............
ยังไม่มีการฟื้นตื่นของร่างพลังผู้ครอบครองคอสมิคสีแดงหรอกพ่ะย่ะค่ะ
ในที่สุดมากัสก็ตัดสินใจ หลับตาลงแล้วเปล่งเสียงพูดออกมา ด้วยน้ำเสียงเรียบ...ชัดและช้า
พวกเราเชื่อมต่อกับทูลกระหม่อมน้อยไม่ได้ เราพาออกมาได้เพียงร่างพลังของเจ้าชายราโอมินเท่านั้น...
หลังความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผย สามราชวัลลภหนุ่มก็แทบจะกลั้นลมหายใจ รอคอยว่าเจ้าผู้อยู่เหนือชีวิตของพวกเขาจะระเบิดพระโทสะออกมาด้วยความผิดหวัง หรือว่าอาจจะทรงปฏิเสธไม่ยอมเชื่อในคำกราบทูลเหล่านั้น
ทว่า... กลับเงียบ
วรองค์สูงยังคงประทับนิ่ง เนตรสีดำเพียงทอรอยผิดหวังวูบหนึ่งแล้วอึ้งไป แต่เพียงแค่อึดใจต่อมาสีพระพักตร์กลับฉายแววโล่ง
เรื่องแค่นี้เองใช่ไหม ?
อ้าว..หรือ ?
คนที่กลุ้มใจแทบตายทั้งสามหันมองหน้ากันเลิ่กลั่กอย่างผิดคาด เมื่อสิ่งที่คาดไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เจ้าชายอาซิคาลอสระบายพระปัสสาสะยาว สีพระพักตร์ค่อยมีแช่มชื่นขึ้นมาบ้าง ไม่เรียบนิ่งสนิทดั่งรูปสลักอย่างเมื่อสักครู่อีกต่อไป
ฉันก็ใจคอไม่ดีนึกว่า... ร่างพลังของน้องหญิงจะหลุดลอยหายหรือสลายไปแล้วเสียอีก ที่แท้ก็แค่ดึงเธอออกมาไม่สำเร็จ ก็นะ..มันก็น่าผิดหวังอยู่ ที่ยังเจออาเซนธาเรียตอนนี้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยได้เห็นราโอมินออกมาได้แบบนี้ มันก็ทำให้พวกเราพอมีความหวังขึ้นมาบ้าง บางทีครั้งนี้คอธที่เราใช้อาจจะยังมีพลังไม่เพียงพอที่จะดึงคอธแห่งเทพขึ้นมาถึงสองร่าง ไม่เป็นไร..ตั้งหลักแล้วเอาใหม่ ...
มากัสค่อยยิ้มออก พยักหน้ารับสนับสนุน
ใช่แล้วฝ่าบาท มันก็แค่การล้มเหลวครั้งแรกเท่านั้น พวกเราตั้งหลักแล้วเอาใหม่ก็ได้ อย่าว่าแต่ตอนนี้เรายังมีเจ้าชายราโอมินอยู่ตรงนี้อีกทั้งคน ...
จริงสินะ.. เวลานี้พวกเรายังมีร่างพลังของเจ้าผู้ครอบครองพลังคอสมิคสีเหลือง หนึ่งในสามพลังอันสูงสุดแห่งเอกภพอยู่ตรงนี้ การลงมือเชื่อมต่อกับร่างพลังของเจ้าหญิงอาเซนธาเรียครั้งต่อไป มันคงง่ายขึ้นกว่าเดิม
เรามาลงมือกันอีกครั้งนะราโอมิน
เจ้าชายอาซิคาลอสตรัสชวน หากก็ถูกยับยั้งไว้ด้วยเสียงปรามของราชวัลลภหนุ่มนัยน์ตาสีม่วงผู้เป็นแพทย์ประจำพระองค์อย่างรวดเร็ว
แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะฝ่าบาท พระองค์ต้องรักษาพระวรกายให้แข็งแรงกว่านี้ก่อน
เจ้าพี่...
