.............
ขอแอบดูสักนิดนึงนะเพคะ
ความอยากรู้ผสมกับความซุกซน จนลืมพระองค์ไปว่าอะไรทรงควรหรือมิบังควรอย่างไร พระหัตถ์ขวาเอื้อมออกไปแตะปลายพระดรรชนีบนพระนลาฏ พระหัตถ์ซ้ายสัมผัสเบาๆบนหัตถ์หนาที่วางคว่ำอยู่บนพระอุระ จากนั้นมหาเวทพาอิลซุสถูกร่ายขึ้นในพระทัย ผนึกคอธแห่งการหยั่งรู้และการควบคุมแผ่วาบเข้าไปจับภาพในพระสุบินนิมิต แล้วอึดใจหนึ่งต่อมาก็รีบถอนคอธดังกล่าวกลับอย่างรวดเร็วด้วยเกรงว่าสองราชวัลลภด้านนอกจะเข้ามาพบเห็น
หากถึงแม้เพียงชั่วเวลาสองสามวินาที ก็เพียงพอแล้วสำหรับคำตอบอันเป็นที่มาของรอยพระสรวลนั่น ไม่ผิดจากที่คิดไว้จริงๆ คนที่ทำให้เจ้าพี่ทรงแย้มพระสรวลได้ ยังคงมีเพียงคนเดียวเท่านั้น
ย่อมเป็นเจ้าหญิงอาเซนธาเรีย ..พระขนิษฐาของอีกฝ่ายนั่นเอง !
เพียงแต่ในภาพพระสุบินนิมิตนั้นชวนให้น่าสงสัย ชายหนุ่มกับเด็กสาวที่นอนนิ่งอยู่ในตู้แคปซูลเป็นใครกันหนอ ทำไมถึงมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับเจ้าพี่ราโอมินกับเจ้าหญิงอาเซนธาเรียยิ่งนัก
เห็นเจ้าพี่อาซิคาลอสทรงยื่นพระหัตถ์ไปเหนือร่างของเด็กสาวคนนั้น แล้วร่างอันโปร่งแสงร่างหนึ่งก็ลุกขึ้นมาจากร่างเลือดเนื้อ ก่อนจะผวาเข้าไปสวมกอดกับเจ้าชายแห่งเมลาเนียลซึ่งกางพระพาหารอรับด้วยความคะนึงหาและปลื้มปิติ
ไม่เคยเห็นสีพระพักตร์แสดงความดีพระทัยมากมายเช่นนั้นมาก่อนเลย
น้องพี่.. คิดถึงเหลือเกิน
สุรเสียงหลุดแผ่วเบาในพระศอราวคร่ำครวญหา หัตถ์ใหญ่ซึ่งวางบนพระอุระก็พลันขยับวูบตวัดรวบหัตถ์เล็กที่กำลังจะถอนกลับไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นดึงวรองค์บางซึ่งโน้มพระวรกายเข้าไปใกล้อยู่แล้ว ให้ล้มเข้าไปในอ้อมพระกรอย่างเสียหลัก
โอ๊ะ...!
เจ้าหญิงน้อยทรงอุทานอย่างตกพระทัย รีบสะบัดพระกร ขยับพระองค์ผละออกมาจากการโอบรัดตามสัญชาตญาณ เมื่อบวกกับความกริ่งกลัวสองราชวัลลภนั่นหันมาเห็น เรี่ยวแรงที่ใช้ออกแทบเพิ่มเป็นสองเท่า ปลุกคนที่กำลังจมอยู่ในห้วงนิทราจนสะดุ้งตื่นขึ้นมาเช่นกัน
อาเซนธาเรีย.. อย่าไป !
พระสุรเสียงที่หลุดออกมาดังๆ เรียกเอาสองราชวัลลภข้างนอกถึงกับวิ่งหน้าตื่นถลันเข้ามา
เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ ?
คนที่รู้ตัวว่าทำผิด รีบผุดลุกขึ้นยืนและผละห่างออกมาจากแท่นบรรทมอย่างรวดเร็ว โบกระหัตถ์ปฏิเสธเสียงระรัว
เปล่านะ ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ฉันอยู่นั่งเฉยๆ ทรงสุบินแล้วละเมอ...
