ยกที่ 1 ข้าพเจ้าไม่นิยมเกาหลี แต่ภรรยาของข้าพเจ้าหลงรักอย่างหัวปักหัวปำ
กลับมาแล้ว ผมกลับถึงบ้านหลังจากตรากตรำทำงานเกี่ยวกับเอกสารคนต่างด้าวหลบเข้าประเทศ กวาดสายตามองหาภรรยาจนถ้วนทั่วก็ไม่พบ ทุกทีในเวลานี้เธอจะอยู่ที่ห้องครัวเพื่อเตรียมทำกับข้าวรอรับการกลับมาของสามีเช่นผม อยู่นี่เอง เป็นอะไรไปเหรอ ผมเอ่ยถาม อาการของเธอไม่สู้ดี นอนคว่ำอยู่บนที่นอนชั้นสองของบ้าน ไฟในห้องถูกปิดไว้ บรรยากาศอึมครึมชวนวังเวงยิ่งนัก ไม่สบายหรือเปล่า ไปหาหมอมั้ย
วันนี้ตัวดูข่าวหรือเปล่า หล่อนถามผมทั้งๆยังนอนคว่ำตัวอย่างนั้น ข่าว ข่าวอะไร เจอตัวอริสมันต์แล้วเหรอ ผมถามกลับเอาฮา เผื่อภรรยาจะยิ้มสักนิด ข่าว วอน คุก มีเสียงกระซิกๆกระเส่าในลำคอ ผมเดินไปเปิดไฟ ที่นอนเปียกแฉะไปด้วนคราบน้ำตา วอน คุก ตายแล้ว ฮือๆๆ เสียงร้องโฮกใหญ่ถูกปล่อยออกมา ผมเชื่อว่าก่อนหน้านี้เขื่อนคงแตกไปหลายรอบเลยที่เดียวก่อนผมจะถึงบ้าน ใครล่ะ วอน คุก หล่อนนิ่งไปสักพัก แววตามองผมเหมือนตัวประหลาด ประมาณว่านายกชวนปรองดองแต่ชาวบ้านชาวช่องเขาก็รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นจริง ก็ที่เราเคยนอนดูซีรี่ส์เกาหลีเรื่องยัยตัวร้ายกับนายหน้าเชี่ยไง ที่เป็นพระเอกน่ะ จำได้มั้ย หล่อนถามกลับทบทวนความทรงจำให้ผม เค้าเคยดูด้วยเหรอ จำได้ว่าเธอดูอยู่คนเดียวนะ เค้าหลับ ช่างเถอะ ตัวมันพวกหัวโบราณ ทำแต่งานจะไปรู้อะไร พูดเสร็จหล่อนก็ลงไปนอนคว่ำอีกครั้ง ปล่อยผมยืนงง กรูทำงานหาเงินมาให้เมิงใช้แล้ว แล้วไม่บ้าเกาหลีกะเมิง กรูผิดเหรอเนี่ย เอ่อ แล้วเธอทำกับข้าวหรือยัง เค้าหิว ผมเปลี่ยนเรื่องคุย ฉันไม่มีอารมณ์ทำ อ้าว!! อ้าวอะไร ฉันเสียใจแค่ไหนตัวรู้บ้างมั้ย ผู้ชายดีๆอย่างเขาต้องมาตายเพราะโดนรถชน ฮือๆ เล่นละครก็ดี ร้องเพลงก็เพราะ โฮๆๆ วอน คุก ของเค้า โฮๆๆ หล่อนลุกจากเตียงขึ้นตวาดผมก่อนเปลี่ยนอารมณ์เป็นร้องไห้ นั่นทำให้ผมเห็นว่าคุณเธอกอดรูปของวอน คุก อยู่ เฮ้ย เธอ มันเกินไปหน่อยหรือเปล่า มันเป็นญาติเธอหรือไง ถึงต้องฟูมฟายขนาดนี้ ไร้สาระว่ะ ผมชักมีน้ำโห ตัวไม่รู้หรอก ตัวไม่เข้าใจหัวอกผู้หญิง ตัวมันบ้างาน เคยสนใจฉันมั้ย จะบอกให้ วอน คุกทำให้ฉันมีความสุขแค่ไหน เธอทำไม่ได้เสี้ยวนึงที่เขาทำหรอก จะไปไหนก็ไปเลย ฉันอยากอยู่คนเดียว ฮือๆ มันไปทำอะไรให้เมิงวะ มันมาคอยถามเมิงหรือไงว่า ที่รัก