ขณะที่บรรยากาศกำลังเริ่มกลับสู่ชีวิตชีวาอันปกติ พลันพระสุรเสียงเรียกหาพลางทอดถอนพระทัยอย่างอึดอัดของอีกคนซึ่งทรงยืนนิ่งฟังอยู่ก็ดังขึ้นเบาๆ
หม่อมฉัน.. มีบางอย่างอยากจะกราบทูล...
มีอะไรหรือราโอมิน ?
รับสั่งถามอย่างสนิทสนม ยกพระหัตถ์ขึ้นผายไปทางเก้าอี้ที่ว่างอยู่ฝั่งโต๊ะตรงข้ามเป็นเชิงเชิญให้อีกฝ่ายนั่งลงค่อยๆพูดคุยกัน
พวกเราเหมือนพี่น้อง ไม่ใช่คนอื่นไกล เธอต้องการอะไรก็บอกมาได้โดยไม่ต้องเกรงใจ
เจ้าชายผู้เป็นพระอนุชาได้แต่ประทับนั่งลงด้วยสีพระพักตร์ลำบากพระทัย
เจ้าพี่...หม่อมฉันได้ถามถึงจุดประสงค์ที่ทรงนำยานซาปิธัสเสด็จมาถึงที่นี่จากผู้พันจาริโอเธอรัสแล้ว หม่อมฉัน..เข้าใจถึงสิ่งที่ทรงมุ่งหมาย เข้าใจ..ถึงความปรารถนาของชาวเมลาเนียลและเอลลาโกทั้งมวล
เธออยากจะพูดอะไรกันแน่หรือราโอมิน ?
ที่หม่อมฉันอยากจะทูลก็คือ... ทั้งหม่อมฉันและอาเซนธาเรีย ถึงแม้จะถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับการครอบครองพลังแห่งเทพ แต่พวกเราทั้งสอง..ก็ล้วนเป็นมนุษย์ปุถุชน ที่มีเกิด..และมีดับ ไม่มีข้อยกเว้น
ผู้ฟังพระพักตร์เคร่งเครียดลงไปทันที กระทั่งนายทหารคนสนิททั้งสามที่ด้านข้างพลอยขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกตึงเครียดและหวั่นหวิวกังวลอย่างบอกไม่ถูก
เธอหมายความว่าอะไร ?
หม่อมฉันหมายความตามนั้น ทั้งราโอมินและอาเซนธาเรียจบสิ้นชีพแล้วที่เมลาเนียล คนตายไม่อาจฟื้นคืน ความจริง..พวกเราควรมอบพลังคืนสู่จักรวาล เพียงแต่..เพราะพันธกิจบางประการ ร่างพลังของพวกเรา จึงถูกดึงข้ามมิติมาที่กาแลกซี่แห่งนี้...
ไม่..ฉันไม่เข้าใจ เธอกำลังพูดอะไรราโอมิน...
คนฟังยังคงส่ายพระพักตร์ช้าๆครางออกมาอย่างไม่ยอมรับความจริงที่ทรงได้ยิน
เจ้าชายแห่งเอลลาโกในร่างชายหนุ่มชาวโลก ฝืนแย้มพระสรวลอย่างเศร้าๆราวปลอบโยน ก่อนจะอธิบายลงในรายละเอียด ย้ำสิ่งที่ตรัสออกไปเมื่อสักครู่
พลังคอสมิคสีแดงและเหลือง ถือกำเนิดเป็นเจ้าชายแห่งเอลลาโกและเจ้าหญิงแห่งเมลาเนียล แต่หลังการเสียชีวิต คนทั้งสองก็ถือว่าจบหน้าที่ของการเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงของสองจักรวรรดินั้นแล้ว ร่างพลังของพวกเราที่ยังคงอยู่ เพียงเพื่อพันธกิจที่ยังค้างคา แต่หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจนั้น ร่างพลังนี้ก็จะต้องคืนกลับสู่จักรวาล ความทรงจำทั้งหมดจะถูกลบหายไป เพื่อรอการถือกำเนิดใหม่เป็นคนใหม่ ความทรงจำใหม่ และภารกิจใหม่อีกครั้ง...