มากัสเพ่งมองดวงพักตร์งามน่ารักที่มีแววตื่นเต้นเลิ่กลั่กนั่นแล้วหรี่ตาอย่างครุ่นคิด คล้ายกับพอจะคาดเดาอะไรออกได้ลางๆ ส่วนฟิเกอรัสสะอึกกายเข้าไปข้างแท่นบรรทมกล่าวอย่างดีใจ
ฝ่าบาท... ทรงฟื้นแล้วหรือ ?
เรียกพลางเอื้อมมือแตะตรวจพระชีพจรของคนที่นั่งสีพระพักตร์มึนงงหอบหายใจติดขัดเหมือนคนเพิ่งตกใจตื่นอยู่บนนั้น
ดีจริง พระอาการดูจะกลับมาเป็นปกติแล้ว...
เจ้าชายอาซิคาลอสทรงกวาดพระเนตรมองไปรอบๆ พระอัสสาสะปัสสาสะผ่อนช้าลงจนสม่ำเสมอ ค่อยปรับพระสติจากความฝันสู่ห้วงความจริงได้อย่างรวดเร็ว แต่บางอย่างที่ยังติดค้างอยู่ในพระทัย ทำให้อดถามหาไม่ได้
อาเซนธาเรียเป็นอย่างไรบ้าง เธอกลับมาแล้วใช่ไหม ?
หากว่าจำไม่ผิด ทรงเห็นร่างของหนุ่มสาวในตู้แคปซูลนั่นเรืองแสงสีเหลืองและแดงออกมา จากนั้นก่อนจะหมดพระสติสัมปชัญญะไป ก็ทอดพระเนตรเห็นแสงหนึ่งสว่างวาบขึ้น เจิดจ้าจนทุกสิ่งเบื้องหน้าขาวโพลนไปหมด
นั่นต้องเป็นแสงแห่งคอสมิคคิวปัสตีอย่างแน่นอน
พระองค์ทำสำเร็จแล้ว...ทรงสามารถดึงร่างพลังของราโอมินและพระขนิษฐาออกมาได้สำเร็จ
พอมีพระดำริได้เช่นนั้น สีพระพักตร์ก็ทอแววปลื้มปิติขึ้น
เอ่อ...
ฟิเกอรัสรู้สึกสะท้อนใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้จะตอบรับสั่งถามอย่างไรดี รีบเบือนหน้าไปทางเพื่อนคู่หู เป็นเชิงโยนหน้าที่นี้ให้อีกฝ่ายช่วยตอบแทน หากคนรอฟังกลับพระทัยร้อนเกินกว่าที่จะเสียเวลารอ จึงรีบขยับพระวรกายลุกลงจากแท่นบรรทมทันที
ฝ่าบาท... อย่าเพิ่งลุกขึ้น
สองราชวัลลภอุทานกันเสียงหลง ผวาเข้าไปช่วยกันยื่นมือประคองรับ เมื่อเห็นวรองค์สูงตระหง่านพอแตะพระบาทลงพื้นก็ซวนเซจนแทบล้ม มากัสรีบร้องบอก
ยังเพลียอยู่เลย ทรงพักผ่อนก่อนดีกว่า...
ไม่..ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันอยากเจอน้องหญิง...
ประชวรขนาดนี้ แต่ความดื้อดึงกลับเพิ่มเป็นสองเท่า แล้วนี่จะบอกตรงๆออกไปอย่างไรดีเล่า ?
จะทรงยอมเชื่อ หรือยอมรับได้หรือ ?
อะไรนะ... เจ้าพี่อาเซนธาเรียเสด็จกลับมาแล้วเหรอ ?
เอาเข้าไปอีกคน !
ไม่เพียงองค์ใหญ่จะเชื่อสนิท แม้องค์เล็กก็พลอยเข้าพระทัยผิดกับเขาไปด้วย
มากัสมองหน้าฟิเกอรัส รู้สึกมึนหัวตึ๊บจนพูดอะไรไม่ออก
ฉันไม่เป็นไรแล้ว ปล่อยฉันเถอะน่า...