กินข้าวหรือยังครับ ห่มผ้านะครับเดี๋ยวเป็นหวัด เหรอ มันมีตัวตนแค่ในจอสี่เหลี่ยมโว้ย กรูคนนี้นี่ ที่แคร์เมิง หาเงินมาให้เมิงใช้ ไม่ใช่ไอ้ตี๋นั่น อิบร้า ผมโกรธจัด อาจเป็นเพราะอารมณ์หิวหรือหึงหวงก็มิทราบได้ แต่ที่รู้ๆคือ มันไม่ดีขึ้นแน่ กับสถานการณ์ตอนนี้ ขึ้นเมิงขึ้นกรูเลยหรอ วอน คุก ยังไม่เคยพูดอย่างนี้กับ ยุง ชุม (นางเอกในเรื่องยัยตัวร้ายกับนายหน้าเชี่ย ไว้จะกล่าวถึงในคราวต่อไป) เลยนะ ไอเลว อ๊ะ อินี่ บร้าไปแล้ว มันจะพูดกรู-เมิงทำเชี่ยไร นั่นมันในละคร มีคนพากย์บท กรูไปล่ะ ปล่อยเมิงบร้าไปคนเดียวเถอะ แมร่ง..อะไรวะ ดาราตายคนเดียวจะเป็นจะตายตาม ผมพูดลอยๆก่อนหันหลังกลับ ซึ่งนั่นทำให้ผมแน่ใจแล้วว่าไม่ได้หึงไอ้ตี๋กิมจินั่น แต่เพราะผมหิวมากนั่นเอง เดี๋ยว..ไม่ให้ไป กลับมาคุยให้รู้เรื่องก่อน แม่เจ้าประคุณหยุดร้องไห้แล้ว หากแต่นัยย์ตาแดงก่ำไปด้วยความเคียดแค้นแฝงเร้นอยู่กลายๆ เมื่อกี๊เธอไล่เค้านะ จะเอาอะไรอีก ฟังประวัติ วอน คุก ก่อน ค่อยไป
ยกที่ 2 วอน คุก หากพูดถึงดาราเกาหลีที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆของเมืองไทย คงหนีไม่พ้นชื่อของ วอน คุก วอน คุก โด่งดังมาจากการเข้าประกวดและชนะเลิศในรายการ กิมจิ สตาร์ ชาเล้นจ์ ที่ประเทศเกาหลี ด้วยพลังเสียงที่โดดเด่นพอๆกับเรน รวมถึงวงซุปเปอร์ จูเนียร์ทั้งกะบิ (จริงๆแล้วเสียงมันก็เหมือนๆกันหมด เหมือนศิลปินหรือดีเจบ้านเราที่แยกไม่ออกว่าใครเป็นคนจัดรายการ เสียงคล้ายกันมาก คล้ายเสียจนผมว่ามันจัดรายการแทนกันได้ โดยไม่ต้องบอกว่าไอ้นี่มันลากิจพาลิงไปทำคลอดยังไงยังงั้น) รวมถึงใบหน้าอันหล่อเหลาเข้าขั้นเทพจุติ อีกทั้งทรงผมพายุทะเลทรายซาฮาร่า ที่วัยรุ่นชายไทยแห่แหนกันไปทำตามโดยไม่ดูแผนผังหน้าตัวเองว่าเพียงพอต่อการหลบหลีกพายุหรือไม่ จากนั้นดาราหนุ่มก็เล่นซีรี่ส์เรื่อง ยัยตัวร้ายกับนายหน้าเชี่ย โดยรับบทเป็นตัวเอง (แล้วเมิงจะเขียนบททำไม) ประกบกับป๊อปสตาร์สาวสวยรวยศัลยกรรม อันดับหนึ่งของเกาหลี อย่าง ยุง ชุม ทำรายได้ถล่มทลายในประเทศตัวเองอย่างแหลกลาญ ส่งผลให้ทั้งคู่ดังระเบิดมาถึงเมืองจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทยเรา หากแต่ไม่ดังไปถึงลาว เขมรและพม่า เพราะยังคลั่งพี่เคน ทีละขวด ของไทยอยู่ (หนังเรื่อง ฮดไฟ้ฝ้า ซิแล่นบรึ๊นๆ ทำรายได้หลายล้านกีบเลยแหละ ตัวเธอว์) จากนั้นไม่นาน วอน คุก ก็ออกอัลบั้มเต็มชุดแรก วอน(นอน)คุก ไม่ต้อสงสัยเรื่องรายได้ที่ทะลุล้านก๊อปปี้ภายในสองสัปดาห์ ซึ่งนั่นส่งผลให้เขากลายเป็นป๊อปสตาร์ของเอเชียอย่างยิ่งใหญ่ อหังการ์ มหึมา มโหฬาร อลังการ จักรวาล...