เสียงรับสั่งเนิบนาบช้าชัดและนุ่มนวล หากเมื่อกระทบโสตของผู้ฟัง กลับเหมือนมีพายุก่อตัวอยู่ในหัวดังอื้ออึง ทั้งหมดรู้สึกเหมือนถูกจับยัดเข้าไปในหมอกสีดำมืดทะมึน ทั้งมึนงงและเคว้งคว้างหาทางออกไม่ได้
ทรงกำลังจะบอกว่า... มากัสหลุดปากแทรกเข้ามาอย่างลืมตัว พระองค์..และทูลกระหม่อมน้อยของพวกเรา จะไม่สามารถเสด็จกลับไปเมลาเนียลได้อีกแล้วหรือ ?
แล้วทำไมจะเสด็จกลับไปไม่ได้ ?
ฟิเกอรัสโพล่งถามอย่างพลุ่งพล่านใจ ในเมื่อพระองค์ก็ยังประทับอยู่ตรงนี้ได้ ทูลกระหม่อมน้อยของพวกเราทำไมจะทำอย่างพระองค์บ้างไม่ได้ จาร์..นายต้องทำได้ใช่มั้ย ? ช่วยทูลกระหม่อมน้อยแบบที่ทำให้เจ้าชายราโอมินไง...
ในตอนท้ายหันไปเขย่าถามเพื่อนอีกคนที่ยืนอึ้งสีหน้ามึนงงอย่างมุ่งหวัง แต่ก็ถูกเพื่อนคู่หูอีกคนยื่นมือเข้ามาตบไหล่เบาๆเป็นเชิงปลอบให้สงบใจนิ่งเย็นไว้ พลางบุ้ยปากให้หันไปดูคนที่กำลังประทับนิ่งเป็นรูปสลักไปอีกครั้ง
เจ้าพี่...หม่อมฉันทราบว่าการกราบทูลตรงๆไปเช่นนี้อาจทำให้สะเทือนพระทัย แต่ให้ทรงเสียพระทัยเสียตรงนี้ เพียงแค่นี้ ก็คงดีกว่า จะให้ทรงทุ่มเททำในสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้ มีแต่หลอกลวงพระองค์เองต่อไปไม่รู้อีกถึงเมื่อไหร่ ...
พอเถอะเจ้าชายราโอมิน.. หยุดรับสั่งได้แล้ว !
มากัสแทรกขัดเข้ามาเสียงเข้มอย่างยั้งปากไว้ไม่อยู่ คำพูดทั้งหมด...กระทั่งคนนอกอย่างพวกเขาก็ยังแทบทนฟังไม่ได้อีกแล้ว แล้วคนที่เป็นพระเชษฐาผู้ทรงแสนรักและสุดอาลัยในพระขนิษฐาน้อยพระองค์นั้น จะทรงรับกับความจริงอันเจ็บปวดที่กระหน่ำเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัวเช่นนั้นได้อย่างไร ?
เจ้าชายราโอมินส่ายพระพักตร์แล้วถอนพระทัย
เราไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมเจ้าพี่ทรงเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ ที่แท้ก็เพราะมีนายทหารคนสนิทที่เป็นอย่างพวกท่านนี่เอง ความภักดีที่แท้จริงคือการช่วยชี้นำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่คล้อยตามอย่างผิดๆแบบนี้ ..
รับสั่งที่สวนกลับทันควัน ทำเอานายทหารคนสนิทผู้นั้นถึงกับชะงักอึ้ง อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก
.
จากคุณ |
:
ธีตภากร
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ก.พ. 54 21:21:05
|
|
|
|