 13:00:46

แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 54 12:25:21

แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 54 11:21:27

แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 54 11:19:27

แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 54 11:19:06

จากคุณ : Psycho man
เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 11:17:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com