พอแล้วววว มาในปีนี้ วอน คุก ยังไม่หยุดกระแสฟีเวอร์ เขาออกอัลบั้มชุดที่สอง มีชื่อว่า วอน(นอน)คุก 2(แมร่งไม่คิดเลย) กับเพลงซึ้งกระตุกต่อมน้ำตาพรากชีวาวายให้นอนตายแทบเท้า กับเพลง รัง แท แพ ไก ชิ แปลเป็นไทย รักแท้แพ้ใกล้ชิด ติดชาร์ทอันดับหนึ่งทั้งในเกาหลีและไทย กว่าสิบสัปดาห์ ยอดขายไม่ต้องพูดถึง มันถูกโหลดเป็นเสียงริงโทนกว่าสิบล้านหมายเลข นั่นทำให้บริษัทโฆษณาทั่วทั้งเอเชียดึงเขาไปเป็นพรีเซนเตอร์ รวมถึงพี่ไทยของเรา โดยจับเอาวอน คุก มาถ่ายทำโฆษณาลูกกลิ้งทารักแร้ของสาวไทยวัยละอ่อน ภายใต้คอนเซ็ปท์ที่ว่า ทาโรลออนของกรูแล้ว จะมีผัวเป็นเกาหลี โดยให้วอน คุก พูดประโยคที่จะทำให้สาวๆละลายไปกับความร้อนแรงของเขา หากแต่เกาหลีพูดไทยไม่ชัด สำเนียงออกทางพม่าหน่อยๆ เลยได้รูปคำประมาณว่า เอเว่อเซ้ง หอนนน...ยานนนน นอกจากนี้ วอน คุก ยังออกรายการ ตี เสียบ (รายการมอมเมาแม่บ้านขนานแท้) แฟนคลับมากันให้ท่วมสถานี แน่นอนชุดคำถามก็คงหนีไม่พ้น มีแฟนหรือยังครับ....ชอบเมืองไทยมั้ยครับ....ชอบอาหารไทยมั้ยครับ....สาวๆไทยสวยมั้ยครับ เป็นต้น แต่ที่น่าทึ่งก็คือ ใครมันสอนให้ วอน คุก พูดคำนี้มากกว่า
...ขอบคุงที่รักของผง ผงจะรักคุง ซาเหมอ แล้...ตาหลอกปาย คั่บ
เพราะผมว่ามันคงสอนให้ หลิน ปิง ไหว้ได้เช่นกัน.
แต่แล้วความเป็นป๊อปสตาร์ก็ถูกกระชากโดยมัจจุราชร๊อคเกอร์ ชายหนุ่มขับรถสปอร์ตคันหรู ซิ่งกลับจากการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาสู่คอนโดฯกลางกรุงโซลด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. ประสานงากับรถขนขยะในเวลาเกือบตี 2 เข้าอย่างจัง สภาพศพเละเทะไปด้วยกองขยะเน่าเหม็นท่วมร่างกายของเขา รถมีสภาพไม่ต่างกัน ส่วนคนขับรถขยะไม่เป็นอะไรเลย และยังไม่ทันรุ่งเช้า ข่าวการตายของ วอน คุก ก็สะพัดไปทั่วเกาหลี ข่าวเช้าในไทยประโคมข่าวการตายอย่างเศร้าสลด ในอินเตอร์เนตมีกระทู้มากมายแสดงความเสียใจท่วมเครือข่ายใยแก้ว ซึ่งนั่นทำให้มีคอมเม้นท์ๆนึงที่ไม่ถูกหลักศีลธรรมจริยธรรมนักปล่อยออกมา หากแต่มันคงเหมือนกับหลายๆคนที่เป็นสาวก วอน คุก คิดในใจ คอมเม้นท์นั้นมีความว่า