รับสั่งพลางสลัดพระกรจากการยึดประคองอย่างรำคาญ จากนั้นโถมพระวรกายพุ่งออกไป จนสองคนที่ด้านข้างคว้าจับไว้ไม่ทัน
ฝ่าบาท.. จะเสด็จไปไหน ?
รีบถลันร่างตามออกไปหากคนป่วยกลับไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เคลื่อนไหวว่องไวเหลือเกินจนคนร่างกายดีๆยังแทบก้าวตามไม่ทัน มากัสหากไม่เกรงพระทัยรักษาพระพักตร์ ฝ่าบาท ต่อหน้าเหล่าธารกำนัลในที่โล่งแจ้งแบบนี้ คงสะอึกกายเข้าไปคว้าแขนแล้วลากพากลับห้องไปแล้ว
ฝ่าบาท..โปรดถนอมพระวรกายเถอะ ยังประชวรอยู่เลย กลับไปที่ห้องดีกว่า..
ฟิเกอรัสก้าวยาวๆตามเสด็จพลางอ้อนวอน
อีกฝ่ายกลับหาได้ทรงสนพระทัยไม่ สาวพระบาทตรงดิ่งไปยังห้องปฏิบัติการหมายเลขแปดที่อาคารสูงสามชั้นเบื้องหน้า มุ่งหวังใคร่พบหน้าคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างเหนือสิ่งใดทั้งสิ้น
ฝ่าบาท.. ไม่ต้องไปหรอก ทูลกระหม่อมน้อยยังไม่ได้กลับมา !
มากัสได้แต่กลั้นใจกราบทูลความจริงออกไป ยังผลให้พระอากัปกิริยาทั้งหมดชะงักค้างเล็กน้อย
นายโกหก !
เสด็จกลับไปที่ห้องก่อนเถิด กระหม่อมค่อยเล่าให้ฟัง...
ความจริงอะไรเหรอ ?
แล้วพลันพระสุรเสียงใสๆของคนที่วิ่งตามออกมาด้วย ก็สอดแทรกเข้ามาอย่างใคร่รู้ใคร่เห็นบ้าง หันพระพักตร์ไปทางอาคารดังกล่าวแล้วหันกลับมาถามอย่างรวดเร็ว
มีใครมาที่นั่นจริงๆด้วยใช่ไหม ?
ยังไม่ทันคำตอบหรือคำตำหนิจะหลุดออกมาจากปากราชวัลลภผมสีน้ำตาลแดงที่หันขวับมาทำหน้าตึงใส่อย่างลืมตัว สีพระพักตร์ของพระวรองค์เล็กอยู่ๆก็พลันถูกผนึกค้างอย่างตกตะลึง เมื่อหันกลับไปอีกครั้งเห็นใครบางคนกำลังเดินลงมาตามทางเดินของอาคารหลังนั้น
ใครคนนั้นก้าวเดินเคียงข้างมากับจาริโอเธอรัส
ใครคนนั้นแม้อยู่ในเครื่องแต่งกายของดาวโลก ตัดผมสั้นดูแปลกตา หากใบหน้านั้นกลับคุ้นเคยและแสนคิดถึง
นั่นคือคนที่ได้จากพระองค์ไปโดยไม่มีโอกาสได้ทันล่ำลา
นานแสนนานจนรู้สึกราวเกือบนิจนิรันดร์ แทบคิดว่าชั่วชีวิตนี้จะไม่มีโอกาสได้พบหน้ากันอีกแล้ว
ใครคนนั้น... เจ้าพี่ราโอมิน !
นั่นคือเจ้าพี่ราโอมินจริงๆใช่ไหม หรือว่าเป็นใครบางคนที่มีรูปโฉมละม้ายเหมือนกันแน่ ?
.
จากคุณ |
:
ธีตภากร
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ก.พ. 54 12:37:43
|
|
|
|