ถ้าเปลี่ยนตัวได้ในขณะนั้น อยากให้คนขับรถขยะมาอยู่ในรถสปอร์ต แล้ววอน คุก ไปนั่งในรถขยะแทน ทำไมพระเจ้าต้องพรากคนดีๆอย่างเขาไปจากเราด้วย
ยกที่ 3 น๊อค เอ๊าท์ แฟชั่น บ้านเมิงสิ หลงดาราหลงผู้ชายเนี่ยนะ แฟชั่น เทรนด์ บร้าบอกันไปใหญ่แล้ว แล้วทีเมิงล่ะ หนังโป๊เต็มเครื่องเลย ญี่ปุ่นเอ๊กซ์ๆทั้งนั้น จะเก็บไว้ทำเหมา เจ๋อ ตุง เมิงหรือไง แล้วกรูเอามาคลั่งไคล้อย่างเมิงมั้ย กรูดูจบก็จบกัน แล้วนี่บร้าอะไรเนี่ย ร้องห่มร้องไห้ กรูตายเมิงจะร้องอย่างนี้มั้ยวะ ผมถามกลับ แกมันไม่เข้าใจ ฟังแต่..ฟังแต่เพื่อชีวิต ไอ้คนไม่มีรสนิยม นี่แหละรสนิยมกรูโว้ย แล้วไอที่เมิงดูเมิงฟังล่ะ เมิงแปลออกมั้ย เพลงมันน่ะ ละครมันอีกถ้าไม่มีซับ เมิงฟังรู้เรื่องหรือไง โถ คนอื่นมันกรี๊ด เมิงก็ไปกรี๊ดเหมือนพวกอิเห็ดสด เทรนด์ส้นตรีนอะไร กรูไม่เห็นเทรนด์นิโกรจะมาหาพวกเมิงเลย ไหนล่ะ ดำๆถึกๆ ผมดัดหยิก เมิงไม่กรี๊ดบ้างล่ะ แมร่งเอ๊ย รูปภาพอีก ติดแมร่งเต็มบ้านเลย ใส่กรอบด้วย กรูไม่ฉีกไม่ทุบทิ้งก็บุญตายห่ะแล้ว เมิงอยากมีรูปใส่กรอบ ได้มีแน่ ตอนเมิงตายไงไอ้ผัว... เพี๊ยะ!!
เสียงดังสนั่นบ้าน ผมตบเข้าที่หน้าศรีภรรยาเต็มแรง มองมือของตัวเองที่กระทำ เหลือบมองใบหน้าของเธอมีรอยฝ่ามือของผมประทับอยู่ตรงแก้มครบทั้งห้านิ้ว เธอทิ้งตัวลงกับที่นอนเบาๆ น้ำตากลับมาคลอที่เบ้าตาของหล่อนอีกครั้ง ส่วนผมไหลออกมาช้ากว่าของเธอประมาณหกวินาที
ความเงียบเข้าปกคลุม มันเงียบเสียจนไม่ได้ยินแม้กระทั่งลมหายใจที่ก่อนหน้านั้นยังฟึดฟัดด้วยแรงฮึดฮัดโมโหโทสะกันอยู่ มีเพียงเสียงน้ำตาหยดลงพื้นราวกับปิดก๊อกน้ำไม่สนิท ผมไม่เคยทำร้ายภรรยาผมเลยตั้งแต่ก่อนหรือหลังแต่งงานกันมากว่าห้าปี ทุกสิ่งที่เธอรักและแสดงออกผมมักจะคล้อยตามเธอเสมอ เราไม่เคยก้าวก่ายซึ่งกันและกัน เราต่างรู้ในหน้าที่ของตนอย่างขันแข็ง หากแต่ครั้งนี้มันรุนแรงและเกินจะคาดเดาของคนทั้งสอง มันเป็นครั้งแรกของการครองคู่ที่เจอทางตัน บทสรุปคือลงท้ายด้วยการทะเลาะเบาะแว้ง ผมไม่ยอมจบด้วยความเงียบงันนี้ ผมจะทำลายมันด้วยคำขอโทษและปลอบประโลม
...ขอบคุงที่รักของผง ผงจะรักคุง ซาเหมอ แล้...ตาหลอกปาย คั่บ
ใครแมร่งเปิดโทรทัศน์วะ
จากคุณ |
:
เตี้ยโต้รุ่ง
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ก.พ. 54 04:43:41
|
|
|
|